ยังจำได้ไหม ท่านบอกเองว่า ตนหลับหายตายสูญ ตามจิต ตามร่างกายที่หลับ ที่แตกดับ ใช่ไหม
แล้ววันนี้ท่านมาบอกว่า แท้จริงเรามิได้มี
อย่างนี้แล้ว จะมีท่านหรือใครไปหายไปสูญได้อย่างไรล่ะครับ
Time & Space
22 ชั่วโมงที่แล้ว
*************
อาตมาไม่เคยบอกว่า ตายแล้วสูญ มีแต่บอกว่า มันสูญ (ไม่มีเราจริง) มาตั้งแต่ยังไม่ตาย
สิ่งที่รู้สึกว่าเป็นเรานี้ มันไม่ใช่เราจริง มันเป็นเพียงสิ่งปรุงแต่งชั่วคราวเท่านั้น หรือจะเรียกว่าเป็นตัวเรามายาก็ได้ (คำว่าปรุงแต่งหมายถึง การนำเอาสิ่งอื่นๆมาร่วมกันปรุงให้เป็นสิ่งใหม่ขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์)
เมื่อตื่นเรานี้ก็จะถูกปรุงแต่งขึ้นมา เมื่อหลับสนิทและไม่ฝัน เรานี้ก็จะดับหายไป เมื่อตื่นใหม่ก็เกิดเราขึ้นมาใหม่อีก เพราะมีเหตุ (คือร่างกาย) และปัจจัย (คือความทรงจำ) ที่ยังเหมือนเดิม ดังนั้นเหตุและปัจจัยนี้จึงปรุงแต่งเราที่เหมือนเดิมให้เกิดขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยไป จนกว่าร่างกายหรือความทรงจำนี้จะหายไป เรานี้ก็จะหายไปอย่างถาวร
ถ้ายังเข้าใจว่ามีเราที่เป็นตัวตนจริง (อัตตา) ก็จะไม่ยอมรับเรื่องเราที่เป็นสิ่งปรุงแต่งชั่วคราวนี้ และก็จะมองว่าอาตมาสอนว่าตายแล้วสูญ คือเมื่อมันไม่มีเราอยู่จริง มีแต่เพียงเรามายาเท่านั้น แล้วอย่างนี้จะว่าตายแล้วจึงค่อยสูญได้อย่างไร? (เพระามันไม่มีใครสูญหายไปจริง)
ความเข้าใจเรื่องสูญก่อนตายนี้ก็คือความเข้าใจเรื่องสุญญตา (ความว่างจากตัวเรา) ซึ่งจัดเป็นหัวใจของปัญญาของอริยสัจ ๔ ที่เป็นหลักในการปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ของจิตใจในปัจจุบันของมนุษย์
ถ้าเข้าใจว่า แท้จริงไม่มีเรา ก็จะเข้าใจเรื่อง สุญก่อนตายได้
แล้ววันนี้ท่านมาบอกว่า แท้จริงเรามิได้มี
อย่างนี้แล้ว จะมีท่านหรือใครไปหายไปสูญได้อย่างไรล่ะครับ
Time & Space
22 ชั่วโมงที่แล้ว
*************
อาตมาไม่เคยบอกว่า ตายแล้วสูญ มีแต่บอกว่า มันสูญ (ไม่มีเราจริง) มาตั้งแต่ยังไม่ตาย
สิ่งที่รู้สึกว่าเป็นเรานี้ มันไม่ใช่เราจริง มันเป็นเพียงสิ่งปรุงแต่งชั่วคราวเท่านั้น หรือจะเรียกว่าเป็นตัวเรามายาก็ได้ (คำว่าปรุงแต่งหมายถึง การนำเอาสิ่งอื่นๆมาร่วมกันปรุงให้เป็นสิ่งใหม่ขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์)
เมื่อตื่นเรานี้ก็จะถูกปรุงแต่งขึ้นมา เมื่อหลับสนิทและไม่ฝัน เรานี้ก็จะดับหายไป เมื่อตื่นใหม่ก็เกิดเราขึ้นมาใหม่อีก เพราะมีเหตุ (คือร่างกาย) และปัจจัย (คือความทรงจำ) ที่ยังเหมือนเดิม ดังนั้นเหตุและปัจจัยนี้จึงปรุงแต่งเราที่เหมือนเดิมให้เกิดขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยไป จนกว่าร่างกายหรือความทรงจำนี้จะหายไป เรานี้ก็จะหายไปอย่างถาวร
ถ้ายังเข้าใจว่ามีเราที่เป็นตัวตนจริง (อัตตา) ก็จะไม่ยอมรับเรื่องเราที่เป็นสิ่งปรุงแต่งชั่วคราวนี้ และก็จะมองว่าอาตมาสอนว่าตายแล้วสูญ คือเมื่อมันไม่มีเราอยู่จริง มีแต่เพียงเรามายาเท่านั้น แล้วอย่างนี้จะว่าตายแล้วจึงค่อยสูญได้อย่างไร? (เพระามันไม่มีใครสูญหายไปจริง)
ความเข้าใจเรื่องสูญก่อนตายนี้ก็คือความเข้าใจเรื่องสุญญตา (ความว่างจากตัวเรา) ซึ่งจัดเป็นหัวใจของปัญญาของอริยสัจ ๔ ที่เป็นหลักในการปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ของจิตใจในปัจจุบันของมนุษย์