**** พระเอกอยู่เฉยๆ **** 'วิรุณจำบัง

   
            
เรื่อง พระเอกอยู่เฉยๆ


    เช้าวันหนึ่งที่อากาศสดใส และเป็นเช้าในวันทำงานของใครอีกหลายคน ถนนหนทางเนืองแน่นไปด้วยรถรานับหมื่นนับแสนคัน
น่าแปลกใจตรงที่ว่ามนุษย์สร้างยานพาหนะที่เรียกว่า รถยนต์ แต่ไม่ยักจะสร้างถนนเพิ่มด้วย

        บรรดาพ่อค้าแม่ขายที่ไม่ค่อยมีสตางค์ ก็หันไปนั่งรถโดยสารประจำทาง พนักงานบริษัท นักศึกษา หรือผู้คนวัยกลางคน
หันไปใช้บริการรถไฟฟ้าความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือที่เรียกว่า รถไฟฟ้าBTS
-   ผู้คนแน่นหนาทุกเช้าและเย็นหลังเลิกงาน มันทำให้ ‘เขา’  รู้สึกเบื่อหน่ายกับกิจวัตรประจำวันแบบเดิมซ้ำๆ ที่ไม่ว่าผู้คนภูมิลำเนาไหนก็แล้วแต่
ที่ตัดสินใจมาใช้ชีวิตในเมืองจะต้องพบเจอ
        เย็นวันเดียวกันนั้นเอง ‘เธอ’ ต้องการที่จะพบเขา  เพื่อพูดคุยสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาเพื่อนชายหญิงสนิทกันมากคู่หนึ่ง ที่สามารถใช้คำว่า ‘กู-มืง’ เป็นคำสรรพนาม
เขาทำงานอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ที่เธอเลือกมากนัก และเขารู้จักนิสัยเธอดี(ที่สุด) เขาจึงไม่ต้องการรอคอยเธอนานเกินไป

     "เราจะไปที่ไหน?"       เขาถาม
     "ราชเทวี"       คำตอบในเสียงตามสาย
     "เวลาเท่าใด?"
     "หนึ่งทุ่ม"
     "โ อ้..."       เขาไม่มั่นใจกับเวลาหนึ่งทุ่ม ซึ่งเธอคงไม่ได้หมายความว่าทุ่มตรง
     "ออกมาเลยได้ไหม..เจอกันที่สยาม"       เขาเลือกสถานที่ที่ใกล้ที่สุด
     "ไม่.. !"   
เธอปฏิเสธหนักแน่น        "มาหาฉันที่หมอชิต..ฉันขับรถมา"

     "จะให้ย้อนไปทำไม?"

     "รถมันติด.. แกอย่าโง่"       เธอให้คำตอบ
     "แกสิโง่ ! สยามใกล้ราชเทวี"      
     "มารอที่หมอชิต ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ"       เธอยังยืนยัน

    และคงเป็นเพราะเขาขี้เกียจต่อปากต่อคำกับเธอ หรือเขาลึกซึ้งถึงนิสัยของเพศหญิง
ก็สุดจะแล้วแต่ เขาเลือกที่จะยอมเธอ  เขากลายเป็นคนโง่ในทันที ที่ไม่รู้หรือย่างไรว่าถนนมีน้อยกว่ารถยนต์

เขาขึ้นรถของเธอ  และเขาเอนเบาะไปจนสุด  เอนจนเธอรู้ว่าเขาจะหลับใส่เธอ ในขณะที่เธอเป็นคนขับรถให้เขา
     "แกอย่าหลับใส่ฉันนะ !"  เธอตวาดแว้น
     " (ช่วยไม่ได้ ให้ย้อนมาทำไมล่ะ--)"  เขาคิดในใจ และไม่พูดอะไร

    เธอยังไม่มุ่งไปสถานที่ที่เธอเลือกไว้ในทันที  แต่เธอกำลังพาเขาไปในสถานที่ที่ดีมากที่หนึ่งย่านสะพานควาย  เป็นสถานที่แปลกๆอยู่ในซอยเล็กๆ รถยนต์ไม่สามารถสวนทางได้(one way)  มีร้านกาแฟที่มีบริเวณกว้างขวางร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่นานาชนิด และโต๊ะม้าหินอ่อนทั่วบริเวณร้าน
จนแทบไม่เชื่อว่าสถานที่นี้อยู่ในเมืองที่คับคั่งไปด้วยมนุษย์เงินเดือน

    เขาสั่งกาแฟ และน้ำเปล่ามานั่งร่วมโต๊ะกับเธอ เธอหยิบบุหรี่ยี่ห้อดี 2ยี่ห้อ อันหนึ่งหอม
อันหนึ่งทั่วไปขึ้นมาสูบ และเธอเลือกสูบบุหรี่รสทั่วไป แล้วยื่นอันหอมให้เขา

     "สูบบุหรี่ ตั้งแต่เมื่อไหร่?"       เขาถาม
     "ตั้งแต่ อนุบาล3เทอม2 ย่ะ"       เธอประชดพร้อมสีหน้ากวนๆ ปนตั้งคำถามและคำตอบในใจว่า เธอโตแล้วนะ จะสูบตอนไหนก็เรื่องของเธอ

    เขาและเธอสนทนากันถึงเรื่องความรักใคร่ ไม่ใช่กับเขาและเธอ แต่หมายถึงของใครของมัน
ปรึกษาและพูดคุยสารทุกข์สุกดิบของกันและกันถึงจะถูก  ‘เขา’พูดถึงคนรักเก่า  แต่ไม่พูดมากและฟังเสียมากกว่า  
ฟังด้วยความฉงนใจ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

    เธอบอกเขาว่า ตอนนี้เธอมี 2เบอร์ (ผู้ชาย)   
เขาว่าเธอร้ายกาจใช่ย่อย ก็เป็นธรรมดา เธอตัวเล็ก หน้าตาดี และขาว ขาวชนิดที่ว่าแค่สัมผัสผิวแรงๆ
ก็จะแดงตามแรงที่สัมผัส (คนขาวมักได้เปรียบก็ว่าได้)

    เขาไม่อยากรู้อะไรมากไปกว่า เขาอยากไปถึงสถานที่นั้นโดยเร็ว ในร้านอาหารประเภทคาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรอง ที่มีเบียร์เย็นๆจับตัวเป็นวุ้น อาหารอร่อยถูกปาก ประกอบเสียงดนตรีเบาๆ คุยไปจิบเบียร์ไปซะมากกว่า

    เธอเลือกร้านประจำและโต๊ะที่ตั้งอยู่มุมสลัวของร้าน เธอเลือกได้ดี ทั้งสองสั่งอาหารพร้อมจิบเบียร์เย็นๆที่มีเด็กเชียร์เบียร์สาวสวยคอยบริการ
  ‘เขา’ ไม่พูดอะไรมากไปกว่า นั่งฟังเพลงเพราะๆและกำลังกินบรรยากาศของร้าน


"เบอร์สอง กำลังจะมาที่นี่"  เธอเอ่ย   หลังจากที่วุ่นวายอยู่กับโทรศัพท์มือถือสักพักใหญ่ๆของเธอ  
     เขารู้ในทันทีว่าเธอหมายถึงผู้ชาย และกำลังตื่นเต้นที่จะได้พบเบอร์สองของเธอ หวังให้ได้คุยกันถูกลูกคอก็คงพอ

-   เธอเดินหายไปจากโต๊ะ ทิ้งให้เขาอยู่โดยลำพัง โดยไม่พูดอะไร
ได้เวลาประมาน 15นาที เธอเดินมาพร้อมผู้ชายหน้าตาดี รูปร่างกำยำ เหมือนคนเล่นกล้าม
สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเหมือนเพิ่งออกกำลังกายเสร็จหมาดๆ และที่สำคัญแลดูนิสัยดี
    (ซึ่งเขาเองไม่มั่นใจเลยว่าทำไมเธอไม่ให้เป็นเบอร์หนึ่งกันแน่)
ในเวลานี้..เธอดูดีและมีความสุข เวลาอยู่กับเขา(เบอร์สอง)  คุณสองพูดค่อนข้างสุภาพ และสนิทใจในเวลาไม่นาน


" คุณเบอร์หนึ่ง ก็กำลังจะมาที่นี่ "  เธอกระซิบ'เขา'   ..และทำเอาเขาตกตะลึง

-   เขาว่าเธอไม่น่าทำอย่างนี้เลยและเขาเองก็ไม่กล้าที่จะนึกถึงสถานการณ์ต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้น กลับกลายเป็นเขาเองนั้นแหละที่กำลังรู้สึกกังวล เสมือนมีใครเอาเมืองทั้งเมืองมาไว้ในอก  แต่เขาก็ยังภาวนาให้ผู้ชายทั้งสอง สนิทและเป็นมิตรกันอย่างเร็วที่สุด โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าพวกเขาคือใครสำหรับเธอ และยังหวังว่าใครคนใดคนหนึ่งจะมัดใจเธอโดยการแสดงความเป็นสุภาพบุรุษที่คอยดูแลเรื่องค่าอาหารนี้ซะทั้งหมดเอง

    'คุณหนึ่ง'เดินทางมาร่วมโต๊ะอาหารด้วยอุปนิสัยน่ารัก พร้อมรอยยิ้มของผู้ชายที่แสดงความจริงใจออกมามากที่สุด
การพูดจาไพเราะชวนให้เธอหลงใหล การแต่งตัวดูเนี้ยบ พอจะให้’เขา’เดาออกว่าเป็นผู้มีงานทำและมีอันจะกิน
เขาเริ่มรู้สึกสบายใจอย่างไร้เดียงสาเรื่องค่าอาหารและคอยดูเชิงอยู่ห่างๆ


     "สั่งอาหารและเครื่องเดิมอีกไหมครับ?"       หนึ่งถาม  หลังจากขยับตัวให้ชินกับเก้าอี้และร้านอาหารที่เพิ่งมาถึง

     "ตามใจคุณทั้งสองค่ะ"   เธอตอบและพยายามเป็นกลางที่สุด

     "ก็ดีครับ ผมขอเป็นอาหารประเภทยำรวมมิตรทะเล และบุหรี่ราคาแพงสักหนึ่งกล่องครับ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายผมเป็นคนจัดการเอง"      สองสอดบ้าง   และพร้อมที่จะหยิบกระเป๋าสตางค์ทำจากหนังจระเข้ราคาแพงออกมาให้ทุกคนได้เห็น

     "เช่นกันครับ ผมขอเบียร์ไฮเนเก้นเย็นๆด้วยอีก5ขวดครับ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายผมขออาสาออกเองดีกว่าครับ คุณสอง"   หนึ่งเกทับ และพยายามทำให้ที่ว่างบนโต๊ะอาหารเหลือน้อยลงด้วยเบียร์ราคาแพงที่บวกกับบรรยากาศของร้านในเมือง

-   ในขณะนั้นเอง  ‘เขา’ สังเกตไปที่ใบหน้าของเธอ ได้คำตอบจากความชำนาญในการเดาสีหน้าได้ว่า เธออาจจะมีใจให้กับคนใดคนหนึ่งที่พูดรู้เรื่องด้วยที่สุดในตอนท้าย

    ทั้งสามเริ่มมีอาการไม่เหมือนเดิม เหลือเพียงแต่’เขา’ ที่คอยเอียงหูฟัง อย่างไม่น่าเกียจมากนัก เหมือนกำลังดูละครเกี่ยวกับศึกชิงนางจากฟรีทีวี

    น้ำเสียงของเธอฟังดูช้าลงและเซ็กซี่เวลาเธอมองเหมือนอยากค้นหาอะไรบางอย่าง เธอเริ่มเล่นด้วยกับทั้งคู่ และยังเดาไม่ออกว่าจะมีใจให้ใคร

    คารมอันคมคายของหนึ่งและสอง ทำให้เขารู้สึกอาย ทั้งที่เขาเองก็เป็นผู้ชายแต่ไม่สามารถทำให้คุณผู้หญิงรู้สึกดีได้ด้วยคำพูดของเขา

-    เบียร์หมดไป เสมือนมีคนมาเจาะรูไว้ที่ก้นขวด ก็เห็นไม่ถนัดในความสลัวของร้าน ทั้งสองเล่นดวลเบียร์เพื่อชิงความเป็นหนึ่ง แต่ในขณะที่เธอสังเกตเห็นไม่ได้ เขาทั้งคู่เริ่มลวนลามเธอ จากการลูบไล้ไปตามขาอ่อนอันขาวเนียนอมชมพูของเธอ เพราะเธอใส่กระโปรงสั้นจู๋ตัวบาง มือของสองไม่อยู่นิ่ง และหนึ่งพยายามโอบไปข้างหลังหวังจะปลดตะขอเสื้อในเธอออกอย่างช้าๆ เธอดูเหมือนจะใจอ่อน ตัวเธออ่อนยวบลง เธอทำเป็นไม่สนใจปล่อยตัวไปตามอารมณ์ ให้ทั้งคู่ ได้ชื่นชมความขาวและกลิ่นตัวอันเซ็กซี่ยั่วยวนใจจากน้ำหอมชื่อดังที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้า

    เธอก้มหน้าวุ่นวายกับโทรศัพท์มือถือเครื่องเดิมอีกครั้ง แต่ดูเหมือนไม่นานก็จับใจความได้ ว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ร่วมด้วยตอนไหนก็มิอาจรู้

    ทุกอย่างบนโต๊ะอาหาร ดูเหมือนจะไม่เหลืออะไร เหลือแต่ร่างอันบอบบางของเธอซึ่งคั่นกลางระหว่างพวกเขาและนั่งบนตักของทั้งสองคน

    เธอเรียกเด็กมาเก็บเงิน  พร้อมจะบอกให้ทุกคนรู้ว่าเธอก็มีเงินพอจ่ายและเช่าห้องพักราคาปานกลางสำหรับคืนนี้  เธอพยายามพูดเพื่อให้ทั้งคู่รู้ว่าเธอไม่ได้ดูถูกความเป็นสุภาพบุรุษของทั้งสองและพยายามหยอกล้ออย่างมีเสน่ห์หา

    เธอร่วมแชร์ค่าอาหารกับเขาทั้งสองด้วย และเธอกำลังดูร้อนรนผิดปกติ เสมือนว่าอยากร่วมรักกับใครคนหนึ่ง ให้ได้ถึงอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงอันเป็นที่สุด

    เธอไม่สนใจว่าเขาทั้งสองจะจับต้องไปโดนส่วนไหนของเธอ ราวกับอยากบอกให้รู้ว่า เธอจะไม่นอนคนเดียวแน่ในคืนนี้

แต่แล้ว ’เขา’ ก็ต้องหยุดชะงักไป    
เธอหันมาคุยกับ ‘เขา’ ซึ่งนั่งมองนานแล้วว่า..


" เบอร์ศูนย์ ติดต่อมา.. "

    " ศูนย์ไหนอีก? "      เขาถาม

    " มันน่ะซี "   

    " มันส์อะไร? "      เขาคิดว่าเธอหมายถึง ‘ความมันส์’

    " มัน ที่แกก็รู้ว่าใคร "       เธอกำลังหมายถึง ค น รั ก เ ก่ า

    " แล้วยังไง.. เธอกำลังจะไปหา? "

    " ใช่ "
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่