(อดีต)นายกฯยิ่งลักษณ์มองบทเรียนอดีต ชี้ปฎิวัติไม่ใช่ทางออกประเทศ




นายกรัฐมนตรีเชื่อการปฎิวัติรัฐประหารไม่ใช่ทางออกของประเทศ โดยรัฐบาลจะรักษาความสงบไม่ให้เกิดความรุนแรงกับประชาชน ขณะเดียวกันจะไม่ยอมให้ใครมาแยกดินแดนประเทศไทย และจะดูแลความยุติธรรมให้กับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนการช่วยเหลือค้นหาเครื่องบินมาเลเซียรวมถึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเกี่ยวกับหนังสือเดินทางที่ถูกขโมยไปแล้ว

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Christiane Amanpour จากสถานีโทรทัศน์ CNN ในประเด็นที่อยู่ในความสนใจ ได้แก่ การเมืองไทย สถานการณ์การชุมนุม สถานการณ์เศรษฐกิจ และกรณีการปลอมแปลงหนังสือเดินทางกรณีเครื่องบินสายการบิน Malaysia Airline สูญหาย ดังนี้

Amanpour : Let me start by asking you about the investigation into the crash of the Malaysia airline flight. The passport were stolen in Thailand, Do you know whether the people using those passports were Thai nationals? ( จากกรณีที่สายการบินมาเลเซียตก และมีหนังสือเดินทางถูกขโมยไปนั้น นรม.ทราบหรือไม่ว่าคนที่ใช้หนังสือเดินทางดังกล่าวมีสัญชาติไทยหรือไม่? )

PM Yingluck :เบื้องต้น สัญชาติเรายังไม่ทราบ แต่เราได้สั่งการกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนเกี่ยวกับพาสปอร์ตแล้ว เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประเทศไทยให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือกับตำรวจสากลเพื่อที่จะตรวจสอบการใช้พาสปอร์ตให้ถูกต้อง ขณะนี้กำลังติดตามอยู่ ขณะเดียวกันก็ได้มีการส่งกำลัง ทางด้านเจ้าหน้าที่ทางอากาศและทหารเรือเข้าไปช่วยเหลือในการค้นหาผู้ที่สูญหาย ร่วมกับทางรัฐบาลมาเลเซีย

Amanpour : Have, from your side, your air force been able to detect anything in this search from the debris? (เจ้าหน้าที่ไทยได้มีการค้นพบอะไรหรือไม่ จากการเข้าไปร่วมช่วยค้นหาเครื่องบิน)

PM Yingluck : ตอนนี้ยังไม่ได้ค้นพบ เพราะว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ทางด้านทหาร เพิ่งจะเดินทางไปเมื่อคืน จากการร้องขอของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเรือและทหารอากาศเข้าไปเมื่อคืน ก็คงต้องรอการติดต่อกลับมา เพราะว่าในส่วนของมาเลเซียเองได้มีการแบ่งพื้นที่โซนน่านน้ำที่จะให้ไทยช่วยค้นหา อย่างไรก็ตามถ้ามีความคืบหน้าก็คงจะมีการรายงานอีกครั้งหนึ่ง

Amanpour: Obviously the military had a shared of coup, you worried that the military could intervene? (ความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีการปฎิวัติรัฐประหารของทหาร)

PM Yingluck:ในส่วนการปฎิวัติรัฐประหารในอดีตที่ผ่านมานั้น เป็นบทเรียนที่เพียงพอให้กับทุกคนว่าการปฎิวัติรัฐประหารไม่ได้ทำให้ปัญหาในประเทศไทยคลี่คลายลงได้ กลับเป็นผลที่จะซ้ำเติมประเทศไทยได้ ดิฉันเชื่อว่าถ้าเรารักษาความสงบ ไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรง การปฎิวัติรัฐประหารก็จะไม่เกิดขึ้นในไทย ในวันนี้ โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว หลายๆประเทศจะเห็นว่า รัฐประหารไม่ใช่คำตอบ นานาประเทศก็จะไม่ปล่อยให้ประเทศไทยเข้าสู่การปฎิวัติรัฐประหาร

Amanpour: You mentioned that you come from the north which is the rural part of Thailand and it is where your family's political base is. There has been talking of wanting to separate the north into another country, to another independent state. Do you support that? (ความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีมีการกล่าวว่ามีความต้องการแบ่งแยกประเทศ นายกรัฐมนตรีสนับสนุนหรือไม่)

PM Yingluck: อย่างแรก ดิฉันต้องขอเรียนว่าดิฉันไม่ยอมให้ใครมาแยกดินแดนประเทศไทย ประเทศไทยต้องเป็นหนึ่ง เราต้องร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อให้ประเทศไทยเป็นหนึ่ง แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้มองในหลายมิติ ความรู้สึกที่น้อยเนื้อต่ำใจ ความเสมอภาค ความยุติธรรมนั้นต้องเป็นพื้นฐานที่จะต้องดูแลให้ทุกคนในสังคมไทย ได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกัน ถ้าเรามีการดูแลอย่างเท่าเทียมกัน ความรู้สึกต่างๆก็จะไม่เกิดขึ้น

ที่มาของเรื่อง Voice TV
http://news.voicetv.co.th/democracycrisis/99642.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่