จุดอ่อนที่หวังได้

เห็นโผรายชื่อ 30 นักเตะเบื้องต้นที่ทาง เซซาเร่ ปรันเดลลี่ เรียกเข้ามา ดูแล้วรู้สึกเป็นกังวลแทนแฟนบอล “อัซซูรี่” อยู่เล็กๆ

ภาพรวมจริงๆแล้ว อิตาลี ก็ยังคงเป็น อิตาลี อยู่วันยังค่ำ พวกเขายังคงเป็นทีมที่แข็งแกร่งและเป็นหนึ่งในชาติตัวเต็งเสมอสำหรับศึกฟุตบอลโลกในทุกๆคราว

ขุมกำลังในเกมรับกับแผงมิดฟิลด์ยังเป็นจุดขายที่น่าเกรงขาม ผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นหน้าเดิมๆที่ทีมยึดมาตั้งแต่ชุดรองแชมป์ ยูโร 2012 รวมถึงอันดับสาม ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่น คัพ เมื่อกลางปีก่อน

ทว่ากองหน้าคือโจทย์ปัญหา เป็นตำแหน่งที่สุ่มเสี่ยงและใกล้เคียงกับคำว่าจุดอ่อนมากที่สุด เพราะลิสต์รายชื่อที่มีส่วนใหญ่เป็นแข้งสายเลือดใหม่ที่ประสบการณ์ในเกมใหญ่ระดับชาติแทบเป็นศูนย์

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! มีถึง 5 จาก 7 รายที่ไม่เคยผ่านเวทีรอบสุดท้ายของ ฟุตบอลโลก หรือ ศึกชิงแชมป์ยุโรป มาก่อนเลย

ดูเหมือน แซมบ้า14 หนนี้ “อิล ชีที” คนปัจจุบันอย่าง ปรันเดลลี่ ต้องการที่จะสร้างหัวหอกสร้างเลือดใหม่มาประดับวงการ ขนาด ลูก้า โทนี่ ที่ยิงระเบิดเถิดเทิงในลีกยังถูกหมางเมิน

อย่างไรก็ตามผมค่อนข้างเห็นด้วยกับวิธีคิดของนายใหญ่วัย 56 ปี มันถึงเวลาแล้วที่ อิตาลี ต้องเสี่ยงหาอาวุธทำร้ายล้างชนิดใหม่ไปสู้กับชาติมหาอำนาจอื่นๆ

เพราะตลอด 2 ปีที่ผ่านมามันค่อนข้างชัดเจนว่าตัวเลือกที่เคยใช้มันไม่ดีพอ หัวหอกที่เก่งแต่ในลีกอย่าง ลูก้า โทนี่ กับ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ วัยวุฒิเลยจุดพีคของตัวเองมานาน และเมื่อได้รับโอกาสในนามทีมชาติก็มักจะโยนทิ้งโยนขว้างอยู่เสมอ

เฉกเช่นเดียวกับ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ที่ผลงานถอยหลังลงคลองในทุกๆวัน 25 เกมหลังสุดที่ใส่เสื้อสีน้ำเงินอันทรงเกียรติก็ยิงได้แค่เพียง 2 ประตูเท่านั้น

เซบาสเตียน โจวินโก้ หนึ่งในดาวเตะที่ไดรับการยกย่องว่าเป็น “แฟนตาซิสต้า” ก็ไม่สามารถฉายแววขึ้นมาได้ 2-3 ปีที่ผ่านมาก็เป็นได้แค่เพียงแข้งอะไหล่บนความสำเร็จของ “ม้าลาย” ยูเวนตุส

ที่พอจะเสียดายอยู่หน่อยก็มี พาโบล ออสวัลโด้ กับ สเตฟาน เอล ชาราวี่ รายแรกหากไม่เลือกย้ายไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก กับ เซาแธมป์ตัน และได้รับโอกาสลงอย่างสม่ำเสมอกับต้นสังกัด ก็น่าจะรีดฟอร์มเก่งและมีจะติดโผของทีมได้ไม่ยาก

ขณะที่ “เอล ฟาโรห์” นั้นเจ็บไปนานเกินไป แม้ว่าจะกลับมาลงได้ในท้ายฤดูกาล แต่มันคงจะเป็นการหักหน้าเพื่อนร่วมชาติรายอื่นๆหาเขามีชื่อติดในทีมชุดนี้โดยทันที

ลองมองย้อนกลับมายัง 7 ตัวเลือกในทีมชุดปัจจุบัน ผลงานของแต่ละรายไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด หากไม่มีอคติในใจทุกคนควรคู่ที่จะได้สวมยูนิฟอร์ม อิตาลี ลุยศึกใหญ่ที่ บราซิล

มาริโอ บาโลเตลลี่ กับ อันโตนิโอ คาสซาโน่ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว ทั้งสองคนจับคู่กันได้ดีใน ยูโร 2012 ส่วนฟอร์มในซีซั่นล่าสุดก็ถือว่ารักษามาตรฐานตัวเองได้ระดับที่น่าพอใจ

จูเซ็ปเป้ รอสซี่ อีกหนึ่งหอกความหวังก็กลับมาท็อปฟอร์มกับ ฟิออเรนติน่า ขนาดลงแค่ 21 เกมใน เซรี่ อา ก็ยังซัดไปถึง 16 ประตู สิ่งเดียวที่น่าเป็นห่วงคือสภาพร่างกายที่เจ็บหนักๆมาหลายหน

ผมมองว่า 3 คนนี้น่าจะเป็นตัวหลักของทีม พูดกันง่ายๆคือจะไม่โดนตัดชื่อออก 23 คนสุดท้ายอย่างแน่นอน

ส่วนที่เหลือผมออกหน้าออกตาเชียร์มากหน่อยก็คงเป็นคู่หัวหอกจาก “กระทิงหิน” โตริโน่ ซึ่งผมค่อยข้างประทับใจกับฟอร์มของ ชิโร่ อิมโมบิเล่ อยู่ไม่น้อย
หัวหอกวัย 24 ปีมีดีกรีเป็นถีงดาวซัลโว เซรี่ อา ซีซั่นล่าสุด ผลงาน 22 ประตูการันตีความร้อนแรงได้เป็นอย่างดี

ยิ่งไปไล่เช็กฟอร์มจากไฮไลต์เก่าๆ อิมโมบิเล่ จัดว่าเป็นกองหน้าที่มีความครบเครื่องใช้ได้ จุดเด่นอยู่ที่การหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษ ยิงบอลฉลาดทั้งขวาและซ้าย แถมยังลูกยิงไกลที่เด็ดดวง

ด้าน อเลสซิโอ แชร์ชี่ ก็ไม่ธรรมดา สถิติ 13 ประตู 10 แอสซิตส์ หาใครในลีก ที่จะมีสัมประสิทธิ์เทียบเท่าเขาได้ยาก ยิ่งเป็นตัวอเนกประสงค์เล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแนวรุกด้วย ยิ่งเพิ่มโอกาสที่ ปรันเดลลี่ จะหนีบติดทีมไป บราซิล

ส่วนอีก 2 รายทั้ง มัตเทีย เดสโตร กับ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ เป็นตัวเลือกที่ผมมองว่ามีโอกาสหลุดโผสูง เพราะผลงานซีซั่นที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้เป็นตัวหลักของต้นสังกัดแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ในรายของปีก นาโปลี ถูก ดรีส เมอร์เท่นส์ กลบรัศมีไปเสียหมด

แต่จะประมาท เดสโตร ไม่ได้ เพราะเท่าที่สนทนากับเพื่อนๆที่เป็นแฟนลูกหนังเมืองมักกะโรนี เขาบอกว่าค่าเฉลี่ยของหัวหอกจาก โรม่า ค่อนข้างดี ลงไม่เยอะแต่ยิงพอประมาณ อาจจะถูกใจ “อิล ชีที” ก็เป็นได้

งานนี้หน้าตา 23 คนสุดท้ายจะเป็นเช่นไร จะมีใครบ้างที่ถูกตัดออก ตัวเลือกในแผงกองหน้า ปรันเดลลี่ จะเลือกใช้กี่ราย คงต้องติดตามตอนต่อไป

ส่วนเรื่องที่ว่ากองหน้าจะเป็น “จุดอ่อนหรือความหวังใหม่” คงต้องรอให้ทัวร์นาเมนต์เริ่มถึงจะได้คำตอบ แต่บางทีอาจจะมี เปาโล รอสซี่ คนใหม่เกิดขึ้นอีกครั้งก็เป็นได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่