ออกตัวก่อนว่ารีวิวนี้เอนเอียงแน่นอน เพราะ จขกท นอกจากจะเป็นแฟน NFL แล้ว ยังติดตาม Draft Day ของจริงต่อเนื่องมาหลายปี ซึ่งไม่ได้ติดตามแค่วัน Draft เท่านั้น แต่ตามข่าวและความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการ draft เป็นเดือน โดยเฉพาะข่าวของทีม Buffalo Bills ที่ผมเชียร์อยู่ ทำให้อินได้ง่ายมากๆ
ภาพยนตร์เรื่อง Draft Day เป็นหนังอเมริกันจ๋า โดยเอาพลอตมาจากการคัดเลือกนักกีฬา (Draft) อเมริกันฟุตบอลเข้าทีมในระดับอาชีพคือ NFL ซึ่งเปรียบเสมือนวันชี้ชะตาของบรรดาเหล่านักกีฬาอเมริกันฟุตบอลว่าจุดเริ่มต้นในอาชีพจะเป็นอย่างไร จะได้ไปอยู่ทีมไหน ได้ค่าจ้างระดับไหน ทำให้วันดราฟท์ตัวนักกีฬาเป็นวันสำคัญมากๆ ของบรรดานักกีฬา รวมถึงทีม เจ้าของทีม ผู้จัดการทีม โค้ช ผู้เล่นในทีม และแฟนๆของแต่ละทีมด้วย ถ้าเทียบกับบ้านเราก็ประมาณวันประกาศผลเอนทรานส์ ผลแอดมิดชั่นเข้ามหาวิทยาลัย แต่สำคัญกว่าประมาณ 10 เท่า เพราะเป็นเรื่องอาชีพและเงินมหาศาลที่สามารถตัดสินอนาคตของคนคนนึงได้เลยทีเดียว
เรื่องราวหนังในพูดถึงช่วงเวลา 12 ชม. ก่อนวันดราฟท์ จนกระทั่งจบวันดราฟท์ในวันแรก (ปัจจุบันวันดราฟท์ใช้เวลา 3 วัน โดยวันแรกเป็นการดราฟท์รอบแรก วันที่สองดราฟ์รอบ 2-3 และวันที่สามดราฟท์รอบ 4-7) โดยโฟกัสไปที่ทีมคลีฟแลนด์ บราวนส์ ซึ่งทั้งของจริงและในเรื่องเป็นทีมที่เก่งในอดีต และปัจจุบันผลงานโหลยโท่ยมา 10 กว่าปีได้ ซึ่งการจะยกระดับทีมได้ก็คือการใช้โอกาสในการดราฟท์ตัวผู้เล่นนี่แหละ เพราะแต่ละปีทุกทีมจะได้รับสิทธิ์การคัดเลือกจำนวน 7 รอบ โดยแต่ละรอบก็คืออันดับ 1-32 ตามจำนวนทีมในลีค ไล่วนกันไปจนครบ 7 รอบ
โดยปกติผู้เล่นรอบแรกจะส่งผล Impact กับทีมค่อนข้างมาก เพราะอาจเปรียบกลายๆได้ว่าเป็น 32 คนที่เก่งที่สุดในระดับหมาวิทยาลัยของประเทศในปีนั้นๆ การได้สิทธิ์ดราฟ์ในลำดับต้นๆ จึงยิ่งมีความสำคัญมากเข้าไปใหญ่ เพราะหมายถึงผู้เล่นระดับ TOP 10 TOP 5 TOP 3 กันเลย ซึ่งสิทธิ์ดราฟท์นี้ถือเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งสามารถแลกกันได้ ที่เรียกว่าการเทรด เช่น สิทธิ์ลำดับหนึ่ง อาจแลกกับสิทธิ์อันดับ 5 บวกผู้เล่นระดับสตาร์ในทีม 1 คน เป็นต้น และในรอบแรกทีมบราวน์ได้ถือสิทธิ์ดราฟท์ในลำดับที่ 7 (ลำดับที่แต่ละทีมได้ จะขึ้นอยู่กับผลงานของปีล่าสุด คือ ทีมที่ผลงานสถิติแพ้ชนะห่วยที่สุดจะได้ดราฟท์ลำดับที่หนึ่ง ไล่ตามลำดับไปเรื่อยๆจนถึงทีมแชมป์จะได้ลำดับที่ 32) ซึ่งพระเอกชื่อ ซันนี่ เป็นผู้จัดการทีมบราวน์ (General Manager) จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทีมได้ผู้เล่นที่ดีดีสุดและคุ้มค่าที่สุดเพื่อมายกระดับทีมให้ได้ทันที
ในเรื่องพระเอกจะต้องใช้ฝีมือในการตัดสินใจอย่างมาก ทั้งการปรึกษากับแมวมองหรือนักวิเคราะห์ผู้เล่นว่าคนไหนเก่ง คนไหนเหมาะกับทีม ใช้ไหวพริบในการโน้มน้าวใจโค้ชให้ยอมรับนักกีฬาที่ตนเองจะเลือกให้ พูดคุยกับนักกีฬาตัวสำคัญของทีมที่อาจจะได้ผลกระทบจากการดราฟท์คนที่เล่นในตำแหน่งเดียวกันเพื่อมาแทนตนเอง และไหนจะต้องทำให้เจ้าของทีมพอใจ
และสิ่งที่ทำให้คนดูลุ้นมากๆ ก็คือไหวพริบในการเจรจาต่อรองกับทีมอื่น การบลัฟทีมอื่นให้เลือกผู้เล่นคนอื่นแทนผู้เล่นที่ตัวเองเล็งไว้ ซึ่งพระเอกตัดสินใจและทำอย่างไร และได้รับผลอย่างไร คงต้องติดตามกันเอาเองในหนังนะครับ
พูดถึงส่วนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องบ้าง ในเรื่องเราจะได้เห็นคนในแวดวง NFL ออกจอกันจริงๆ เยอะมาก ทั้ง โรเจอร์ กูเดลล์ ประธานบริหารลีค เมล ไคเปอร์ จอห์น กรูเดน นักวิเคราะห์นักวิจารณ์ ฯลฯ และคนในวงการที่มีบทบาทเยอะสุดก็เป็นนักกีฬาจริงๆ คือ เอเรียน ฟอสเตอร์ ตัววิ่งระดับหัวแถวของทีมฮูสตัน แท็กซานส์ ซึ่งในเรื่องรับบทเป็นนักกีฬาที่เข้าดราฟท์คนหนึ่ง
สิ่งที่ชอบในหนังมีเยอะมาก เช่น ซีนอารมณ์ของนักกีฬาคนที่ถูกเลือกคนแรก ซีนนี้ผมชอบมากที่สุดในเรื่องเลย การตัดต่อที่กระชับฉับไวทำให้ลุ้นระทึกกับหนังได้สุดๆ หรือการแสดงของพระเอกที่คืนฟอร์มระดับหนึ่ง เพลงประกอบที่เข้ากับหนังได้ดี และที่ขาดไม่ได้ที่แอบให้คะแนนพิเศษคือใส่บทให้ทีม Buffalo Bills ของผมมีเอี่ยวด้วย อิอิ
แถมท้าย ตอนถ่ายทำทีแรกได้วางทีมที่เป็นตัวเดินเรื่องไว้คือทีม Buffalo Bills ของผมนี่แหละ เนื่องจากเป็นทีมในปัจจุบันที่ครองสถิติร้างจากการเข้ารอบเพลย์ออฟนานที่สุด คือ 14 ปี เข้าให้แล้ว แต่ด้วยที่ว่าทีมผมตั้งอยู่ในรัฐนิวยอร์ค แม้จะเป็นชายขอบของนิวยอร์คก็ตาม ทำให้ทีมสร้างต้องเสียภาษีสำหรับการถ่ายทำเยอะมาก เพราะเรตภาษีของรัฐนิวยอร์คค่อนข้างแพง จึงเปลี่ยนเรื่องให้ทีมคลีฟแลนด์ บราวน์สแทน เพราะเมืองคลีฟแลนด์ภาษีน้อยกว่า เลยขอหัก 0.1 คะแนนตรงนี้แหละ อุอุ
สรุปให้ 9.9/10 ด้วยความไม่เป็นกลาง 555+
ปล. เรื่องนี้น่าเสียดายตรงที่เข้าชนกับหนังฟอร์มยักษ์ทั้ง X-Men และ Godzilla ไหนจะพระนเรศวรอีก ทำให้รอบฉายมีน้อย ตจว.ก็มีแค่บางจังหวัด และอาจอยู่โรงไม่นาน จะดูก็ต้องรีบดูหน่อยนะครับ
[CR] Draft Day วันชี้ชะตาแห่งชาติ
ภาพยนตร์เรื่อง Draft Day เป็นหนังอเมริกันจ๋า โดยเอาพลอตมาจากการคัดเลือกนักกีฬา (Draft) อเมริกันฟุตบอลเข้าทีมในระดับอาชีพคือ NFL ซึ่งเปรียบเสมือนวันชี้ชะตาของบรรดาเหล่านักกีฬาอเมริกันฟุตบอลว่าจุดเริ่มต้นในอาชีพจะเป็นอย่างไร จะได้ไปอยู่ทีมไหน ได้ค่าจ้างระดับไหน ทำให้วันดราฟท์ตัวนักกีฬาเป็นวันสำคัญมากๆ ของบรรดานักกีฬา รวมถึงทีม เจ้าของทีม ผู้จัดการทีม โค้ช ผู้เล่นในทีม และแฟนๆของแต่ละทีมด้วย ถ้าเทียบกับบ้านเราก็ประมาณวันประกาศผลเอนทรานส์ ผลแอดมิดชั่นเข้ามหาวิทยาลัย แต่สำคัญกว่าประมาณ 10 เท่า เพราะเป็นเรื่องอาชีพและเงินมหาศาลที่สามารถตัดสินอนาคตของคนคนนึงได้เลยทีเดียว
เรื่องราวหนังในพูดถึงช่วงเวลา 12 ชม. ก่อนวันดราฟท์ จนกระทั่งจบวันดราฟท์ในวันแรก (ปัจจุบันวันดราฟท์ใช้เวลา 3 วัน โดยวันแรกเป็นการดราฟท์รอบแรก วันที่สองดราฟ์รอบ 2-3 และวันที่สามดราฟท์รอบ 4-7) โดยโฟกัสไปที่ทีมคลีฟแลนด์ บราวนส์ ซึ่งทั้งของจริงและในเรื่องเป็นทีมที่เก่งในอดีต และปัจจุบันผลงานโหลยโท่ยมา 10 กว่าปีได้ ซึ่งการจะยกระดับทีมได้ก็คือการใช้โอกาสในการดราฟท์ตัวผู้เล่นนี่แหละ เพราะแต่ละปีทุกทีมจะได้รับสิทธิ์การคัดเลือกจำนวน 7 รอบ โดยแต่ละรอบก็คืออันดับ 1-32 ตามจำนวนทีมในลีค ไล่วนกันไปจนครบ 7 รอบ
โดยปกติผู้เล่นรอบแรกจะส่งผล Impact กับทีมค่อนข้างมาก เพราะอาจเปรียบกลายๆได้ว่าเป็น 32 คนที่เก่งที่สุดในระดับหมาวิทยาลัยของประเทศในปีนั้นๆ การได้สิทธิ์ดราฟ์ในลำดับต้นๆ จึงยิ่งมีความสำคัญมากเข้าไปใหญ่ เพราะหมายถึงผู้เล่นระดับ TOP 10 TOP 5 TOP 3 กันเลย ซึ่งสิทธิ์ดราฟท์นี้ถือเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งสามารถแลกกันได้ ที่เรียกว่าการเทรด เช่น สิทธิ์ลำดับหนึ่ง อาจแลกกับสิทธิ์อันดับ 5 บวกผู้เล่นระดับสตาร์ในทีม 1 คน เป็นต้น และในรอบแรกทีมบราวน์ได้ถือสิทธิ์ดราฟท์ในลำดับที่ 7 (ลำดับที่แต่ละทีมได้ จะขึ้นอยู่กับผลงานของปีล่าสุด คือ ทีมที่ผลงานสถิติแพ้ชนะห่วยที่สุดจะได้ดราฟท์ลำดับที่หนึ่ง ไล่ตามลำดับไปเรื่อยๆจนถึงทีมแชมป์จะได้ลำดับที่ 32) ซึ่งพระเอกชื่อ ซันนี่ เป็นผู้จัดการทีมบราวน์ (General Manager) จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทีมได้ผู้เล่นที่ดีดีสุดและคุ้มค่าที่สุดเพื่อมายกระดับทีมให้ได้ทันที
ในเรื่องพระเอกจะต้องใช้ฝีมือในการตัดสินใจอย่างมาก ทั้งการปรึกษากับแมวมองหรือนักวิเคราะห์ผู้เล่นว่าคนไหนเก่ง คนไหนเหมาะกับทีม ใช้ไหวพริบในการโน้มน้าวใจโค้ชให้ยอมรับนักกีฬาที่ตนเองจะเลือกให้ พูดคุยกับนักกีฬาตัวสำคัญของทีมที่อาจจะได้ผลกระทบจากการดราฟท์คนที่เล่นในตำแหน่งเดียวกันเพื่อมาแทนตนเอง และไหนจะต้องทำให้เจ้าของทีมพอใจ
และสิ่งที่ทำให้คนดูลุ้นมากๆ ก็คือไหวพริบในการเจรจาต่อรองกับทีมอื่น การบลัฟทีมอื่นให้เลือกผู้เล่นคนอื่นแทนผู้เล่นที่ตัวเองเล็งไว้ ซึ่งพระเอกตัดสินใจและทำอย่างไร และได้รับผลอย่างไร คงต้องติดตามกันเอาเองในหนังนะครับ
พูดถึงส่วนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องบ้าง ในเรื่องเราจะได้เห็นคนในแวดวง NFL ออกจอกันจริงๆ เยอะมาก ทั้ง โรเจอร์ กูเดลล์ ประธานบริหารลีค เมล ไคเปอร์ จอห์น กรูเดน นักวิเคราะห์นักวิจารณ์ ฯลฯ และคนในวงการที่มีบทบาทเยอะสุดก็เป็นนักกีฬาจริงๆ คือ เอเรียน ฟอสเตอร์ ตัววิ่งระดับหัวแถวของทีมฮูสตัน แท็กซานส์ ซึ่งในเรื่องรับบทเป็นนักกีฬาที่เข้าดราฟท์คนหนึ่ง
สิ่งที่ชอบในหนังมีเยอะมาก เช่น ซีนอารมณ์ของนักกีฬาคนที่ถูกเลือกคนแรก ซีนนี้ผมชอบมากที่สุดในเรื่องเลย การตัดต่อที่กระชับฉับไวทำให้ลุ้นระทึกกับหนังได้สุดๆ หรือการแสดงของพระเอกที่คืนฟอร์มระดับหนึ่ง เพลงประกอบที่เข้ากับหนังได้ดี และที่ขาดไม่ได้ที่แอบให้คะแนนพิเศษคือใส่บทให้ทีม Buffalo Bills ของผมมีเอี่ยวด้วย อิอิ
แถมท้าย ตอนถ่ายทำทีแรกได้วางทีมที่เป็นตัวเดินเรื่องไว้คือทีม Buffalo Bills ของผมนี่แหละ เนื่องจากเป็นทีมในปัจจุบันที่ครองสถิติร้างจากการเข้ารอบเพลย์ออฟนานที่สุด คือ 14 ปี เข้าให้แล้ว แต่ด้วยที่ว่าทีมผมตั้งอยู่ในรัฐนิวยอร์ค แม้จะเป็นชายขอบของนิวยอร์คก็ตาม ทำให้ทีมสร้างต้องเสียภาษีสำหรับการถ่ายทำเยอะมาก เพราะเรตภาษีของรัฐนิวยอร์คค่อนข้างแพง จึงเปลี่ยนเรื่องให้ทีมคลีฟแลนด์ บราวน์สแทน เพราะเมืองคลีฟแลนด์ภาษีน้อยกว่า เลยขอหัก 0.1 คะแนนตรงนี้แหละ อุอุ
สรุปให้ 9.9/10 ด้วยความไม่เป็นกลาง 555+
ปล. เรื่องนี้น่าเสียดายตรงที่เข้าชนกับหนังฟอร์มยักษ์ทั้ง X-Men และ Godzilla ไหนจะพระนเรศวรอีก ทำให้รอบฉายมีน้อย ตจว.ก็มีแค่บางจังหวัด และอาจอยู่โรงไม่นาน จะดูก็ต้องรีบดูหน่อยนะครับ