คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 37
ทำได้เลยครับ อย่ามัวคิดมาก ถ้าเราคิดบวก วางใจให้อยู่ในแดนบวก มันก็จะเป็นบวก
คนแต่ละคนมาจากสังคม การเลี้ยงดู ครอบครัวที่ต่างกัน การแสดงความคิดเห็นเลยแตกต่างกันไป
การเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องยากเลย จะไปคิดให้ยากแบบบางคนทำไม ผมเห็นญาติๆผมก็เลี้ยงแบบง่ายๆ โตมาเป็นคนดีทุกคน
มันก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงที่โดนผู้ชายทำท้อง แล้วทิ้งหรือแยกทางกันนะครับ มีเยอะแยะ ซิงเกิ้ลมัมก็มีเยอะแยะ จะไปกลัวอะไร
คนดีๆก็น่าจะบริจาคเยอะ ยกตัวอย่าง ผมคิดว่าผมเองก้เป็นคนดีมีศีลธรรมในระดับหนึ่ง การศึกษาก็โอเค ถ้าผมจะบริจาคให้ใครไป ให้แล้วให้เลย ไม่คิดมาก ให้เสร็จผมก็ลืมมันไปเลยได้สบายๆ เพราะไม่ได้ยึดติดอะไร ที่ปล่อยทิ้งเฉยๆซะทุกวันมากกว่าอีก
ฉนั้นไม่ต้องไปกลัวว่าจะเกิดความสัมพันธ์อะไรที่ไม่ดี ทั้งในด้านจิตใจหรือกฏหมาย กลัวทำไม เดินออกไปเลยครับ รีบๆอย่าช้า หาข้อมูลเยอะๆ ติดต่อหมอเลย
เรื่องราวทางกฏหมายไม่น่ากลัว เพราะพวกเมียน้อง พวกทำท้องแล้วทิ้ง อะไรพวกนี้มันยังไม่ค่อยมีปัญหาอะไรทางกฏหมายที่แม่จะเลี้ยงลูกเลย แล้วในแบบของคุณยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่
รีบๆทำอย่าช้า อย่าไปคิดลบแทนคนอื่น ในวันที่คุณไม่มีใคร ไอ้พวกที่ห้ามๆคุณมันไม่ไปช่วยอะไรคุณหรอกครับ ใครดักขาอย่ากลัว ชีวิตคนคือศิลปะ ไม่ใช่ไม้บรรทัด
คนแต่ละคนมาจากสังคม การเลี้ยงดู ครอบครัวที่ต่างกัน การแสดงความคิดเห็นเลยแตกต่างกันไป
การเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องยากเลย จะไปคิดให้ยากแบบบางคนทำไม ผมเห็นญาติๆผมก็เลี้ยงแบบง่ายๆ โตมาเป็นคนดีทุกคน
มันก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงที่โดนผู้ชายทำท้อง แล้วทิ้งหรือแยกทางกันนะครับ มีเยอะแยะ ซิงเกิ้ลมัมก็มีเยอะแยะ จะไปกลัวอะไร
คนดีๆก็น่าจะบริจาคเยอะ ยกตัวอย่าง ผมคิดว่าผมเองก้เป็นคนดีมีศีลธรรมในระดับหนึ่ง การศึกษาก็โอเค ถ้าผมจะบริจาคให้ใครไป ให้แล้วให้เลย ไม่คิดมาก ให้เสร็จผมก็ลืมมันไปเลยได้สบายๆ เพราะไม่ได้ยึดติดอะไร ที่ปล่อยทิ้งเฉยๆซะทุกวันมากกว่าอีก
ฉนั้นไม่ต้องไปกลัวว่าจะเกิดความสัมพันธ์อะไรที่ไม่ดี ทั้งในด้านจิตใจหรือกฏหมาย กลัวทำไม เดินออกไปเลยครับ รีบๆอย่าช้า หาข้อมูลเยอะๆ ติดต่อหมอเลย
เรื่องราวทางกฏหมายไม่น่ากลัว เพราะพวกเมียน้อง พวกทำท้องแล้วทิ้ง อะไรพวกนี้มันยังไม่ค่อยมีปัญหาอะไรทางกฏหมายที่แม่จะเลี้ยงลูกเลย แล้วในแบบของคุณยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่
รีบๆทำอย่าช้า อย่าไปคิดลบแทนคนอื่น ในวันที่คุณไม่มีใคร ไอ้พวกที่ห้ามๆคุณมันไม่ไปช่วยอะไรคุณหรอกครับ ใครดักขาอย่ากลัว ชีวิตคนคือศิลปะ ไม่ใช่ไม้บรรทัด
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 32
คำว่าแม่ มันไม่ใช่แค่การทำให้ชีวิตหนึ่งเกิดมา จริงอยู่พอมีลูกก็กลายเป็นแม่ จะชั่วจะดีมีคำเรียกว่าคือแม่
การเลี้ยงดูเด็กคนนึงในฐานะ ลูก คุณคิดว่าจะต้องมีปัจจัยอะไรบ้าง
คุณอยากเป็นแค่แม่หรืออยากเป็นแม่ที่ดีให้แก่ลูกสักคน
จริงอยู่ในสังคมเรามีเด็กที่เกิดมาท่ามกลางความไม่พร้อมมากมาย เด็กเหล่านั้นก็ยังสามารถเติบโตมาได้ แม้ครอบครัวจะไม่ได้มีฐานะร่ำรวยหรือเพรียบพร้อม
ในโลกนี้ มันไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ตอนนี้ความพร้อมของคุณคิดว่ามีแค่ไหน ใจพร้อม กาย พร้อม เงินทองพร้อม
หาข้อมูลมาพร้อม ว่าเด็กแต่ละช่วงวัยมีพัฒนาการอย่างไร ทั้งด้านร่างกายและอารมณ์ และวิธีรับมือในแต่ละช่วง
คุณกังวลมั้ย ว่าถ้าชีวิตคุณไปไม่ตลอดรอดฝั่ง เด็กที่เกิดมาเป็นลูกจะเป็นยังไง จะอยู่ต่อไปตามลำพังได้หรือเปล่า
ช่วงอุ้มท้องคุณจะมีผลกระทบด้านรายได้มั้ย สามารถดูแลลูกตามลำพังได้หรือเปล่า คุณคิดเรื่องพวกนี้มั้ย
ถ้าแค่คำว่าไม่อยากอยู่คนเดียว ทำให้คุณคิดอยากให้มีเด็กคนนึงเกิดมาเพื่อเป็นภาระผูกพัน โดยที่ไม่สนใจคำทัดทานของใครๆ เลย มันถูกต้องและดีที่สุดแล้วเหรอ
คนเราบางครั้งมีผู้คนมากมายอยู่เคียงข้าง อยู่รอบๆ ก็ยังเหงา หรือรู้สึกขาดได้
และคนเรา เพราะมันมีการเรียนรู้ และรู้คิด ไม่นึกบ้างเหรอ ลำพังตัวคุณยังอยากมีลูกเพื่อชดเชยความรู้สึกให้ตัวเอง
แล้วเด็กที่เกิดมา เขาจะไม่มีความรู้สึกขาด หรือโหยหา ในขณะที่คนอื่นเขามีกันตามปกติ
ลำพังแม่เลี้ยงเดี่ยวเอง หลายๆ คน ต้องหาวิธีแก้ปัญหาต่างๆ ที่เด็กมักสงสัย พ่อไปไหน ทำไมไม่มีพ่อ คุณคิดว่าแค่ตอบไปแบบนั้นแล้วมันก็จบ เด็กจะไม่คิดอะไรต่อหรือไม่ควรต้องคิดอะไร
โลกทั้งใบไม่ได้มีแค่คุณกับลูกที่จะเกิดมา มันมีคนอื่นอีกมากมาย มีปัจจัยอีกหลายอย่างที่คนนๆนึงจะต้องไปเรียนรู้
คุณไม่สงสารเด็กที่เขาจะเกิดมาเหรอคะ แค่คนอื่นๆ ทักท้วง จากประสบการณ์หรือจากเหตุการณ์ที่เจอส่วนใหญ่ คุณยังไม่อยากรับฟังเลย
อย่ามองว่าจะเป็นส่วนเติมเต็มเลยค่ะ มันเหมือนการมองวัตถุหรือสัตว์เลี้ยงมากกว่า
การเลี้ยงดูเด็กคนนึงในฐานะ ลูก คุณคิดว่าจะต้องมีปัจจัยอะไรบ้าง
คุณอยากเป็นแค่แม่หรืออยากเป็นแม่ที่ดีให้แก่ลูกสักคน
จริงอยู่ในสังคมเรามีเด็กที่เกิดมาท่ามกลางความไม่พร้อมมากมาย เด็กเหล่านั้นก็ยังสามารถเติบโตมาได้ แม้ครอบครัวจะไม่ได้มีฐานะร่ำรวยหรือเพรียบพร้อม
ในโลกนี้ มันไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ตอนนี้ความพร้อมของคุณคิดว่ามีแค่ไหน ใจพร้อม กาย พร้อม เงินทองพร้อม
หาข้อมูลมาพร้อม ว่าเด็กแต่ละช่วงวัยมีพัฒนาการอย่างไร ทั้งด้านร่างกายและอารมณ์ และวิธีรับมือในแต่ละช่วง
คุณกังวลมั้ย ว่าถ้าชีวิตคุณไปไม่ตลอดรอดฝั่ง เด็กที่เกิดมาเป็นลูกจะเป็นยังไง จะอยู่ต่อไปตามลำพังได้หรือเปล่า
ช่วงอุ้มท้องคุณจะมีผลกระทบด้านรายได้มั้ย สามารถดูแลลูกตามลำพังได้หรือเปล่า คุณคิดเรื่องพวกนี้มั้ย
ถ้าแค่คำว่าไม่อยากอยู่คนเดียว ทำให้คุณคิดอยากให้มีเด็กคนนึงเกิดมาเพื่อเป็นภาระผูกพัน โดยที่ไม่สนใจคำทัดทานของใครๆ เลย มันถูกต้องและดีที่สุดแล้วเหรอ
คนเราบางครั้งมีผู้คนมากมายอยู่เคียงข้าง อยู่รอบๆ ก็ยังเหงา หรือรู้สึกขาดได้
และคนเรา เพราะมันมีการเรียนรู้ และรู้คิด ไม่นึกบ้างเหรอ ลำพังตัวคุณยังอยากมีลูกเพื่อชดเชยความรู้สึกให้ตัวเอง
แล้วเด็กที่เกิดมา เขาจะไม่มีความรู้สึกขาด หรือโหยหา ในขณะที่คนอื่นเขามีกันตามปกติ
ลำพังแม่เลี้ยงเดี่ยวเอง หลายๆ คน ต้องหาวิธีแก้ปัญหาต่างๆ ที่เด็กมักสงสัย พ่อไปไหน ทำไมไม่มีพ่อ คุณคิดว่าแค่ตอบไปแบบนั้นแล้วมันก็จบ เด็กจะไม่คิดอะไรต่อหรือไม่ควรต้องคิดอะไร
โลกทั้งใบไม่ได้มีแค่คุณกับลูกที่จะเกิดมา มันมีคนอื่นอีกมากมาย มีปัจจัยอีกหลายอย่างที่คนนๆนึงจะต้องไปเรียนรู้
คุณไม่สงสารเด็กที่เขาจะเกิดมาเหรอคะ แค่คนอื่นๆ ทักท้วง จากประสบการณ์หรือจากเหตุการณ์ที่เจอส่วนใหญ่ คุณยังไม่อยากรับฟังเลย
อย่ามองว่าจะเป็นส่วนเติมเต็มเลยค่ะ มันเหมือนการมองวัตถุหรือสัตว์เลี้ยงมากกว่า
ความคิดเห็นที่ 26
จริงๆก็นับถือในความคิด และความตั้งใจของจขกท.น๊ะครับ ในสังคมที่มีความหลากหลายและซับซ้อนด้วยระดับต่างๆของศีลธรรมคงทำให้มีคนไม่เห็นด้วยเยอะแยะแน่เลย....แต่อย่างไรก็ตามผมแปะบทความนี้มาให้อ่านดูครับ....เผื่อจะมีประโยชน์กับจขกท.
อาจจะงุนงงกับหัวข้อเล็กน้อย แต่นั่นตรงความหมายที่สุดกับเนื้อหาที่จะพูดวันนี้ เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า หากวันนึงมีหญิงไทยซักคน ลุกขึ้นมา บอกว่า จะมีลูกแล้ว แต่ไม่อยากมีสามี โดยเธอจะใช้วิธีการฉีดสเปิร์ม เข้าไปในรังไข่ หรือที่เรียกง่ายๆว่า การผสมเทียมนั่นเอง
ประเด็นก็คือ กฎหมายห้ามหรือไม่ที่หญิงจะมีลูกได้โดยไม่ต้องมีสามี นั่นเอง กรณีนี้ต้องไปดูในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดบัญญัติไว้ว่า บุคคลย่อมอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน นอกจากนั้น บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย
การที่หญิงไปซื้อสเปิร์มที่มีคนเอามาขายไว้ ณ ธนาคารสเปิร์ม หรือขอรับบริจาคมา หรือได้มาด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ น่าจะกระทำได้ เพราะไม่มีกฎหมายห้ามไว้ชัดแจ้ง และเป็นเรื่องของการใช้สิทธิเสรีภาพ น่าจะทำได้ ตราบเท่าที่ไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อน หรือไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น
ปัญหาอาจจะเกิดขึ้นได้ว่า เจ้าของสปิร์มมาทวงสิทธิของเค้าคืน เนื่องจากถูกนำสเปิร์มไปด้วยความไม่สมัครใจ เช่น อาจถูกบังคับ หรือถูกหลอกลวงให้มอบสเปิร์มของตนให้บุคคลอื่น กรณีนี้ยังไม่มีตัวอย่าง แต่ถ้ามองว่าสเปิร์มเป็นทรัพย์สิน และเจ้าของไม่ได้มีเจตนาสละทรัพย์สินนั้น ก็ยอมมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ แต่เนื่องจากสเปิร์มได้ถูกเปลี่ยนสภาพไปแล้ว เป็นการพ้นวิสัยที่จะส่งมอบคืนได้ ก็ต้องดูว่า คนที่เอาสเปิร์มดังกล่าวไปใช้นั้นสุจริตหรือไม่ ถ้าหากสุจริตและไม่มีส่วนร่วมทำผิด เจ้าของสเปิร์มก็ต้องไปไล่เบี้ยเอากับคนที่มาหลอกลวงตนต่อไป เพราะกฎหมายคุ้มครองผู้สุจริตเสมอ
ต้องมาดูต่อว่า การกระทำนั้น ผิดศีลธรรมหรือไม่ อันนี้ไม่เกี่ยวกับกฎหมาย บางอย่างผิดศีลธรรมแต่อาจไม่ผิดกฎหมายก็ได้ เช่น การพูดโกหก ถ้าไม่ได้ไปหลอกลวงเอาทรัพย์สินใครจนถึงขั้นฉ้อโกงหรือทำให้ใครเสียหาย ก็ไม่ผิดกฎหมาย กรณีนี้ก็เช่นกัน การให้เด็กเกิดมาโดยไม่มีพ่อนั้น หากได้กระทำโดยมีสำนึกและความรับผิดชอบ และสามารถเลี้ยงดูให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
กฎหมายบังคับว่าเด็กเกิดมาต้องมีพ่อหรือไม่ อันนี้กฎหมายระบุเพียงแต่ว่า เด็กเกิดจากครรภ์ของหญิงใดย่อมเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้นเสมอ ไม่ได้พูดถึงเรื่องพ่อเอาไว้เลย เพราะกฎหมายไม่สนใจว่า ใครจะเป็นพ่อของเด็ก หรือว่าพ่อเด็กจะรับรองลูกหรือไม่ก็ตาม ลูกก็เป็นลูกที่ชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้นเสมอ ดังนั้น ลูกที่เกิดจากการผสมเทียมของหญิงย่อมเป็นลูกที่ชอบด้วยกฎหมาย คุณผู้หญิงสบายใจได้
ปัญหาที่จะเกิดขึ้นคงไม่ใช่ปัญหาด้านกฎหมาย แต่เป็นปัญหาด้านสังคมซะมากกว่าที่คุณผู้หญิงจะต้องเจอ เช่น คำครหาว่าท้องไม่มีพ่อ เด็กไม่มีพ่อจะมีปัญหา บางคนก็ว่าคุณผู้หญิงไม่ได้เอาเชื้อมาจากธนาคารสเปิร์มบ้างล่ะ เหล่านี้คือสิ่งที่จะต้องพบเจอ และต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า มีความอดทนหนักแน่นกับคำพูดเหล่านี้หรือไม่ แต่ถ้าคิดว่าพร้อม แกร่ง สมเป็นหญิงเหล็ก ก็เชิญได้เลยครับ
โกวิท ทาตะรัตน์
อาจจะงุนงงกับหัวข้อเล็กน้อย แต่นั่นตรงความหมายที่สุดกับเนื้อหาที่จะพูดวันนี้ เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า หากวันนึงมีหญิงไทยซักคน ลุกขึ้นมา บอกว่า จะมีลูกแล้ว แต่ไม่อยากมีสามี โดยเธอจะใช้วิธีการฉีดสเปิร์ม เข้าไปในรังไข่ หรือที่เรียกง่ายๆว่า การผสมเทียมนั่นเอง
ประเด็นก็คือ กฎหมายห้ามหรือไม่ที่หญิงจะมีลูกได้โดยไม่ต้องมีสามี นั่นเอง กรณีนี้ต้องไปดูในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดบัญญัติไว้ว่า บุคคลย่อมอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน นอกจากนั้น บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย
การที่หญิงไปซื้อสเปิร์มที่มีคนเอามาขายไว้ ณ ธนาคารสเปิร์ม หรือขอรับบริจาคมา หรือได้มาด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ น่าจะกระทำได้ เพราะไม่มีกฎหมายห้ามไว้ชัดแจ้ง และเป็นเรื่องของการใช้สิทธิเสรีภาพ น่าจะทำได้ ตราบเท่าที่ไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อน หรือไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น
ปัญหาอาจจะเกิดขึ้นได้ว่า เจ้าของสปิร์มมาทวงสิทธิของเค้าคืน เนื่องจากถูกนำสเปิร์มไปด้วยความไม่สมัครใจ เช่น อาจถูกบังคับ หรือถูกหลอกลวงให้มอบสเปิร์มของตนให้บุคคลอื่น กรณีนี้ยังไม่มีตัวอย่าง แต่ถ้ามองว่าสเปิร์มเป็นทรัพย์สิน และเจ้าของไม่ได้มีเจตนาสละทรัพย์สินนั้น ก็ยอมมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ แต่เนื่องจากสเปิร์มได้ถูกเปลี่ยนสภาพไปแล้ว เป็นการพ้นวิสัยที่จะส่งมอบคืนได้ ก็ต้องดูว่า คนที่เอาสเปิร์มดังกล่าวไปใช้นั้นสุจริตหรือไม่ ถ้าหากสุจริตและไม่มีส่วนร่วมทำผิด เจ้าของสเปิร์มก็ต้องไปไล่เบี้ยเอากับคนที่มาหลอกลวงตนต่อไป เพราะกฎหมายคุ้มครองผู้สุจริตเสมอ
ต้องมาดูต่อว่า การกระทำนั้น ผิดศีลธรรมหรือไม่ อันนี้ไม่เกี่ยวกับกฎหมาย บางอย่างผิดศีลธรรมแต่อาจไม่ผิดกฎหมายก็ได้ เช่น การพูดโกหก ถ้าไม่ได้ไปหลอกลวงเอาทรัพย์สินใครจนถึงขั้นฉ้อโกงหรือทำให้ใครเสียหาย ก็ไม่ผิดกฎหมาย กรณีนี้ก็เช่นกัน การให้เด็กเกิดมาโดยไม่มีพ่อนั้น หากได้กระทำโดยมีสำนึกและความรับผิดชอบ และสามารถเลี้ยงดูให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
กฎหมายบังคับว่าเด็กเกิดมาต้องมีพ่อหรือไม่ อันนี้กฎหมายระบุเพียงแต่ว่า เด็กเกิดจากครรภ์ของหญิงใดย่อมเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้นเสมอ ไม่ได้พูดถึงเรื่องพ่อเอาไว้เลย เพราะกฎหมายไม่สนใจว่า ใครจะเป็นพ่อของเด็ก หรือว่าพ่อเด็กจะรับรองลูกหรือไม่ก็ตาม ลูกก็เป็นลูกที่ชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้นเสมอ ดังนั้น ลูกที่เกิดจากการผสมเทียมของหญิงย่อมเป็นลูกที่ชอบด้วยกฎหมาย คุณผู้หญิงสบายใจได้
ปัญหาที่จะเกิดขึ้นคงไม่ใช่ปัญหาด้านกฎหมาย แต่เป็นปัญหาด้านสังคมซะมากกว่าที่คุณผู้หญิงจะต้องเจอ เช่น คำครหาว่าท้องไม่มีพ่อ เด็กไม่มีพ่อจะมีปัญหา บางคนก็ว่าคุณผู้หญิงไม่ได้เอาเชื้อมาจากธนาคารสเปิร์มบ้างล่ะ เหล่านี้คือสิ่งที่จะต้องพบเจอ และต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า มีความอดทนหนักแน่นกับคำพูดเหล่านี้หรือไม่ แต่ถ้าคิดว่าพร้อม แกร่ง สมเป็นหญิงเหล็ก ก็เชิญได้เลยครับ
โกวิท ทาตะรัตน์
แสดงความคิดเห็น
ถ้าจะขอรับบริจาคสเปิร์ม คิดว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหนคะ
ามความคิดเห็นของชาวพันทิปดังนี้.
1.ถ้าจะขอรับบริจาคสเปิร์มจากใครสักคนโดยการตกลงและทำสัญญากันอย่างชัดเจน เรื่องสิทธิในตัวบุตรเป็นไปได้หรือไม่
2.คิดว่าจะมีคนกล้าให้สเปิ์รมไหมในสังคมปัจจุบัน
3.ทายาทที่เกิดขึ้นจะมีผลเป็นบุตรตามกฎหมายของบิดาหรือไม่ 4.คุณคิดว่าคนที่บริจาคจะมีความรู้สึกผูกพันกับเด็กไหมคะ เจ้าของกระทู้เห็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหลายคนสามารถเลี้ยงดูลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เจ้าของกระทู้ก็เชื่อมั่นว่าตัวเองทำได้ค่ะ