สวัสดีครับ .. ต้องเกิ่นก่อนเลยครับว่า เรื่องราวแบบนี้เคยได้ยินมาก็เยอะ แต่ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเจอกับตัวเองเลย
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดครับ ตอนนี้อายุ 24 ปีครับ .. ด้วยความฝันที่อยากเป็น Graphic Designer ก็ได้เข้าไปเรียนต่อในกรุงเทพจนเรียนจบครับ ระหว่างที่ผมเรียนผมถือว่าผมโชคดีมากครับได้รู้จักคนหลากหลาย ได้ฝึกงานบริษัทชั้นนำของประเทศ ได้ไปดูงานต่างประเทศแบบฟรีๆกับบริษัทที่ไปฝึกงาน .. ซึ่งตอนหลังจากที่ผมเรียนจบใหม่ๆย้ายกลับมาตั้งหลักที่บ้านได้ 1 เดือน ก็มีพี่ที่รู้จักกันชวนมาทำงานที่กรุงเทพครับเป็นงานที่ไม่ตรงสาย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเห็นว่าได้เงินเยอะ ลองทำดู ทำงานได้ครึ่งเดือนก็รู้สึกเลยว่ามันไม่ใช่และกดดันมากครับ ครบ 1 เดือน แม่ก็เลยให้ออกจากงานเลย ผมก็เลยกลับมาตั้งหลักที่บ้านเกิดอีกครั้ง (ขอเล่าย้อนกลับไปก่อนหน้าตั้งแต่ที่ผมยังเรียนไม่จบ แม่ผมพยายามหางานที่เกี่ยวกับราชการ การไฟฟ้าฯ แถวบ้านที่ให้ผมทำโดยตลอด เพราะแม่ผมรู้จักคนเยอะครับสามารถฝากเข้าทำได้ แต่ผมก็ไม่ทำและก็ไม่เคยคิดรับขอเสนอของแม่เลยเพราะไม่ชอบงานราชการครับ) ..
คราวนี้หลังกลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 1 เดือน ก็มีเพื่อนเก่าชวนมาทำงานในตัวเมืองครับ เป็นงาน Graphic Design ที่ผมรักและชอบด้วย อยู่ในจังหวัดด้วย ห่างจากอำเภอบ้านผม 60 กม. แม่ก็โอเคไม่ไกลบ้าน ก็เลยลองไปสมัครดู ปรากฏว่าเจ้าของบริษัทชอบโปรไฟร์ผมครับ เค้าก็รับผมเข้าทำงานทันที นับจนถึงตอนนี้ผมทำงานที่นี่ได้ 7 เดือนแล้วครับ ทุกอย่างไปด้วยดีครับกับการทำงานที่นี่ เงินเดือนก็ไม่ได้เยอะมากครับถ้าเทียบกับเรทเงินเดือนที่เพื่อนๆผมทำกันที่กรุงเทพ ก็มีเหนื่อยอยู่บ้างครับเพราะทำงาน 6 วันเลย หยุดวันอาทิตย์วันเดียวครับ แต่สู้ครับได้ทำงานที่รัก เจ้านายใจดี เพื่อนร่วมงานก็ค่อนข้างดี
แต่แล้วปัญหาก็มีมาอีกครัง คือตอนนี้แม่ก็มีงานศาลปกครองมาเสนออีกแล้ว ซึ่งดูท่าทางอยากให้ผมทำมากๆ ให้เหตุผลว่าเงินเดือนค่อนข้างดีเยอะเท่ากับที่ผมทำอยู่ สวัสดิ์การดี มีความมั่นคง ได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ท่านบอกอยากให้ผมไปอยู่ใกล้ๆ ตอนนี้ผมอยู่หอพักในตัวเมืองครับ แต่ก็กลับบ้านทุกอาทิตย์เลย แม่พยายามหว่านล้อมทุกอย่าง ให้คนนั้นคนนี้โทรมาคุย และที่สำคัญพ่อผมก็เป็นใจด้วยครับ คงเพราะท่านก็เป็นข้าราชการแต่จะปลดเกสียนปีนี้แล้วครับ ก็เลยอยากให้ผมดำเนินรอยตาม ซึ่งปกติแล้วท่านจะไม่ค่อยยุ่งเรื่องงานของผมและจะเคารพการตัดสินใจของผมมาก ..
ตอนนี้ผมรู้สึกเครียดมากเลยครับ ทำอะไรไม่ถูกเลย ใจนึงก็อยากทำตามความต้องการของพ่อแม่ครับ เพราะอยากตอบแทนบุญคุณของท่าน แต่อีกใจก็ยังเสียดายความรู้ความสามารถและความฝันของตัวเอง .. ผมควรจะทำยังไงดีครับ
ระหว่าง ทำตามความฝันหรือทำตามอนาคตที่แม่หยิบยื่นให้ ???

ความฝัน กับ ความปราถนาดีของแม่
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดครับ ตอนนี้อายุ 24 ปีครับ .. ด้วยความฝันที่อยากเป็น Graphic Designer ก็ได้เข้าไปเรียนต่อในกรุงเทพจนเรียนจบครับ ระหว่างที่ผมเรียนผมถือว่าผมโชคดีมากครับได้รู้จักคนหลากหลาย ได้ฝึกงานบริษัทชั้นนำของประเทศ ได้ไปดูงานต่างประเทศแบบฟรีๆกับบริษัทที่ไปฝึกงาน .. ซึ่งตอนหลังจากที่ผมเรียนจบใหม่ๆย้ายกลับมาตั้งหลักที่บ้านได้ 1 เดือน ก็มีพี่ที่รู้จักกันชวนมาทำงานที่กรุงเทพครับเป็นงานที่ไม่ตรงสาย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเห็นว่าได้เงินเยอะ ลองทำดู ทำงานได้ครึ่งเดือนก็รู้สึกเลยว่ามันไม่ใช่และกดดันมากครับ ครบ 1 เดือน แม่ก็เลยให้ออกจากงานเลย ผมก็เลยกลับมาตั้งหลักที่บ้านเกิดอีกครั้ง (ขอเล่าย้อนกลับไปก่อนหน้าตั้งแต่ที่ผมยังเรียนไม่จบ แม่ผมพยายามหางานที่เกี่ยวกับราชการ การไฟฟ้าฯ แถวบ้านที่ให้ผมทำโดยตลอด เพราะแม่ผมรู้จักคนเยอะครับสามารถฝากเข้าทำได้ แต่ผมก็ไม่ทำและก็ไม่เคยคิดรับขอเสนอของแม่เลยเพราะไม่ชอบงานราชการครับ) ..
คราวนี้หลังกลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 1 เดือน ก็มีเพื่อนเก่าชวนมาทำงานในตัวเมืองครับ เป็นงาน Graphic Design ที่ผมรักและชอบด้วย อยู่ในจังหวัดด้วย ห่างจากอำเภอบ้านผม 60 กม. แม่ก็โอเคไม่ไกลบ้าน ก็เลยลองไปสมัครดู ปรากฏว่าเจ้าของบริษัทชอบโปรไฟร์ผมครับ เค้าก็รับผมเข้าทำงานทันที นับจนถึงตอนนี้ผมทำงานที่นี่ได้ 7 เดือนแล้วครับ ทุกอย่างไปด้วยดีครับกับการทำงานที่นี่ เงินเดือนก็ไม่ได้เยอะมากครับถ้าเทียบกับเรทเงินเดือนที่เพื่อนๆผมทำกันที่กรุงเทพ ก็มีเหนื่อยอยู่บ้างครับเพราะทำงาน 6 วันเลย หยุดวันอาทิตย์วันเดียวครับ แต่สู้ครับได้ทำงานที่รัก เจ้านายใจดี เพื่อนร่วมงานก็ค่อนข้างดี
แต่แล้วปัญหาก็มีมาอีกครัง คือตอนนี้แม่ก็มีงานศาลปกครองมาเสนออีกแล้ว ซึ่งดูท่าทางอยากให้ผมทำมากๆ ให้เหตุผลว่าเงินเดือนค่อนข้างดีเยอะเท่ากับที่ผมทำอยู่ สวัสดิ์การดี มีความมั่นคง ได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ท่านบอกอยากให้ผมไปอยู่ใกล้ๆ ตอนนี้ผมอยู่หอพักในตัวเมืองครับ แต่ก็กลับบ้านทุกอาทิตย์เลย แม่พยายามหว่านล้อมทุกอย่าง ให้คนนั้นคนนี้โทรมาคุย และที่สำคัญพ่อผมก็เป็นใจด้วยครับ คงเพราะท่านก็เป็นข้าราชการแต่จะปลดเกสียนปีนี้แล้วครับ ก็เลยอยากให้ผมดำเนินรอยตาม ซึ่งปกติแล้วท่านจะไม่ค่อยยุ่งเรื่องงานของผมและจะเคารพการตัดสินใจของผมมาก ..
ตอนนี้ผมรู้สึกเครียดมากเลยครับ ทำอะไรไม่ถูกเลย ใจนึงก็อยากทำตามความต้องการของพ่อแม่ครับ เพราะอยากตอบแทนบุญคุณของท่าน แต่อีกใจก็ยังเสียดายความรู้ความสามารถและความฝันของตัวเอง .. ผมควรจะทำยังไงดีครับ ระหว่าง ทำตามความฝันหรือทำตามอนาคตที่แม่หยิบยื่นให้ ???