คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7

ภาพ - ช่วงกลางวัน อากาศร้อนขึ้น น้ำระเหยจากแผ่นดิน-ทะเลมากขึ้น สะสมเป็นเมฆใหญ่ขึ้น หนักขึ้น
ช่วงเย็น-กลางคืน อากาศเย็นลง เก็บไอน้ำได้น้อยลง เกิดหยดน้ำในเมฆมากขึ้น โอกาสฝนตกมากขึ้น
.....

ภาพ - ความสามารถในการเก็บ(อุ้ม)น้ำของอากาศ
ด้านล่าง = อุณหภูมิ (celsius/C)
ด้านบน = ไอน้ำ(กรัม)/อากาศแห้ง(กิโลกรัม) ที่ ความชื้นสัมพัทธ์ 100%
อากาศร้อนเก็บไอน้ำได้มากกว่าอากาศเย็น ทำให้เกิดการสะสมไอน้ำมากในช่วงกลางวัน
และ เมื่ออากาศเริ่มเย็นลงตอนเย็น หรือกลางคืน... ไอน้ำในอากาศจะถึงจุดอิ่มตัว กลั่นเป็นหยดน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ
จน ก้อนเมฆใหญ่ขึ้น หนักขึ้น และ... ตกลงมาเป็นฝน
.....

ภาพ - ความสามารถในการเก็บ(อุ้ม)น้ำของอากาศ
ด้านล่าง = อุณหภูมิ (celsius/C)
ด้านบน = ไอน้ำ(กิโลกรัม)/อากาศแห้ง(กิโลกรัม) ที่ ความชื้นสัมพัทธ์ 100%
แผ่นดินร้อนขึ้นในช่วงกลางวัน เร็วกว่าน้ำ และ เย็นลงในช่วงเย็น-กลางคืน เร็วกว่าน้ำ
ทำให้ ฝนมักจะตกตอนเย็น-กลางคืน บนบก และ ตกช่วงท้ายของกลางคืน ในน้ำ
.....
- สถิติ "ทั่วโลก" พบ ฝนที่ตกบน "แผ่นดิน" ตกมากช่วงเย็น กลางคืน มากกว่า กลางวัน... และ พายุมักจะเกิดช่วงบ่าย-เย็น
ฝนบนทะเล ตกมากกลางคืน ช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น (predawn)
- ส่วนหนึ่งเกิดจาก ช่วงกลางวันมีการระเหยของน้ำมากกว่ากลางคืน จนเมฆเกิดขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดอิ่มตัว (มวลเมฆใหญ่ขึ้น หนักขึ้น) ในช่วงเย็น
- กลางคืนเย็นกว่ากลางวัน อากาศเย็นเก็บความชื้นได้น้อยกว่าอากาศร้อน และ ใกล้อุณหภูมิจุดน้ำค้าง (dew point) ทำให้ ไอน้ำมีโอกาสเปลี่ยนเป็นหยดน้ำ มากกว่า กลางวัน
ที่มา[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ภาพ - ช่วงกลางวัน อากาศร้อนขึ้น น้ำระเหยจากแผ่นดิน-ทะเลมากขึ้น สะสมเป็นเมฆใหญ่ขึ้น หนักขึ้น
ช่วงเย็น-กลางคืน อากาศเย็นลง เก็บไอน้ำได้น้อยลง เกิดหยดน้ำในเมฆมากขึ้น โอกาสฝนตกมากขึ้น
.....

ภาพ - ความสามารถในการเก็บ(อุ้ม)น้ำของอากาศ
ด้านล่าง = อุณหภูมิ (celsius/C)
ด้านบน = ไอน้ำ(กรัม)/อากาศแห้ง(กิโลกรัม) ที่ ความชื้นสัมพัทธ์ 100%
อากาศร้อนเก็บไอน้ำได้มากกว่าอากาศเย็น ทำให้เกิดการสะสมไอน้ำมากในช่วงกลางวัน
และ เมื่ออากาศเริ่มเย็นลงตอนเย็น หรือกลางคืน... ไอน้ำในอากาศจะถึงจุดอิ่มตัว กลั่นเป็นหยดน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ
จน ก้อนเมฆใหญ่ขึ้น หนักขึ้น และ... ตกลงมาเป็นฝน
.....

ภาพ - ความสามารถในการเก็บ(อุ้ม)น้ำของอากาศ
ด้านล่าง = อุณหภูมิ (celsius/C)
ด้านบน = ไอน้ำ(กิโลกรัม)/อากาศแห้ง(กิโลกรัม) ที่ ความชื้นสัมพัทธ์ 100%
แผ่นดินร้อนขึ้นในช่วงกลางวัน เร็วกว่าน้ำ และ เย็นลงในช่วงเย็น-กลางคืน เร็วกว่าน้ำ
ทำให้ ฝนมักจะตกตอนเย็น-กลางคืน บนบก และ ตกช่วงท้ายของกลางคืน ในน้ำ
.....
- สถิติ "ทั่วโลก" พบ ฝนที่ตกบน "แผ่นดิน" ตกมากช่วงเย็น กลางคืน มากกว่า กลางวัน... และ พายุมักจะเกิดช่วงบ่าย-เย็น
ฝนบนทะเล ตกมากกลางคืน ช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น (predawn)
- ส่วนหนึ่งเกิดจาก ช่วงกลางวันมีการระเหยของน้ำมากกว่ากลางคืน จนเมฆเกิดขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดอิ่มตัว (มวลเมฆใหญ่ขึ้น หนักขึ้น) ในช่วงเย็น
- กลางคืนเย็นกว่ากลางวัน อากาศเย็นเก็บความชื้นได้น้อยกว่าอากาศร้อน และ ใกล้อุณหภูมิจุดน้ำค้าง (dew point) ทำให้ ไอน้ำมีโอกาสเปลี่ยนเป็นหยดน้ำ มากกว่า กลางวัน
ที่มา[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
ทำไมฝนขอบตกตอนเย็นๆ หริอตอนกลางคืนมากกว่าคอนกลางวัน