Day 2: Sevilla เซบีญ่า = Atocha Renfe station-Sevilla Santa Justa station-Estadio Ramon Sanchez Pizjuan (Sevilla FC)-Plaza de espana-Seville Cathedral-Real Alcazar-Plaza de toros-Gloden Tower

มาถึง Hola spain day2 ละนะครับ ผมจองตั๋ว รถไฟ Renfe มาจากกรุงเทพเรียบร้อย อธิบายนิดนึงครับ ผมว่าสเปนยังไม่อำนวยความสะดวกในการจองรถไฟ renfe ผ่านเวป สักเท่าไหร่เนื่องจาก มีแต่ภาษาสเปน มีอังกฤษ แค่หน้าแรก งงๆๆครับ แต่พอเดาได้ บางอัน หรือไม่ก็ใช้ google translate เปลี่ยนภาษาในเวปให้เลย โดยส่วนตัวนะครับ ผมมองว่าถ้าเป็นเมืองใกล้ๆ มาดริด เช่น เซโกเบีย โตเลโด้ คุณควรนั่งรถบัสครับ เพราะ เวลาไม่นานมาก ประมาณ 1-1.3 ชม และไม่ต้องเครียดด้วยว่าจะกลับเมื่อไหร่ แต่ถ้าจองรถไฟเนี่ยคุณมักจะฟิก เวลาไปกลับ ตลอด เพราะ กลัวไม่มีรถบ้าง บ้างก็บอกคิวยาวบ้าง นอย อะครับ ถ้านั่งรสบัส คุณจะ คำนวนเวลาได้ และก็ราคาถูกกว่า renfe เยอะมาก ผมว่า renfe รถไฟเร็วสูงของสเปน มันแพงเว่อร์ครับ แต่ถ้าไปเมืองใหญ่หน่อยและไกลหน่อยเช่น Barcelona, seville ก็ควร renfe ครับ เพราะเป็นรถไฟที่วิ่งประมาณ 300 km per hour อ้อ อีกอย่าง metro madrid รถไฟใต้ดินของมาดริด เปิด 6 โมงเช้านะครับ แต่ที่ barcelona เปิด ตี5 คำนวนดีๆนะครับ เพราะ ตอนผมนั่ง renfe ไป barcelona จองตั๋ว 6.30 เช้า รีบ ขี้แตก กลัวตกรถไฟ ตกนี่ตายแน่ ตั๋วรถไฟ โคตรแพง ไว้เล่าให้ฟังต่อที่ วันที่6 ผมตื่นเช้าทุกวันครับ เที่ยวให้เยอะสุดครับ ไม่เหมือนทำงานที่ กทม ตื่นสายตลอด นี่ละน้า ที่เค้าบอกว่า อะๆรที่เป็นของตัวเองมันจะไม่มีเหนื่อย อย่าเผลอให้เจ้านายอ่านเชียว 555

ขออธิบายเพิ่มเติมเรื่องการจองรถไฟนิดนึงครับ ผมสับสนกับการจองตั๋วรถไฟผ่านเวป Renfe มากครับ ผมเลยใช้อีกเวปนึง คือ raileurope.com ก็สะดวกดีครับ บางครั้งก็แพงกว่า Renfe บางครั้ง ก็ถูกกว่า web renfe ก็ลองพิจารณาดูนะครับ รอบแรกๆ ผมซื้อผ่าน Raileurope ตอนหลังซื้อ Renfe ครับ ต้องPrint ตั๋วไปเลยครับ รู้สึกจะผ่านทาง มือถือไม่ได้

ตื่นแต่มืดครับ กลัวขึ้น Renfe ไม่ทัน



สถานีรถไฟ Atocha Renfe ที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามก็ยังไม่เปิดเลยครับ แต่ได้เห็นตอนสว่าง แน่ๆครับ ในวันหลังครับ รอก่อนน้าาาาา อยู่ด้วยกันไปจนจบนะครับ

ชานชาลามี 2 ชั้นนะครับ ต้องเช็คดูว่าเรา ขึ้นชั้นไหน แต่ถ้าไม่ชัว ก็ให้เจ้าหน้าที่เค้าดูให้ครับ


นี่ละครับเจ้าหัวจรวด Renfe รถไฟความเร็วสูงของสเปน