นี่คือสิ่งที่ผมประสพมากับตัว เกิดขึ้นยังไงก็เขียนให้อ่านตามนั้น กระทู้นี้ไม่ได้เขียนด้วยความไม่พอใจ แต่เขียนเพื่อให้ข้าราชการบางท่านและผู้ที่มีความรับผิดชอบบางคนนั้นได้ตระหนักถึงความรู้สึกของประชาชนอย่างผมที่เข้าไปใช้บริการมา ผู้ที่เสียภาษี ภาษีที่เป็นเงินเดือนและสวัสดิการของพวกท่านนั่นแหละ
1 เมื่อวานไปสอบใบขับขี่มาที่ขนส่งจตุจักร ไปตั้งแต่ 7 โมงเช้าเลย ผมจองเพื่อทำการอบรมผ่านโทรศัพท์ไว้แล้วเลยสบายหน่อย
เมื่อประตูประชาสัมพันธ์ชั้นสองเปิด คนก็เฮโลกันเข้าไปเพื่อที่จะไปยื่นเอกสารขอบัตรคิว
จนท ที่เคานท์เตอร์ผมหน้าบูดบึ้งสุดๆ ตอนยื่นเอกสารก็คุยกับผมด้วยน้ำเสียงและหน้าตาเหมือนโกรธผมมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ (ทั้งๆที่เรานั้นไม่เคยรู้จักกันมาก่อน)
2 เมื่อเข้ามาด้านในมีคุณน้าผู้หญิงมาประชาสัมพันธ์ให้ฟังว่าบัตรสีเหลือง/สีฟ้าต้องไปยืนตรงไหน (น้าคนนี้พูดจาน่ารักมี คะ/ค่ะ ทุกประโยค)
ผมเห็นมี จนท สามคนกำลังนั้งเมาท์กันเรื่องดารา ผมจึงเดินเข้าไปเพื่อจะถามว่าโรงอาหารอยู่ตรงไหน คนที่กำลังหวีผมอยู่ตัดบทพูดว่า "ไม่เห็นหรอว่ากำลังเสริมสวยกันอยู่" ผมก็ยิ้มๆ อีกคนก็พูดขึ้นมาต่อว่า "ไปๆ ไปตรงนู้น" .... แล้วสามคนนั้นก็เมาท์กันเรื่องละครกันต่อ เงิบเลยผม ฮ่าๆ
3 ขึ้นไปชั้นสามเพื่อทำการอบรม ห้องน้ำชายอยู่ในสภาพบุโรทัง โถยืนปัสสาวะใช้งานไม่ได้สักตัว มีถุงดำครอบเสียครบเลย เป็นผลให้ห้องถ่ายหนักนั้นสกปรกมาก และพนังห้องก็เต็มไปด้วยงานศิลปะแนวอีโรติก คำหยาบคาย และเบอร์โทรของเจ๊ดาวสำหรับคนที่รู้สึกเปลี่ยวระหว่างอบรม
4 ผู้ทำการบรรยายทั้งสองรอบนั้นโอเค ทำหน้าที่ได้ตามระบบ
5 จนท ในห้องสอบข้อเขียนทำให้ผมนึกถึงครูภาษาไทยสมัย ม ต้นมาก ทั้งหวี่ยงวีน ตะคอก พูดจาราวกับเราเป็นบ่าว เออ ... เค้าคงคิดว่าตัวเองนั้นเป็นอำมาตย์ส่วนคนเสียภาษีอย่างผมนั้นเป็นไพร่มั้ง เพราะแค่จะเอ่ยปากยังไม่ทันถามไม่ทันจะพูดอะไร พี่แกตัดบทเสียงดังด้วยหน้าตาเหมือนผมไปโกงแชร์แกมาว่า "รู้แล้ว รู้แล้ว!!" "อะไร อะไร!?" "ไปเลย ไป"
สรุป: ผมไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจ ผมขำและรู้สึกว่ามันก็ได้เท่านี้ตามสภาพตามความเป็นจริง งานบริการอาจจะไม่ใช่ first priority สำหรับราชการเสมอไป (เหมือนเวลาไปแจ้งความที่โรงพักนั่นแหละ อิอิ) พวกเค้าคงต้องเจอกับประชาชนหลากหลายรูปแบบ มากหน้าหลายตาที่เต็มไปด้วยคำถามเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกวันเป็นเวลาหลายปี เค้าคงไม่ได้ enjoy กับงานที่ตัวเองต้องทำเท่าใดนัก และหากเค้ามี vision หรือ thinking process มากกว่านี้ เค้าก็คงจะไม่อยู่ตรงนี้
อยากให้ปฏิรูปช้าราชการไปด้วยพร้อมๆกับระบบการเมือง ปรับปรุงเรื่องของเงินเดือนและสถานที่ทำงานให้ดีขึ้น ให้เค้ารู้สึก enjoy กับงานที่ทำ ข้าราชการรุ่นใหม่ควรจะมีกระบวนการความคิดล้ำๆไม่แพ้พวกเอกชนได้แล้ว เพราะรุ่นเก่าๆที่ค้างตกตะกอนบางท่านนั้นมันคงเปลี่ยนไม่ได้แล้ว
เรื่องจริงที่ผมประสพพบเจอเมื่อไปสอบใบขับขี่มาที่ขนส่งจตุจักร: อยากให้มีการปฏิรูปราชการด้วยไม่ใช่แต่นักการเมืองก๊าบ
1 เมื่อวานไปสอบใบขับขี่มาที่ขนส่งจตุจักร ไปตั้งแต่ 7 โมงเช้าเลย ผมจองเพื่อทำการอบรมผ่านโทรศัพท์ไว้แล้วเลยสบายหน่อย
เมื่อประตูประชาสัมพันธ์ชั้นสองเปิด คนก็เฮโลกันเข้าไปเพื่อที่จะไปยื่นเอกสารขอบัตรคิว
จนท ที่เคานท์เตอร์ผมหน้าบูดบึ้งสุดๆ ตอนยื่นเอกสารก็คุยกับผมด้วยน้ำเสียงและหน้าตาเหมือนโกรธผมมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ (ทั้งๆที่เรานั้นไม่เคยรู้จักกันมาก่อน)
2 เมื่อเข้ามาด้านในมีคุณน้าผู้หญิงมาประชาสัมพันธ์ให้ฟังว่าบัตรสีเหลือง/สีฟ้าต้องไปยืนตรงไหน (น้าคนนี้พูดจาน่ารักมี คะ/ค่ะ ทุกประโยค)
ผมเห็นมี จนท สามคนกำลังนั้งเมาท์กันเรื่องดารา ผมจึงเดินเข้าไปเพื่อจะถามว่าโรงอาหารอยู่ตรงไหน คนที่กำลังหวีผมอยู่ตัดบทพูดว่า "ไม่เห็นหรอว่ากำลังเสริมสวยกันอยู่" ผมก็ยิ้มๆ อีกคนก็พูดขึ้นมาต่อว่า "ไปๆ ไปตรงนู้น" .... แล้วสามคนนั้นก็เมาท์กันเรื่องละครกันต่อ เงิบเลยผม ฮ่าๆ
3 ขึ้นไปชั้นสามเพื่อทำการอบรม ห้องน้ำชายอยู่ในสภาพบุโรทัง โถยืนปัสสาวะใช้งานไม่ได้สักตัว มีถุงดำครอบเสียครบเลย เป็นผลให้ห้องถ่ายหนักนั้นสกปรกมาก และพนังห้องก็เต็มไปด้วยงานศิลปะแนวอีโรติก คำหยาบคาย และเบอร์โทรของเจ๊ดาวสำหรับคนที่รู้สึกเปลี่ยวระหว่างอบรม
4 ผู้ทำการบรรยายทั้งสองรอบนั้นโอเค ทำหน้าที่ได้ตามระบบ
5 จนท ในห้องสอบข้อเขียนทำให้ผมนึกถึงครูภาษาไทยสมัย ม ต้นมาก ทั้งหวี่ยงวีน ตะคอก พูดจาราวกับเราเป็นบ่าว เออ ... เค้าคงคิดว่าตัวเองนั้นเป็นอำมาตย์ส่วนคนเสียภาษีอย่างผมนั้นเป็นไพร่มั้ง เพราะแค่จะเอ่ยปากยังไม่ทันถามไม่ทันจะพูดอะไร พี่แกตัดบทเสียงดังด้วยหน้าตาเหมือนผมไปโกงแชร์แกมาว่า "รู้แล้ว รู้แล้ว!!" "อะไร อะไร!?" "ไปเลย ไป"
สรุป: ผมไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจ ผมขำและรู้สึกว่ามันก็ได้เท่านี้ตามสภาพตามความเป็นจริง งานบริการอาจจะไม่ใช่ first priority สำหรับราชการเสมอไป (เหมือนเวลาไปแจ้งความที่โรงพักนั่นแหละ อิอิ) พวกเค้าคงต้องเจอกับประชาชนหลากหลายรูปแบบ มากหน้าหลายตาที่เต็มไปด้วยคำถามเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกวันเป็นเวลาหลายปี เค้าคงไม่ได้ enjoy กับงานที่ตัวเองต้องทำเท่าใดนัก และหากเค้ามี vision หรือ thinking process มากกว่านี้ เค้าก็คงจะไม่อยู่ตรงนี้
อยากให้ปฏิรูปช้าราชการไปด้วยพร้อมๆกับระบบการเมือง ปรับปรุงเรื่องของเงินเดือนและสถานที่ทำงานให้ดีขึ้น ให้เค้ารู้สึก enjoy กับงานที่ทำ ข้าราชการรุ่นใหม่ควรจะมีกระบวนการความคิดล้ำๆไม่แพ้พวกเอกชนได้แล้ว เพราะรุ่นเก่าๆที่ค้างตกตะกอนบางท่านนั้นมันคงเปลี่ยนไม่ได้แล้ว