ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมาแล้ว ไม่พึงพอใจ ขอคืน จะผิดกฏหมายไหม (ซีเรียสมาก)

เรื่องมีอยู่ว่า ไปซื้อเครื่องปรับอากาศ ยี่ห้องหนึ่ง แบรนด์ญี่ปุ่น แล้วเกิดไม่ถูกใจ กับปัยหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
1. เสียงพัดลมคอยล์เย็นดังมาก สปีดต่ำสุดก็ยังแรงมาก ราวกับนอนอยู่ห่างจากน้ำตก ประมาณ   10 - 15 เมตร (ที่บ้านเป็นชานเมือง บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงัด) เนื่องจากเป็นห้องนอน
2. ยังใช้สารทำความเย็นเบอร์ R22 ทั้ง ที่เป็น แอร์ type  2014 แล้ว (มันต่างกันโดยสิ้นเชิงกับ มิตซูที่บ้าน ใช้ R410A เย็นเร็ว มาก)

(ใครคิดว่ายามไม่อยากอ่านเรื่องราว ข้ามไปที่ *****สรุปได้ค่ะ******

มาถึงขั้นตอนการแจ้งครั้งที่ 1
ก็ได้แจ้งกับ ทาง ศูนย์บริการไป เข้ามาดูครั้ง ที่ 1 ช่างเข้ามาดู บอกเป็นอาการปกติของแอร์รุ่นนี้  ทางเราก็ไม่ยอม เห้ย มาตรฐาน มันต่ำขนาดนี้เลยเหรอ

ก็แจ้งไปครั้งที่ 2 ทางศูนย์บริการ ก็ส่งช่างระดับหัวหน้าทีมช่างเข้ามาดู ก็บอกว่าเป็นอาการปกติ และได้คุยกันว่า จะหาทางออกให้ แต่ก็เงียบไป

แล้วก็ส่งเมล และโพสหน้าเพจของ บริษัทผู้ผลิต เล่าอาการ และเหวี่ยงเบา ๆ เหน็บแนมบ้าง และก็คัดค้านการซื้อแอร์ของคนอื่นใจเพจบ้าง
จนต้องให้หัวหน้าช่างระดับ อวุโส เข้ามาเช็คโดยละเอียด โดยการ วัดเสียง วัดรอบพัดลม และเปรียบเทียบกับ ยี่ห้อ มิตซู พบว่า มิตซู ทำได้ดีกว่ามากหลายขุม ทั้งประสิทธิภาพการทำงาน และเสียงของพัดลม  ช่างก็ได้ทำการ ถ่ายรูปค่าต่าง ๆ ส่งไปให้ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์

สองวันต่อมา มีพนักงานจากส่วนกลาง โทรเข้ามาและได้เสนอ จะเปลี่ยนแผงวงจร ให้ใหม่  โดยให้วิศวะกรพัฒนา ให้แอร์ทำงานเงียบลงโดยการลดรอบพัดลม แต่นั่นเราก็ตกลงไปอย่างส่งเดช และยังติติงเรื่อง สารทำความเย็น ซึ่งทำให้โดยรวมไม่พึงพอใจในสินค้านั้น

และอีก 5 วัน แผงวงจรก็ได้ส่งมาให้ตัวแทนจำหน่าย แต่เราคิดว่าแค่เปลี่ยนแผง ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะถ้ายังเป็น สารทำความเย็น R22 เพราะรู้สึกว่ายังไงก็ไม่เอา ยังไงฉันก็จะขอเปลี่ยนยี่ห้อไปเลย จึงไม่ยอมให้ช่างเข้ามาทำการแก้ไข ใด ๆ ทั้งสิ้น เรียกร้องที่จะเอาคืนให้ได้อย่างเดียว

จากนั้นก็เข้าไปที่บริษัทตัวแทนจำหน่าย เข้าไปพบผู้จัดการฝ่ายขาย และเขาก็ยืนยัน ว่าคืนไม่ได้ เพราะเใครเขาไม่ทำกัน

อีกไม่กี่วันเราก็โทรไปคอลเซนเตอร์อีก บอกว่ายังไงก็จะขอคืน ทางงบริษัทตัวแทนจำหน่าย ก็ได้หารือกับ ทางฮิตาชิ (ค่อนข้างที่ จะปั่นป่วน ทั้งทางเจ้าของแบรนด์  และ บริษัทตัวแทนจำหน่าย ในการทำเคสนี้ เพราะไม่เคยเจอมาก่อน)

จนในที่สุด ทางบริษัทผู้ผลิตและจัจำหน่าย ก็ยอมให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ เราก็บอกว่าเปลี่ยนเครื่องใหม่ก็ไม่ได้สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับเรา เพราะแก้ปัญหาทั้ง 2 ข้อไม่ได้ (แอบโลภ) อีกทั้งบริษัทผู้จัดจำหน่าย จะเรียกร้องค่าเสียหาย ถึง 4xxx บาท ถ้าจะเปลี่ยนยี่ห้ออื่น แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นยี่ห้อเดียวกันจะไม่เสียอะไรเลย

จนในที่สุดเราก็โทรไปหาทางบริษัทแม่ จนเค้ายอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับ บริษัทตัวแทนจำหน่าย จึงทำให้เรา สามารถเปลี่ยนเครื่องเป็นยี่ห้อใหม่ จนได้ ด้วยความ ขุ่นเคืองจาก จากทั้ง บริษัท แม่ และตัวแทนจำหน่าย


*****สรุป*****

1. ซื้อสินค้ามาแล้วไม่พอใจ หลาย ๆ อย่างดังกล่าวอยากเปลี่ยนเป็นยี่ห้อเดิมที่เคยใช้ ซึ่งดีมาก ๆ อยู่แล้ว
2. ใช้มิตซู ในราคา 17900 กับยี่ห้อ XXX ราคา 19900 ราคาต่างกันมาก แต่คุณภาพดีกว่า ทั้ง 2 ปัญหาข้างบน  แต่เครื่องก็ไม่ได้เสีย หรือทำงานผิดปกติอะไร แค่มาตรฐาน ราคาที่มันควรจะ เวิร์ค แต่มันกลับไม่เวิร์ค
3. จึงได้ดำเนินการ แจ้งกับศูนย์บริการ อย่างสู้ไม่ถอย กับตัวแทนจำหน่ายและบริษัทแม่ อย่างมีจุดยืนคือต้องการคืนสินค้า และเปลี่ยนเป็นยี่ห้อใหม่ ติ ต่อว่า ถึงข้อเสียหลายด้าน ของเขา
4. จนในที่สุด บริษัทก็ต้องยอมให้คืนสินค้า พร้อมเงินทุกบาททุกสตางค์ เพื่อไปซื้อยี่ห้อใหม่ ด้วยความไม่พึงพอใจนัก และไม่เคยเกิดเหตุการแบบนี้มาก่อน
ซึางบริษัทแท่ก็ต้องยอมเสียค่าเสียหายให้กับ บริษัทตัวแทนจำหน่ายและติดตั้งกว่า 4,xxx บาท ซึ่งในส่วนนี้เราเรียกร้องให้ บริษัทแม่รับผิดชอบ เพระาอันที่จริงแล้ว ลูกค้าจะต้องเป็นคนเสีย (แต่เราคิดว่าเราไม่ควรเสียอยู่แล้ว เพราะว่าถ้าไม่ติด ก็ไม่รู้ว่ามีปัญหา แต่ก็ลืมถามช่างกันติดไป ว่า ใช้น้ำยาแอร์เบอร์อะไร เพราะว่าตระหนักว่า บริษัทคงมีการแข่งขันการเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศ)

อยากถามเพื่อนว่า

1. เราทำเกินไปหรือไม่
2. บริษัทแม่จะฟ้องเราไหม ในข้อหาที่ทำให้ บริษัทวุ่นวาย รวมถึงตัวแทน ที่ทำงานค่อนข้างซีเรียส จนยอมถอยทุกก้าว


ขอบคุณค่ะ