ด้วยหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ทำให้ Galaxy W ดูเหมือนจะเป็นแท็บเล็ต แต่สามารถโทรฯได้เช่นเดียวกับโทรศัพท์
ซัมซุง เปิดตัว Samsung Galaxy W โทรฯมือถือที่ใหญ่ที่สุดของซัมซุง ณ เวลานี้ โดยจะเปิดจำหน่ายเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น สำหรับสเปก Galaxy W จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ที่มีอัตราส่วน 16:9 และความละเอียด 720x1,280 พิกเซล โดยจะมีการใช้ฝาหลังเป็นหนังเทียมแบบเดียวกับ Galaxy Note 3 ที่ออกมาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจะมีตัวเลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, ขาว และ แดง พร้อมทั้งมีการยืมเอาคุณสมบัติซอฟท์แวร์มาจาก Galaxy Note ทั้ง split-screen effects, pop-up videos และ ฟังก์ชั่น multi-tasking สำหรับวางแอพฯ 2 แอพฯไว้ข้างๆกัน
โดยคุณสมบัติภายใน จะประมวลผลด้วยชิปควอดคอร์ ความถี่ 1.2GHz พร้อมแรม 1.5GB โดยจะมีพื้นที่จัดเก็บภายในขนาด 16GB และมีกล้องหลักขนาด 8 ล้านพิกเซล ด้านแบตเตอรี่ จะมีขนาด 3200mAh แต่หนึ่งในข้อเสียของ Galaxy W คือ จะมาพร้อม Android 4.3 ไม่ใช่ Android 4.4.2 ที่พบได้ในอุปกรณ์ล่าสุดจากซัมซุง (อย่างเช่น Samsung Galaxy S5)
สำหรับสนนราคา Galaxy W จะมีราคาอยู่ที่ 499,400 วอน หรือประมาณ 490เหรียญสหรัฐฯ (290ยูโร)
ที่มา CNET
ซัมซุง เปิดตัว Galaxy W โทรฯมือถือที่ใหญ่ที่สุดของซัมซุง ณ เวลานี้
ด้วยหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ทำให้ Galaxy W ดูเหมือนจะเป็นแท็บเล็ต แต่สามารถโทรฯได้เช่นเดียวกับโทรศัพท์
ซัมซุง เปิดตัว Samsung Galaxy W โทรฯมือถือที่ใหญ่ที่สุดของซัมซุง ณ เวลานี้ โดยจะเปิดจำหน่ายเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น สำหรับสเปก Galaxy W จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ที่มีอัตราส่วน 16:9 และความละเอียด 720x1,280 พิกเซล โดยจะมีการใช้ฝาหลังเป็นหนังเทียมแบบเดียวกับ Galaxy Note 3 ที่ออกมาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจะมีตัวเลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, ขาว และ แดง พร้อมทั้งมีการยืมเอาคุณสมบัติซอฟท์แวร์มาจาก Galaxy Note ทั้ง split-screen effects, pop-up videos และ ฟังก์ชั่น multi-tasking สำหรับวางแอพฯ 2 แอพฯไว้ข้างๆกัน
โดยคุณสมบัติภายใน จะประมวลผลด้วยชิปควอดคอร์ ความถี่ 1.2GHz พร้อมแรม 1.5GB โดยจะมีพื้นที่จัดเก็บภายในขนาด 16GB และมีกล้องหลักขนาด 8 ล้านพิกเซล ด้านแบตเตอรี่ จะมีขนาด 3200mAh แต่หนึ่งในข้อเสียของ Galaxy W คือ จะมาพร้อม Android 4.3 ไม่ใช่ Android 4.4.2 ที่พบได้ในอุปกรณ์ล่าสุดจากซัมซุง (อย่างเช่น Samsung Galaxy S5)
สำหรับสนนราคา Galaxy W จะมีราคาอยู่ที่ 499,400 วอน หรือประมาณ 490เหรียญสหรัฐฯ (290ยูโร)
ที่มา CNET