ผ่านมาสี่วัน....ครับ
......เมื่อคืนคุณยายช่วยดูแลเจ้า 2 แสบแทนแม่จุ๊บ. คุณยายบ่นปนขำว่าช่วงใกล้รุ่งตื่นกันบ่อย. คลานดุ๊กดิ๊ก กินนมกันเก่งมาก และขับถ่ายกันปกติเรียบร้อยดี "น้ำเงี้ยว" ตายังไม่ค่อยเปิดเท่าไรแต่ "น้ำพริก" หัวตาเปิดขึ้นเยอะกว่าเมื่อวาน. กว่าจับภาพได้เป็นนานสองนานเพราะไม่อยู่สุข. พี่ดีนนี่จุ๊บ ๆ 2 แสบก่อนไปโรงเรียน แม่จุ๊บกับคุณยายจัดการป้อนนมตามขั้นตอนและพาเข้านอน. เราแยกย้ายกันทำหน้าที่ของแต่ละคน
สาย ๆ ปะป๊าแด๊ดเตรียมจะพาขนมจีนที่แข็งแรงขึ้นแล้วไปตรวจแผลผ่าตัด. ก็เลยคิดว่าดู 2 แสบซะหน่อยดีกว่า. เผื่อตื่น. แค่คิด......เสียงแมวเด็กก็ดังขึ้น. แทบไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นน้ำพริกถ้วยน้อยที่อาละวาด. มือหนึ่งอุ้มน้ำพริกขึ้นมา. อีกมือก็อุ้มน้ำเงี้ยวมาด้วย
แต่น้ำเงี้ยวนอนนิ่งไม่หายใจ!!!!!
นาทีโกลาหลบังเกิด....ปะป๊าแด๊ดรีบเอากระเป๋าน้ำร้อนมาอังตัวน้ำเงี้ยว. เป่าปาก ปั๊มหัวใจอย่างระวัง. แต่น้ำเงี้ยวไม่ฟื้นแล้ว....ทำยังไงก็ไม่ฟื้น สองคนนั่งร้องไห้ ปวดหัวตึ้บ. งงกับเรื่องที่เกิดและพยายามทำความเข้าใจกับมัน. เราทำพลาดตรงไหน? มันตายได้ยังไงทั้งที่แข็งแรงดี? ในทางวิทย์ก็อาจเพราะภูมิต้านทานมันไม่แข็งแรงพอเพราะไม่ได้กินนมแม่ ในทางความรู้สึกเราก็บอกตัวเองว่ามันคงเกิดมาใช้กรรมแค่นี้ จึงต้องจากเราไปให้ใจหายอาลัยอาวรณ์. คิดดังนั้นเราก็ต้องหยุดร้องไห้แม้ว่าใจยังเศร้า. งานการที่คามืออยู่ทั้งสองคนก็รอให้เราสะสาง. เหมียวน้อยอีกหนึ่งชีวิตก็ยังอยู่ในมือให้ดูแลต่อไป.
.....คุณยายกลับบ้านมารับรู้ข่าวด้วยความตกใจและยอมรับได้อย่างคนผ่านโลกมามาก. แต่พี่ดีนนี่ที่กลับมาจากโรงเรียนปล่อยโฮอย่างเสียใจ
สองปีมานี่เราเสียแมวไป 4 ตัวแล้ว (ทอม_ไตวายเรื้อรัง, จอย_หัวใจวาย, น้ำยา, น้ำเงี้ยว). เศร้าใจทุกครั้งแต่ต่างสถานการณ์กันไป. จากนี้ที่ทำได้คือดูแลน้ำพริกให้ดีที่สุด. ทั้งที่กลัวสุด ๆ เหมือนกัน....
ขอบคุณกำลังใจจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้ 3 แมวตลอดมาค่ะ
ปล.ขอบคุณกลุ่มเพื่อนศึกษานารี ที่ช่วยเหลือบริจาคค่านมเลี้ยงดูเด็ก ๆ นะคะ
จากนี้ขอพักใจสัก 1-2 วันค่ะ
จากกระทู้ "เรื่องราวของครอบครัวผมกับสมาชิกใหม่สดๆร้อนๆแบบปาฏิหาร"..ของผม.....วันนี้มันจะจบแบบไหน...
......เมื่อคืนคุณยายช่วยดูแลเจ้า 2 แสบแทนแม่จุ๊บ. คุณยายบ่นปนขำว่าช่วงใกล้รุ่งตื่นกันบ่อย. คลานดุ๊กดิ๊ก กินนมกันเก่งมาก และขับถ่ายกันปกติเรียบร้อยดี "น้ำเงี้ยว" ตายังไม่ค่อยเปิดเท่าไรแต่ "น้ำพริก" หัวตาเปิดขึ้นเยอะกว่าเมื่อวาน. กว่าจับภาพได้เป็นนานสองนานเพราะไม่อยู่สุข. พี่ดีนนี่จุ๊บ ๆ 2 แสบก่อนไปโรงเรียน แม่จุ๊บกับคุณยายจัดการป้อนนมตามขั้นตอนและพาเข้านอน. เราแยกย้ายกันทำหน้าที่ของแต่ละคน
สาย ๆ ปะป๊าแด๊ดเตรียมจะพาขนมจีนที่แข็งแรงขึ้นแล้วไปตรวจแผลผ่าตัด. ก็เลยคิดว่าดู 2 แสบซะหน่อยดีกว่า. เผื่อตื่น. แค่คิด......เสียงแมวเด็กก็ดังขึ้น. แทบไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นน้ำพริกถ้วยน้อยที่อาละวาด. มือหนึ่งอุ้มน้ำพริกขึ้นมา. อีกมือก็อุ้มน้ำเงี้ยวมาด้วย
แต่น้ำเงี้ยวนอนนิ่งไม่หายใจ!!!!!
นาทีโกลาหลบังเกิด....ปะป๊าแด๊ดรีบเอากระเป๋าน้ำร้อนมาอังตัวน้ำเงี้ยว. เป่าปาก ปั๊มหัวใจอย่างระวัง. แต่น้ำเงี้ยวไม่ฟื้นแล้ว....ทำยังไงก็ไม่ฟื้น สองคนนั่งร้องไห้ ปวดหัวตึ้บ. งงกับเรื่องที่เกิดและพยายามทำความเข้าใจกับมัน. เราทำพลาดตรงไหน? มันตายได้ยังไงทั้งที่แข็งแรงดี? ในทางวิทย์ก็อาจเพราะภูมิต้านทานมันไม่แข็งแรงพอเพราะไม่ได้กินนมแม่ ในทางความรู้สึกเราก็บอกตัวเองว่ามันคงเกิดมาใช้กรรมแค่นี้ จึงต้องจากเราไปให้ใจหายอาลัยอาวรณ์. คิดดังนั้นเราก็ต้องหยุดร้องไห้แม้ว่าใจยังเศร้า. งานการที่คามืออยู่ทั้งสองคนก็รอให้เราสะสาง. เหมียวน้อยอีกหนึ่งชีวิตก็ยังอยู่ในมือให้ดูแลต่อไป.
.....คุณยายกลับบ้านมารับรู้ข่าวด้วยความตกใจและยอมรับได้อย่างคนผ่านโลกมามาก. แต่พี่ดีนนี่ที่กลับมาจากโรงเรียนปล่อยโฮอย่างเสียใจ
สองปีมานี่เราเสียแมวไป 4 ตัวแล้ว (ทอม_ไตวายเรื้อรัง, จอย_หัวใจวาย, น้ำยา, น้ำเงี้ยว). เศร้าใจทุกครั้งแต่ต่างสถานการณ์กันไป. จากนี้ที่ทำได้คือดูแลน้ำพริกให้ดีที่สุด. ทั้งที่กลัวสุด ๆ เหมือนกัน....
ขอบคุณกำลังใจจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้ 3 แมวตลอดมาค่ะ
ปล.ขอบคุณกลุ่มเพื่อนศึกษานารี ที่ช่วยเหลือบริจาคค่านมเลี้ยงดูเด็ก ๆ นะคะ
จากนี้ขอพักใจสัก 1-2 วันค่ะ