JobsDB บางทีก็ยัดเยียดลูกค้าเกินไปรึเปล่า?

กระทู้คำถาม
มีประสบการณ์แย่ๆ หลังจากที่ประสานงานกับ Sales คนนึงของ JobsDB ค่ะ ไม่ได้บอกหรือสนับสนุนให้เลิกใช้บริการกับเจ้านี้แต่อย่างไร โดยรวมแล้วยังตอบรับผลความต้องการในระดับดีอยู่ เนื่องจากคนหางานใช้เว็บนี้อยู่เยอะ ... แต่พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ใช่จรรยาบรรณที่ดีของ Sales อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับ HR, PA และ Secretary ไว้ค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า ในเดือนเมษายน เราได้ทำการเช็คกับระบบของ JobsDB แล้วพบว่าไม่มีตำแหน่งให้โพสเหลือเเล้ว แต่ยังคงต้องการหาคนอยู่ จึงประสานกับฝ่ายเซลล์ให้ส่งใบเสนอราคามาให้พิจารณา นางก็ส่งมาให้และสาธยายโปรโมชั่นต่างๆทางโทรศัพท์ ทั้งนี้ ได้บอกนางแล้วว่า ไม่สามารถคอนเฟิร์มอะไรได้ เนื่องจากต้องรอนายมาพิจารณาและอนุมัติก่อน
Sales: ไม่มีปัญหาค่ะ เดี๋ยวเปิดให้ก่อนนะคะ แล้วค่อยตามลายเซ็นนายทีหลังก็ได้ค่ะ
แล้วนางก็เปิด พร้อมส่ง Invoice ไปให้ทางฝ่ายบัญชีทันที ซึ่งเป็นแพคเกจ A

หลังจากที่นายกลับมา ก็ได้ยื่นให้นายพิจารณา แต่นายไม่สนใจ อยากซื้อแพคเกจที่ใหญ่กว่านี้ โพสได้เยอะกว่า จึงประสานกลับไป ขอใบเสนอราคาสำหรับแพคเกจที่เป็น 10+10 แล้วนางก็ส่งมา เป็นแพคเกจ B ด้วยราคา 30,000 กว่าบาท พร้อมระบุในใบเสนอราคาว่า โปรโมชั่นนี้หมดอายุวันที่ 20 พ.ค. 2557  เราก็ทำการ forward ใบเสนอราคาตัวนี้ ต่อให้นายพิจารณาทันที ทั้งนี้ นายตอบมาทางอีเมลล์มา ตกลงเอาแพคเกจ B ในวันที่ 15 พ.ค. เราก็ตอบอีเมลล์แจ้งกลับนางเซลล์ทันทีว่า นายเอาแพคเกจนี้ จะให้นายเซ็นต่อไป
แต่นายก็ไม่สามารถเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรได้ เนื่องจากว่า Business outing ที่ภูเก็ตอยู่ เราจึงยื่นเอกสารใบเสนอราคาตัวนี้ ให้ทางหัวหน้าฝ่ายบัญชีเซ็นแทน เนื่องจากแกมีอำนาจให้การเซ็นอนุมัติเช่นกัน
ในวันที่ 19 หัวหน้าฝ่ายบัญชี บอกว่า ได้รับ invoice มาจาก JobsDB มาตัวนึง ทำไมราคาไม่เหมือนกับในใบเสนอราคา ทำไมแพงกว่า? ไม่ขอเซ็นอนุมัติเนื่องจากว่าราคาไม่ตรงกัน เดี๋ยวมีปัญหา ให้รอนายมาเซ็นเอง ดังนั้น เราจึงรีบเขียนอีเมลล์ไปบอกนางเซลล์ว่า ทางนี้ เขาไม่รับเซ็น ช่วยรบกวนรอวันศุกร์หน่อยได้มั้ย (วันที่ 23) ซึ่งนางก็ตอบกลับมาว่าโอเค แล้วก็เปิด Credit แพคเกจ B ต่อไป
เมื่อนายมาถึง ก็จับนายเซ็นอนุมัติในใบเสนอราคาทันที แล้วแสกนส่งไปให้นางเซลล์อีกครั้ง จากนั้น ก็ได้รับ Invoice มา เช็คราคากับใบเสนอราคา 30,000 กว่าบาท โอเค ตรง แล้วยื่นให้กับฝ่ายบัญชีต่อไป

มาในวันนี้ โดนทวงให้จ่ายทั้งหมด 60,000 กว่าบาท ซึ่งรวม invoice ที่ออกให้คราวก่อน ถึงกับงง พอบอกว่าเราจ่ายได้เฉพาะในส่วนที่เราเซ็นอนุมัติ และ invoice ที่ราคาตรงกันเท่านั้น แต่มาบอกเราว่า ราคานั้น สำหรับ 2 invoices เราก็บอกว่า เราเซ็นอนุมัติด้วยยอดเท่านี้ คุณจะมาทวงเงินในส่วนที่เราไม่ได้อนุมัติได้ยังไง รบกวนส่งอีเมลล์มาด้วย จากนั้นนางก็ส่งอีเมลล์มา  To..อีเมลล์เรา CC อีเมลล์นาย และ Dear ชื่อนาย !  
แล้วก็ยืนยันว่าเราอนุมัติซื้อ 2 invoices แล้ว ยอดที่ให้ไปสำหรับแพคเกจรวม A+B เพราะฉะนั้นต้องจ่าย 60,000 กว่าบาท ไม่เช่นนั้น ต้องเปลี่ยนเป็นซื้อแพคเกจธรรมดา ซึ่งราคา 40,000 กว่าบาท
ได้รับอีเมลล์ก็เอ๋อไปตามระเบียบ เราก็ทำการเช็คอีเมลล์และใบเสนอราคาที่ให้นายเซ็น ก็มีแต่ยอด 30,000 กว่าบาท และ Invoice ก็มีราคาที่ตรงกัน จากนั้น จึงตอบอีเมลล์กลับไป พร้อมแนบให้นางดูว่า เราเซ็นไปเท่านี้ แจ้งหนี้เราเท่านี้ มันตรงกัน ก็เป็นไปตามนั้น
แต่นางก็ยืนยันว่า เราต้องจ่าย 60,000 กว่าบาท ไม่เช่นนั้น จะยกเลิกแพคเกตที่ใช้อยู่ และให้พิจารณา 40,000 กว่าบาทแทน
เราก็หน้ามืดเลยครับท่าน ไม่คิดว่าจะมาทวงเงินในส่วนที่นายไม่เคยอนุมัติเป็นลายเซ็น แถมต้องมาให้จ่ายในส่วนที่ไม่เคยยื่นใบเสนอราคาให้นายเซ็นเลยสักครั้ง ฝ่ายบัญชีจะทำการจ่ายยังไง ถ้าราคาที่ทวงกับราคาใบเสนอราคาและแจ้งหนี้ไม่ได้ตรงกันเลย

หัวหน้าฝ่ายบัญชีจึงแนะนำเราให้ ส่งอีเมลล์ชี้แจงและแคปเจอร์บทสนทนาที่เคยคุยกันไว้ก่อนวันหมดอายุหรือวันที่ 19 แล้วให้เขาส่งใบเสนอราคาที่เราเซ็นอนุมัติสำหรับยอด Invoice ตัวแรกมา ไม่อย่างนั้น บัญชีจะชี้แจงกับสำนักงานตรวจบัญชีและกรมสรรพากรยังไง ถ้าจ่ายไม่ตรงกับใบแจ้งหนี้
เราก็ทำการแคปเจอร์บทสนทนาที่แจ้งไว้ว่า เราต้องรอลายเซ็นอนุมัติจากนายแล้วนางก็ตอบตกลง แล้วขอดูใบเสนอราคามายืนยันว่าเราเคยเซ็นอนุมัติสำหรับใบแจ้งหนี้แรกรึเปล่า (ซึ่งมั่นใจว่าไม่มี!) เซ็นอะไรก็จ่ายตามนั้น ใบแจ้งหนี้ก็ควรจะมียอดตรงกัน ซึ่งตอนนี้ทั้งสองใบที่อยู่ในมือก็ราคาเดียวกัน

พอส่งไปเท่านั้นล่ะ นางก็โทรมา ชี้แจงว่า จริงๆวันที่ระบุในเสนอราคา แจ้งวันผิด จริงๆควรจะเป็นวันที่ 12 พ.ค. !!! ได้ยินดังนั้น รู้สึกผิดหวังมากๆ ที่เขียนอีเมลล์มากดดันให้รู้สึกแย่นี่ทำเพื่ออะไร? จะเอาชนะลูกค้าหรือยังไง? การเป็นเซลล์มืออาชีพ เอกสารและหลักฐานทางการเงินมันสำคัญมากนะเฮ้ย! พอได้ยินดังนั้น บอกเลยความผิดหวังท่วมท้น แต่ก็บอกนางว่า ให้เขียนอีเมลล์มาชี้แจงแล้วกัน จะได้ให้หัวหน้าพิจารณาใหม่ ขอตัวนะ จะไป Orientation

ในระหว่างที่ทำ Orientation นางก็ส่งอีเมลล์มาอีก CC นายและหัวหน้าฝ่ายบัญชีว่า
After I got ur email I called you for this issue, you told me that ur boss need 30 ads, So I sent Special rate for 30 ads [it more discount price, it’s mean 2 inv for  package 10ads + package 20 ads = 30 ads and try to explain everything as Highlight] same as below ;
(แคปเจอร์ Package A+B)
And then you told me waiting approve from ur boss fist.
And approved as below email  
Anyways, I have recored from telephone that you and me discussed this issue na ka.

เจออย่างนี้ อึ้งเลยค่ะ โคตรเป็นเซลล์มืออาชีพมากกกกกกกกกกกกกกกก พูดอย่าง เขียนอีกอย่าง แล้วมีหน้ามาบอกว่าอัดเสียงไว้ คือไม่ใช่ว่ากูจำไม่ได้นะ ไอ้ที่คุยกันเมื่อกี้ว่าระบุวันหมดอายุผิด ไม่ใช่กูบอกเองหรอว่าเดี๋ยวยื่นให้หัวหน้าพิจารณาใหม่ไป ไอ้ความคิดที่ว่า ในที่สุดก็เคลียร์กันสักที นี้ม้วนมลายหายไปเลย ยังคงดื้อด้านว่า กูผิดนะ นั่นละผิด การเป็นเซลล์ที่ดีนี่มันอยู่ที่ตรงไหน? บัญชีเขาจะทำการจ่ายยังไง ถ้าใบเสนอราคาที่เซ็นและใบเเจ้งหนี้มันเป็นแค่ 30,000 กว่า แต่ยังคงดื้อด้านทวง 60,000 กว่าบาท ถ้าวันหมดอายุระบุผิด ก็บอกกันได้ จะได้เสนอนายใหม่ นี่ยังไม่เลิก เป็นเด็กไปได้ ใบเสนอราคาสำหรับให้จ่ายยอดแรกและยืนยันว่าเราอนุมัติก็ไม่มี
เสียความรู้สึกจริงๆ รับไม่ได้จริงๆ ได้แต่ตอบกลับไปว่า โทรมาแค่ชี้แจงว่าระบุผิด ทำไมต้องยัดเยียดลูกค้าถึงขนาดนี้ด้วย มันโคตรไม่มืออาชีพมากนะ บอกเลย
การทำอาชีพ Sales : โทรหรืออีเมลล์เพื่อเสนอสินค้าและราคา -> ลูกค้าโอเค ตกลง -> เพื่อไม่ให้เกิดข้อเข้าใจผิดอะไรให้ส่งใบเสนอราคาชี้แจงรายละเอียดและราคาที่ได้พูดไป-> ลูกค้าเซ็นกำกับอนุมัติ -> ออก invoice ตามราคาที่ได้รับการอนุมัติ ต่อไป
ลูกค้าบางคนไม่ได้มานั่งจำหรอกว่า คุยอะไรไป ถึงต้องมีเอกสารมายืนยันมา ตกลงอะไรกันไว้ ทำอย่างนี้ไม่มืออาชีพจริงๆ

ขอย้ำว่า ไม่ได้สนับสนุนให้เลิกใช้บริการเจ้านี้ หรือแนะนำให้ไปใช้เจ้าอื่นแต่อย่างใด แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ที่เพิ่งจะเจอและเสียความรู้สึกกับจรรยาบรรณในการขายมาก ไม่เพียงแต่ยัดเยียด แต่ใช้วิธีการเขียนที่ไม่ให้เกียรติลูกค้าสักนิดเลย ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ..
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
paper to paper น่าจะดีกว่า conversation ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่