ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้รวมถึงคนวัยทำงานทั้งหมดนะคะ แค่เพียงเฉพาะบุคคลที่เจอมากับตัว
ได้ยินความคิดพี่ในที่ทำงานคนนึง เค้ายึดมันในทัศนคติที่ว่า..
" ก็ในเมื่อทำงาน ได้งานมาแค่ไหน ก็ทำแค่นั้น ทำไมต้องทำงานให้มากเกินตัวเอง เกินกว่าที่รับได้มอบหมาย
เพราะว่าทำมากไป ก็ไม่ได้ทำให้เงินเดือนเพิ่มมากยิ่งขึ้น หรือได้โบนัสเพิ่มขึ้นเลย กลับโดนหักเงินมาสายอยู่ดี "
ซึ่งทางพี่เค้าไม่เคยช่วยงานในส่วนอื่นเลย แม้กระทั่งพี่อีกคนซึ่งทำตำแหน่งเดียวกันกับเค้าลางาน เพราะเกิดอุบัติเหตุ
แล้วดันมีงานด่วนมา ซึ่งก็ต้องรีบแก้ไข แต่พี่เค้ากลับไม่สนใจ ไม่ช่วยค้นหาไฟล์เพื่อแก้ไขให้
(งานนี้ทางพี่เค้าก็สามารถทำได้ เพราะเคยได้แก้ไข เล็กๆน้อยๆ อยู่เหมือนกัน)
แต่กลับบอกไปว่า.. รอพี่เค้ากลับมาแก้ให้แล้วกัน
แล้วเวลาจะตามงานหรือให้ทำงานอะไรชั่งยากเย็นแสนเข็น กว่าจะได้งานมา
แต่งานนอกของตัวเอง กลับทำได้ตลอด ทำได้เยอะกว่างานจริงๆ ที่ทำอยู่ปัจจุบันด้วยซ้ำ
ซึ่งจริงๆ แล้วมันควรจะปั่นงานปัจจุบันของตัวเองให้เสร็จก่อนไหม?
แต่ก็นะ...ก็ได้แค่พูดเท่านั้น พอบอกไปก็หาว่าไปยุ่ง เค้าก็แถสีข้างถลอกว่าตัวเองไม่ผิดอยู่ดี
เคยเจอเพื่อนร่วมงาน พี่ร่วมงานแบบนี้บ้างไหมคะ...??
อยากทราบจริงๆ
คนวัยทำงาน ทำไมเค้าถึงคิดแบบนี้?
ได้ยินความคิดพี่ในที่ทำงานคนนึง เค้ายึดมันในทัศนคติที่ว่า..
" ก็ในเมื่อทำงาน ได้งานมาแค่ไหน ก็ทำแค่นั้น ทำไมต้องทำงานให้มากเกินตัวเอง เกินกว่าที่รับได้มอบหมาย
เพราะว่าทำมากไป ก็ไม่ได้ทำให้เงินเดือนเพิ่มมากยิ่งขึ้น หรือได้โบนัสเพิ่มขึ้นเลย กลับโดนหักเงินมาสายอยู่ดี "
ซึ่งทางพี่เค้าไม่เคยช่วยงานในส่วนอื่นเลย แม้กระทั่งพี่อีกคนซึ่งทำตำแหน่งเดียวกันกับเค้าลางาน เพราะเกิดอุบัติเหตุ
แล้วดันมีงานด่วนมา ซึ่งก็ต้องรีบแก้ไข แต่พี่เค้ากลับไม่สนใจ ไม่ช่วยค้นหาไฟล์เพื่อแก้ไขให้
(งานนี้ทางพี่เค้าก็สามารถทำได้ เพราะเคยได้แก้ไข เล็กๆน้อยๆ อยู่เหมือนกัน)
แต่กลับบอกไปว่า.. รอพี่เค้ากลับมาแก้ให้แล้วกัน
แล้วเวลาจะตามงานหรือให้ทำงานอะไรชั่งยากเย็นแสนเข็น กว่าจะได้งานมา
แต่งานนอกของตัวเอง กลับทำได้ตลอด ทำได้เยอะกว่างานจริงๆ ที่ทำอยู่ปัจจุบันด้วยซ้ำ
ซึ่งจริงๆ แล้วมันควรจะปั่นงานปัจจุบันของตัวเองให้เสร็จก่อนไหม?
แต่ก็นะ...ก็ได้แค่พูดเท่านั้น พอบอกไปก็หาว่าไปยุ่ง เค้าก็แถสีข้างถลอกว่าตัวเองไม่ผิดอยู่ดี
เคยเจอเพื่อนร่วมงาน พี่ร่วมงานแบบนี้บ้างไหมคะ...??
อยากทราบจริงๆ