ศาสนาพุทธสอนให้คนเคารพภูติผีหรืออย่างไรกัน?

****บอกไว้ก่อนเจ้าของกระทู้นี้เป็นชาวพุทธ และ เป็นผู้มีความเชื่อในเหตุผล อะไรที่ไม่มีเหตุและผลก็ปล่อยมันทะลุหูไปเถอะยกเว้นเรื่องที่จะเล่าอะนะ
                      เรื่องเล่าเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อหากไม่พอใจปิดกระทู้ไปแล้วท่องไว้ "กราบได้อย่างเดียวห้ามเถียง!!!"
เมื่อไม่นานมานี้ครับ(ไม่ได้เป็นเรื่องจริง จริงๆนะนี้บอกเลยว่าไม่จริง) ซึ่งเกิดจากการสมมุติว่าในห้องของผมมีการรับน้องเกิดขึ้น  สมมุตินี้บอกเลยนะ
ซึ่งการรับน้องนี้มีตำแหน่งแบ่งเป็น 3 ระดับ
                                 1.น้องๆผู้รับเคราะห์
                                 2.รุ่นพี่ระดับกลาง (เป็นทั้งผู้จัดและต้องปฎิบัติตามรุ่นพี่ระดับสูงสุด ผมอยู่ในระดับนี้นะ)
                                 3.รุ่นพี่ระดับสูงสุด รุ่นใหญ่และมาเหนือกว่าใครๆ
                  ในการรับน้องครั้งนี้มีการจัดกิจกรรมขึ้นในป่าครับแต่เป็นป่าที่มีคนดูแลสภาพเหมือนอุทยานเอาไว้อนุรักษ์ กิจกรรมนัทนาการต่างๆขึ้นตามปกติตามดั่งเช่นทุกๆปีที่รุ่นพี่สืบต่อมาให้แก่รุ่นผม เพื่อนๆในห้องก็ได้เป็นคนจัดกิจกรรมนันทนาการแสนสนุกสนาน จนถึงเวลาประมาณบ่ายโมงซึ่งเวลานี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของกิจกรรมเช่นในทุกๆปีแต่ว่าก็เป็นการรับน้องที่มีการว๊ากกกก(ไม่ใช้เพลงร็อคนะ)เกิดขึ้น ความตื่นเต้นของน้องๆจึงเกิดขึ้นตอนนี้  เมื่อรุ่นพี่สั่งให้น้องๆพากันไปนอนทับกัน(ด้วยความเชื่อว่าจะมีผลดีๆเกิดขึ้นกับน้องๆตรงไหนกันแน่!?) น่าแปลกใจหน่อยที่ปีนี้นอนทับกันนานกว่าปกติไปสักหน่อย(ปกติ 5-8 นาที)  ภายใต้เสียงของรุ่นพี่อันนุ่นนวลเพลงว๊าก(อันไพเราะ)ก็ได้บรรเลงต่อไป น้องจึงเกิดอาการที่เรียกกันว่าลมชัก ทั้งๆที่ปกติแล้วจะให้คนที่ดูสภาพไม่ไหวหรือดูอ่อนแรงไปพักไม่ให้มานอนทับกันแบบนี้อยู่แล้วคนที่ไม่ไหวก็ไปพักแล้ว คือจะไม่ได้ร่วมกิจกรรมในส่วนนี้ คนที่บอกว่าไหวก็จะอยู่ต่อไปคือนอนทับนั้นเอง (ก็ไม่เข้าใจว่าถ้ากลัวและป้องกันไม่ให้น้องๆต้องเป็นลมหรือเข้าโรงพยาบาลไปซะ ทำไมไม่ยกเลิกกิจกรรมนี้ซะบ้าง หรือ เพราะความเชื่อในวิธีการรับน้องว่าว๊ากแล้วมันจะทำให้คนรักกัน ก็ไม่ควรเอาความเสี่ยงเรื่องสุขภาพมาเป็นกิจกรรมนอนทับกันในการรับน้องๆ)
                   เอาละสิ น้องเป็นลมชักแถมรุ่นพี่ระดับกลางอีกสอง-สามคนแล้วเพราะไปนอนทับกัน
  และคราวนี้เป็นต่อกันเป็นทอดๆเหมือนที่เรียกกันว่า"อุปทานหมู่" เรียบร้อยแล้ว พี่ๆน้องๆก็หน้าซีดกลัวเพื่อนๆจะเป็นอะไรไปกันซะก่อน
หัวเราะ
                   รถพยาบาลก็มารับน้องๆจำนวน 4-5 คนไปแล้วเรียบร้อย จึงต้องเกิดการประชุมร่วมของบุคลากรที่เกี่ยวข้องในกิจกรรม บ้างก็ว่าเรื่องที่เกิดจากการไหว้เจ้าที่โดยไม่นำเอาของมาเซ่นไหว้ บ้างก็บอกว่าไหว้เจ้าที่ไม่ถูกที่เพราะเอาธูปไปปักที่ต้นไม้ใหญ่ (สรุปไม่มีผู้ใดปริปากว่าไอทั้งหมดนี้เกิดจากพวกยิ้มเอาคนไปนอนทับกันไอเวรเอ่ย ไอผมก็กลัวว่าถ้าแสดงจุดยืนแล้ว คงจะเหมือนมดโดนช้างเหยียบเป็นแน่แท้)
                  
                   ประหลาดใจ
                    หลังจากวันรับน้องแสนสนุกมากเลยจริงๆนะนี่บอกเลยผ่านไป 1 วัน ถึงวันที่เพื่อนๆทั้งหลายก็ได้มาเข้าเรียนตามปกติเพราะพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว(มั้ง) เกิดมีเหตุการณ์ประหลาดอีก คือชักต่อกันไปเรื่อยๆจนถึงขนาดข้ามห้องข้ามชั้นทีเดียวเชียว(คนที่ชักคือผู้ร่วมกิจกรรมในวันรับน้องทั้งหมด) คราวนี้ก็เหมือนคราวที่แล้ว แต่แล้วคนไทยศาสนาพุทธสายนับถือภูติผีปีศาจก็ได้ออกมาประกาศ
                    "เห้ย นี่มันต้องเป็นเพราะเจ้าที่แรงแน่ๆเบยทุกๆคน"  มาแล้วครับศาสนาพุทธอันเป็นกำลังสำคัญของชาติออกตัวมาซะเต็มห้อง คนที่เชื่อพากันเอาน้องๆพี่ๆเข้าห้องพระไปพากันสวดมนต์และทำพิธีโดยคุณครูผู้บอกว่าตนนับถือพระกฤษณะ ก็ได้ทำการบอกว่านี้คือคำพูดของ*เจ้าที่* "ให้ไปเอาของโน่นนี่นั้นของบูชาต่างๆมาถวายขอขมาพร้อมจุดธูป 9 ดอกแก่ข้าซะ ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน" น่าแปลกใจนะครับเพราะ ผีตนนี้อยู่ในภูมิภาคที่น่าจะพูดภาษาท้องถิ่นแทนที่จะพูดภาษาไทยสำเนียงคนไทยแท้แทน เอาละซิเพื่อนๆก็เชื่อกันใหญ่
                     สุดท้ายก็ต้องขนของไปไหว้ขอขมาก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ระหว่างนั้นเองเกิดปรากฎการแสนศักดิ์สิทธิ์โดยแท้ น้องอยู่ดีๆก็ชักก่อนพระอาทิตย์ตกดิน แล้วบอกว่า "ให้ไปที่ศาลสีแดงๆซะ!!! อย่าลืมเอาของมาขอขมาเค้าด้วยนะตัว" เพื่อนก็เชื่อกันใหญ่ แถมยังพาไปถูกอีกด้วย แม้จะเป็นเพียงศาลเล็กๆดูเหมือนจะพังลงมา แต่ก็เหมือนศาลที่ชาวบ้านเอาทิ้งไว้แก้บนอย่างนั้นเลยก็ว่าได้ เพื่อนๆ ก็บอกกันว่าโอ้ว นี้มันอเมซิ่งมากๆต้องเป็นเพราะเจ้าที่พาพวกเรามาถึงที่นี้เป็นแน่แท้เลยนะ หลังจากไหว้ขอขมาเจ้าที่เสร็จ ก็มีลุงคนหนึ่งเดินมาบอกว่า "เราที่นี้นับถือศาลแค่ 2 ที่ ไอตรงนี้เราไม่ได้มาไหว้หรอกไอหนูน้อย"
"กร๊ากกก 5555 " หัวเราะในใจว่าแล้วว่าเจ้าที่นี้สักสิดจุง
                    

                   วันต่อมาไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้นเลยแม้แต่อย่างเดียวเบย โอยศักดิ์สิทธิ์แท้ๆขอกราบงามๆซักทีเถอะ อุปทานหมู่เกิดขึ้นยังไงก็หายไปเพราะอย่างนั้นนั้นแหละว่าไหมครับ แถมบุคลากรอันเป็นครูยังมาทำกิจกรรมแสนศักติ์สิทธิ์ อย่างเข้าทรงอีกแทบไม่เหลืออะไรอีกเลยให้ผมมอง ในความมีระดับของความเชื่อในตอนนี้ คนที่เป็นลมชักส่วนมากที่สังเกตุ ส่วนมากเป็นผู้หญิงและกระเทย และส่วนมากที่เป็นลมชักก็มีความเชื่อในเรื่องผีๆว่าจะมาเข้าสิงคนได้อีก ส่วนคนที่ฉี่รดต้นไม้แถวนั้นเรอะ ตอนนี้คงกำลังนั่งสนุกๆอยู่ที่บ้านกับแอร์เย็นๆ และคนที่ไม่เชื่อเลยโดยเฉพาะเหล่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่