อุกิ๊วววววว สวัสดีค่ะ
วันนี้เราขอแชร์ประสบการณ์ของแม่แมวมือใหม่ คุนนายอุกิ๊วเค้านะคะ
อุกิ๊วเป็นแมวเปอร์เซีย สีขาว อายุสิบเดือนค่ะ
ซึ่งเราต้องขอสารภาพตามตรงก่อนนะคะ ว่าเมื่อสองเดือนก่อนจนถึงวันที่อุกิ๊วคลอด
เรายังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ว่าอุกิ๊วเค้าท้อง คือก็สังเกตเห็นว่าอ้วนขึ้น ท้องป่องมากขึ้น แต่ก็คิดว่าเค้ากินเก่งเลยอ้วนขึ้นเฉยๆ
ไม่ได้คิดว่าท้องค่ะ เพราะเราก็เลี้ยงแมวอีกตัวนึง ให้เค้าอยู่เป็นเพื่อนกัน เป็นตัวผู้ค่ะ ชื่อออกัส อายุเท่ากัน
แต่คือ ที่ผ่านมาก็มีบ้างที่ออกัสกับอุกิ๊วเค้าฮีท แต่เค้าทำไม่เป็นอ่ะค่ะ เลยทำไม่เคยสำเร็จเลย
ฮีทแป๊ปๆ สักสองอาทิตย์ก็กลับมาเล่นกันเหมือนเดิม
(เค้าทำกันไม่สำเร็จจิงๆ ค่ะ มือใหม่ทั้งคู่ 555 ยึกยักกันอยู่ที่ข้างหลังตลอด มะเคยตรงเป้าหมายเลยค่ะ 555)
เราก็เลยไม่คิดว่าอุกิ๊วจะท้องได้
แต่สุดท้าย ก็มีตัวแปรเข้ามาจนได้ค่ะ เป็นแมวจรแถวหอ ที่ชอบเปิดประตูหลังห้อง เข้ามากินข้าวห้องเราบ่อยๆ
เราเรียกเค้าว่าพี่เบิ้มค่ะ เพราะเค้าตัวใหญ่ พี่เบิ้มนางเฟรนลี่มากค่ะ หอที่เราอยู่มีกันเกือบพันห้อง
นางก็รู้จักเค้าไปทั่ว ห้องไหนเปิดให้เข้าได้ นางก็เข้าไปนอนกลิ้งกะเค้าเลย
ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเลยค่ะ
แหม๊ ให้กัสกะกิ๊วอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน สุดท้ายโดนไอ่พี่เบิ้มมาตีท้ายครัวเฉยเลย เจ้าเล่ห์จริงๆ 555



และที่เรารู้ว่าเป็นลูกพี่เบิ้ม เพราะที่หัวน้องแมวมีจุดสีดำเล็กๆ อยู่หนึ่งจุดค่ะ
แต่กัสและกิ๊วสีขาวล้วน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ยคะ ที่จะมีสีดำโผล่มาได้ เพราะฉะนั้นฝีมือไอ่พี่เบิ้มแน่นอนค่ะ
-----------------------------------------------------
กลับเข้าเรื่องอุกิ๊วต่อนะคะ คืออุกิ๊วเค้าก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรของแมวท้องด้วยอ่ะค่ะ
ไม่หากล่องออกลูก กินๆ นอนๆ ทั้งวันก็เป็นปกติของนาง หรือเล่นโลดโผนกับออกัสก็เหมือนเดิม
จนก่อนวันที่เค้าจะออกลูกวันนึง ที่มาซุกในผ้าห่มกับเราค่ะ
ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องที่แปลกมากกก เพราะปกติเลยนางจะเชิดๆ ทั้งสองแมว นางจะสุงสิงกันเอง
ไม่ค่อยเข้าหาเราหรอกค่ะ เราต้องคืบคลานเข้าหาพวกนางเอง
อ้อนสุดคือตอนหิวที่จะเอาเท้ามาย่ำๆ เรา ประมาณว่าไปเทข้าวให้เก๊าหน่อยจิ เร็วด้วยนะ หิวแล้ว
แต่คืนนั้นที่มาซุกผ้าห่มกับเรา ก็โอเคอาจจะหนาวหรืออาจค้นพบว่าที่นอนตรงนี้สบายก็เป็นได้
เช้ามาก็ปกติค่ะ ไม่มีอาการอะไรทั้งสิ้น (เพราะปกติเค้าก็ไม่ค่อยขยับตัวอยู่แล้ว)
อ้อ แต่มีอาการหอบค่ะ ลิ้นห้อยเลย เราก็ว่าเค้าร้อน เพราะตอนกลางวันจะร้อนมาก ก็เปิดแอร์ให้
พอประมาณบ่ายโมง เราก็แกะปลาให้เค้ากินค่ะ ก็กิน กิน กิน ไปได้ซักพัก
อุกิ๊วก็มีน้ำสีคล้ำๆ ไหลออกมาค่ะ ทั้งๆ ที่กินปลาอยู่เลยค่ะ (พร้อมอึ๊นางด้วยอ่ะ) คงเป็นน้ำคร่ำนะคะ
เราก็ เอร้ยยย กิ๊วเป็นไร กัสที่ก้มหน้ากินปลาอยู่ ก็ละจากจานมาเลียให้อุกิ๊ว
พอเราหันไปหยิบทิชชู่จะมาเช็ดแว๊บเดียว ก็เห็นเท้าลูกแมวออกมาแล้วค่ะ
นาทีนั้น อร๊ากกก ทำไงดี ไม่รู้ว่าแมวตัวเองท้อง เลยไม่ได้หาข้อมูลอะไรไว้ก่อนเลย
เห็นสายสะดือยังคากับพุงลูกแมว ห้อยมากับก้อนที่เหมือนตับ เราก็เอ้ยย จะเป็นไรมั้ยนะ
ทั้งตื่นเต้น ทั้งปลื้มปริ้มดีใจ ตกใจด้วยอีกอย่าง
แต่เรากดโทรศัพท์หาตาเราค่ะ เพราะที่บ้านก็เลี้ยงแมว เลยโทรไปถามตาบวกเปิดดูจากเน็ตด้วย
(เราไม่เคยเห็นแมวคลอดลูกมาก่อนง่ะ) ก็ได้ความว่า ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวแม่แมวเค้าจัดการเองได้
ไอ้ก้อนที่เหมือนตับอ่ะ คือรกแมว แม่แมวเค้าจะกินเข้าไปเพื่อเป็นยาสำหรับตัวเอง แต่ถ้าเค้าไม่กิน ก็ให้เก็บไว้ค่ะ เป็นของให้โชคดี ตาเราบอกมาอย่างนี้นะคะ
พอกิ๊วเค้าเลียลูกกับกินรกเสร็จแล้ว เห็นลูกแมวตัวแดงๆ ละ
เราก็รีบหากล่องที่พอหาได้ตอนนั้นมาให้อุกิ๊วเค้าอยู่กะลูกค่ะ ก็จับอุกิ๊วกับลูกเค้าเข้ากล่อง (ลูกแมวตัวลื่นนะคะ เราเลยใช้ผ้าสะอาดช่วยจับ)
แล้วก็นั่งรอว่าจะออกมาอีกตัว หรืออีกหลายตัวอ้ะเปล่า
แต่พอดีตอนนั้น เราต้องออกไปข้างนอก อาจารย์โทรมาเรียกให้ไปพบด่วนเรื่องโปรเจคของเรา คือก็ต้องไปอ่ะค่ะ ก็ออกไปข้างนอกประมาณสองชั่วโมง
กลับเข้ามาอุกิ๊วเค้าก็ไม่เห็นออกลูกมาอีก แต่เค้าหอบหายใจแรง ลิ้นห้อยค่ะ
อาการนี้ เราก็เสริชหาในเน็ต เค้าก็ว่าลูกแมวยังออกไม่หมดรึเปล่า ลูกแมวจะออกห่างกันไม่เกินชั่วโมงหรือครึ่งชั่วโมง แต่ปล่อยไว้ได้ สามสี่ชั่วโมง รอดูไปก่อน
คือในเน็ตเค้าว่าก่อนแม่แมวจะออกลูก จะมีอาการหอบอย่างนี้ค่ะ
และไปอ่านเจอคอมเม้นนึง เค้ามาเล่าว่า เปอร์เซียคลอดลูกตอนบ่ายสาม และคลอดอีกตัวตอนตีสาม เราก็เลยว่าเอ๊ออาจจะไม่เป็นไร กิ๊วอาจรวบรวมพลังลมปราณอยู่
กิ๊วเค้าก็นั่งหอบลิ้นห้อยเป็นพักๆ ตั้งแต่บ่ายสามถึงสามทุ่ม จนเพื่อนเรามาดูลูกแมวค่ะ เพื่อนเราก็บอกว่า นี่มันไม่ปกติแล้วนะ ผิดปกติแล้ว
ตอนนั้นเราเลยหาเบอร์คลินิคค่ะ คือปกติเราจะไปโรงพยาบาลสัตว์คลองหลวง ที่อยู่ไม่ห่างหอเราค่ะ แต่จะราคาแพง ละช่วงนี้เราช็อต ตังค์มีไม่มาก เลยลองหาที่อื่น แถวๆ รังสิตดูก่อน
ก็ได้โทรไปถามหลายที่ เค้าก็จะบอกว่าอาการแบบนี้ต้องผ่าเอาลูกแมวออกแล้วล่ะ
เรื่องราคาก็เกือบหมื่น หรือหลายหมื่นนะคะ พอเราถามว่าถ้าเงินไม่พอทำไง มีอยู่ที่นึงเค้าก็ว่าให้เราลองไปหาที่อื่นดู
จะเข้าเมืองไปโรงพยาบาลสัตว์ในเมืองที่เป็นแบบเปิด 24 ชั่วโมงเลย คืนนั้นก็มีเคอร์ฟิวกัน
หาไปเรื่อยๆ ก็ได้เจอเบอร์คลินิคสัตว์สะพานแดงค่ะ เป็นเบอร์ของคุณหมออุรส เจ้าของคลินิคเองเลย
เราก็เล่าอาการให้หมอฟังนะคะ ว่ากิ๊วออกลูกมาแล้วตัวนึง ตั้งแต่บ่ายสามจนถึงสามทุ่มตอนนี้ยังมีอาการหอบอยู่เป็นพักๆ และเหมือนเค้าไม่สบายตัวเลย เวลาเราจับท้อง ก็เหมือนเค้าจะเจ็บ ประมาณนี้ หมอก็ให้คำแนะนำดีมากค่ะ
แล้วบอกเราว่าถ้ายังไง ถ้าแม่แมวยังไม่ออกลูกต่อ พรุ่งนี้ตอนเจ็ดโมงเช้าให้โทรมานัดผ่าตัดค่ะ เพราะคงต้องผ่าท้องอุกิ๊วเอาลูกแมวออกมา
คืนนั้นเราก็นั่งเฝ้าอุกิ๊วค่ะ อุกิ๊วก็มีอาการหอบหายใจแรง ลิ้นห้อยเป็นพักๆ อยู่ทั้งคืน
ไม่ค่อยเข้าหาลูก ยังไม่ยอมให้ลูกดูดนมนานๆ เราก็ว่าเพราะกิ๊วเจ็บตัวอยู่รึเปล่า
เวลาเราจับที่ท้อง ก็จะทำตาพริ้มพร้อมครางเบาๆ เหมือนจะบอกว่าเก๊าเจ็บนะ
เราคลำท้องเค้าเบาๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าจะเจอลูกแมวอยู่อีกสามตัว
คืนนั้นเราโคตรรู้สึกผิดเลย ว่าทำไมชะล่าใจ ไม่ขยับตัวพากิ๊วไปหาหมอเร็วกว่านี้
และก็คิดไปถึงว่าลูกแมวจะไม่รอดและจะไปทำบุญให้ลูกแมวแล้วค่ะ
ตอนเจ็ดโมงเช้าเราเลยรีบโทรนัดคุณหมอ ก็ได้นัดตอนสิบโมงเช้าค่ะ
ช้าไปเกือบสิบห้านาที เพราะเรากับพี่แท็กซี่มัวแต่วนหาคลีนิคหมออยู่ค่ะ
คลีนิคอยู่แค่ปากซอย แต่เราเข้าซอยไปเกือบสุด
โทรไปถามทางหมอ ก็ได้คำตอบที่ดีมาก ให้น้องผู้ช่วยมายืนรอหน้าร้านให้ค่ะ
พอเปิดประตูแท็กซี่ออกปุ๊ป น้องผู้ช่วยก็รีบยื่นมือมารับตะกร้าใส่แมวจากเราไป
พาเดินไปหาหมอข้างใน เอาแมวออกจากตะกร้า
หมอจับท้องดู แป๊ปเดียว ก็บอกเราว่า ลูกในท้องอุกิ๊วไม่มีแล้ว ที่ท้องยังป่องอยู่อ่ะเพราะอ้วนน
นางอ้วนนนนนนค่ะ ไม่ได้มีลูกค้างในท้อง



เราก็ฮะ แน่ใจนะคะ ช่วยจับคลำดูอีกที สรุปขอให้หมอคลำท้องไปสามครั้งค่ะ
ร่ำๆ จะขอให้อัลตร้าซาวน์ท้องดู จะได้มั่นใจชัวร์ๆ แต่หมอบอกว่า มือหมอมั่นใจได้กว่าเครื่องอีกค่ะ
นาทีนั้นไม่รู้จะร้องไห้เพราะดีใจที่อุกิ๊วกับลูกไม่เป็นอะไร ไม่ต้องโดนผ่าท้อง หรือจะหัวเราะกับความแอ่นแอ๊นของนางดี
หมอบอกว่าเหตุที่หอบทั้งคืน คงเพราะออกลูกเหนื่อยอยู่ (พอเจอหมอปุ๊ป กลับมา นางหายหอบปลิดทิ้งเลยค่ะ)
ส่วนที่ไม่ค่อยยอมให้ลูกดูดนม คงเพราะนางเป็นแม่แมวที่ไม่ค่อยหวงลูก หมอบอกดูจากท่าทางที่พามาหาหมอแล้ว ไม่ค่อยกังวลอะไรเท่าไหร่ (เป็นแมวแอ่นแอ๊นจิงๆ ยัยอุกิ๊วววว)
อ้อ และเราก็บอกหมอต่อว่า เมื่อคืนหลังออกลูกตัวแรก อุกิ๊วกินเยอะมาก กินปลาทูไป 1 ตัว ตับปิ้งหนึ่งไม้ อาหารเปียกสามซองและอาหารเม็ดอีกนิดหน่อย
หมอบอก งั้นโล่งใจได้เลย เพราะเวลาแมวจะออกลูก ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการออกลูกหรอก ถ้ากินได้อย่างนี้หายห่วงได้ เป็นแมวที่เอนจอยกับการกินน่ะดีแล้ว
เง้ออออออ ยัยอ้วนนนนนนอุกิ๊ว
อ้อ และเรามารู้ทีหลังว่า จริงๆ แล้วคลีนิคคุณหมอเปิดตอนเย็นนะคะ แต่ที่นัดเราสิบโมงนี่เปิดบ้านให้อุกิ๊วเป็นกรณีพิเศษเลย กลัวจะเป็นอันตราย พอตรวจท้องอึกิ๊วเสร็จ ก็ปิดไฟแยกย้ายกันกลับค่ะ
เราขอขอบคุณคุณหมอจริงๆ ค่ะ ทั้งให้คำแนะนำอย่างดี รักษาอย่างดี ราคาไม่แพงด้วยนะคะ (วันนั้นเราถามค่าผ่าตัดกับคุณหมอ หมอบอกว่าสองพันกว่าบาทค่ะ // แต่เราโทรถามที่อื่นเค้าเป็นหมื่นนะคะ) ขอบคุณคุณหมอกับน้องผู้ช่วยมากจริงๆ ค่ะ
และนี่ค่ะ คือโฉมหน้าตัวการแมวแอ่นแอ๊น ยัยอุกิ๊ว (ที่พอไปหาหมอปุ๊ป อาการต่างๆ หายปั้ปเรียบร้อยเลยค่ะ

)
อันนี้อุกิ๊วกับออกัส ที่เลี้ยงคู่กัน อยู่ด้วยกันตลอดค่ะ (เห็นม้าา สีขาวล้วน ละลูกที่ออกมาจะมีจุดสีดำได้ไง ยกเว้นฝีมือพี่เบิ้ม อิอิ)
ส่วนนี่ พี่เบิ้มเค้าล่ะค่ะ
***อันนี้เจ้าตัวเล็กค่ะ ลูกโทนเลย ว่าจะให้ชื่อโชคดีค่ะ
ถึงกล่องจะเล็กไปหน่อย เก๊านอนเอาใจช่วยอยู่ข้างนอกก็ได้ กิ๊วสู้ๆ น๊า
(ออกัส คงงงๆ เอ๊ะ เก๊ายังมะได้ทำไรเลย มีกัสน้อยได้ไงหว่า 555)
สุดท้ายขอลาไปด้วยภาพนี้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
เมื่ออุกิ๊ว ได้เป็นจุนแม่แมวมือใหม่ =>_<=
วันนี้เราขอแชร์ประสบการณ์ของแม่แมวมือใหม่ คุนนายอุกิ๊วเค้านะคะ
อุกิ๊วเป็นแมวเปอร์เซีย สีขาว อายุสิบเดือนค่ะ
ซึ่งเราต้องขอสารภาพตามตรงก่อนนะคะ ว่าเมื่อสองเดือนก่อนจนถึงวันที่อุกิ๊วคลอด
เรายังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ว่าอุกิ๊วเค้าท้อง คือก็สังเกตเห็นว่าอ้วนขึ้น ท้องป่องมากขึ้น แต่ก็คิดว่าเค้ากินเก่งเลยอ้วนขึ้นเฉยๆ
ไม่ได้คิดว่าท้องค่ะ เพราะเราก็เลี้ยงแมวอีกตัวนึง ให้เค้าอยู่เป็นเพื่อนกัน เป็นตัวผู้ค่ะ ชื่อออกัส อายุเท่ากัน
แต่คือ ที่ผ่านมาก็มีบ้างที่ออกัสกับอุกิ๊วเค้าฮีท แต่เค้าทำไม่เป็นอ่ะค่ะ เลยทำไม่เคยสำเร็จเลย
ฮีทแป๊ปๆ สักสองอาทิตย์ก็กลับมาเล่นกันเหมือนเดิม
(เค้าทำกันไม่สำเร็จจิงๆ ค่ะ มือใหม่ทั้งคู่ 555 ยึกยักกันอยู่ที่ข้างหลังตลอด มะเคยตรงเป้าหมายเลยค่ะ 555)
เราก็เลยไม่คิดว่าอุกิ๊วจะท้องได้
แต่สุดท้าย ก็มีตัวแปรเข้ามาจนได้ค่ะ เป็นแมวจรแถวหอ ที่ชอบเปิดประตูหลังห้อง เข้ามากินข้าวห้องเราบ่อยๆ
เราเรียกเค้าว่าพี่เบิ้มค่ะ เพราะเค้าตัวใหญ่ พี่เบิ้มนางเฟรนลี่มากค่ะ หอที่เราอยู่มีกันเกือบพันห้อง
นางก็รู้จักเค้าไปทั่ว ห้องไหนเปิดให้เข้าได้ นางก็เข้าไปนอนกลิ้งกะเค้าเลย
ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเลยค่ะ
แหม๊ ให้กัสกะกิ๊วอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน สุดท้ายโดนไอ่พี่เบิ้มมาตีท้ายครัวเฉยเลย เจ้าเล่ห์จริงๆ 555
และที่เรารู้ว่าเป็นลูกพี่เบิ้ม เพราะที่หัวน้องแมวมีจุดสีดำเล็กๆ อยู่หนึ่งจุดค่ะ
แต่กัสและกิ๊วสีขาวล้วน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ยคะ ที่จะมีสีดำโผล่มาได้ เพราะฉะนั้นฝีมือไอ่พี่เบิ้มแน่นอนค่ะ
-----------------------------------------------------
กลับเข้าเรื่องอุกิ๊วต่อนะคะ คืออุกิ๊วเค้าก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรของแมวท้องด้วยอ่ะค่ะ
ไม่หากล่องออกลูก กินๆ นอนๆ ทั้งวันก็เป็นปกติของนาง หรือเล่นโลดโผนกับออกัสก็เหมือนเดิม
จนก่อนวันที่เค้าจะออกลูกวันนึง ที่มาซุกในผ้าห่มกับเราค่ะ
ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องที่แปลกมากกก เพราะปกติเลยนางจะเชิดๆ ทั้งสองแมว นางจะสุงสิงกันเอง
ไม่ค่อยเข้าหาเราหรอกค่ะ เราต้องคืบคลานเข้าหาพวกนางเอง
อ้อนสุดคือตอนหิวที่จะเอาเท้ามาย่ำๆ เรา ประมาณว่าไปเทข้าวให้เก๊าหน่อยจิ เร็วด้วยนะ หิวแล้ว
แต่คืนนั้นที่มาซุกผ้าห่มกับเรา ก็โอเคอาจจะหนาวหรืออาจค้นพบว่าที่นอนตรงนี้สบายก็เป็นได้
เช้ามาก็ปกติค่ะ ไม่มีอาการอะไรทั้งสิ้น (เพราะปกติเค้าก็ไม่ค่อยขยับตัวอยู่แล้ว)
อ้อ แต่มีอาการหอบค่ะ ลิ้นห้อยเลย เราก็ว่าเค้าร้อน เพราะตอนกลางวันจะร้อนมาก ก็เปิดแอร์ให้
พอประมาณบ่ายโมง เราก็แกะปลาให้เค้ากินค่ะ ก็กิน กิน กิน ไปได้ซักพัก
อุกิ๊วก็มีน้ำสีคล้ำๆ ไหลออกมาค่ะ ทั้งๆ ที่กินปลาอยู่เลยค่ะ (พร้อมอึ๊นางด้วยอ่ะ) คงเป็นน้ำคร่ำนะคะ
เราก็ เอร้ยยย กิ๊วเป็นไร กัสที่ก้มหน้ากินปลาอยู่ ก็ละจากจานมาเลียให้อุกิ๊ว
พอเราหันไปหยิบทิชชู่จะมาเช็ดแว๊บเดียว ก็เห็นเท้าลูกแมวออกมาแล้วค่ะ
นาทีนั้น อร๊ากกก ทำไงดี ไม่รู้ว่าแมวตัวเองท้อง เลยไม่ได้หาข้อมูลอะไรไว้ก่อนเลย
เห็นสายสะดือยังคากับพุงลูกแมว ห้อยมากับก้อนที่เหมือนตับ เราก็เอ้ยย จะเป็นไรมั้ยนะ
ทั้งตื่นเต้น ทั้งปลื้มปริ้มดีใจ ตกใจด้วยอีกอย่าง
แต่เรากดโทรศัพท์หาตาเราค่ะ เพราะที่บ้านก็เลี้ยงแมว เลยโทรไปถามตาบวกเปิดดูจากเน็ตด้วย
(เราไม่เคยเห็นแมวคลอดลูกมาก่อนง่ะ) ก็ได้ความว่า ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวแม่แมวเค้าจัดการเองได้
ไอ้ก้อนที่เหมือนตับอ่ะ คือรกแมว แม่แมวเค้าจะกินเข้าไปเพื่อเป็นยาสำหรับตัวเอง แต่ถ้าเค้าไม่กิน ก็ให้เก็บไว้ค่ะ เป็นของให้โชคดี ตาเราบอกมาอย่างนี้นะคะ
พอกิ๊วเค้าเลียลูกกับกินรกเสร็จแล้ว เห็นลูกแมวตัวแดงๆ ละ
เราก็รีบหากล่องที่พอหาได้ตอนนั้นมาให้อุกิ๊วเค้าอยู่กะลูกค่ะ ก็จับอุกิ๊วกับลูกเค้าเข้ากล่อง (ลูกแมวตัวลื่นนะคะ เราเลยใช้ผ้าสะอาดช่วยจับ)
แล้วก็นั่งรอว่าจะออกมาอีกตัว หรืออีกหลายตัวอ้ะเปล่า
แต่พอดีตอนนั้น เราต้องออกไปข้างนอก อาจารย์โทรมาเรียกให้ไปพบด่วนเรื่องโปรเจคของเรา คือก็ต้องไปอ่ะค่ะ ก็ออกไปข้างนอกประมาณสองชั่วโมง
กลับเข้ามาอุกิ๊วเค้าก็ไม่เห็นออกลูกมาอีก แต่เค้าหอบหายใจแรง ลิ้นห้อยค่ะ
อาการนี้ เราก็เสริชหาในเน็ต เค้าก็ว่าลูกแมวยังออกไม่หมดรึเปล่า ลูกแมวจะออกห่างกันไม่เกินชั่วโมงหรือครึ่งชั่วโมง แต่ปล่อยไว้ได้ สามสี่ชั่วโมง รอดูไปก่อน
คือในเน็ตเค้าว่าก่อนแม่แมวจะออกลูก จะมีอาการหอบอย่างนี้ค่ะ
และไปอ่านเจอคอมเม้นนึง เค้ามาเล่าว่า เปอร์เซียคลอดลูกตอนบ่ายสาม และคลอดอีกตัวตอนตีสาม เราก็เลยว่าเอ๊ออาจจะไม่เป็นไร กิ๊วอาจรวบรวมพลังลมปราณอยู่
กิ๊วเค้าก็นั่งหอบลิ้นห้อยเป็นพักๆ ตั้งแต่บ่ายสามถึงสามทุ่ม จนเพื่อนเรามาดูลูกแมวค่ะ เพื่อนเราก็บอกว่า นี่มันไม่ปกติแล้วนะ ผิดปกติแล้ว
ตอนนั้นเราเลยหาเบอร์คลินิคค่ะ คือปกติเราจะไปโรงพยาบาลสัตว์คลองหลวง ที่อยู่ไม่ห่างหอเราค่ะ แต่จะราคาแพง ละช่วงนี้เราช็อต ตังค์มีไม่มาก เลยลองหาที่อื่น แถวๆ รังสิตดูก่อน
ก็ได้โทรไปถามหลายที่ เค้าก็จะบอกว่าอาการแบบนี้ต้องผ่าเอาลูกแมวออกแล้วล่ะ
เรื่องราคาก็เกือบหมื่น หรือหลายหมื่นนะคะ พอเราถามว่าถ้าเงินไม่พอทำไง มีอยู่ที่นึงเค้าก็ว่าให้เราลองไปหาที่อื่นดู
จะเข้าเมืองไปโรงพยาบาลสัตว์ในเมืองที่เป็นแบบเปิด 24 ชั่วโมงเลย คืนนั้นก็มีเคอร์ฟิวกัน
หาไปเรื่อยๆ ก็ได้เจอเบอร์คลินิคสัตว์สะพานแดงค่ะ เป็นเบอร์ของคุณหมออุรส เจ้าของคลินิคเองเลย
เราก็เล่าอาการให้หมอฟังนะคะ ว่ากิ๊วออกลูกมาแล้วตัวนึง ตั้งแต่บ่ายสามจนถึงสามทุ่มตอนนี้ยังมีอาการหอบอยู่เป็นพักๆ และเหมือนเค้าไม่สบายตัวเลย เวลาเราจับท้อง ก็เหมือนเค้าจะเจ็บ ประมาณนี้ หมอก็ให้คำแนะนำดีมากค่ะ
แล้วบอกเราว่าถ้ายังไง ถ้าแม่แมวยังไม่ออกลูกต่อ พรุ่งนี้ตอนเจ็ดโมงเช้าให้โทรมานัดผ่าตัดค่ะ เพราะคงต้องผ่าท้องอุกิ๊วเอาลูกแมวออกมา
คืนนั้นเราก็นั่งเฝ้าอุกิ๊วค่ะ อุกิ๊วก็มีอาการหอบหายใจแรง ลิ้นห้อยเป็นพักๆ อยู่ทั้งคืน
ไม่ค่อยเข้าหาลูก ยังไม่ยอมให้ลูกดูดนมนานๆ เราก็ว่าเพราะกิ๊วเจ็บตัวอยู่รึเปล่า
เวลาเราจับที่ท้อง ก็จะทำตาพริ้มพร้อมครางเบาๆ เหมือนจะบอกว่าเก๊าเจ็บนะ
เราคลำท้องเค้าเบาๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าจะเจอลูกแมวอยู่อีกสามตัว
คืนนั้นเราโคตรรู้สึกผิดเลย ว่าทำไมชะล่าใจ ไม่ขยับตัวพากิ๊วไปหาหมอเร็วกว่านี้
และก็คิดไปถึงว่าลูกแมวจะไม่รอดและจะไปทำบุญให้ลูกแมวแล้วค่ะ
ตอนเจ็ดโมงเช้าเราเลยรีบโทรนัดคุณหมอ ก็ได้นัดตอนสิบโมงเช้าค่ะ
ช้าไปเกือบสิบห้านาที เพราะเรากับพี่แท็กซี่มัวแต่วนหาคลีนิคหมออยู่ค่ะ
คลีนิคอยู่แค่ปากซอย แต่เราเข้าซอยไปเกือบสุด
โทรไปถามทางหมอ ก็ได้คำตอบที่ดีมาก ให้น้องผู้ช่วยมายืนรอหน้าร้านให้ค่ะ
พอเปิดประตูแท็กซี่ออกปุ๊ป น้องผู้ช่วยก็รีบยื่นมือมารับตะกร้าใส่แมวจากเราไป
พาเดินไปหาหมอข้างใน เอาแมวออกจากตะกร้า
หมอจับท้องดู แป๊ปเดียว ก็บอกเราว่า ลูกในท้องอุกิ๊วไม่มีแล้ว ที่ท้องยังป่องอยู่อ่ะเพราะอ้วนน
นางอ้วนนนนนนค่ะ ไม่ได้มีลูกค้างในท้อง
เราก็ฮะ แน่ใจนะคะ ช่วยจับคลำดูอีกที สรุปขอให้หมอคลำท้องไปสามครั้งค่ะ
ร่ำๆ จะขอให้อัลตร้าซาวน์ท้องดู จะได้มั่นใจชัวร์ๆ แต่หมอบอกว่า มือหมอมั่นใจได้กว่าเครื่องอีกค่ะ
นาทีนั้นไม่รู้จะร้องไห้เพราะดีใจที่อุกิ๊วกับลูกไม่เป็นอะไร ไม่ต้องโดนผ่าท้อง หรือจะหัวเราะกับความแอ่นแอ๊นของนางดี
หมอบอกว่าเหตุที่หอบทั้งคืน คงเพราะออกลูกเหนื่อยอยู่ (พอเจอหมอปุ๊ป กลับมา นางหายหอบปลิดทิ้งเลยค่ะ)
ส่วนที่ไม่ค่อยยอมให้ลูกดูดนม คงเพราะนางเป็นแม่แมวที่ไม่ค่อยหวงลูก หมอบอกดูจากท่าทางที่พามาหาหมอแล้ว ไม่ค่อยกังวลอะไรเท่าไหร่ (เป็นแมวแอ่นแอ๊นจิงๆ ยัยอุกิ๊วววว)
อ้อ และเราก็บอกหมอต่อว่า เมื่อคืนหลังออกลูกตัวแรก อุกิ๊วกินเยอะมาก กินปลาทูไป 1 ตัว ตับปิ้งหนึ่งไม้ อาหารเปียกสามซองและอาหารเม็ดอีกนิดหน่อย
หมอบอก งั้นโล่งใจได้เลย เพราะเวลาแมวจะออกลูก ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการออกลูกหรอก ถ้ากินได้อย่างนี้หายห่วงได้ เป็นแมวที่เอนจอยกับการกินน่ะดีแล้ว
เง้ออออออ ยัยอ้วนนนนนนอุกิ๊ว
อ้อ และเรามารู้ทีหลังว่า จริงๆ แล้วคลีนิคคุณหมอเปิดตอนเย็นนะคะ แต่ที่นัดเราสิบโมงนี่เปิดบ้านให้อุกิ๊วเป็นกรณีพิเศษเลย กลัวจะเป็นอันตราย พอตรวจท้องอึกิ๊วเสร็จ ก็ปิดไฟแยกย้ายกันกลับค่ะ
เราขอขอบคุณคุณหมอจริงๆ ค่ะ ทั้งให้คำแนะนำอย่างดี รักษาอย่างดี ราคาไม่แพงด้วยนะคะ (วันนั้นเราถามค่าผ่าตัดกับคุณหมอ หมอบอกว่าสองพันกว่าบาทค่ะ // แต่เราโทรถามที่อื่นเค้าเป็นหมื่นนะคะ) ขอบคุณคุณหมอกับน้องผู้ช่วยมากจริงๆ ค่ะ
และนี่ค่ะ คือโฉมหน้าตัวการแมวแอ่นแอ๊น ยัยอุกิ๊ว (ที่พอไปหาหมอปุ๊ป อาการต่างๆ หายปั้ปเรียบร้อยเลยค่ะ
อันนี้อุกิ๊วกับออกัส ที่เลี้ยงคู่กัน อยู่ด้วยกันตลอดค่ะ (เห็นม้าา สีขาวล้วน ละลูกที่ออกมาจะมีจุดสีดำได้ไง ยกเว้นฝีมือพี่เบิ้ม อิอิ)
ส่วนนี่ พี่เบิ้มเค้าล่ะค่ะ
***อันนี้เจ้าตัวเล็กค่ะ ลูกโทนเลย ว่าจะให้ชื่อโชคดีค่ะ
ถึงกล่องจะเล็กไปหน่อย เก๊านอนเอาใจช่วยอยู่ข้างนอกก็ได้ กิ๊วสู้ๆ น๊า
(ออกัส คงงงๆ เอ๊ะ เก๊ายังมะได้ทำไรเลย มีกัสน้อยได้ไงหว่า 555)
สุดท้ายขอลาไปด้วยภาพนี้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ