https://www.thairath.co.th/content/425649
พันเอกนที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เคยแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆของโลก ที่ออกอากาศทีวีดิจิตอลด้วยระบบ DVB-T2 ฟังดูเหมือนประเทศไทยจะทันสมัย ที่นำเทคโนโลยีทีวีดิจิตอลดังกล่าวมาใช้
แต่ประเด็นปัญหาอยู่ที่ว่า...พื้นฐานการตัดสินใจที่นำทีวีดิจิตอลมาออกอากาศด้วยระบบ DVB-T2 เป็นประเทศแรกๆของโลกนั้น เป็นการตัดสินใจที่เต็มไปด้วยการรอบรู้ในสถานการณ์จริงบวกกับวิสัยทัศน์ที่มีอยู่หรือไม่
ชวลิต รัศมีนิล หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญและติดตามเทคโนโลยีดาวเทียม บอกว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เปลี่ยนการรับชมทีวีจากแบบเสาอากาศ ไปเป็นจานรับดาวเทียมกันเกือบหมดแล้ว
ฉะนั้นเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากที่ กสทช.ออกแบบทีวีดิจิตอล แต่ให้ใช้ระบบ DVB-T2 คือให้รับด้วยเสาอากาศ...ส่งสัญญาณภาคพื้นดินเป็นตัวหลัก และให้ใช้การส่งสัญญาณผ่านจานดาวเทียมเป็นช่องทางเสริม
ชวลิต บอกว่า ข้อมูลที่ปรากฏในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับทีวีดิจิตอล ต่างยืนยันว่า ภายในปี พ.ศ.2558 ทีวีดิจิตอลสามารถออกอากาศได้ 38 จังหวัด และยังไม่มีอะไรยืนยันได้ว่า ในอนาคตอันใกล้ข้างหน้า 3 ปี 5 ปี ทีวีดิจิตอลจะออกอากาศครอบคลุมทั้งประเทศ 76 จังหวัดได้จริงๆ
ประเด็นการขยายสถานีทวนสัญญาณ กสทช.กำหนดให้ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอล ไม่ต้องมีสถานีส่งสัญญาณของตัวเอง แต่ผู้ได้รับใบอนุญาต สามารถเลือกผู้ให้บริการโครงข่ายในการส่งสัญญาณทีวีดิจิตอล Multiplex โดยที่ผู้รับใบอนุญาตสามารถเลือกผู้ให้บริการโครงข่ายในแบบอิสระ ใครจะ เลือกใช้โครงข่ายไหนก็ได้
ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการโครงข่ายส่งสัญญาณที่ กสทช. อนุญาตทั้งหมด 4 โครงข่าย คือ กองทัพบก บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กรมประชาสัมพันธ์ และองค์การแพร่ภาพและกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) การขยายสถานีทวนสัญญาณให้ทีวีดิจิตอลครอบคลุมทั้งประเทศ คงต้องลุ้นกันแบบตัวโก่ง เสมือนฝากผีฝากไข้ไว้กับ 4 ผู้ให้บริการโครงข่ายนี้ว่าจะขยายสถานีทวนสัญญาณได้รวดเร็วตามแผนของทาง กสทช.ที่กำหนดไว้หรือไม่
ความจริงที่ต้องยอมรับว่า เทคโนโลยี DVB-T2 ที่ กสทช.ออกแบบมาเป็นเทคโนโลยีทันสมัยที่สุด แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทางของการส่งสัญญาณ ที่ไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ไกล จึงทำให้เกิดคำถามว่า แล้วประชาชนของไทยที่อยู่ตามเกาะ เช่น เกาะหลีเป๊ะ เกาะช้าง หรือตามหุบเขาในจังหวัดทางภาคเหนือ อีสานและใต้
ถามว่า คนพวกนี้มีโอกาสที่จะเข้าถึงทีวีดิจิตอลในแบบภาคพื้นดิน ดูทีวีดิจิตอลในแบบ HD จริงๆหรือไม่? ชวลิต ตอบว่า เป็นไปไม่ได้ มีเพียงวิธีเดียวที่ทำให้คนเหล่านั้นได้รับชมรายการทีวีดิจิตอลในแบบที่เป็นดิจิตอลจริงๆก็คือ ต้องรับจากจานดาวเทียมเท่านั้น
ปัจจุบันมีการส่งสัญญาณทีวีดิจิตอลผ่านดาวเทียมไทยคม อันเนื่องมาจากภาคบังคับของทาง กสทช. ซึ่งทางดาวเทียมไทยคมได้ส่งทีวีดิจิตอลให้จริง แต่ได้มีการจำกัดคุณภาพช่องสัญญาณ มีการบีบคุณภาพสัญญาณของทีวีดิจิตอลให้ลดลง ช่องที่เป็น HD ก็ไม่ส่งแบบ HD ช่องที่เป็นภาพแบบ SD ก็เอาไปไว้ในความถี่ที่สัญญาณอ่อน เนื่องมาจากเหตุผลทางด้านธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี DVB-T2 เป็นเทคโนโลยีที่ใหม่ของทีวีดิจิตอล ที่ กสทช.เลือกนำมาใช้ อีกมุมหนึ่งก็มีเทคโนโลยีใหม่ชื่อว่า DVB-S2 ออกมาคู่กัน สังเกตว่าชื่อจะแตกต่างกันระหว่าง ตัว T และ ตัว S เท่านั้น ซึ่ง T ย่อมาจาก Terrestrial แปลว่า การส่งในภาคพื้นดิน ส่วน S ย่อมาจาก Satellite แปลว่า การส่งแบบดาวเทียม
เทคโนโลยี DVB-S2 สามารถส่งภาพและสัญญาณแบบดิจิตอลสมบูรณ์ มีช่องสัญญาณกว้างรวมไปถึงอัตราการทนทานสัญญาณรบกวนมากกว่าระบบ DVB-S ที่ดาวเทียมไทยคมกำลังใช้กันอยู่
ปัจจุบันดาวเทียมของไทยยังติดระบบสัมปทานอยู่ไม่กี่ดวง ส่วนดวงใหม่ๆก็เป็นในรูปแบบของการขอใบอนุญาต การขออนุญาตยิงดาวเทียมนั้น กสทช.เป็นผู้ออกใบอนุญาต ส่วนกระทรวงไอซีทีเป็นผู้ให้ใช้
ประเทศไทยมีตำแหน่ง หรือ slot ของดาวเทียมที่ได้รับการจัดสรรโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ITU ถือครองในนามกระทรวง ICT ทั้งสิ้น 3 ตำแหน่งคือ 50.5 E 78.5 E และ 120 E ทุกตำแหน่งมีดาวเทียมของไทยเข้าไปประจำการอยู่ทั้งสิ้น อาทิ 78.5 ไทยคม 6 และ 5 อนาคตจะเป็นไทยคม 8 ส่วน 50.5 Thaicom 3 เคยไปอยู่ตำแหน่งนี้ และ 120 E ดาวเทียม IPSTAR อนาคตจะเป็น Thaicom 7
แต่ไม่ได้หมายความว่า ตำแหน่งที่มีดาวเทียมประจำการอยู่แล้ว จะไม่สามารถยิงดาวเทียมขึ้นไปได้อีก ในทางเทคนิคสามารถทำได้ หรือสมมติว่าตำแหน่งดาวเทียมของประเทศไทยจะเต็มหมด เราก็สามารถไปเช่าตำแหน่งของประเทศที่มีสิทธิ์อยู่ หรือทำสัมปทานในประเทศนั้นได้ เช่น ประเทศตองกา เป็นต้น
ในความเป็นจริงดาวเทียมที่คนไทยใช้รับชมทีวีดาวเทียมอยู่ในขณะนี้ คือดาวเทียมไทยคม 5 และ 6 อยู่ที่ 78.5 องศา สัญญาณครอบคลุมทั้งประเทศไทย รวมไปถึงเพื่อนบ้าน ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย บางส่วนของอินเดีย และจีน จานดาวเทียมทั้งในระบบ KU BAND ที่เรียกกันว่าจานสี ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง แดง น้ำเงิน และระบบ C BAND หรือที่เรียกกันว่าจานดำ ทุกจานดาวเทียมต่างหันหน้าไปรับสัญญาณจากดาวเทียมดวงนี้หมด
หากต้องการพัฒนาทีวีดิจิตอลในแบบดาวเทียมเทคโนโลยีใหม่ ลองมาคำนวณเม็ดเงินที่มาลงทุน ในการยิงดาวเทียมในแบบของ DVB-S2 เฉลี่ยอยู่ที่ดวงละ 4,000-20,000 ล้านบาท บวกกับสถานีและอุปกรณ์ในการควบคุมดาวเทียมจากภาคพื้นดิน อีกไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และค่าส่งดาวเทียมขึ้นวงโคจร เริ่มตั้งแต่ 2,000 ล้านบาท ขนส่งแพงที่สุดด้วยกระสวยอวกาศ 17,500 ล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จแบบแพงๆไม่เกิน 30,000 ล้านบาท
ถ้านำเม็ดเงินการลงทุนยิงดาวเทียมจำนวน 30,000 ล้านบาท มาเปรียบเทียบกับเม็ดเงินในการประมูลคลื่นความถี่ทีวีดิจิตอลที่ กสทช.ได้เงินถึง 50,000 ล้านแล้ว
ชวลิต บอกอีกว่า น่าเสียดายโอกาสในการจัดตั้ง หรือวิธีการออกแบบของทีวีดิจิตอลในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ในวงการดาวเทียมทราบดีว่า หากต้องการออกแบบและสร้างดาวเทียมดวงใหม่ จนไปถึงการยิงขึ้นวงโคจร ต้องใช้เวลามาก แต่ถึงอย่างไร เวลาที่ใช้รอคอยดาวเทียมดวงใหม่ เมื่อเทียบกับเวลาในการรอขยายสถานีทวนสัญญาณของทีวีดิจิตอลในแบบภาคพื้นดินเพื่อให้ครอบคลุมทั้งประเทศนั้น
ชวลิตตอบว่า ยิงดาวเทียมดวงใหม่เร็วกว่า ประการสำคัญ เมื่อดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรแล้ว สัญญาณจะครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ การทำงานจะเต็มระบบในทันที
ในทางเทคนิค การยิงดาวเทียมไปเพิ่มในตำแหน่งที่มีอยู่ก่อนแล้ว เรียกว่า Colocation แปลเป็นไทยง่ายๆ ก็คือ ดาวเทียมสองดวงโคจรอยู่ในองศาเดียวกัน หากดาวเทียมดวงใหม่ที่ยิงขึ้นไปอยู่ในองศาเดิม ผู้รับชมที่มีจานดาวเทียมอยู่แล้ว ก็จะสามารถรับสัญญาณดาวเทียมดวงใหม่ได้ทันที
หรืออาจจะมีการเพี้ยนขององศา ก็อาจจะปรับหน้าจาน หรือใช้วิธีเพิ่มหัวรับสัญญาณของดาวเทียม หรือที่เรียกว่าติดตั้งจานดาวเทียมแบบหลายหัวรับ DUO LNB ซึ่งประเทศไทยก็นิยมติดตั้งจานดาวเทียมในลักษณะนี้อยู่แล้ว ชวลิตบอกว่า หนทางที่เปลี่ยนผ่าน และพัฒนาทีวีดิจิตอลได้ดีที่สุดก็คือ นำเทคโนโลยีดาวเทียม DVB-S2 มาเป็นช่องทางหลักในการส่งสัญญาณให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ส่วนการส่งในแบบภาคพื้นดิน DVB-T2 ที่กำลังใช้อยู่นั้น นำมาเป็นตัวชดเชย หรือเสริมช่วยในการส่งสัญญาณของภาคพื้นดิน
ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางการพัฒนาทีวีดิจิตอลอย่างแท้จริง ประการสำคัญทาง กสทช.ไม่ต้องมานั่งคิดเรื่องที่จะแจกคูปองให้วุ่นวาย และไม่ต้องมานั่งฟังชาวบ้านเขาติฉินนินทาว่าล็อกสเปก เอื้อประโยชน์ให้คนโน้นคนนี้ ให้ปวดหัวและหงุดหงิดหัวใจ...
กสทช.แกล้งโง่? แทงกั๊กทีวีดิจิตอล - ไทยรัฐขอกัดอีกรอบ
พันเอกนที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เคยแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆของโลก ที่ออกอากาศทีวีดิจิตอลด้วยระบบ DVB-T2 ฟังดูเหมือนประเทศไทยจะทันสมัย ที่นำเทคโนโลยีทีวีดิจิตอลดังกล่าวมาใช้
แต่ประเด็นปัญหาอยู่ที่ว่า...พื้นฐานการตัดสินใจที่นำทีวีดิจิตอลมาออกอากาศด้วยระบบ DVB-T2 เป็นประเทศแรกๆของโลกนั้น เป็นการตัดสินใจที่เต็มไปด้วยการรอบรู้ในสถานการณ์จริงบวกกับวิสัยทัศน์ที่มีอยู่หรือไม่
ชวลิต รัศมีนิล หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญและติดตามเทคโนโลยีดาวเทียม บอกว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เปลี่ยนการรับชมทีวีจากแบบเสาอากาศ ไปเป็นจานรับดาวเทียมกันเกือบหมดแล้ว
ฉะนั้นเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากที่ กสทช.ออกแบบทีวีดิจิตอล แต่ให้ใช้ระบบ DVB-T2 คือให้รับด้วยเสาอากาศ...ส่งสัญญาณภาคพื้นดินเป็นตัวหลัก และให้ใช้การส่งสัญญาณผ่านจานดาวเทียมเป็นช่องทางเสริม
ชวลิต บอกว่า ข้อมูลที่ปรากฏในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับทีวีดิจิตอล ต่างยืนยันว่า ภายในปี พ.ศ.2558 ทีวีดิจิตอลสามารถออกอากาศได้ 38 จังหวัด และยังไม่มีอะไรยืนยันได้ว่า ในอนาคตอันใกล้ข้างหน้า 3 ปี 5 ปี ทีวีดิจิตอลจะออกอากาศครอบคลุมทั้งประเทศ 76 จังหวัดได้จริงๆ
ประเด็นการขยายสถานีทวนสัญญาณ กสทช.กำหนดให้ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอล ไม่ต้องมีสถานีส่งสัญญาณของตัวเอง แต่ผู้ได้รับใบอนุญาต สามารถเลือกผู้ให้บริการโครงข่ายในการส่งสัญญาณทีวีดิจิตอล Multiplex โดยที่ผู้รับใบอนุญาตสามารถเลือกผู้ให้บริการโครงข่ายในแบบอิสระ ใครจะ เลือกใช้โครงข่ายไหนก็ได้
ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการโครงข่ายส่งสัญญาณที่ กสทช. อนุญาตทั้งหมด 4 โครงข่าย คือ กองทัพบก บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กรมประชาสัมพันธ์ และองค์การแพร่ภาพและกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) การขยายสถานีทวนสัญญาณให้ทีวีดิจิตอลครอบคลุมทั้งประเทศ คงต้องลุ้นกันแบบตัวโก่ง เสมือนฝากผีฝากไข้ไว้กับ 4 ผู้ให้บริการโครงข่ายนี้ว่าจะขยายสถานีทวนสัญญาณได้รวดเร็วตามแผนของทาง กสทช.ที่กำหนดไว้หรือไม่
ความจริงที่ต้องยอมรับว่า เทคโนโลยี DVB-T2 ที่ กสทช.ออกแบบมาเป็นเทคโนโลยีทันสมัยที่สุด แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทางของการส่งสัญญาณ ที่ไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ไกล จึงทำให้เกิดคำถามว่า แล้วประชาชนของไทยที่อยู่ตามเกาะ เช่น เกาะหลีเป๊ะ เกาะช้าง หรือตามหุบเขาในจังหวัดทางภาคเหนือ อีสานและใต้
ถามว่า คนพวกนี้มีโอกาสที่จะเข้าถึงทีวีดิจิตอลในแบบภาคพื้นดิน ดูทีวีดิจิตอลในแบบ HD จริงๆหรือไม่? ชวลิต ตอบว่า เป็นไปไม่ได้ มีเพียงวิธีเดียวที่ทำให้คนเหล่านั้นได้รับชมรายการทีวีดิจิตอลในแบบที่เป็นดิจิตอลจริงๆก็คือ ต้องรับจากจานดาวเทียมเท่านั้น
ปัจจุบันมีการส่งสัญญาณทีวีดิจิตอลผ่านดาวเทียมไทยคม อันเนื่องมาจากภาคบังคับของทาง กสทช. ซึ่งทางดาวเทียมไทยคมได้ส่งทีวีดิจิตอลให้จริง แต่ได้มีการจำกัดคุณภาพช่องสัญญาณ มีการบีบคุณภาพสัญญาณของทีวีดิจิตอลให้ลดลง ช่องที่เป็น HD ก็ไม่ส่งแบบ HD ช่องที่เป็นภาพแบบ SD ก็เอาไปไว้ในความถี่ที่สัญญาณอ่อน เนื่องมาจากเหตุผลทางด้านธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี DVB-T2 เป็นเทคโนโลยีที่ใหม่ของทีวีดิจิตอล ที่ กสทช.เลือกนำมาใช้ อีกมุมหนึ่งก็มีเทคโนโลยีใหม่ชื่อว่า DVB-S2 ออกมาคู่กัน สังเกตว่าชื่อจะแตกต่างกันระหว่าง ตัว T และ ตัว S เท่านั้น ซึ่ง T ย่อมาจาก Terrestrial แปลว่า การส่งในภาคพื้นดิน ส่วน S ย่อมาจาก Satellite แปลว่า การส่งแบบดาวเทียม
เทคโนโลยี DVB-S2 สามารถส่งภาพและสัญญาณแบบดิจิตอลสมบูรณ์ มีช่องสัญญาณกว้างรวมไปถึงอัตราการทนทานสัญญาณรบกวนมากกว่าระบบ DVB-S ที่ดาวเทียมไทยคมกำลังใช้กันอยู่
ปัจจุบันดาวเทียมของไทยยังติดระบบสัมปทานอยู่ไม่กี่ดวง ส่วนดวงใหม่ๆก็เป็นในรูปแบบของการขอใบอนุญาต การขออนุญาตยิงดาวเทียมนั้น กสทช.เป็นผู้ออกใบอนุญาต ส่วนกระทรวงไอซีทีเป็นผู้ให้ใช้
ประเทศไทยมีตำแหน่ง หรือ slot ของดาวเทียมที่ได้รับการจัดสรรโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ITU ถือครองในนามกระทรวง ICT ทั้งสิ้น 3 ตำแหน่งคือ 50.5 E 78.5 E และ 120 E ทุกตำแหน่งมีดาวเทียมของไทยเข้าไปประจำการอยู่ทั้งสิ้น อาทิ 78.5 ไทยคม 6 และ 5 อนาคตจะเป็นไทยคม 8 ส่วน 50.5 Thaicom 3 เคยไปอยู่ตำแหน่งนี้ และ 120 E ดาวเทียม IPSTAR อนาคตจะเป็น Thaicom 7
แต่ไม่ได้หมายความว่า ตำแหน่งที่มีดาวเทียมประจำการอยู่แล้ว จะไม่สามารถยิงดาวเทียมขึ้นไปได้อีก ในทางเทคนิคสามารถทำได้ หรือสมมติว่าตำแหน่งดาวเทียมของประเทศไทยจะเต็มหมด เราก็สามารถไปเช่าตำแหน่งของประเทศที่มีสิทธิ์อยู่ หรือทำสัมปทานในประเทศนั้นได้ เช่น ประเทศตองกา เป็นต้น
ในความเป็นจริงดาวเทียมที่คนไทยใช้รับชมทีวีดาวเทียมอยู่ในขณะนี้ คือดาวเทียมไทยคม 5 และ 6 อยู่ที่ 78.5 องศา สัญญาณครอบคลุมทั้งประเทศไทย รวมไปถึงเพื่อนบ้าน ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย บางส่วนของอินเดีย และจีน จานดาวเทียมทั้งในระบบ KU BAND ที่เรียกกันว่าจานสี ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง แดง น้ำเงิน และระบบ C BAND หรือที่เรียกกันว่าจานดำ ทุกจานดาวเทียมต่างหันหน้าไปรับสัญญาณจากดาวเทียมดวงนี้หมด
หากต้องการพัฒนาทีวีดิจิตอลในแบบดาวเทียมเทคโนโลยีใหม่ ลองมาคำนวณเม็ดเงินที่มาลงทุน ในการยิงดาวเทียมในแบบของ DVB-S2 เฉลี่ยอยู่ที่ดวงละ 4,000-20,000 ล้านบาท บวกกับสถานีและอุปกรณ์ในการควบคุมดาวเทียมจากภาคพื้นดิน อีกไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และค่าส่งดาวเทียมขึ้นวงโคจร เริ่มตั้งแต่ 2,000 ล้านบาท ขนส่งแพงที่สุดด้วยกระสวยอวกาศ 17,500 ล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จแบบแพงๆไม่เกิน 30,000 ล้านบาท
ถ้านำเม็ดเงินการลงทุนยิงดาวเทียมจำนวน 30,000 ล้านบาท มาเปรียบเทียบกับเม็ดเงินในการประมูลคลื่นความถี่ทีวีดิจิตอลที่ กสทช.ได้เงินถึง 50,000 ล้านแล้ว
ชวลิต บอกอีกว่า น่าเสียดายโอกาสในการจัดตั้ง หรือวิธีการออกแบบของทีวีดิจิตอลในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ในวงการดาวเทียมทราบดีว่า หากต้องการออกแบบและสร้างดาวเทียมดวงใหม่ จนไปถึงการยิงขึ้นวงโคจร ต้องใช้เวลามาก แต่ถึงอย่างไร เวลาที่ใช้รอคอยดาวเทียมดวงใหม่ เมื่อเทียบกับเวลาในการรอขยายสถานีทวนสัญญาณของทีวีดิจิตอลในแบบภาคพื้นดินเพื่อให้ครอบคลุมทั้งประเทศนั้น
ชวลิตตอบว่า ยิงดาวเทียมดวงใหม่เร็วกว่า ประการสำคัญ เมื่อดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรแล้ว สัญญาณจะครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ การทำงานจะเต็มระบบในทันที
ในทางเทคนิค การยิงดาวเทียมไปเพิ่มในตำแหน่งที่มีอยู่ก่อนแล้ว เรียกว่า Colocation แปลเป็นไทยง่ายๆ ก็คือ ดาวเทียมสองดวงโคจรอยู่ในองศาเดียวกัน หากดาวเทียมดวงใหม่ที่ยิงขึ้นไปอยู่ในองศาเดิม ผู้รับชมที่มีจานดาวเทียมอยู่แล้ว ก็จะสามารถรับสัญญาณดาวเทียมดวงใหม่ได้ทันที
หรืออาจจะมีการเพี้ยนขององศา ก็อาจจะปรับหน้าจาน หรือใช้วิธีเพิ่มหัวรับสัญญาณของดาวเทียม หรือที่เรียกว่าติดตั้งจานดาวเทียมแบบหลายหัวรับ DUO LNB ซึ่งประเทศไทยก็นิยมติดตั้งจานดาวเทียมในลักษณะนี้อยู่แล้ว ชวลิตบอกว่า หนทางที่เปลี่ยนผ่าน และพัฒนาทีวีดิจิตอลได้ดีที่สุดก็คือ นำเทคโนโลยีดาวเทียม DVB-S2 มาเป็นช่องทางหลักในการส่งสัญญาณให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ส่วนการส่งในแบบภาคพื้นดิน DVB-T2 ที่กำลังใช้อยู่นั้น นำมาเป็นตัวชดเชย หรือเสริมช่วยในการส่งสัญญาณของภาคพื้นดิน
ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางการพัฒนาทีวีดิจิตอลอย่างแท้จริง ประการสำคัญทาง กสทช.ไม่ต้องมานั่งคิดเรื่องที่จะแจกคูปองให้วุ่นวาย และไม่ต้องมานั่งฟังชาวบ้านเขาติฉินนินทาว่าล็อกสเปก เอื้อประโยชน์ให้คนโน้นคนนี้ ให้ปวดหัวและหงุดหงิดหัวใจ...