ประสบการณ์ท้าต่อยกับแท็กซี่ที่ Ho Chi Minh City, Vietnam

สวัสดีครับ ผมแวะมาเล่าประสบการณ์จะโดยแท็กซี่ที่เวียดนามฟันหัวแบะมาสดร้อน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาครับ โดยผมต้องไปต่อเครื่องที่ Ho Chi Minh City เพื่อต่อเครื่องกลับ Sydney ครับ มีเวลาเปลี่ยนเครื่องหนึ่งวันเต็มๆ เลยออกไปค้างในเมืองครับ ครับ เรื่องมันมีอยู่ว่าไปยืนรอแท็กซี่ที่ท่าเรียกรถ แล้วมันก็เกิดการเตรียมตัวฟันเงินนักท่องเที่ยวอย่างผม  บังเอิญ(ไม่บังเอิญหรอก ตั้งใจ)ผมเขียนเล่าเห็นการใน fecebook ของตัวเองไปแล้ว ก็เลยก็อบทั้งหมดมาแชร์ที่นี้เลยนะครับ เผื่อใครไปเที่ยวจะได้ระวังตัว หรือเตรียมตัวรับมือคับพวกคนเหล่านี้ได้ครับ …..((อาจมีคำหยาบคายหลุดมาบ้างนะครับ))


ปล.รูปไปขโมยมาจากเน็ตครับ

เรื่องมีอยู่ว่า...

หลังจากลงที่สนามบินโฮจิมิน ซิตี้ พงษ์ประยูรก็เดินลงมาตามผู้โดยสารคนอื่น เมื่อไปถึงกองตรวจคนเข้าเมือง พงษ์ประยูร ก็ยิ้มสยามสามทีทักทายเป็นใบเบิกทางเข้าประเทศ แต่ไม่รู้อะไรดลบันดาลใจให้คุณพนักงานเล่นเกม 108 คำถามกับพงษ์ประยูร โอ้ยยยย ขนาดมีตั๊วเครื่องบินการต่อเครื่องมาโชว์แล้วนะ มันยังถามว่า

"จะไปต่อเครื่องแล้วมาต่อแถวเข้าเมืองทำไม ?"

ในใจอยากตอบกลับไปว่า จะให้กูนอนสนามบินร้างของเมิงหรออออกูต้องรออีก 12 ชม.นะ ขนาดมาถึงตอนสี่ทุ่มกว่าๆ คนยังไม่ค่อยจะมี แต่ ณ ตอนนั้นหากตอบอย่างนั้นไป เจ้าหน้าที่คงได้ลากพงษ์ประยูร เข้าซังเต ไม่ได้ต่อเครื่องเป็นแน่ที่สุด กว่าจะหลุดออกมาได้ ทำเอาเหนื่อยมากกกก

พงษ์ประยูรแบกเป้ใบไม่ใหญ่มากแต่เต็มไปด้วยสัมภาระที่หนักยิ่งกว่าอาวุธสงครามมายืนรอรถแท๊กซี่หน้าทางออกสนามบิน รออยู่มันก็ต้องมีพนักงานเดินเข้ามาถามว่าไปไหน พงษ์ประยูรให้ที่อยู่เค้าได้ แล้วก็รอ รอ แล้วก็รอ จนรถมา พอรถมา อีพนักงานเห็นขึ้นรถแล้ว ก็เดินมาบอกว่า 400,000 เวียดนามนะ แล้วพนักงานก็หันไปบอกคนขับเป็นภาษาเวียดนาม

ขณะนั้นพงษ์ประยูรก็เซย์ เยสไปแบบงงๆ ประมาณสามนาที ก็เอะใจ เอ๊ะ กูกำลังจะโดนฟันหัวใช่ไหม๊ (ใช่) ตอนนั้นก็คิดแล้วว่าจะล่นกะพงษ์ประยูรใช่ไหม๊
แต่พงษ์ประยูรก็ยังให้โอกาสได้กลับตัวกลับใจ พร้อมยกมือไปชี้ที่มิเตอร์แล้วบอกคนขับว่า

"ทำไมไม่เปิดมิเตอร์หละ" คนขับก็ส่ายหัว อ้ำอึ้งไม่ตอบ

ก็ไม่รู้สินะ พงษ์ประยูรให้โอกาสคนแล้ว แต่คนโกงมีโอกาสให้แก้ตัวแค่ครั้งเดียว พงษ์ประยูรเลยนั่งเงียบ ระยะทางจากสนามบิน district 1 จุดหมายคือโรงแรมที่อยู่กลางทานว์ใน ดิสทริกวัน ใช้ระยะเวลาไม่น่าจะถึงครึ่งชั่วโมง ราคาแท็กซีตามมิเตอร์ น่าจะ 150,000 เวียดนามดอง (ไม่มั่นใจราคานี้ แต่ก็ใช่แน่ๆ)

นั่งเงียบไปได้ซักพักคนขับก็ขับมาจอด ไม่ถึงโรงแรมด้วยนะเลี้ยวผิดทาง บอกว่าให้เดินย้อนกลับไป โอเคครับ พงษ์ประยูร ไม่มายด์ ก็เลยยื่นเงินไปให้ 200,000 เวียดนามดอง

ทีนี้คุณคนขับรีบหันมาแหว่ๆ เป็นภาษาเวียดนามอย่างรวดเร็ว บอกว่าไม่ใช่นะ 400,000 ต่างหาก แต่พงษ์ประยูรก็เลยพูดออกไปว่า

"ไม่ใช่ ฉันมาที่นี่หลายครั้งแล้ว แล้วทุกครับก็ไม่เกิน 200,000 ดอง"

คุณคนขับเข้าใจว่าพงษ์ประยูรเข้าใจผิด ก็เลยหยิบกระดาษออกมาแล้วเขียนบอกว่า
"20 USD = 400,000 VND"

แต่เสียใจครับ พงษ์ประยูร ทำสมาธิ มีสติ แล้วก็คิดหากทางแก้เกมมาตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว ก็เลยบอกว่าไปว่า โน้ววววววววววว แล้วเขียนกลับไป
"10 USA = 200,000 VND"

คุณคนขับทางทางเริ่มวีน แล้วก็ยังไม่ยอมรับเงินสองแสนดองของพงษ์ประยูร พงษ์ประยูรเลยออกมาจากรถ และไม่หนีด้วยครับ แต่เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เดินออกมายืนค้ำกระจก แล้วพ่นภาษาอังกฤษบอกไปอีกว่า

"ฉันมาบ่อยมาก ราคามันไม่ถึงสองแสนด้วยซ้ำ"

คุณคนขับคงไม่เข้าใจหรอก แต่มีเรื่องเดียวที่คงเข้าใจได้ง่ายๆนั้นคือจะไม่ยอมรับสองแสน จะเอาสี่แสน แล้วก็ทำท่าชี้กลับไปที่ สนามบิน บอกว่าคนนั้นที่ส่งขึ้นมาอะบอกว่าสี่แสน(เดาจากท่าทาง)

ตอนนี้พงษ์ประยูร ตีมึนครับ ตอนนั้นไม่ทันตั้งตัวจริงๆ ก็เลยตีมึนกลับไปว่าไม่ใช่ คนที่ส่งขึ้นรถบอกว่าสองแสนเท่านั้น ไม่ใช่สี่แสน โดยเขียนเป็นตัวเลขให้ส่งกลับไปให้ดู

คุณคนขับก็ยังส่ายหัวอีก แต่พงษ์ประยูรก็ไม่ยอมครับแล้วก็ไม่มีสีหน้ายอมแพ้ด้วย
ผมบอกกลับไปว่า
"เอาดิครับ ทุกครั้งที่มาผมจ่ายเท่านี้ ถ้ามีปัญหา เราเรียกโปลิซกันก็ได้ ฉันไม่หนี ฉันจะยืนอยุ่อย่างนี้หละ ไม่กลัว มีเรื่องกันเลยก็ได้นะ ฉันมั่นใจว่าตัวเองถูก"

คุณคนขับก็คงเข้าใจคำว่าโปลิซ ก็เลยทำท่าโทรศัพท์ออกไปไหนไม่รู้ แล้วก็ไม่มีการตอบรับ ก็วางไว้ พงษ์ประยูรเลยบอกว่า

"ส่งโทรศัพท์มา ฉันโทรเอง" พร้อมยื่นมือไปขอโทรศัพท์

แต่คุณคนขับก็ไม่ยอมส่งให้ ทั้งที่พงษ์ประยูรจะทิ้ง เงินสองแสนไว้บนรถแล้วเดินออกมาเลยก็ได้ แต่ไม่ครับ ตาต่อตาฟันต่อฟัน จัดเต็ม ตอนนี้คุณคนขับเลยบอกว่า งั้นของ 300,000 VND แต่ผมก็ยังส่ายหัว บอก

"สองแสนขาดตัว โนต่อ โนดิสเคาส์"

แต่ขณะนั้นวิญาณนางฟ้าเข้าสิงสามวิ บอกไปว่า

"กูให้สองแสนห้า เอาไม่เอา" แต่แกก็ไม่ยอม

แต่ในเมื่อส่ายหัวไม่รับน้ำใจผม จะเอาสี่แสน เลยบอกไปว่า งั้นตามโปลิซ มาคุยกัน ฉันไม่กลัวนะ ลงมาจากรถก่อน

พงษ์ประยูรบอกด้วยเสียงเย็นๆว่า

"กูให้โอกาสเมิงกดมิเตอร์แล้วนะ ยิ้มไม่กด ยิ้มอยากฟันหัวกู มามา กูจะฟันให้แบะเลย" พูดพร้อมทำท่าประกอบ เพราะแกคงไม่เข้าใจ แต่เรียกให้ลงจากรถยังไงก็ไม่ยอมลง

ไม่รู้สวรรค์เป็นใจให้พงษ์ประยูร หรือนรกอยากจะกลั่นแกล้งคุณคนขับรถกันแน่ เพราะพอพงษ์ประยูรหันไปดูข้างหลังก็ป๊ะกับสถานีตำรวจ อารมณ์คล้ายป้อมตรงมุมถนนข้าวสาร

ตอนนี้ก็เลยหันไปคุยกับคุยคนขับรถบอกว่า

"ไม่เป็นไร ไม่เอาสองแสน งั้นลงมาคุยกับฉัน ลงมาคุยกันก่อน เรียกโปลิซมาด้วย" พร้อมเอาหัวแม่มื้อชี้ไปข้างหลัง ที่มีตำรวจอยู่ข้างหลัง (ตอนนี้มโนภาพไปว่าตัวเองไปพระเอกที่กำลังได้เปรียบคนร้ายอยู่ แล้วรู้สึกว่ากำลังหล่อมาก)

ตอนนี้คนคนขับเริ่มลังเล จากนั้นก็เอามือมาฉกสองแสนดองจากมือของพงษ์ประยูร แล้วทำท่าไม่พอใจเอามากๆ ทำซะกูรู้สึกผิด

เอ๊ะหรือว่าคุณคนขับเค้าถูก แล้วพงษ์ประยูรเข้าใจผิดเอง ? ถ้าเป็นงั้น
กลับกลายเป็นว่ากูแมร่งโก่งแท็กซี่โดยไม่รู้ตัว แต่คงไม่หรอก นี่ถือว่าใจดีแล้วนะ ที่ให้ไป สองแสน ปกติ แสนห้าก็พอแล้วมั้งงง

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าริคิดจะโกงนักท่องเที่ยว แถมนักท่องเที่ยวยังให้โอกาสกลับตัวแล้วยังไม่ทำ นอกจากประเทศจะเสียชื่อแล้วยังมีสิทธิ์ถูกนักท่องเที่ยวเอาคืนด้วยครับบบบบ


เรื่องราวก็เป็นอย่างนี้หละครับ ยังไงก็ไปเที่ยว ระมัดระวังตัว ศึกษาข้อมูลก่อนเดินทางให้รอบคอบนะครับ ฮ่าๆๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่