สงครามเมื่อปรากฏผลแพ้ ชนะ สิ่งที่ตามมาคือ การกวาดล้างเครือข่ายและมวลชนของผู้แพ้
เป็นเรื่องปกติของผู้ชนะสงคราม มีแต่มหาบุรุษที่มีสายตากว้างไกลเท่านั้น ที่ทำในสิ่งตรงกันข้าม
ครส โดยการนำของท่านประยุทธ์ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ของประเทศ ได้อย่างราบรื่น ก่อนที่เสื้อแดง
กับ กปปส จะก่อสงครามกลางเมืองขึ้น หลังจากนั้น ก็ได้เรียกตัว แกนนำทั้งสองฝ่ายเข้ามารายงานตัว ซึ่งส่วนใหญ่
ก็ให้ความร่วมมือดี แต่มีอยู่ 1 คน ที่ถือเป็น ไฮไลท์ ได้แก่ จาตุรนต์ ฉายแสง
จาตุรนต์ เล่นการเมืองตั้งแต่หนุ่ม ผ่านการเป็น ส.ส และ รมต มาหลายยุคหลายสมัย และยังเคย รักษาการ หัวหน้า
พรรค ไทยรักไทย ต่อจาก พตท ดร ทักษิณ ชินวัตร มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มั่นคง ไม่โอนไหวไปตามสถานการณ์
จัดได้ว่าเป็นนักการเมืองน้ำดีในจำนวนไม่กี่คนของแวดวงการเมืองไทย
ถ้าพูดถึงความมีหลักการ อุดมการณ์ทางการเมือง ความรู้ความสามารถ และความนิยมของสาธารณะชนแล้ว
จาตุรนต์ ฉายแสง คนนี้ไม่มีทางเป็นรอง แหลมาร์ค แน่นอน ถ้ามองด้วยความยุติธรรมแล้ว จาตุรนต์ เหนือกว่ามากมาย
ท่านประยุทธ์ครับ การที่ จาตุรนต์ ไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่งของ คสช นั้น อาจมองได้ว่า เป็นความผิด แต่ถ้ามองอีกด้าน
ขณะที่ท่านเรียกให้ จาตุรนต์ ไปรายงานตัวนั้น สถานะของท่านประยุทธ์ก็ยังไม่ชัดแจ้ง ต่อมาเมื่อมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้า
ลงมาแล้ว ทุกอย่างก็ชัดเจน ผู้ใดก็ไม่อาจขัดขืนได้ จาตุรนต์ ก็รีบมอบตัวทันที แสดงให้เห็นถึงแนวคิดถึงความมีหลักการของจาตุรนต์
ในสมัย สามก๊ก โจโฉ รบกับ อ้วนเสี้ยว (แซ่ อ้วน นี่เป็นต้นตระกูล แหลมาร์ค) อ้วนเสี้ยวมีลูกน้องคนหนึ่งชื่อ ตันหลิม ๆมีจุดเด่นคือ
เขียนด่าคนได้แสบมาก ขนาดโจโฉซึ่งเป็นโรคปวดศรีษะเรื้อรัง (สมัยนี้น่าจะเท่ากับไมเกรน) โดนตันหลิมเขียนจดหมายด่าไปถึง
โค ต รเหง้าทั้งตระกูล ไปจนถึง ลูกเมีย ทุกถ้อยคำที่เป็นคำหยาบโดนตันหลิมขุดมาใช้หมด ด่าจนถึงขนาด โจโฉ หายจากไมเกรน
ต่อมาเมื่อโจโฉ รบชนะ ตันหลิม โดนจับมายืนต่อหน้าโจโฉ ทุกคนคิดว่า ตันหลิมต้องตายแน่ แต่โจโฉ ทำในสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถ
ทำได้ คือ ไม่เอาผิด ตันหลิม ซึ่งต่อมา โจโฉ ก็เป็นหนึ่งในมหาบุรุษในยุคนั้น
สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ แม้ภายนอกอาจดูสงบ แต่ภายในแล้วยังคลุกกรุ่นไปด้วยความแค้น ความน้อยใจในชะตา
ของคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ ถ้า ท่านประยุทธ์ ยอมแสดงน้ำใจของมหาบุรุษ ที่แสดงให้เห็นถึงความยุติธรรม
ความเป็นผู้สมานฉันท์ ความแตกแยกของคนในชาติก็จะได้รับการบรรเทาลงอย่างรวดเร็ว
ท่านประยุทธ์ ครับ ถ้าท่านเลือกที่จะปล่อย จาตุรนต์ ซึ่งพื้นฐานไม่ใช่คนที่ชอบใช้ความรุนแรง เพียง 1 คน แต่สิ่งที่
ได้รับ ท่าน และ คสช จะได้รับการยอมรับจากคนที่วางตัวเป็นกลาง และ คนเสื้อแดง อีกจำนวนมาก การลงทุนครั้งนี้
ฝ่ายท่านมีแต่ได้กับได้ ไม่มีผลเสียเลย แต่ถ้าท่านเลือกที่จะลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแล้ว จะมีคนสะใจก็เป็น
เพียงส่วนน้อย แต่แรงต้านก็จะก่อตัวขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งเท่ากับได้ไม่คุ้มเสีย
ท่านประยุทธ์ครับ ความรักชาตินั้นมีอยู่ในตัวคนไทยทุกคน แต่การแสดงออกบางครั้งก็ไม่เหมือนกัน ท่านและคณะก็
มีความรักชาติ ปรารถนาอยากให้บ้านเมืองสงบโดยเร็ว เพราะฉะนั้นถ้าครั้งนี้ท่านปล่อยตัว จาตุรนต์
ก็เหมือนน้ำที่มาดับกองไฟที่กำลังจะเผาประเทศไทย
ป.ล ในงานแต่งงานของคุณ จาตุรนต์ ผู้เป็นประธานในพิธีคือ พล อ เปรม ติณสูลานนท์
ขอท่านประยุทธ์........แสดงน้ำใจมหาบุรุษ........ปล่อยตัวคุณ จาตุรนต์
เป็นเรื่องปกติของผู้ชนะสงคราม มีแต่มหาบุรุษที่มีสายตากว้างไกลเท่านั้น ที่ทำในสิ่งตรงกันข้าม
ครส โดยการนำของท่านประยุทธ์ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ของประเทศ ได้อย่างราบรื่น ก่อนที่เสื้อแดง
กับ กปปส จะก่อสงครามกลางเมืองขึ้น หลังจากนั้น ก็ได้เรียกตัว แกนนำทั้งสองฝ่ายเข้ามารายงานตัว ซึ่งส่วนใหญ่
ก็ให้ความร่วมมือดี แต่มีอยู่ 1 คน ที่ถือเป็น ไฮไลท์ ได้แก่ จาตุรนต์ ฉายแสง
จาตุรนต์ เล่นการเมืองตั้งแต่หนุ่ม ผ่านการเป็น ส.ส และ รมต มาหลายยุคหลายสมัย และยังเคย รักษาการ หัวหน้า
พรรค ไทยรักไทย ต่อจาก พตท ดร ทักษิณ ชินวัตร มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มั่นคง ไม่โอนไหวไปตามสถานการณ์
จัดได้ว่าเป็นนักการเมืองน้ำดีในจำนวนไม่กี่คนของแวดวงการเมืองไทย
ถ้าพูดถึงความมีหลักการ อุดมการณ์ทางการเมือง ความรู้ความสามารถ และความนิยมของสาธารณะชนแล้ว
จาตุรนต์ ฉายแสง คนนี้ไม่มีทางเป็นรอง แหลมาร์ค แน่นอน ถ้ามองด้วยความยุติธรรมแล้ว จาตุรนต์ เหนือกว่ามากมาย
ท่านประยุทธ์ครับ การที่ จาตุรนต์ ไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่งของ คสช นั้น อาจมองได้ว่า เป็นความผิด แต่ถ้ามองอีกด้าน
ขณะที่ท่านเรียกให้ จาตุรนต์ ไปรายงานตัวนั้น สถานะของท่านประยุทธ์ก็ยังไม่ชัดแจ้ง ต่อมาเมื่อมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้า
ลงมาแล้ว ทุกอย่างก็ชัดเจน ผู้ใดก็ไม่อาจขัดขืนได้ จาตุรนต์ ก็รีบมอบตัวทันที แสดงให้เห็นถึงแนวคิดถึงความมีหลักการของจาตุรนต์
ในสมัย สามก๊ก โจโฉ รบกับ อ้วนเสี้ยว (แซ่ อ้วน นี่เป็นต้นตระกูล แหลมาร์ค) อ้วนเสี้ยวมีลูกน้องคนหนึ่งชื่อ ตันหลิม ๆมีจุดเด่นคือ
เขียนด่าคนได้แสบมาก ขนาดโจโฉซึ่งเป็นโรคปวดศรีษะเรื้อรัง (สมัยนี้น่าจะเท่ากับไมเกรน) โดนตันหลิมเขียนจดหมายด่าไปถึง
โค ต รเหง้าทั้งตระกูล ไปจนถึง ลูกเมีย ทุกถ้อยคำที่เป็นคำหยาบโดนตันหลิมขุดมาใช้หมด ด่าจนถึงขนาด โจโฉ หายจากไมเกรน
ต่อมาเมื่อโจโฉ รบชนะ ตันหลิม โดนจับมายืนต่อหน้าโจโฉ ทุกคนคิดว่า ตันหลิมต้องตายแน่ แต่โจโฉ ทำในสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถ
ทำได้ คือ ไม่เอาผิด ตันหลิม ซึ่งต่อมา โจโฉ ก็เป็นหนึ่งในมหาบุรุษในยุคนั้น
สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ แม้ภายนอกอาจดูสงบ แต่ภายในแล้วยังคลุกกรุ่นไปด้วยความแค้น ความน้อยใจในชะตา
ของคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ ถ้า ท่านประยุทธ์ ยอมแสดงน้ำใจของมหาบุรุษ ที่แสดงให้เห็นถึงความยุติธรรม
ความเป็นผู้สมานฉันท์ ความแตกแยกของคนในชาติก็จะได้รับการบรรเทาลงอย่างรวดเร็ว
ท่านประยุทธ์ ครับ ถ้าท่านเลือกที่จะปล่อย จาตุรนต์ ซึ่งพื้นฐานไม่ใช่คนที่ชอบใช้ความรุนแรง เพียง 1 คน แต่สิ่งที่
ได้รับ ท่าน และ คสช จะได้รับการยอมรับจากคนที่วางตัวเป็นกลาง และ คนเสื้อแดง อีกจำนวนมาก การลงทุนครั้งนี้
ฝ่ายท่านมีแต่ได้กับได้ ไม่มีผลเสียเลย แต่ถ้าท่านเลือกที่จะลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแล้ว จะมีคนสะใจก็เป็น
เพียงส่วนน้อย แต่แรงต้านก็จะก่อตัวขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งเท่ากับได้ไม่คุ้มเสีย
ท่านประยุทธ์ครับ ความรักชาตินั้นมีอยู่ในตัวคนไทยทุกคน แต่การแสดงออกบางครั้งก็ไม่เหมือนกัน ท่านและคณะก็
มีความรักชาติ ปรารถนาอยากให้บ้านเมืองสงบโดยเร็ว เพราะฉะนั้นถ้าครั้งนี้ท่านปล่อยตัว จาตุรนต์
ก็เหมือนน้ำที่มาดับกองไฟที่กำลังจะเผาประเทศไทย
ป.ล ในงานแต่งงานของคุณ จาตุรนต์ ผู้เป็นประธานในพิธีคือ พล อ เปรม ติณสูลานนท์