เดือน พ.ค. 2557 ที่ผ่านมาได้รับจดหมายการทวงถามหนี้ กยศ. จากธนาคาร ในฐานะผู้ค้ำประกัน คือคุณพ่อของดิฉันคะ
จดหมายจากธนาคารฉบับนี้ ที่บ้านดิฉันได้รับมาเป็นครั้งที่ 2 แล้วคะ ครั้งแรกเมื่อปี 2556
ผู้กู้คือเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของดิฉันเองคะ เข้ามาอยู่ทีบ้านดิฉันจากสาเหตุคือพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ดิฉันกับเพื่อนคนนี้ เคยเรียนที่เดียวกันสมัยมัธยมต้นคะ พอ มัธยมปลายต่างแยกย้ายไปเรียนที่อื่นกันพอมีติดต่อกันบ้าง จนวันมีวันนึงก็นัดเจอกันในกลุ่มไม่แน่ใจว่าแม่พระตนไหนเข้าร่างดิฉันเมื่อตอนสมัยนั้น พอได้รู้ว่าเพื่อนตกที่นั่งลำบาก พ่อแม่เสียชิวิตไปหมดแล้วและกำลังอาศัยอยู่กับเพื่อนอีกคนซึ่งทางบ้านก็มีลูกเต้าหลายคนทำให้พ่อแม่ขอเพื่อนก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือได้เต็มที่ ช่วงนั้นน่าจะประมาณปี 2543 เป็นช่วงที่ฉันกำลังเรียนปีสุดท้ายก่อนเข้ามหาลัย ด้วยที่ว่าร่างแม่พระเข้าสิงอยู่จึงชวนให้มาอยู่ที่บ้าน แต่ไม่ใช่ว่าบ้านดิฉันจะรวยมากมายนะคะ แต่อาศัยขายของตลาดนัดก็พอมีพอใช้และก็คิดว่าเพื่อนจะได้ไปขายของช่วยกันจะได้มีเงินใช้ และพ่อดิฉันก็ส่งให้เค้าเรียน กศน. ต่อจากที่เค้าเรียกค้างไว้ ก็จบพร้อมดิฉันพอดี ดิฉันเข้ามหาลัยเอกชนใกล้บ้าน และคุณพ่อก็สนับสนุนเรื่องการเรียนอยู่แล้วในเมื่อเค้าเลือกที่จะเรียนที่เดียวกับดิฉัน จึงทำเรื่องกู้ กยศ. แต่ด้วยความลับไม่มีในโลกผ่านการเป็นนักศึกษาปี 1 ไป ความจริงอะไรหลายอย่างก็ปรากฏจนดิฉันรับไม่ได้ ตอนนี้ร่างนางมารเริ่มเข้าสิงคือดิฉันแทบจะไม่ค่อยได้คุยกับเค้า จนเค้าทนไม่ได้ออกจากบ้านดิฉันไปเอง และ 1 ในเรื่องที่รับไม่ได้คือเค้าออกจากบ้านทุกวันแต่ไม่ถึงมหาลัย ดิฉันจึงไปกองทะเบียนสอบถามคือเธอได้ลาออกไปแล้ว แต่แม่ดิฉันให้เงินเธอไปเรียนทุกวัน แต่เป็นเพราะดิฉันไม่กล้าพูดเองจึงไม่กล้าบอกใครและเก็บความรู้สึกแย่พวกนี้ไว้คนเดียว แต่ตอนนี้ดิฉันเก็บไม่ไหวแล้ว พ่อดิฉันเห็นจดหมายก็เครียด
จนดิฉันได้ใช้โซเชียล และค้นพบ เฟซบุ๊คของเธอแล้ว แต่เธอเปลี่ยนไปเธอมีเงินไปศัลยกรรม แต่เธออาจจะลืมเรื่องกู้ กยศ. ไปหรือเปล่า หรืออาจไม่ได้รับจดหมาย แต่ดูจากยอดเค้าเคยมีการชำระไปบางเล็กน้อยแล้ว ดิฉันเลยอยากได้คำแนะนำว่าควรทำอย่างไรดีคะ ความรู้สึกกลัวๆ กล้าๆ ถ้าไปบอกให้เธอจ่ายเธอจะหนีไหม ถ้าหนีดิฉันจะฟลุ๊คเหมือนรอบนี้ตามหาเจออีกไหม ทางกฏหมายดิฉันทำอะไรได้บ้างคะ
ในความคิดของดิฉันเอง ถ้าดิฉันแจ้งความแล้วเพื่อไปขอให้ประกันสังคมสืบค้นว่าทำงานที่ไหน จะกระทำได้ไหมคะ
ที่จะสืบค้นว่าทำงานที่ไหน เพื่อที่จะส่งเอกสารไปให้เพื่อให้ทางแผนกบุคคลตักเตือนจะได้ไหม จะล่วงเกินสิทธิไปหรือเปล่า
ตอนนี้ดิฉันทำอะไรไม่ถูกจริงๆ รู้สึกบาปที่ทำให้พ่อต้องมาเป็นกังวล เพราะยังไงผู้ค้ำก็ต้องรับกรรมต่อ ถ้าผู้กู้ไม่จ่าย
ดิฉันไม่เคยตั้งกระทู้เลยถ้าแท๊กห้องผิดหรือภาษาที่ใช้และการสื่อความหมายไม่ชัดเจนต้องขออภัยด้วยนะคะ / และขอบคุณล่วงหน้าถ้ามีผู้รู้มาตอบคำถามดิฉันคะ
เมื่อตกเป็นผู้ค้ำประกัน?
จดหมายจากธนาคารฉบับนี้ ที่บ้านดิฉันได้รับมาเป็นครั้งที่ 2 แล้วคะ ครั้งแรกเมื่อปี 2556
ผู้กู้คือเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของดิฉันเองคะ เข้ามาอยู่ทีบ้านดิฉันจากสาเหตุคือพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ดิฉันกับเพื่อนคนนี้ เคยเรียนที่เดียวกันสมัยมัธยมต้นคะ พอ มัธยมปลายต่างแยกย้ายไปเรียนที่อื่นกันพอมีติดต่อกันบ้าง จนวันมีวันนึงก็นัดเจอกันในกลุ่มไม่แน่ใจว่าแม่พระตนไหนเข้าร่างดิฉันเมื่อตอนสมัยนั้น พอได้รู้ว่าเพื่อนตกที่นั่งลำบาก พ่อแม่เสียชิวิตไปหมดแล้วและกำลังอาศัยอยู่กับเพื่อนอีกคนซึ่งทางบ้านก็มีลูกเต้าหลายคนทำให้พ่อแม่ขอเพื่อนก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือได้เต็มที่ ช่วงนั้นน่าจะประมาณปี 2543 เป็นช่วงที่ฉันกำลังเรียนปีสุดท้ายก่อนเข้ามหาลัย ด้วยที่ว่าร่างแม่พระเข้าสิงอยู่จึงชวนให้มาอยู่ที่บ้าน แต่ไม่ใช่ว่าบ้านดิฉันจะรวยมากมายนะคะ แต่อาศัยขายของตลาดนัดก็พอมีพอใช้และก็คิดว่าเพื่อนจะได้ไปขายของช่วยกันจะได้มีเงินใช้ และพ่อดิฉันก็ส่งให้เค้าเรียน กศน. ต่อจากที่เค้าเรียกค้างไว้ ก็จบพร้อมดิฉันพอดี ดิฉันเข้ามหาลัยเอกชนใกล้บ้าน และคุณพ่อก็สนับสนุนเรื่องการเรียนอยู่แล้วในเมื่อเค้าเลือกที่จะเรียนที่เดียวกับดิฉัน จึงทำเรื่องกู้ กยศ. แต่ด้วยความลับไม่มีในโลกผ่านการเป็นนักศึกษาปี 1 ไป ความจริงอะไรหลายอย่างก็ปรากฏจนดิฉันรับไม่ได้ ตอนนี้ร่างนางมารเริ่มเข้าสิงคือดิฉันแทบจะไม่ค่อยได้คุยกับเค้า จนเค้าทนไม่ได้ออกจากบ้านดิฉันไปเอง และ 1 ในเรื่องที่รับไม่ได้คือเค้าออกจากบ้านทุกวันแต่ไม่ถึงมหาลัย ดิฉันจึงไปกองทะเบียนสอบถามคือเธอได้ลาออกไปแล้ว แต่แม่ดิฉันให้เงินเธอไปเรียนทุกวัน แต่เป็นเพราะดิฉันไม่กล้าพูดเองจึงไม่กล้าบอกใครและเก็บความรู้สึกแย่พวกนี้ไว้คนเดียว แต่ตอนนี้ดิฉันเก็บไม่ไหวแล้ว พ่อดิฉันเห็นจดหมายก็เครียด
จนดิฉันได้ใช้โซเชียล และค้นพบ เฟซบุ๊คของเธอแล้ว แต่เธอเปลี่ยนไปเธอมีเงินไปศัลยกรรม แต่เธออาจจะลืมเรื่องกู้ กยศ. ไปหรือเปล่า หรืออาจไม่ได้รับจดหมาย แต่ดูจากยอดเค้าเคยมีการชำระไปบางเล็กน้อยแล้ว ดิฉันเลยอยากได้คำแนะนำว่าควรทำอย่างไรดีคะ ความรู้สึกกลัวๆ กล้าๆ ถ้าไปบอกให้เธอจ่ายเธอจะหนีไหม ถ้าหนีดิฉันจะฟลุ๊คเหมือนรอบนี้ตามหาเจออีกไหม ทางกฏหมายดิฉันทำอะไรได้บ้างคะ
ในความคิดของดิฉันเอง ถ้าดิฉันแจ้งความแล้วเพื่อไปขอให้ประกันสังคมสืบค้นว่าทำงานที่ไหน จะกระทำได้ไหมคะ
ที่จะสืบค้นว่าทำงานที่ไหน เพื่อที่จะส่งเอกสารไปให้เพื่อให้ทางแผนกบุคคลตักเตือนจะได้ไหม จะล่วงเกินสิทธิไปหรือเปล่า
ตอนนี้ดิฉันทำอะไรไม่ถูกจริงๆ รู้สึกบาปที่ทำให้พ่อต้องมาเป็นกังวล เพราะยังไงผู้ค้ำก็ต้องรับกรรมต่อ ถ้าผู้กู้ไม่จ่าย
ดิฉันไม่เคยตั้งกระทู้เลยถ้าแท๊กห้องผิดหรือภาษาที่ใช้และการสื่อความหมายไม่ชัดเจนต้องขออภัยด้วยนะคะ / และขอบคุณล่วงหน้าถ้ามีผู้รู้มาตอบคำถามดิฉันคะ