เรื่องปลั๊กไฟ รุ่นใหม่ มีสวิทซ์ปิดเปิด และฟิวส์ไว้กันช๊อต

ผมเพิ่งซื้อทีวีมาใหม่ แล้วซื้อปลั๊กต่อ ยี่ห้อ Toshino  มาต่อพวกกับปลั๊กบ้าน
เกิดปัญหา คือ คุณแม่ จะต้องมาถอดปลั๊ก ออกทั้งหมด ทั้งที่ ผม ก็ปิดสวิทซ์ออก
หมดแล้ว แต่ คุณแม่ก็จะต่อว่า ประมาณ มันเปลืองค่าไฟ ทำให้ผมเกิดความสงสัย
ว่า ในเมื่อเรา ปิดสวิทซ์ แล้ว แต่ ปลั๊กก็ยังคาอยู่ จะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า เรากิดไฟ
ได้อย่างไร ช่วยตอบเป็นความรู้ให้หน่อยเถอะครับ ว่า มันกินไฟมาน้อยแค่ไหน
และวิธีปฏิบัติควรทำอย่างไร  ถ้าผมผิด ก็จะปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ขอบคุณครับ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
เอาจริงๆนะครับแยกกันเป็นสองประเด็นนะครับ
1) ปลั๊ก จขกท มีสวิตซ์ใช้ไหมครับเป็นอย่างดีใช่ไหมครับถ้าใช่ละก็ ไม่ว่าคุณเสียบปลั๊กอยู่ เมือคุณปิดสวิตซ์ไฟจะเดินไม่ครบวงจร นั่นเท่ากับว่าเครื่องใช่ที่ต่อกับปลั๊กอันนั้นจะไม่มีการจ่ายไฟฟ้าครับเพราะไฟเดินไม่ครบวงจร และมิเตอร์ไฟก็จะไม่หมุนครับ นั่นเท่ากับว่า ไม่ว่าถอดปลั๊ก หรือเสียบปลั๊ก เมื่อไม่ใช้งานก็ปิดสวิตซ์ ซะ ก็เท่ากับประหยัดแล้วครับ

2) แล้วทำไมถึงควรถอดปลั๊กแบบที่ผู้ใหญ่ว่า คืองี้ครับในกรณีที่ถ้าเสียบปกติไว้มันก็ไม่เป็นอะไรหรอกครับแต่ถ้าเกิดกรณีเช่น ฝนตกฟ้าคะนองแล้วฟ้าผ่าเปรี้ยง!!!!!!!!! เข้ามาละก็ไฟมันจะรั่วเขาได้ครับเพราสวิตซ์มันต่อคัดวงจรที่สายเดียวครับ ไฟมันยังรั่วเข้าสายอีกเส้นที่ไม่ได้ต่อสวิตซ์ได้ครับมันจะเกิดในกรณีฟ้าผ่านี่ละครับ ผู้หลักผู้ใหญ่บางทีเขาไม่รู้ตรงนี้หรอกครับแค่เขาอาจจะเห็นมาก่อนว่า ขนาดปิดสวิตซ์ แล้วฟ้าผ่าเครื่องแม่มยังพังเลยบอกลูกหลานต่อๆกันมาครับว่าให้ถอดเพื่อเลิกใช้เพราะมันง่ายครับไม่ต้องรอฝนตกหรือไม่ตกครับ

แต่ข้อเสียของการถอดปลั๊กบ่อยๆคือปลั๊กมันจะหลวมครับ ดังนั้นจริงๆ ถ้าแนะนำจริงๆ ถ้าช่วงไหนฝนไม่ตกระยะยาวละก็ ให้บอกแม่เลยครับว่าเสียบหรือไม่เสียบที้งไว้ค่าเท่ากันวิธีพิสูจน์ ก็ เห็นมีคนบอกแล้วนี่ครับให้ใช้ไขควงวัดไฟ (คห 1 มั้งครับ) นั่นละครับใช้วิธีนั้นก็ได้ครับ และเมื่อพอช่วงไหนฝนตกบ่อยๆ ก็ถอดเถอครับกันไว้ดีกว่าไล้ซื้อของใหม่นะครับยิ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไฟฟ้า รุ่นใหม่ๆมันชอบทำ PCB แบบลดรูปวงจรไปใช้พวก IC กับสารกึ่งตัวนำไฟรั่วจากฟ้าผ่าเข้าทีนี่......พังบรรลัย อย่างเดียวครับ :v ถ้าเป็นของสมัยเก่า จะเป็นขดลวดตัวนำ อะไรพวกนั้น มันยังพอทดไฟรั่วได้ครับมันเลยไม่พังแต่ของสมัยใหม่เน้นเล็กๆ วงจรก็เล็กๆ ไฟรั่วไฟเกินหน่อย แปร็ด!!!!! กลิ่นไหม่ออก อ่าฟิน~~ แล้วก็กระเป๋าฉีกซื้อใหม่กันไป พาพันเศร้า
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
กับผู้หลักผู้ใหญ่ บางที ก็อธิบายยาก นะครับ
เพราะท่านก็หวังดี มีเหตุผลในแบบของท่าน
เรื่องเปลืองไฟนั้น คุณถูก
แต่ ถ้าคุยเรื่องความปลอดภัย ตามวิธีของคุณแม่ จะเหมาะดีแล้วครับ


หากจะเน้นเรื่องเปลืองไฟอย่างเดียว
คุณทำแบบนี้สิครับ
มีไขควงวัดไฟ ที่บ้านบ้างหรือไม่ครับ

คุณเอาไปเสียบวัดไฟที่ ปลั๊กพ่วง ...
เปิดไฟ ............................................ ไฟที่ไขควงติด
ปิดไฟ(ที่ Switch ของรางพ่วงปลั๊กไฟ)..... ไฟต้องดับครับ

*** ถ้าไม่ดับ ***
แสดงว่าคุณเสียบปลั๊กที่ผนัง ผิดด้านครับ ให้กลับขั้วให้เรียบร้อย
แล้วทดสอบใหม่ครับ

ที่ถูกคือ ปิด Switch ต้องวัดไฟไม่เจอ ครับ




พอเสร็จแล้ว ก็ ชวนคุณแม่ มาทดสอบให้ท่านดู
ท่านจะได้สบายใจครับ ว่า ปลั๊กไฟ รุ่นที่คุณเลือกซื้อมาใช้นั้น คุณภาพดี , ช่วยประหยัดไฟ และคุณต่อถูกขั้ว


นอกจากนี้คุณยังสามารถ เอาไขควงวัดไฟ ไปช่วยตรวจอุปกรณ์อื่น ๆ ให้คุณแม่ด้วยครับ
โดยเฉพาะหม้อหุงข้าว ลองไปตรวจที่ ขอบส่วนที่เป็นโลหะดูครับว่า มีไฟรั่วหรือไม่
ถ้ามี... ลองกลับขั้วปลั๊กเสียบที่เสียบผนังดูครับ
แล้วทดสอบใหม่

ผมเคยเจอบางยี่ห้อ เอาไขควงวัดไฟ (ทำความสะอาดสักหน่อย)
แตะข้าวในหม้อ ที่หุงเสร็จแล้ว ปรากฏว่า มีไฟรั่วด้วยครับ
ถึงขนาดเจ้าของ อ้าปากค้างเลย บอกว่า  "มิน่า ตอนตักข้าวด้วยทัพพีสแตนเลส มันถึงจี๊ด ๆ"

ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่