รบกวนสอบถามท่านผู้รู้ค่ะ เกี่ยวกับบริษัทให้หนังสือสิ้นสุดการจ้างงานมาแล้ว และไปขึ้นรายชื่อรับเงินทดแทนกรณีว่างงานแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ
เหตุผลที่เราลาออก
1. สุขภาพ เราเป็นโรคซึมเศร้า รักษามาเกือบ 3 ปี มันเดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่ จึงอยากลาออกมาพักผ่อน พักสมองจากงาน และมาทำงานของตัวเองคืองานขายของออนไลน์ และงานอื่นๆ ทั่วไปที่ทำที่บ้านได้
2. เจ้านายอยากให้ลาออก โดยที่เราสรุปว่าอยากให้เราลาออกเนื่องจาก
- ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เจ้านายไม่ได้ขึ้นเงินเดือนให้ และเมื่อเราถามเจ้านายบอก ปีที่ผ่านมาผลประกอบการไม่ดี เราก็โอเค ไม่เซ้าซี้ แล้วต่อมา เจ้านายได้ตัดสินใจ เชิญพนักงานออก 2 คน ซึ่งเป็นพนักงานที่ทำงานมาเกิน 4 เดือนทั้งคู่ แต่ไม่ได้มีหนังสือจ้างงาน หรือทำประกันสังคมแต่อย่างใด เจ้านายจ่ายเงินเดือนให้เต็ม แต่ให้ทำงานแค่ 15 วัน ซึ่งก็คือวันที่เจ้านายบอกเลิกจ้าง (ปากเปล่า) แต่กับเราเจ้านายบอกว่ายังจ้างต่อ และยังมีเงินเดือนให้ปกติ (เราก็เป็นพนักงานที่ไม่ได้มีสัญญาจ้าง แต่เอาชื่อเข้าประกันสังคม ระยะเวลาทำงาน มากกว่า 2 ปี)
- ช่วงเดือนมกราคม 57 เราลาพักร้อน 3 วัน แต่มีงานด่วน เราจึงไปทำงาน 2 วันแรกที่ลาพักร้อนให้เจ้านายก่อยน และเราแจ้งเจ้านายว่า ขอวันลาพักร้อน 2 วันที่มาทำงานเลื่อนไปเป็น วันต่อไปอีก ให้ครบ 3 วัน ตามที่แจ้งขอลาพักร้อนไว้ ซึ่งที่ทำงานเป็นการลงเอกสารแบบ เขียนใส่สมุดกันเองธรรมดาไม่ได้มีแบบฟอร์มเป็นทางการแต่อย่างใด และในช่วงนั้น เราเป็นไข้หวัด+ภูมิแพ้ ต่อเนื่องอยู่ 2 เดือน ยาหมดแต่ยังไม่หายเราก็ไปหาหมอ และขอใบรับรองแพทย์ส่งภาพไปให้เจ้านายทางไลน์ ทั้งหมดไปหาหมอ 3 ครั้ง ด้วยกัน (รวมกับวันที่เราลาพักร้อนด้วย พอได้หยุดพักร้อนก็ป่วยไปหาหมอ นอนพักอยู่บ้าน) เป็นจำนวนวันลาป่วย 3 วัน ลาพักร้อน 3 วัน ก่อนลาป่วยครั้งสุดท้าย เราลากิจ 1 วัน เนื่องด้วยแม่เข้าห้องไอซียู แต่พอการลาป่วยครั้งที่ 3 หมอให้หยุด 1 วัน เราก็แจ้งเจ้านายเหมือนเคยคือ ลาป่วย พร้อมภาพใบรับรองแพทย์ แต่มีการสนทนาเกิดขึ้น เจ้านายพูด ประมาณว่า ถึงเวลาแล้วหรือเปล่าที่เราจะไปเปิดบริษัทตัวเองหรือไปทำงานของตัวเอง อะไรทำนองนี้ ซึ่ง เราก็บอกว่าา ตอนนี้ยังไม่พร้อมลาออก จนกระทั่งเดือนเมษายน เราไปทำงานวันสุดท้ายวันที่ 28 และตัดสินใจ ขอลาออกในเดือนนั และทำจดหมายลาออก เจ้านายให้ใบที่บอกว่า สิ้นสุดการเป็นพนักงาน มา 1 ใบ ซึ่งเราขอลาออกสิ้นเดือน โดย 2 วันที่เหลือ เราขอใช้ลาพักร้อน แต่เจ้านายออกเอกสารมาว่าสิ้นสุดการทำงาน ณ วันที่ 28 เลย เราก็โอเคไม่เป็นไร โดยงานเราไม่มีอะไรมากช่วงนั้นงานไม่ค่อยมี งานทุกอย่างอยู่ในคอมพิวเตอร์ของออฟฟิต ช่วงเดือนก่อนออกเราเอางานไปเก็บไว้ในเครื่องคอมพ์ออฟฟิต และใช้คอมพ์ออฟฟิตทำงาน ซึ่งจัดแยกเป็นโฟลเดอร์ไว้เป็นงานๆ
ระบบการทำงาน
- เราเข้ามาทำงานโดยมิได้มีเอกสารหนังสือสัญญาจ้าง แรกๆ ไม่ได้ทำประกันสังคม จนผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ทางเจ้านายก็เอาชื่อเข้าประกันสังคม ทำงานมากับเจ้านาย 2 คน มา 2-3 ปีได้ ซึ่งเริ่มแรกเป็นการทำงานกันแบบ เข้าออฟฟิต 2 วัน (เนื่องจากการเดินทางที่ค่อนข้างไกล และต่อรถหลายต่อ และเราต้องเอาโน๊ตบุ๊คไปทำงานด้วย) อีก 3 วันทำงานที่บ้าน หยุดเสาร์-อาทิตย์ ต่อมาเราได้ลาออก โดยปากเปล่า ซึ่งเจ้านายก็เห็นด้วย เราไม่ได้ไปยื่นทำเรื่องขอเงินทดแทน
- ต่อมา 3-4 เดือน เราไปสมัครงานใหม่ แต่ก็ต้องขอลาออก และยื่นเเอกสารหนังสือลาออก ซึ่งก็โอเคทั้ง 2 ฝ่าย ในช่วงนั้นเราก็ไปขอเอกสาร ทวิ 50 ที่ออฟฟิตเดิมเพื่อยื่นเสียภาษี และเจ้านายเราก็ได้ชวนให้กลับมาทำงานด้วยกันใหม่ เราก็โอเค (ปากเปล่าไม่ได้มีหนังสือว่าจ้างกันแต่อย่างใด) เจ้านายก็เอาชื่อเราเข้าประกันสังคมต่อ รอบนี้เป็นการทำงานแบบ ไปทำงานทุกวัน เนื่องจากเราเริ่มมีรถส่วนตัวก็เดินทางสะดวกขึ้น และที่ออฟฟิต รับพนักงานมาเพิ่มแบบทำประจำอีก 2 คน (ที่ซึ่งโดนเชิญออกไป ที่เราได้กล่าวไว้ด้านบน) แล้วก็มีพนักงานพาร์ททาม มาทำงานเป็นระยะๆ 1-5 คน แล้วแต่ช่วง
- ตลอดระยะเวลาการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดทั้งสิ้น บางครั้งเราก็มีทำงานดึก ทำงานเสาร์อาทิตย์ แต่เราไม่เคยร้องขอเงินโอทีแต่อย่างใด แต่การเข้างานก็มีสายบ้าง แต่ก็ถือว่า เข้าสายก็มีวันที่เลิกดึก หรือทำงานเสาร์อาทิตย์ให้ ก็ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรกันมาก
การไปทำเรื่องขอเงินทดแทน
เราไปยื่นเรื่องว่างงานและขอเงินทดแทนในวันที่ 12 พฤษภาคม เอกสารครบเรียบร้อย เจ้าหน้าที่บอกเดี๋ยวทางระบบจะโอนเงินเข้าไปเอง และให้เอกสารแนะนำการไปรายงานตัว ในวันที่ 12 ของเดือนถัดๆ ไป อีก 3 เดือน เนื่องจากเราลาออกเอง ก็จะได้เงินทดแทน 3 เดือน เดือนละ 30% เราก็เข้าใจตามนั้นและโอเค
ผ่านมาจน ณ วันนี้ เกิน 30 วัน แล้วที่เราสิ้นสุดการเป็นพนักงาน แต่ยังมิได้รับเงินทดแทน เราจึงโทรสอบถามประกันสังคม ทางประกันสังคมบอกนายจ้างยังไม่มาแจ้งชื่อออก ให้เรารอ หรือโทรไปติดต่อนายจ้าง โทรไปแล้ว เขาบอกว่ายังไม่ว่างไปให้ และให้เราลิสต์รายการงานต่างๆ ให้ ซึ่ง ณ ตอนที่จะออก งานเราทำและพรีเซ็นต์งานเขาเป็นระยะๆ และมันก็อยู่ในเครื่องที่ออฟฟิต และเจ้านายเองก็ทราบดีว่า งานทำอยู่ที่ไหน และข้อมูลงานการแก้ไขหรือการดำเนินการต่างๆ อยู่ในโฟลเดอร์ ของชื่องานนั้นๆ อยู่แล้ว ซึ่งเจ้านายก็น่าจะเปิดดูได้อยู่แล้ว งานปี 2557 มีอยู่ไม่กี่ตัว ที่เรารับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานก็ ร่วมกันกับเจ้านายตลอด เพราะปกติเรากับเจ้านายจะเป็นอะไรที่ทำงานร่วมกันตลอด โดยเจ้านายทำส่วนนึงเราทำอีกส่วนนึงแล้วเอามารวมกัน และปรับแก้ไขอีกที
ณ ตอนนี้ เราคิดว่าเราจะอีเมล์ แจ้งรายงานงานที่ค้างอยู่ไปบอกว่าจะหาดู จะเอาข้อมูลจากที่ไหน ให้เป็นเรื่องเป็นราวอีกครั้ง
จึงอยากเรียนถามเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านที่มีความรู้ด้านนี้ ว่าเราควรทำอย่างไรต่อไปอีกดี
** เราได้ทำการโทรปรึกษากับทางประกันสังคมแล้ว ทางประกันสังคมบอกให้รอนายจ้างมาแจ้งออกก่อนอย่างเดียวเราจึงจะมีสิทธิได้รับเงินทดแทน ให้ไปรายงานตัวปกติ
แต่สมมุติว่า เจ้านายเรายังยื้อไปเรื่อยๆ เราจะทำอย่างไรได้อีกบ้างไหม
เนื่องจากเราก็เพิ่งมาเริ่มต้นทำงานของตัวเองใหม่ ไม่ได้มีทุนรอนอะไรเยอะ อย่างน้อยเงินทดแทนก็ได้มาพอได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าน้ำ-ไฟ
และขออภัยหากพิมพ์อะไรที่ไม่ถูกต้อง หรืออ่านลำบาก หรือข้อความบางประโยคสื่ออะไรไม่ดี ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ปล. ท่านใดจะซ้ำเติม ขอความกรุณา อย่าเพิ่งเลยนะคะ ต้องการคำปรึกษาจริงๆ เพราะตอนนี้เรายังอยู่ในภาวะซึมเศร้าอยู่ ขออภัยอีกครั้งค่ะ
ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าค่ะ
รบกวนสอบถามกรณี ไปลงทะเบียนว่างงาน แล้วแต่นายจ้างยังไม่แจ้งเลิกจ้าง
เหตุผลที่เราลาออก
1. สุขภาพ เราเป็นโรคซึมเศร้า รักษามาเกือบ 3 ปี มันเดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่ จึงอยากลาออกมาพักผ่อน พักสมองจากงาน และมาทำงานของตัวเองคืองานขายของออนไลน์ และงานอื่นๆ ทั่วไปที่ทำที่บ้านได้
2. เจ้านายอยากให้ลาออก โดยที่เราสรุปว่าอยากให้เราลาออกเนื่องจาก
- ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เจ้านายไม่ได้ขึ้นเงินเดือนให้ และเมื่อเราถามเจ้านายบอก ปีที่ผ่านมาผลประกอบการไม่ดี เราก็โอเค ไม่เซ้าซี้ แล้วต่อมา เจ้านายได้ตัดสินใจ เชิญพนักงานออก 2 คน ซึ่งเป็นพนักงานที่ทำงานมาเกิน 4 เดือนทั้งคู่ แต่ไม่ได้มีหนังสือจ้างงาน หรือทำประกันสังคมแต่อย่างใด เจ้านายจ่ายเงินเดือนให้เต็ม แต่ให้ทำงานแค่ 15 วัน ซึ่งก็คือวันที่เจ้านายบอกเลิกจ้าง (ปากเปล่า) แต่กับเราเจ้านายบอกว่ายังจ้างต่อ และยังมีเงินเดือนให้ปกติ (เราก็เป็นพนักงานที่ไม่ได้มีสัญญาจ้าง แต่เอาชื่อเข้าประกันสังคม ระยะเวลาทำงาน มากกว่า 2 ปี)
- ช่วงเดือนมกราคม 57 เราลาพักร้อน 3 วัน แต่มีงานด่วน เราจึงไปทำงาน 2 วันแรกที่ลาพักร้อนให้เจ้านายก่อยน และเราแจ้งเจ้านายว่า ขอวันลาพักร้อน 2 วันที่มาทำงานเลื่อนไปเป็น วันต่อไปอีก ให้ครบ 3 วัน ตามที่แจ้งขอลาพักร้อนไว้ ซึ่งที่ทำงานเป็นการลงเอกสารแบบ เขียนใส่สมุดกันเองธรรมดาไม่ได้มีแบบฟอร์มเป็นทางการแต่อย่างใด และในช่วงนั้น เราเป็นไข้หวัด+ภูมิแพ้ ต่อเนื่องอยู่ 2 เดือน ยาหมดแต่ยังไม่หายเราก็ไปหาหมอ และขอใบรับรองแพทย์ส่งภาพไปให้เจ้านายทางไลน์ ทั้งหมดไปหาหมอ 3 ครั้ง ด้วยกัน (รวมกับวันที่เราลาพักร้อนด้วย พอได้หยุดพักร้อนก็ป่วยไปหาหมอ นอนพักอยู่บ้าน) เป็นจำนวนวันลาป่วย 3 วัน ลาพักร้อน 3 วัน ก่อนลาป่วยครั้งสุดท้าย เราลากิจ 1 วัน เนื่องด้วยแม่เข้าห้องไอซียู แต่พอการลาป่วยครั้งที่ 3 หมอให้หยุด 1 วัน เราก็แจ้งเจ้านายเหมือนเคยคือ ลาป่วย พร้อมภาพใบรับรองแพทย์ แต่มีการสนทนาเกิดขึ้น เจ้านายพูด ประมาณว่า ถึงเวลาแล้วหรือเปล่าที่เราจะไปเปิดบริษัทตัวเองหรือไปทำงานของตัวเอง อะไรทำนองนี้ ซึ่ง เราก็บอกว่าา ตอนนี้ยังไม่พร้อมลาออก จนกระทั่งเดือนเมษายน เราไปทำงานวันสุดท้ายวันที่ 28 และตัดสินใจ ขอลาออกในเดือนนั และทำจดหมายลาออก เจ้านายให้ใบที่บอกว่า สิ้นสุดการเป็นพนักงาน มา 1 ใบ ซึ่งเราขอลาออกสิ้นเดือน โดย 2 วันที่เหลือ เราขอใช้ลาพักร้อน แต่เจ้านายออกเอกสารมาว่าสิ้นสุดการทำงาน ณ วันที่ 28 เลย เราก็โอเคไม่เป็นไร โดยงานเราไม่มีอะไรมากช่วงนั้นงานไม่ค่อยมี งานทุกอย่างอยู่ในคอมพิวเตอร์ของออฟฟิต ช่วงเดือนก่อนออกเราเอางานไปเก็บไว้ในเครื่องคอมพ์ออฟฟิต และใช้คอมพ์ออฟฟิตทำงาน ซึ่งจัดแยกเป็นโฟลเดอร์ไว้เป็นงานๆ
ระบบการทำงาน
- เราเข้ามาทำงานโดยมิได้มีเอกสารหนังสือสัญญาจ้าง แรกๆ ไม่ได้ทำประกันสังคม จนผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ทางเจ้านายก็เอาชื่อเข้าประกันสังคม ทำงานมากับเจ้านาย 2 คน มา 2-3 ปีได้ ซึ่งเริ่มแรกเป็นการทำงานกันแบบ เข้าออฟฟิต 2 วัน (เนื่องจากการเดินทางที่ค่อนข้างไกล และต่อรถหลายต่อ และเราต้องเอาโน๊ตบุ๊คไปทำงานด้วย) อีก 3 วันทำงานที่บ้าน หยุดเสาร์-อาทิตย์ ต่อมาเราได้ลาออก โดยปากเปล่า ซึ่งเจ้านายก็เห็นด้วย เราไม่ได้ไปยื่นทำเรื่องขอเงินทดแทน
- ต่อมา 3-4 เดือน เราไปสมัครงานใหม่ แต่ก็ต้องขอลาออก และยื่นเเอกสารหนังสือลาออก ซึ่งก็โอเคทั้ง 2 ฝ่าย ในช่วงนั้นเราก็ไปขอเอกสาร ทวิ 50 ที่ออฟฟิตเดิมเพื่อยื่นเสียภาษี และเจ้านายเราก็ได้ชวนให้กลับมาทำงานด้วยกันใหม่ เราก็โอเค (ปากเปล่าไม่ได้มีหนังสือว่าจ้างกันแต่อย่างใด) เจ้านายก็เอาชื่อเราเข้าประกันสังคมต่อ รอบนี้เป็นการทำงานแบบ ไปทำงานทุกวัน เนื่องจากเราเริ่มมีรถส่วนตัวก็เดินทางสะดวกขึ้น และที่ออฟฟิต รับพนักงานมาเพิ่มแบบทำประจำอีก 2 คน (ที่ซึ่งโดนเชิญออกไป ที่เราได้กล่าวไว้ด้านบน) แล้วก็มีพนักงานพาร์ททาม มาทำงานเป็นระยะๆ 1-5 คน แล้วแต่ช่วง
- ตลอดระยะเวลาการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดทั้งสิ้น บางครั้งเราก็มีทำงานดึก ทำงานเสาร์อาทิตย์ แต่เราไม่เคยร้องขอเงินโอทีแต่อย่างใด แต่การเข้างานก็มีสายบ้าง แต่ก็ถือว่า เข้าสายก็มีวันที่เลิกดึก หรือทำงานเสาร์อาทิตย์ให้ ก็ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรกันมาก
การไปทำเรื่องขอเงินทดแทน
เราไปยื่นเรื่องว่างงานและขอเงินทดแทนในวันที่ 12 พฤษภาคม เอกสารครบเรียบร้อย เจ้าหน้าที่บอกเดี๋ยวทางระบบจะโอนเงินเข้าไปเอง และให้เอกสารแนะนำการไปรายงานตัว ในวันที่ 12 ของเดือนถัดๆ ไป อีก 3 เดือน เนื่องจากเราลาออกเอง ก็จะได้เงินทดแทน 3 เดือน เดือนละ 30% เราก็เข้าใจตามนั้นและโอเค
ผ่านมาจน ณ วันนี้ เกิน 30 วัน แล้วที่เราสิ้นสุดการเป็นพนักงาน แต่ยังมิได้รับเงินทดแทน เราจึงโทรสอบถามประกันสังคม ทางประกันสังคมบอกนายจ้างยังไม่มาแจ้งชื่อออก ให้เรารอ หรือโทรไปติดต่อนายจ้าง โทรไปแล้ว เขาบอกว่ายังไม่ว่างไปให้ และให้เราลิสต์รายการงานต่างๆ ให้ ซึ่ง ณ ตอนที่จะออก งานเราทำและพรีเซ็นต์งานเขาเป็นระยะๆ และมันก็อยู่ในเครื่องที่ออฟฟิต และเจ้านายเองก็ทราบดีว่า งานทำอยู่ที่ไหน และข้อมูลงานการแก้ไขหรือการดำเนินการต่างๆ อยู่ในโฟลเดอร์ ของชื่องานนั้นๆ อยู่แล้ว ซึ่งเจ้านายก็น่าจะเปิดดูได้อยู่แล้ว งานปี 2557 มีอยู่ไม่กี่ตัว ที่เรารับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานก็ ร่วมกันกับเจ้านายตลอด เพราะปกติเรากับเจ้านายจะเป็นอะไรที่ทำงานร่วมกันตลอด โดยเจ้านายทำส่วนนึงเราทำอีกส่วนนึงแล้วเอามารวมกัน และปรับแก้ไขอีกที
ณ ตอนนี้ เราคิดว่าเราจะอีเมล์ แจ้งรายงานงานที่ค้างอยู่ไปบอกว่าจะหาดู จะเอาข้อมูลจากที่ไหน ให้เป็นเรื่องเป็นราวอีกครั้ง
จึงอยากเรียนถามเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านที่มีความรู้ด้านนี้ ว่าเราควรทำอย่างไรต่อไปอีกดี
** เราได้ทำการโทรปรึกษากับทางประกันสังคมแล้ว ทางประกันสังคมบอกให้รอนายจ้างมาแจ้งออกก่อนอย่างเดียวเราจึงจะมีสิทธิได้รับเงินทดแทน ให้ไปรายงานตัวปกติ
แต่สมมุติว่า เจ้านายเรายังยื้อไปเรื่อยๆ เราจะทำอย่างไรได้อีกบ้างไหม
เนื่องจากเราก็เพิ่งมาเริ่มต้นทำงานของตัวเองใหม่ ไม่ได้มีทุนรอนอะไรเยอะ อย่างน้อยเงินทดแทนก็ได้มาพอได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าน้ำ-ไฟ
และขออภัยหากพิมพ์อะไรที่ไม่ถูกต้อง หรืออ่านลำบาก หรือข้อความบางประโยคสื่ออะไรไม่ดี ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ปล. ท่านใดจะซ้ำเติม ขอความกรุณา อย่าเพิ่งเลยนะคะ ต้องการคำปรึกษาจริงๆ เพราะตอนนี้เรายังอยู่ในภาวะซึมเศร้าอยู่ ขออภัยอีกครั้งค่ะ
ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าค่ะ