ในวันนี้ จขกท มีรีวิวซีรีย์ดีๆ จากแดนปลาดิบมาแนะนำอีกเช่นเคย นั่นคือ ซีรีย์โปรเจคยักษ์ ที่เป็นการร่วมทุนและร่วมแรงกันสร้าง โดยสถานีโทรทัศน์
TBS และสถานีโทรทัศน์
WOWOW (Pay TV ของญี่ปุ่น) เรื่อง
โมสุ (MOZU) // ทำไมต้องร่วมทุน ลองอ่านรีวิววันนี้แล้วจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งเลยว่าทำไมสร้างคนเดียวไม่ได้ งานนี้งานยักษ์ของจริง
แม้ว่า จขกท ไม่ได้ติดตามแบบเรียลไทม์ทุกตอน (แค่รีบกลับมาให้ทันดูอลิซทุกเย็นวันศุกร์ก็แย่แล้ว 555) แต่ว่าเมื่อมีเวลาได้ย้อนกลับมาดูตั้งแต่ต้นใหม่อย่างตั้งใจอีกครั้ง จขกท สามารถสัมผัสได้เลยว่า ซีรีย์เรื่องนี้สเกลเค้าใหญ่จริง (ปล. ไม่ใช่เจน ญาณทิพย์ก็สัมผัสได้) แหม ดาราดังๆ ขนมากันให้เพียบ ยังไม่นับสมาชิกที่จะเข้ามาร่วมแจมใน MOZU Season 2 – 幻の翼 (Maboroshi No Tsubasa – ปีกแห่งภาพลวงตา) ซึ่ง ณ ตอนนี้ ก็มีสาวน่ารัก มากฝีมืออย่าง ยู อาโออิ และพี่ใหญ่อย่าง ชิโร่ ซาโนะ มาร่วมเล่นด้วยเป็นที่แน่นอนแล้ว
หลายๆ คนที่ได้อ่านกระทู้ Short Review ของคุณ PeeGho ไปแล้ว ขอให้นับรีวิวนี้เป็นภาคต่อ ที่จะลงลึกรายละเอียดเพิ่มขึ้นอีกหน่อย (*แต่ไม่สปอยล์แน่ๆ) เพราะฉะนั้น…
5555 เอาล่ะ เชิญรับชมกันแบบยาวๆ เลยนะคะ
เปิดเรื่องมาด้วยสมุดภาพนกโมสุ ที่บอกเล่านิสัยแปลกๆ ในการฆ่าเหยื่อที่ไม่อาจอธิบายได้ของนกชนิดนี้
เมื่อแรงจูงใจของนกยังอธิบายไม่ได้ แล้วแรงจูงใจของคนจะไปเหลืออะไร ย่อมหาคำอธิบายไม่ได้แน่นอน
ตัดมายังจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ด้วยภาพความตะหนกตกใจของชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศ เมื่อมีเหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นกลางวันแสกๆ ที่ย่านกินซ่า ซึ่งเป็นย่านธุรกิจและการค้าใจกลางกรุงโตเกียว มหานครที่ได้ชื่อว่ามีความปลอดภัยสูงสุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เพราะย่านนี้มีผู้คนผ่านไปมาคับคั่งแทบตลอดทั้งวัน ทำให้หลังเกิดระเบิดมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน และบาดเจ็บอีกนับร้อยคน
ทางฟากรัฐบาลออกแถลงการณ์ ระบุว่าอาจเป็นการก่อการร้าย
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้คนมากมายเข้ามาพัวพัน แต่ละคนล้วนมีพฤติกรรมน่าสงสัย บางคนก็ปราศจากที่มาที่ไป และเพิ่มปมปริศนาของเรื่องออกมามากมายหลากหลายประเด็น
สำหรับตัวละครหลักๆ ของเรื่องแบบย่อๆ มีดังนี้
นาโอทาเกะ คุรากิ - เจ้าหน้าที่ระดับหัวกะทิของศูนย์รักษาความสงบ (Public Safety Department – PSD) ผู้สูญเสียภรรยาไปจากเหตุระเบิดครั้งนี้ เขาไล่ล่าสืบหาความจริง ว่าทำไมภรรยาของเขาจึงไปอยู่ตรงที่เกิดเหตุ และแท็คทีมกับเจ้าหน้าที่โอสุกิ และเจ้าหน้าที่อาเคโบชิ เพื่อหาความเชื่อมโยงระหว่างพาราไซต์เน็ต เครือข่ายก่อการร้ายในญี่ปุ่น, คะซุฮิโกะ ชินไง ผู้ต้องสงสัยคดีวางระเบิดที่กินซ่า และบริษัท อาเธน่า เซเคียวริตี้ บริษัทรักษาความปลอดภัยยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น
ผู้เสียชีวิตที่อยู่ตรงศูนย์กลางการระเบิด มี 2 คน คือ ภรรยาของคุรากิ และคาเกฮิ นักเขียนอิสระ ที่มีเบื้องหลังเป็นหัวหน้าของพาราไซต์เน็ต เครือข่ายก่อการร้ายในญี่ปุ่น
คุรากิ สันนิษฐานว่าเหตุระเบิดอาจมีความเกี่ยวข้องกับความพยายามก่อการร้าย เพื่อลอบสังหารประธานาธิบดี ทารากิ แห่งประเทศซาร์โดเนีย ที่กำลังจะมาเยือนญี่ปุ่นเพื่อเจรจาเส้นทางการค้าปิโตรเลียม แต่จากรายงานของทีมสืบสวนหลัก ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการทำคดีมากนัก
เรียวตะ โอสุกิ – นายตำรวจจากหน่วยที่ 1 กรมสืบสวนคดีพิเศษ
ตามติดคดีระเบิดที่กินซ่า แม้จะถูกกีดกันออกจากคดี โดยทีม PSD เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างตั้งใจ แม้จะไม่ใช่หน้าที่ (ฮา) ความเอาจริงเอาจังในการทำงานของเขาประกอบกับการถูกหลอกลวงด้วยกลเกมบางอย่างจาก PSD ในอดีต ทำให้งานของเขาต้องสะดุด และประสบกับปัญหาครอบครัวที่แตกร้าว
มิสะ อาเคโบชิ – เจ้าหน้าที่สืบสวนของ PSD
ผู้อยู่ในเหตุระเบิด และพ่อของเธอซึ่งเคยเป็นเจ้าหน้าที่ PSD เหมือนกัน อยู่ๆ ก็มาหายตัวไปโดยไร้ร่องรอย ระหว่างปฏิบัติภารกิจลับ เมื่อหลายปีก่อน เธอเข้ามาร่วมทีมแบบลับๆ กับคุรากิ และโอสุกิ แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงในการกระทำครั้งนี้ของเธอคืออะไร และทำไมเธอถึงไปอยู่ในที่เกิดเหตุระเบิด ในวันนั้นได้
เมื่อคุรากิสอบถาม เธอยอมรับว่าติดตามชินไงในวันนั้น ตามหน้าที่ที่ได้รับ และบอกคุรากิว่า ชินไงกับ บริษัท อาเธน่า เซเคียวริตี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการรักษาความปลอดภัยของญี่ปุ่น มีความเกี่ยวข้องกัน
ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง โดยเฉพาะพฤติกรรมน่าสงสัยของ อาเธน่า เซเคียวริตี้ ที่ทำการลบเทปวิดีโอวงจรปิดซึ่งอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ออกบางส่วน
คะซุฮิโกะ ชินไง – นักฆ่ารับจ้าง ผู้ต้องสงสัยในคดีระเบิดที่กินซ่า เขารับงานโดยตรงจากผู้บริหารระดับสูงของ อาเธน่า เซเคียวริตี้ หลังเกิดระเบิดก็มาถูกทำร้ายจนสูญเสียความทรงจำ และกำลังถูกตามล่าเพื่อหาไอซีชิพที่ชินไงแอบเก็บไว้ มีน้องสาว 1 คน ชื่อ ฮิโรมิ ชินไง ซึ่งยังไม่มีใครตามหาตัวเธอพบ
ชินไง ที่รอดตายมาได้ แต่ต้องสูญเสียความทรงจำไป ได้ขอให้ อามิ นาคาจิม่า นักเขียนอิสระ ที่ได้รู้จักที่โรงพยาบาล ช่วยสืบหาภูมิหลังของเขา และน้องสาว
นางก็ช่างใจกล้าบ้าบิ่น ผิดกับหน้าแบ๊วๆ ซะเหลือเกิน
เค้าว่ากันว่า “ฆาตกรมักจะย้อนกลับมายังที่เกิดเหตุเสมอ”
เคย์สุเกะ นารุยะ – นายตำรวจท้องที่ประจำโคบัง (ป้อมตำรวจประจำท้องที่) คนนี้ แกก็ไม่ธรรมดา มีทั้งข้อมูลเชิงลึก เชิงซ้อน ทั้งในและนอกกรมตำรวจ พร้อมอุปกรณ์ไอเทคเพียบ (พี่ควรเข้า MI6 หรือ FBI นะคะ พูดเลย)
ตานี่ก็รู้ทุกเรื่อง รู้ดีไปหมด แถมมาส่งเบาะแสใหม่ เรื่อง ดารุมะ ชายหัวล้าน ที่คอยไปปรากฏตัว บงการใครต่อใครในความฝัน ที่เค้าว่ากันว่าพบเจอกันทั้งในประเทศญี่ปุ่น และต่างประเทศเลยทีเดียว (แรงบันดาลใจของนายดารุมะนี่ คงเป็น เฟรดดี้ ครูเกอร์ เป็นแน่แท้ คริๆ)
โฉมหน้าแบบโคลสอัพ ของ “ดารุมะ” ชายลึกลับ
อีก 1 ตัวละคร ที่เราก็ไม่รู้ “แรงจูงใจ” หรือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของพี่แกเหมือนกัน นั่นคือ….
ไม่ค่ะ ขอคำตอบที่เจาะจงกว่านี้ อ้อ ลุงเค้าไม่ได้ตอบเรานี่นา คุณลุงคนนี้เค้าก็เป็นตำรวจนั่นล่ะค่ะ ชื่อ ชุนสุเกะ ทสึกิ ผอ.ฝ่ายคดีพิเศษ ทำหน้าที่ตรวจสอบภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือเรียกง่ายๆ ก็คือ ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเก็บกวาด ขจัดข่าวคาว ข่าวฉาวในกรมตำรวจ ทำทุกทางให้แน่ใจว่า เรื่องแบบนี้จะไม่ไปถึงหูของสื่อสำนักไหนๆ
ลุงทสึกิ แกส่งเจ้าหน้าที่อาเคโบชิ เข้ามาใกล้ชิดคุรากิ และร่วมงานกับโอสุกิ ด้วยเหตุผลและแรงจูงใจอะไร ยังไม่อาจคาดเดาได้ ผู้ชมอย่างเราก็ได้แต่เกาะขอบจอ พร้อมคิดตามกันต่อไป ว่าทำไมๆๆๆๆๆๆ แต่ละคนถึงทำแบบเน้
ก่อนจะห่วงคนอื่นว่าจะต้องตกเป็นเหยื่อ บางทีเจ้าหน้าที่คุรากิ อาจต้องห่วงตัวเองก่อน หลังพาตัวเข้าไปหาเรื่อง เอ๊ย หาข้อมูลแบบพุ่งเข้าชน กับเจ้าพ่ออย่าง ฮิงาชิ และ มือขวาโรคจิต นาคางามิ แห่งบริษัท อาเธน่า เซเคียวริตี้ จนเกิดคำสั่งเด็ดปีกแมลงวันที่ชื่อ คุรากิ ขึ้นมา
ภารกิจ “เด็ดปีกแมลงวัน” ตกเป็นหน้าที่ของนาคางามิ ที่พุ่งเข้าชนแบบตรงๆ เช่นกัน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ รถแท็กซี่คันที่เจ้าหน้าที่คุรากินั่งมา (ไม่กล้าคิดต่อว่า ถ้าวันนั้น แกนึกอยากนั่งรถเมล์ขึ้นมา จะเป็นยังไง)
ต๊ายยยย ชนแล้วหนี มารยาทในการขับขี่น่ะ มีมั้ย (ใช่เวลามั้ยนั่น)
แต่คุรากิ ก็คือคุรากิ เฮียแกพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ตลอด โปรดสังเกตที่มือๆๆๆ ขนาดเมียเพิ่งตายนะ ฮึ่มมม
ไม่อยากจะคิดอีกเช่นกัน ว่าถ้าแกบาดเจ็บหนัก จะขนาดไหน เอิ่ม
แอ๊กกกก รีวิวนี้ท่าทางจะยังอีกยาวไกล (ก็มันตั้ง 6 ตอนนี่นา) รออ่านต่อใน คห. 2 นะคะ
**ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งปาด ขอรีวิวให้จบก่อน แล้วค่อยว่ากันเน้อ
To be continue... つづく
(Review) MOZU Season 1 - 百舌の叫ぶ夜 (Mozu No Sakebu Yoru - ค่ำคืนแห่งเสียงร่ำร้องของโมสุ) รีวิวตอน 1-6
แม้ว่า จขกท ไม่ได้ติดตามแบบเรียลไทม์ทุกตอน (แค่รีบกลับมาให้ทันดูอลิซทุกเย็นวันศุกร์ก็แย่แล้ว 555) แต่ว่าเมื่อมีเวลาได้ย้อนกลับมาดูตั้งแต่ต้นใหม่อย่างตั้งใจอีกครั้ง จขกท สามารถสัมผัสได้เลยว่า ซีรีย์เรื่องนี้สเกลเค้าใหญ่จริง (ปล. ไม่ใช่เจน ญาณทิพย์ก็สัมผัสได้) แหม ดาราดังๆ ขนมากันให้เพียบ ยังไม่นับสมาชิกที่จะเข้ามาร่วมแจมใน MOZU Season 2 – 幻の翼 (Maboroshi No Tsubasa – ปีกแห่งภาพลวงตา) ซึ่ง ณ ตอนนี้ ก็มีสาวน่ารัก มากฝีมืออย่าง ยู อาโออิ และพี่ใหญ่อย่าง ชิโร่ ซาโนะ มาร่วมเล่นด้วยเป็นที่แน่นอนแล้ว
หลายๆ คนที่ได้อ่านกระทู้ Short Review ของคุณ PeeGho ไปแล้ว ขอให้นับรีวิวนี้เป็นภาคต่อ ที่จะลงลึกรายละเอียดเพิ่มขึ้นอีกหน่อย (*แต่ไม่สปอยล์แน่ๆ) เพราะฉะนั้น…
5555 เอาล่ะ เชิญรับชมกันแบบยาวๆ เลยนะคะ
เปิดเรื่องมาด้วยสมุดภาพนกโมสุ ที่บอกเล่านิสัยแปลกๆ ในการฆ่าเหยื่อที่ไม่อาจอธิบายได้ของนกชนิดนี้
เมื่อแรงจูงใจของนกยังอธิบายไม่ได้ แล้วแรงจูงใจของคนจะไปเหลืออะไร ย่อมหาคำอธิบายไม่ได้แน่นอน
ตัดมายังจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ด้วยภาพความตะหนกตกใจของชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศ เมื่อมีเหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นกลางวันแสกๆ ที่ย่านกินซ่า ซึ่งเป็นย่านธุรกิจและการค้าใจกลางกรุงโตเกียว มหานครที่ได้ชื่อว่ามีความปลอดภัยสูงสุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เพราะย่านนี้มีผู้คนผ่านไปมาคับคั่งแทบตลอดทั้งวัน ทำให้หลังเกิดระเบิดมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน และบาดเจ็บอีกนับร้อยคน
ทางฟากรัฐบาลออกแถลงการณ์ ระบุว่าอาจเป็นการก่อการร้าย
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้คนมากมายเข้ามาพัวพัน แต่ละคนล้วนมีพฤติกรรมน่าสงสัย บางคนก็ปราศจากที่มาที่ไป และเพิ่มปมปริศนาของเรื่องออกมามากมายหลากหลายประเด็น
สำหรับตัวละครหลักๆ ของเรื่องแบบย่อๆ มีดังนี้
นาโอทาเกะ คุรากิ - เจ้าหน้าที่ระดับหัวกะทิของศูนย์รักษาความสงบ (Public Safety Department – PSD) ผู้สูญเสียภรรยาไปจากเหตุระเบิดครั้งนี้ เขาไล่ล่าสืบหาความจริง ว่าทำไมภรรยาของเขาจึงไปอยู่ตรงที่เกิดเหตุ และแท็คทีมกับเจ้าหน้าที่โอสุกิ และเจ้าหน้าที่อาเคโบชิ เพื่อหาความเชื่อมโยงระหว่างพาราไซต์เน็ต เครือข่ายก่อการร้ายในญี่ปุ่น, คะซุฮิโกะ ชินไง ผู้ต้องสงสัยคดีวางระเบิดที่กินซ่า และบริษัท อาเธน่า เซเคียวริตี้ บริษัทรักษาความปลอดภัยยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น
ผู้เสียชีวิตที่อยู่ตรงศูนย์กลางการระเบิด มี 2 คน คือ ภรรยาของคุรากิ และคาเกฮิ นักเขียนอิสระ ที่มีเบื้องหลังเป็นหัวหน้าของพาราไซต์เน็ต เครือข่ายก่อการร้ายในญี่ปุ่น
คุรากิ สันนิษฐานว่าเหตุระเบิดอาจมีความเกี่ยวข้องกับความพยายามก่อการร้าย เพื่อลอบสังหารประธานาธิบดี ทารากิ แห่งประเทศซาร์โดเนีย ที่กำลังจะมาเยือนญี่ปุ่นเพื่อเจรจาเส้นทางการค้าปิโตรเลียม แต่จากรายงานของทีมสืบสวนหลัก ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการทำคดีมากนัก
เรียวตะ โอสุกิ – นายตำรวจจากหน่วยที่ 1 กรมสืบสวนคดีพิเศษ
ตามติดคดีระเบิดที่กินซ่า แม้จะถูกกีดกันออกจากคดี โดยทีม PSD เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างตั้งใจ แม้จะไม่ใช่หน้าที่ (ฮา) ความเอาจริงเอาจังในการทำงานของเขาประกอบกับการถูกหลอกลวงด้วยกลเกมบางอย่างจาก PSD ในอดีต ทำให้งานของเขาต้องสะดุด และประสบกับปัญหาครอบครัวที่แตกร้าว
มิสะ อาเคโบชิ – เจ้าหน้าที่สืบสวนของ PSD
ผู้อยู่ในเหตุระเบิด และพ่อของเธอซึ่งเคยเป็นเจ้าหน้าที่ PSD เหมือนกัน อยู่ๆ ก็มาหายตัวไปโดยไร้ร่องรอย ระหว่างปฏิบัติภารกิจลับ เมื่อหลายปีก่อน เธอเข้ามาร่วมทีมแบบลับๆ กับคุรากิ และโอสุกิ แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงในการกระทำครั้งนี้ของเธอคืออะไร และทำไมเธอถึงไปอยู่ในที่เกิดเหตุระเบิด ในวันนั้นได้
เมื่อคุรากิสอบถาม เธอยอมรับว่าติดตามชินไงในวันนั้น ตามหน้าที่ที่ได้รับ และบอกคุรากิว่า ชินไงกับ บริษัท อาเธน่า เซเคียวริตี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการรักษาความปลอดภัยของญี่ปุ่น มีความเกี่ยวข้องกัน
ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง โดยเฉพาะพฤติกรรมน่าสงสัยของ อาเธน่า เซเคียวริตี้ ที่ทำการลบเทปวิดีโอวงจรปิดซึ่งอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ออกบางส่วน
คะซุฮิโกะ ชินไง – นักฆ่ารับจ้าง ผู้ต้องสงสัยในคดีระเบิดที่กินซ่า เขารับงานโดยตรงจากผู้บริหารระดับสูงของ อาเธน่า เซเคียวริตี้ หลังเกิดระเบิดก็มาถูกทำร้ายจนสูญเสียความทรงจำ และกำลังถูกตามล่าเพื่อหาไอซีชิพที่ชินไงแอบเก็บไว้ มีน้องสาว 1 คน ชื่อ ฮิโรมิ ชินไง ซึ่งยังไม่มีใครตามหาตัวเธอพบ
ชินไง ที่รอดตายมาได้ แต่ต้องสูญเสียความทรงจำไป ได้ขอให้ อามิ นาคาจิม่า นักเขียนอิสระ ที่ได้รู้จักที่โรงพยาบาล ช่วยสืบหาภูมิหลังของเขา และน้องสาว
นางก็ช่างใจกล้าบ้าบิ่น ผิดกับหน้าแบ๊วๆ ซะเหลือเกิน
เค้าว่ากันว่า “ฆาตกรมักจะย้อนกลับมายังที่เกิดเหตุเสมอ”
เคย์สุเกะ นารุยะ – นายตำรวจท้องที่ประจำโคบัง (ป้อมตำรวจประจำท้องที่) คนนี้ แกก็ไม่ธรรมดา มีทั้งข้อมูลเชิงลึก เชิงซ้อน ทั้งในและนอกกรมตำรวจ พร้อมอุปกรณ์ไอเทคเพียบ (พี่ควรเข้า MI6 หรือ FBI นะคะ พูดเลย)
ตานี่ก็รู้ทุกเรื่อง รู้ดีไปหมด แถมมาส่งเบาะแสใหม่ เรื่อง ดารุมะ ชายหัวล้าน ที่คอยไปปรากฏตัว บงการใครต่อใครในความฝัน ที่เค้าว่ากันว่าพบเจอกันทั้งในประเทศญี่ปุ่น และต่างประเทศเลยทีเดียว (แรงบันดาลใจของนายดารุมะนี่ คงเป็น เฟรดดี้ ครูเกอร์ เป็นแน่แท้ คริๆ)
โฉมหน้าแบบโคลสอัพ ของ “ดารุมะ” ชายลึกลับ
อีก 1 ตัวละคร ที่เราก็ไม่รู้ “แรงจูงใจ” หรือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของพี่แกเหมือนกัน นั่นคือ….
ไม่ค่ะ ขอคำตอบที่เจาะจงกว่านี้ อ้อ ลุงเค้าไม่ได้ตอบเรานี่นา คุณลุงคนนี้เค้าก็เป็นตำรวจนั่นล่ะค่ะ ชื่อ ชุนสุเกะ ทสึกิ ผอ.ฝ่ายคดีพิเศษ ทำหน้าที่ตรวจสอบภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือเรียกง่ายๆ ก็คือ ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเก็บกวาด ขจัดข่าวคาว ข่าวฉาวในกรมตำรวจ ทำทุกทางให้แน่ใจว่า เรื่องแบบนี้จะไม่ไปถึงหูของสื่อสำนักไหนๆ
ลุงทสึกิ แกส่งเจ้าหน้าที่อาเคโบชิ เข้ามาใกล้ชิดคุรากิ และร่วมงานกับโอสุกิ ด้วยเหตุผลและแรงจูงใจอะไร ยังไม่อาจคาดเดาได้ ผู้ชมอย่างเราก็ได้แต่เกาะขอบจอ พร้อมคิดตามกันต่อไป ว่าทำไมๆๆๆๆๆๆ แต่ละคนถึงทำแบบเน้
ก่อนจะห่วงคนอื่นว่าจะต้องตกเป็นเหยื่อ บางทีเจ้าหน้าที่คุรากิ อาจต้องห่วงตัวเองก่อน หลังพาตัวเข้าไปหาเรื่อง เอ๊ย หาข้อมูลแบบพุ่งเข้าชน กับเจ้าพ่ออย่าง ฮิงาชิ และ มือขวาโรคจิต นาคางามิ แห่งบริษัท อาเธน่า เซเคียวริตี้ จนเกิดคำสั่งเด็ดปีกแมลงวันที่ชื่อ คุรากิ ขึ้นมา
ภารกิจ “เด็ดปีกแมลงวัน” ตกเป็นหน้าที่ของนาคางามิ ที่พุ่งเข้าชนแบบตรงๆ เช่นกัน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ รถแท็กซี่คันที่เจ้าหน้าที่คุรากินั่งมา (ไม่กล้าคิดต่อว่า ถ้าวันนั้น แกนึกอยากนั่งรถเมล์ขึ้นมา จะเป็นยังไง)
ต๊ายยยย ชนแล้วหนี มารยาทในการขับขี่น่ะ มีมั้ย (ใช่เวลามั้ยนั่น)
แต่คุรากิ ก็คือคุรากิ เฮียแกพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ตลอด โปรดสังเกตที่มือๆๆๆ ขนาดเมียเพิ่งตายนะ ฮึ่มมม
ไม่อยากจะคิดอีกเช่นกัน ว่าถ้าแกบาดเจ็บหนัก จะขนาดไหน เอิ่ม
แอ๊กกกก รีวิวนี้ท่าทางจะยังอีกยาวไกล (ก็มันตั้ง 6 ตอนนี่นา) รออ่านต่อใน คห. 2 นะคะ
**ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งปาด ขอรีวิวให้จบก่อน แล้วค่อยว่ากันเน้อ
To be continue... つづく