หากคุณตื่นมาแล้วพบว่าชีวิตของคุณน่าเบื่อเกินไปแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้แปลงร่างเป็นมนุษย์ป้ากันเถอะ แล้วคุณจะพบว่า ชีวิตส่วนตัวของคุณจะไม่เงียบเหงาอีกต่อไป เพียงแต่คุณเปิดใจ รับฟังกฏง่ายๆดังต่อไปนี้ คุณจะได้ทุกสิ่งที่คุณต้องการ ขอย้ำว่า นี้ไม่ใช่งานขาย ไม่ต้องชักชวนใคร ทำงานผ่านระบบสามัญสำนึกเท่านั้น ไม่ต้องรักษายอด รายรับ(เละ)จะมีเข้ามาเรื่อยๆแบบ Passive income คุณอาจได้ลุ้นขึ้นกระทู้แนะนำในพันทิป สิ่งที่คุณทำยังสามารถสืบทอดเป็นมรดกทางความคิดให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ชมเชยกันไม่รู้จบ
เอาละครับ เปิดใจให้กว้าง แล้วลองอ่านตามกฏด้านล่างดูนะครับ
1. การเลือกรถเข็นสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต
เราเข้าใจดีว่า การเข็นรถเข็นเป็นระยะทางที่ไกลเกินไป อาจทำให้คุณเหนื่อยอย่างไม่จำเป็น ดังนั้น เราขอแนะนำเทคนิคง่ายๆที่คุณจะไม่ต้องเข็นรถอีกต่อไป เพียงแค่คุณลองเดินดูสินค้าที่ชื่นชอบสักครู่ สายตาก็สอดส่องหารถเข็นของลูกค้าท่านอื่นไปด้วย หากท่านพบเจอสินค้าที่ถูกใจแล้ว ให้ท่านทำการตีมึนแกล้งเข็นรถของลูกค้าท่านอื่นมาเป็นรถเข็นในครอบครองของท่านทันที กรุณาอย่าให้เจ้าของรู้ตัว เอาจังหวะทีลูกค้าเดินไปซื้อสินค้าอย่างอื่นแล้วไม่ได้เข็นรถไป พ้นหัวมุมปุ๊บขอให้ท่านดำเนินการอย่างรวดเร็ว ท่านอาจได้พบสินค้าที่ท่านกำลังมองหาในรถเข็นนั้น เช่น วิสกัส สบู่ตรานกกระจิบ ก็ถือเป็นโชคดีของท่าน แต่หากท่านไม่ต้องการสบู่ตรานกกระจิบ ก็ให้ท่านเอาสินค้าในรถเข็นนั้นไปวางไว้ที่ชั้นวางสินค้าใกล้มือท่านได้เลย
ปล หากเจ้าของรถเข็นพยายามจะอธิบายให้ท่านฟังว่านี่มันรถเข็นของเค้า ขอให้ท่านแกล้ง(ตีมึน)อีกรอบว่า ดิฉันเห็นเด็กน้อยท่าทางไม่มีการศึกษาเข็นรถของคุณน้องไปเมื่อสักครู่ รถเข็นนี้ ท่านไม่ได้ขโมยมาแต่ใด ท่านเข็นมาเองจากทางบ้าน กรุณาอย่าใส่ความกันเดี๋ยวเรื่องจะถึงศาล
2. การซื้อของลดราคาอย่างง่ายๆ
แน่นอนว่าทุกคราที่มีการลดราคาสินค้า ตั้งแต่ของกินไปจนถึงกางเกงใน คนเห็นคุณค่าของเงินอย่างคุณก็คงอดไม่ได้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมแย่งกันกินแย่งกันใช้ในลักษณะนี้ โปรดตระหนักให้ดีว่าท่านทีคู่แข่งทางจิตวิญญาณมากมาย ทั้งลูกเด็กเล็กแดงที่พร้อมจะเอื้อมมือไปคว้าไขว่ (หรือคว้าไข่ก็ได้) สินค้าลดราคาอย่างเป็นระเบียบ แต่แน่นอน ท่านยอมไม่อยากให้ของดีราคาถูกต้องหลุดจากมือของท่าน คำแนะนำง่ายๆที่เราอยากแนะนำคือ ท่านต้องสืบทราบก่อนว่าสถานที่นั้นๆที่ท่านจะไป จะมีการแปะป้ายลดราคากี่โมง จำนวนสินค้ามีเยอะมั้ย คู่แข่งในตลาดมีมากเพียงใด ท่านจะได้เตรียมโบกปูนไว้บนใบหน้าให้เยอะๆ เมื่อพร้อมแล้วท่านก็ออกสู่สนามรบได้เลย ยกตัวอย่างเช่นท่านอยากไปซื้อของกินลดราคาในห้าง Big G ท่านก็ต้องไปรอจนกว่าพนักงานจะมาทำการแปะป้ายลดราคาจนเหลือกล่องละ 10 บาท 15 บาทก็ว่ากันไป เมื่อพนักงานทำการแปะป้ายราคาแล้ว หากท่านอยู่แถวหน้าก็ไม่เป็นไร แค่หยิบฉวยอาหารไว้ให้มากที่สุดเท่าที่วงรอบทางจิตสำนึกท่านจะรับไหว ปากก็พร่ำบอกว่า อันนี้ของชั้น อันนี้ของลูกชั้น อันนั้นของคุณยาย อันโน่นของย่าทวด อันนี้ของไอ่ดำ บลาๆ รับรองว่าท่านจะเจอสายตาที่ไม่หวังดีของลูกค้าท่านอื่น แต่กรุณาอย่าสนใจ คิดเสียว่าคนเรามีสิทธิเสรีภาพทุกตารางนิ้ว หยิบไปเถอะครับ เพื่อความสบายใจของลูกหลานท่าน
แต่หากโชคไม่เข้าข้าง ท่านเกิดอยู่ข้างหลังฝูงชนแล้วล่ะก็ ก็ให้คิดเสียว่าเป้าหมายมีไว้พุ่งชน ฝ่าด่านทุกคนเข้าไป ชี้ไปที่รายการอาหารที่ท่านพึงพอใจ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 10 วินาที หากมีใครถือของที่ท่านกำลังอยากได้อยู่พอดี ท่านก็คว้ามาจากมือเลย แล้วบอกอย่างมั่นๆว่า ของชั้น แล้วสะบัดบ๊อบหนีทันที ไม่จำเป็นต้องเหลียวกลับไปมอง เพียงเท่านี้ รับรองว่าท่านจะมีของกินราคาถูกกินทุกๆวันอย่างไม่ต้องสงสัย
[คู่มือ]กฏแห่งการเป็นมนุษย์ป้า (Auntie Law)
เอาละครับ เปิดใจให้กว้าง แล้วลองอ่านตามกฏด้านล่างดูนะครับ
1. การเลือกรถเข็นสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต
เราเข้าใจดีว่า การเข็นรถเข็นเป็นระยะทางที่ไกลเกินไป อาจทำให้คุณเหนื่อยอย่างไม่จำเป็น ดังนั้น เราขอแนะนำเทคนิคง่ายๆที่คุณจะไม่ต้องเข็นรถอีกต่อไป เพียงแค่คุณลองเดินดูสินค้าที่ชื่นชอบสักครู่ สายตาก็สอดส่องหารถเข็นของลูกค้าท่านอื่นไปด้วย หากท่านพบเจอสินค้าที่ถูกใจแล้ว ให้ท่านทำการตีมึนแกล้งเข็นรถของลูกค้าท่านอื่นมาเป็นรถเข็นในครอบครองของท่านทันที กรุณาอย่าให้เจ้าของรู้ตัว เอาจังหวะทีลูกค้าเดินไปซื้อสินค้าอย่างอื่นแล้วไม่ได้เข็นรถไป พ้นหัวมุมปุ๊บขอให้ท่านดำเนินการอย่างรวดเร็ว ท่านอาจได้พบสินค้าที่ท่านกำลังมองหาในรถเข็นนั้น เช่น วิสกัส สบู่ตรานกกระจิบ ก็ถือเป็นโชคดีของท่าน แต่หากท่านไม่ต้องการสบู่ตรานกกระจิบ ก็ให้ท่านเอาสินค้าในรถเข็นนั้นไปวางไว้ที่ชั้นวางสินค้าใกล้มือท่านได้เลย
ปล หากเจ้าของรถเข็นพยายามจะอธิบายให้ท่านฟังว่านี่มันรถเข็นของเค้า ขอให้ท่านแกล้ง(ตีมึน)อีกรอบว่า ดิฉันเห็นเด็กน้อยท่าทางไม่มีการศึกษาเข็นรถของคุณน้องไปเมื่อสักครู่ รถเข็นนี้ ท่านไม่ได้ขโมยมาแต่ใด ท่านเข็นมาเองจากทางบ้าน กรุณาอย่าใส่ความกันเดี๋ยวเรื่องจะถึงศาล
2. การซื้อของลดราคาอย่างง่ายๆ
แน่นอนว่าทุกคราที่มีการลดราคาสินค้า ตั้งแต่ของกินไปจนถึงกางเกงใน คนเห็นคุณค่าของเงินอย่างคุณก็คงอดไม่ได้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมแย่งกันกินแย่งกันใช้ในลักษณะนี้ โปรดตระหนักให้ดีว่าท่านทีคู่แข่งทางจิตวิญญาณมากมาย ทั้งลูกเด็กเล็กแดงที่พร้อมจะเอื้อมมือไปคว้าไขว่ (หรือคว้าไข่ก็ได้) สินค้าลดราคาอย่างเป็นระเบียบ แต่แน่นอน ท่านยอมไม่อยากให้ของดีราคาถูกต้องหลุดจากมือของท่าน คำแนะนำง่ายๆที่เราอยากแนะนำคือ ท่านต้องสืบทราบก่อนว่าสถานที่นั้นๆที่ท่านจะไป จะมีการแปะป้ายลดราคากี่โมง จำนวนสินค้ามีเยอะมั้ย คู่แข่งในตลาดมีมากเพียงใด ท่านจะได้เตรียมโบกปูนไว้บนใบหน้าให้เยอะๆ เมื่อพร้อมแล้วท่านก็ออกสู่สนามรบได้เลย ยกตัวอย่างเช่นท่านอยากไปซื้อของกินลดราคาในห้าง Big G ท่านก็ต้องไปรอจนกว่าพนักงานจะมาทำการแปะป้ายลดราคาจนเหลือกล่องละ 10 บาท 15 บาทก็ว่ากันไป เมื่อพนักงานทำการแปะป้ายราคาแล้ว หากท่านอยู่แถวหน้าก็ไม่เป็นไร แค่หยิบฉวยอาหารไว้ให้มากที่สุดเท่าที่วงรอบทางจิตสำนึกท่านจะรับไหว ปากก็พร่ำบอกว่า อันนี้ของชั้น อันนี้ของลูกชั้น อันนั้นของคุณยาย อันโน่นของย่าทวด อันนี้ของไอ่ดำ บลาๆ รับรองว่าท่านจะเจอสายตาที่ไม่หวังดีของลูกค้าท่านอื่น แต่กรุณาอย่าสนใจ คิดเสียว่าคนเรามีสิทธิเสรีภาพทุกตารางนิ้ว หยิบไปเถอะครับ เพื่อความสบายใจของลูกหลานท่าน
แต่หากโชคไม่เข้าข้าง ท่านเกิดอยู่ข้างหลังฝูงชนแล้วล่ะก็ ก็ให้คิดเสียว่าเป้าหมายมีไว้พุ่งชน ฝ่าด่านทุกคนเข้าไป ชี้ไปที่รายการอาหารที่ท่านพึงพอใจ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 10 วินาที หากมีใครถือของที่ท่านกำลังอยากได้อยู่พอดี ท่านก็คว้ามาจากมือเลย แล้วบอกอย่างมั่นๆว่า ของชั้น แล้วสะบัดบ๊อบหนีทันที ไม่จำเป็นต้องเหลียวกลับไปมอง เพียงเท่านี้ รับรองว่าท่านจะมีของกินราคาถูกกินทุกๆวันอย่างไม่ต้องสงสัย