เวลาผ่านไปอีกหลายวัน เช้าวันนี้ ภาพทิวทัศน์ธรรมชาติแสนงดงามของฮวาซาใต้ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ดอกไม้ ใบหญ้า กำลังชูช่อสะบัดใบต้องลมต้อนรับพระอาทิตย์ ที่กำลังขึ้นโผล่พ้นเหนือภูเขาสุดลูกตา
ริ้วธงสีสันสดใสอันเป็นสัญลักษณ์ของฮวาซาปลิวไสว ภาพชีวิตของชาวบ้าน แม่ค้าพ่อขายที่ค้าขายอยู่ในตลาด และภาพเด็กๆ ในชุดประจำชาติฮวาซากำลังวิ่งเล่นกันสนุกสนาน ถูกบันทึกผ่านกล้องวิดีโอ โดยมีแนวหน้าควบคุมการทำงานในฐานะครีเอทีฟ และโปรดิวเซอร์
เสียงแนวหน้าดังลั่น “คัท!”
กองถ่ายสารคดี อันมีแนวหน้านั่งดูมอนิเตอร์อยู่ หันไปบ่นกับตากล้องลูกน้องของบริษัทจีเอ็นเอ็น ที่เพิ่งบินมาสมทบ
“แล้วนี่พี่นายเค้าบอกรึเปล่าว่าจะกลับมาเมื่อไร”
“ไม่พูดอะไรเลยครับ บอกแต่ว่าให้พวกผมมาก่อน เดี๋ยวเค้าจะตามมาทีหลัง”
ไผทยื่นหน้าเข้ามา “นี่พี่นายเค้าจะทิ้งพวกเราไว้แบบนี้จริงๆ เหรอพี่แนว”
“เฮ้ย พูดอะไรเหลวไหล มีชั้นอยู่ทั้งคนแกจะไปสนใจอะไรกับพี่นายวะ” แนวหน้าว่า
ชีฟองเดินตามโลลิต้าเข้ามา ชีฟองเป็นปลื้ม
“เก่งจริงๆ เลยค่ะคุณแนว ถ่ายออกมาสวยกว่าวิวจริงตั้งเยอะแน่ะ จริงมั้ยเพคะองค์หญิง”
โลลิต้าเมินไม่ตอบ ชองปอลเดินอาดๆ เข้ามา
“แล้วนี่เมื่อไรจะถ่ายองค์หญิงโลลิต้าซักที ให้มาตั้งแต่เช้า แล้วรออะไรกันเนี่ย”
แนวหน้าอธิบาย “เอ่อ...คือถ่ายพิธีกรเป็นช่วงท้ายน่ะพะยะค่ะ กระหม่อมนัดองค์หญิงมาก่อนเพื่อที่จะให้คุ้นเคยกับกองถ่ายก่อน เวลาถ่ายจริงจะได้ไม่ทรงขัดเขินน่ะพะย่ะค่ะ”
“ถ้าพี่ชองปอลทรงเบื่อ ก็เสด็จกลับไปที่วังก่อนก็ได้นี่เพคะ” โลลิต้าว่า
“พี่ไม่ได้เบื่อหรอกจ้ะ พี่แค่กลัวน้องหญิงจะเบื่อต่างหาก”
“ทำไมน้องหญิงต้องเบื่อล่ะเพคะ สนุกจะตายไป ต่อไป เราจะไปที่หมู่บ้านทอผ้าใช่มั้ยคุณแนว? เชิญเลยค่ะ”
โลลิต้าตัดบท แล้วเดินนำไป ไผทจะเดินตามโลลิต้าไป แต่ชองปอลแทรกตัวไปเดินคู่กับโลลิต้า แนวหน้ากับไผทมองหน้ากัน แล้วส่ายหน้าอย่างระอานิสัยชองปอล
ผ้าสีสันสดใส ถูกแขวนตากเป็นแนว ละลานตา สีสันสวยงาม แนวหน้ากำลังคุมการถ่ายทำเก็บภาพบรรยากาศในหมู่บ้านทอผ้า
ไผทเดินชะเง้อหาอะไรบางอย่างพลางบ่น “ไหนล่ะ เค้าบอกว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญพามาดูการย้อมผ้า อยู่ไหนนะ”
ไผทเหลียวมองรอบตัว
ด้านข้าง ราวผ้าที่ตากอยู่ มีเงาแบบบางสวยงามปรากฏที่ผ้า แล้วร่างของโลลิต้าก็เดินออกมาสวยงามแจ่มใสจนทุกคนตกตะลึง แนวหน้าเองก็อึ้งๆ
“กำลังถามหาหญิงอยู่หรือคะ”
ชีฟองเป็นปลื้มชื่นชม “องค์หญิงทรงพระสิริโฉมจริงๆ เพคะ”
แนวหน้ารีบทำท่าให้ชีฟองเงียบเสียง
“เบาหน่อยครับ เดี๋ยวเสียงเข้าไมค์บูม”
ชองปอลขอแจม “เราว่าน่าจะมีภาพน้องหญิงใกล้ๆ ด้วยนะ คนดูคงอยากเห็นหน้าองค์หญิงชัดๆ”
แนวหน้าจุ๊ปาก ทำท่าให้ชองปอลพูดค่อยๆ แต่ชองปอลไม่สนใจ
“คุณไผทด้วยนะคะ คนดูก็ต้องอยากเห็นคุณไผทใกล้ๆ” ชีฟองเสนอ
ชองปอลแย้ง “ไม่จริงหรอก ไม่จำเป็น สารคดีฮวาซาก็ต้องเห็นองค์หญิงฮวาซามากกว่าสิ
ชีฟองโต้ “แต่เราอุตส่าห์มีคุณไผทในเรื่องนะเพคะ ชีฟองว่าคนน่าจะอยากดูคุณไผทพอๆ กัน”
แนวหน้าปรี๊ด ลุกขึ้น “โอ๊ย!” ทั้งชองปอลและชีฟองชะงัก “เงียบเสียงกันหน่อยได้มั้ยครับ ถ่ายทำอะไรไม่ได้แล้ว เอางี้นะครับ เรื่องถ่ายทำสารคดีคราวนี้ มันเป็นความรับผิดชอบของผม ขอความกรุณาให้ผมได้เป็นคนตัดสินใจเองจะได้มั้ยครับ”
ชองปอลอึ้ง แล้วสะบัดหน้าเดินจากไปอย่างโกรธๆ
ชีฟองมองความเด็ดขาดของแนวหน้าอย่างประทับใจ ส่วนไผทกับโลลิต้ายืนมองมางงๆ
ตากล้องของแนวหน้ากำลังถ่ายโลลิต้ากับไผท ซึ่งพูดอธิบายเรื่องการย้อมผ้าของฮวาซาอยู่ ซึ่งด้านหลังเป็นผ้าขาวที่ตากเตรียมไว้สำหรับย้อม ไม่ห่างกัน มีถังสีย้อมผ้าใบใหญ่เท่าตัวคนหลายใบ ตั้งอยู่ ทั้งเหลือง เขียว น้ำเงิน ม่วง ฯลฯ เป็นสีย้อมเย็น
การถ่ายทำดำเนินไป ชีฟอง ชองปอล ยืนอยู่หลังกล้องที่ถ่ายอยู่ ชองปอลยังคงโมโหกรุ่นๆ
“ที่นี่เป็นแหล่งผลิตผ้าทอใหญ่ที่สุดของชาวฮวาซาเลยนะคะ ผ้าที่เห็นพวกนี้ย้อมด้วยกรรมวิธีพื้นเมือง และมีเคล็ดลับบางอย่างเฉพาะของฮวาซาด้วยนะคะ” โลลิต้าอธิบาย
ไผทยิ้มเอ็นดู “เคล็ดลับอะไรเหรอครับ”
โลลิต้าเขินหลบตา “ถ้าบอกก็ไม่ลับน่ะสิคะ” ไผทขำ “แต่สำหรับแขกคนพิเศษของฮวาซาใต้ หญิงบอกก็ได้ค่ะ...เราใช้ยางจากเปลือกของต้นจาร์มี ผสมลงไปค่ะ ต้นจาร์มีนี้เป็นต้นไม้ที่ขึ้นเฉพาะที่ลุ่มน้ำฮวาซา มันจะขับสีย้อมให้สดขึ้นและติดทนนานด้วย”
“แล้วใช้ได้กับทุกสีเลยเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ เพราะสีที่เราใช้เป็นสีจากธรรมชาติ... อย่างสีแดงเนี่ย” องค์หญิงหยิบสีที่อยู่ในกาละมังเล็กซึ่งเป็นสีผงขึ้นมา) ได้มาจากรากยอ แก่นฝาง ลูกคำแสด.. ส่วนสีฟ้าครามนี่”
โลลิต้าวางแล้วเผลอเอามือมาปัดผมที่ติดอยู่ที่แก้ม จนสีเปรอะที่แก้มของตัวเอง ไผทเห็นตกใจ
โลลิต้าชะงัก “มีอะไรเหรอคะ”
ไผทชี้ที่แก้มตัวเอง บริเวณเดียวกับที่โลลิต้าเปื้อนสี โลลิต้าไม่เข้าใจ พยายามจับแก้มตัวเองว่ามีอะไร แต่ยิ่งจับสีก็ยิ่งเปื้อน ไผทหัวเราะเอ็นดู
“เอ่อ...ขอโทษนะพะย่ะค่ะ” ไผทเอื้อมมือไปเช็ดแก้มที่เปื้อนให้โลลิต้าอย่างอ่อนโยน
โลลิต้าอึ้ง ใจเต้นโครมครามที่ไผททำแบบนี้ให้แบบไม่ทันตั้งตัว แนวหน้าเองก็อึ้งกับภาพที่เห็น
ชีฟองตกใจ “อุ๊ย!”
ชองปอลที่ยืนทำฟอร์มเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ได้ยินเสียงชีฟองเลยหันไปมอง แล้วตะลึง
“หมดแล้วพะย่ะค่ะ อ้อ มีตรงนี้อีกนิด” ไผทเช็ดตรงข้างแก้ม ริมใบหูให้โลลิต้า
ชองปอลตาวาว โกรธสุดขีด “เอามือออกจากแก้มน้องหญิงเดี๋ยวนี้”
ขาดคำชองปอลพุ่งเข้าไปดึงแขนโลลิต้าให้ออกห่าง แล้วจะกระชากคอเสื้อไผท องค์หญิงเซจะล้ม ไผทตกใจ
“องค์หญิง!”
ไผทปัดมือชองปอลที่เพิ่งจับคอเสื้อออกอย่างแรง แล้ววิ่งไปประคองโลลิต้า
แรงปัดของไผท ทำให้ชองปอลเสียหลัก เซหัวทิ่มไปที่ราวตากผ้า มือชองปอลเหนี่ยวพันผ้าปิดหน้าปิดตา ชองปอลพยายามปัดอออก โซซัดโซเซไปชนถังล้างสีผ้าล้มลงในถังสีโครม สีราดรดบนตัวชองปอลทั่วตัว ทุกคนตะลึง
ชีฟอง กับทหารร้อง “ท่านชองปอล!”
แนวหน้า โลลิต้า ไผท ตกตะลึงพรึงเพริด
มองจากเท้าของชองปอล ขึ้นไป เห็นว่าชองปอลตัวแดงเถือก หน้าตาโกรธแค้น ท่านธูลหน้าตาไม่สบายใจ
ชองปอลโวยวายฟ้องร้องต่อท่านธูล “เรื่องนี้ชองปอลไม่ยอมนะ ยังไงท่านอาก็ต้องลงโทษนายไผทนั่น!”
“แต่พี่ชองปอลเข้าไปจะต่อยพี่ไผทก่อนนะเพคะ แล้วคุณไผทเค้าก็แค่ปัดพระหัตถ์พี่ชองปอลเท่านั้นเอง” โลลิต้าแก้ให้
“เท่านั้นเองเหรอ แต่มันทำให้พี่ล้มลงบนถังสีนั่น”
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะชองปอล หลานถึงกับจะลงไม้ลงมือกับแขกบ้านแขกเมืองของอา”
“มันบังอาจแตะต้องพระองค์น้องหญิงโลลิต้าพะย่ะค่ะท่านอา”
ท่านธูลตกใจ
โลลิต้ารีบแก้ “คุณไผทเค้าแค่จะเช็ดสีที่เลอะหน้าให้หญิงเท่านั้นเพคะเสด็จพ่อ”
ท่านธูลค่อยโล่งอก
“แต่เค้าควรจะรู้ว่าคนธรรมดาอย่างเค้าไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวเจ้าหญิงแห่งฮวาซา”
โลลิต้าจะเถียงต่อ “แต่ว่า...”
ท่านธูลรีบห้าม “พอเถอะลูกหญิง เรื่องนี้ให้พ่อตัดสินเอง!”
แนวหน้ารออยู่ที่ด้านนอก ดูกระวนกระวายหนัก
“ไผท แกก็ไม่น่ามือไวไปแตะหน้าองค์หญิงเค้าเลย”
“ก็ผมเห็นพระพักตร์ท่านเลอะ ผมเลยอยากจะเช็ดให้...นี่ผมผิดมากเลยเหรอพี่”
“มันไม่ผิดหรอกถ้าเค้าเป็นผู้หญิงธรรมดา...แต่นี่เค้าเป็นเจ้าหญิง”
ไผทจ๋อยลง “แล้วนี่ผมจะโดนลงโทษมั้ยอะพี่แนว”
“อย่างเบาก็โดนโยนออกไปนอกวังอย่างที่ชั้นกับพี่นายโดน อย่างหนักก็คงโดนโบย หรือไม่ก็ติดคุก”
ไผทตาเหลือก “โบย! ติดคุก!”
“ช่วยกันภาวนาเถอะ ขอให้ท่านธูลทรงมีเหตุผลพอ ไม่งั้นเราแย่แน่ๆ”
สองหนุ่ม จ๋อยสนิท
น่ารัก ตอนที่ 7
ชองปอลยังคงโวยวายเอากับท่านธูลอยู่
“ทรงรับสั่งว่าอะไรนะท่านอา”
“เราเห็นว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ คุณไผทเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ท่านชองปอลตกถังสี และอีกอย่างเค้าคงไม่รู้ธรรมเนียมของประเทศเราว่าเราถือสาเรื่องถูกเนื้อต้องตัวกันขนาดไหน”
โลลิต้าถอนใจโล่งอก
ชองปอลโกรธ “ชองปอลไม่คิดเลยว่า ท่านอาจะทรงเข้าข้างคนต่างชาติมากกว่าองค์มกุฎราชกุมารแห่งฮวาซาเหนือ”
ชองปอลเดินหุนหันออกไป โลลิต้าโล่งอกที่ท่านธูลไม่เอาผิดไผท
“เป็นพระกรุณาเพคะท่านพ่อ ที่ไม่ลงโทษคุณไผท”
“ต่อไปลูกหญิงต้องระวังตัวมากกว่านี้นะลูก...พ่อไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นอีก”
“เพคะ ท่านพ่อ”
ท่านธูลถอนใจเฮือก หนักอกกับความวุ่นวายที่จะตามมาอีก
แนวหน้ากับไผทเดินกลับไปกลับมาด้วยความกลัดกลุ้ม
“พี่แนวๆช่วยดูหน่อย หน้าผมผื่นขึ้นรึเปล่า” ไผทถามชวนปวดตับมาก
แนวหน้าโมโห “นี่มันใช่เวลาจะมาห่วงความหล่อเหรอ จะโดนโบยหลังขาดอยู่แล้วนะ”
“แต่ถ้าผมเครียดมากๆ หน้าผมจะผื่นขึ้นนะพี่”
ราอูลเดินเข้ามาหา แนวหน้ากับไผทชะงัก ราอูลหน้าตาเคร่งเครียดมาก
“มีรับสั่งให้คุณทั้งสองเข้าไปพบที่ห้องทรงงานเดี๋ยวนี้”
แนวหน้ากับไผทกลืนน้ำลายลงคอ ด้วยความสยดสยอง
นายเดินเข้าไปที่ออฟฟิศของฟิน ดูออกว่าเป็นสถาบันปั้นดารา เขามองรอบๆ ตัว ไม่มีใครสนใจ นายเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ
“เอ่อ...”
“มาสมัครเป็นดาราใช่มั้ยฮะ กรอกใบสมัครทิ้งไว้ได้เลยฮ่ะ” พนักงานส่งใบสมัครให้
“ไม่ใช่ครับ ผมมาหาคุณฟิน อยู่มั้ยครับ”
“เจ๊ฟินเหรอฮะ ไม่อยู่หรอกฮ่ะ เพิ่งออกไปเมื่อเช้ามืดนี้เอง”
“เมื่อเช้า แล้วไปไหน ทราบมั้ยครับ”
“ไม่ทราบหรอกฮ่ะ แต่มีชะนีนางนึงมารับ เห็นว่าจะไปต่างประเทศหรือไงก็ไม่ทราบฮ่ะ”
“ชะนี สวยๆผมยาวๆ ชื่อจีจี้ใช่มั้ยครับ” นายซัก
“น่าจะใช่นะฮะ หรือไงก็ไม่รู้ ตกลงจะมาสมัครเป็นดารารึเปล่าฮะ ถึงจะอายุมากไปนิด แต่ก็มีแววนะคะ สมัครเถอะ นะๆๆๆ”
นายเซ็ง หันหลังให้ ครุ่นคิด
“ไปต่างประเทศ ไปไหนกันนะ หรือว่า...” นายตกใจสุดขีด
ประตูเปิดออก ราอูลเดินนำมา แล้วหันไปข้างหลัง
“เชิญ”
แนวหน้า ไผท เดินตามราอูลเข้ามาในห้องท่านธูล อย่างหวั่นกลัว
“ท่านธูลพะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมชี้แจงได้...”
ไผทตะลึง “พี่ฟิน”
แนวตกใจเงยหน้ามอง เห็นฟินยืนอยู่ข้างจีจี้ก็ตกใจ “อี...พี่จี้”
ฟินกับจีจี้ขยับตัวออกห่างกัน เผยให้เห็นขิงยืนยิ้มแหยๆ อยู่
ไผทกะแนวหน้าดีใจ อุทานพร้อมกัน “ขิง!”
ฟินกับจีจี้ยิ้มให้กันอย่างสาสมใจ โลลิต้ายืนมองงงๆ
“พวกเราเรานึกว่าคุณจีจี้จะไม่กลับมาที่ฮวาซาแล้ว” ท่านธูลกล่าว
“ต้องกลับสิเพคะ...จีจี้แค่ไปพาทีมงานมาเพิ่ม เพื่อช่วยคุณนายนายและแนวหน้าทำงานอย่างที่เขาขอร้อง”
จีจี้มองหน้าแนวหน้า ยิ้มร้ายท้าทาย
“แล้วพี่นายล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอพี่”
จีจี้ไม่ตอบหันไปแนะนำกับท่านธูล “นี่คือคุณฟินผู้จัดการส่วนตัวของไผทค่ะ”
พลางผายมือไปทางฟินที่ยืนยิ้มแป้นแล้นอยู่ข้างๆ
“ที่จีจี้พาคุณฟินมาก็เพราะคุณฟินดูแลไผทมานาน รู้ใจไผททุกอย่าง ไผทน่าจะมีความสุขถ้ามีคุณฟินอยู่ใกล้ๆ
“ยินดีต้อนรับสู่ฮวาซาใต้”
ฟินทำความเคารพอย่างงดงาม “ขอบพระทัยเพคะ”
จีจี้หันไปมองขิงที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ส่วนนี่คุณขิง เป็นดีไซเนอร์ชื่อดัง ผ่านงานออกแบบเสื้อผ้าทั้งหนังละครมามากมาย และนอกจากนี้...เค้ายังเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของไผทด้วยเพคะ”
โลลิต้าชะงัก มองหน้าขิงกับไผทที่ยิ้มให้กัน
“ขิงดูแลเสื้อผ้าให้กระหม่อมตั้งแต่เริ่มเข้าวงการเลยพะย่ะค่ะ เราสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน” ไผทอวด
แนวหน้าเริ่มเห็นเค้าลางความวุ่นวาย หันไปมองโลลิต้า
เรื่องเต็มน่ารักตอนที่ 8/2 วันพุธ 21/05/2557
เวลาผ่านไปอีกหลายวัน เช้าวันนี้ ภาพทิวทัศน์ธรรมชาติแสนงดงามของฮวาซาใต้ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ดอกไม้ ใบหญ้า กำลังชูช่อสะบัดใบต้องลมต้อนรับพระอาทิตย์ ที่กำลังขึ้นโผล่พ้นเหนือภูเขาสุดลูกตา
ริ้วธงสีสันสดใสอันเป็นสัญลักษณ์ของฮวาซาปลิวไสว ภาพชีวิตของชาวบ้าน แม่ค้าพ่อขายที่ค้าขายอยู่ในตลาด และภาพเด็กๆ ในชุดประจำชาติฮวาซากำลังวิ่งเล่นกันสนุกสนาน ถูกบันทึกผ่านกล้องวิดีโอ โดยมีแนวหน้าควบคุมการทำงานในฐานะครีเอทีฟ และโปรดิวเซอร์
เสียงแนวหน้าดังลั่น “คัท!”
กองถ่ายสารคดี อันมีแนวหน้านั่งดูมอนิเตอร์อยู่ หันไปบ่นกับตากล้องลูกน้องของบริษัทจีเอ็นเอ็น ที่เพิ่งบินมาสมทบ
“แล้วนี่พี่นายเค้าบอกรึเปล่าว่าจะกลับมาเมื่อไร”
“ไม่พูดอะไรเลยครับ บอกแต่ว่าให้พวกผมมาก่อน เดี๋ยวเค้าจะตามมาทีหลัง”
ไผทยื่นหน้าเข้ามา “นี่พี่นายเค้าจะทิ้งพวกเราไว้แบบนี้จริงๆ เหรอพี่แนว”
“เฮ้ย พูดอะไรเหลวไหล มีชั้นอยู่ทั้งคนแกจะไปสนใจอะไรกับพี่นายวะ” แนวหน้าว่า
ชีฟองเดินตามโลลิต้าเข้ามา ชีฟองเป็นปลื้ม
“เก่งจริงๆ เลยค่ะคุณแนว ถ่ายออกมาสวยกว่าวิวจริงตั้งเยอะแน่ะ จริงมั้ยเพคะองค์หญิง”
โลลิต้าเมินไม่ตอบ ชองปอลเดินอาดๆ เข้ามา
“แล้วนี่เมื่อไรจะถ่ายองค์หญิงโลลิต้าซักที ให้มาตั้งแต่เช้า แล้วรออะไรกันเนี่ย”
แนวหน้าอธิบาย “เอ่อ...คือถ่ายพิธีกรเป็นช่วงท้ายน่ะพะยะค่ะ กระหม่อมนัดองค์หญิงมาก่อนเพื่อที่จะให้คุ้นเคยกับกองถ่ายก่อน เวลาถ่ายจริงจะได้ไม่ทรงขัดเขินน่ะพะย่ะค่ะ”
“ถ้าพี่ชองปอลทรงเบื่อ ก็เสด็จกลับไปที่วังก่อนก็ได้นี่เพคะ” โลลิต้าว่า
“พี่ไม่ได้เบื่อหรอกจ้ะ พี่แค่กลัวน้องหญิงจะเบื่อต่างหาก”
“ทำไมน้องหญิงต้องเบื่อล่ะเพคะ สนุกจะตายไป ต่อไป เราจะไปที่หมู่บ้านทอผ้าใช่มั้ยคุณแนว? เชิญเลยค่ะ”
โลลิต้าตัดบท แล้วเดินนำไป ไผทจะเดินตามโลลิต้าไป แต่ชองปอลแทรกตัวไปเดินคู่กับโลลิต้า แนวหน้ากับไผทมองหน้ากัน แล้วส่ายหน้าอย่างระอานิสัยชองปอล
ผ้าสีสันสดใส ถูกแขวนตากเป็นแนว ละลานตา สีสันสวยงาม แนวหน้ากำลังคุมการถ่ายทำเก็บภาพบรรยากาศในหมู่บ้านทอผ้า
ไผทเดินชะเง้อหาอะไรบางอย่างพลางบ่น “ไหนล่ะ เค้าบอกว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญพามาดูการย้อมผ้า อยู่ไหนนะ”
ไผทเหลียวมองรอบตัว
ด้านข้าง ราวผ้าที่ตากอยู่ มีเงาแบบบางสวยงามปรากฏที่ผ้า แล้วร่างของโลลิต้าก็เดินออกมาสวยงามแจ่มใสจนทุกคนตกตะลึง แนวหน้าเองก็อึ้งๆ
“กำลังถามหาหญิงอยู่หรือคะ”
ชีฟองเป็นปลื้มชื่นชม “องค์หญิงทรงพระสิริโฉมจริงๆ เพคะ”
แนวหน้ารีบทำท่าให้ชีฟองเงียบเสียง
“เบาหน่อยครับ เดี๋ยวเสียงเข้าไมค์บูม”
ชองปอลขอแจม “เราว่าน่าจะมีภาพน้องหญิงใกล้ๆ ด้วยนะ คนดูคงอยากเห็นหน้าองค์หญิงชัดๆ”
แนวหน้าจุ๊ปาก ทำท่าให้ชองปอลพูดค่อยๆ แต่ชองปอลไม่สนใจ
“คุณไผทด้วยนะคะ คนดูก็ต้องอยากเห็นคุณไผทใกล้ๆ” ชีฟองเสนอ
ชองปอลแย้ง “ไม่จริงหรอก ไม่จำเป็น สารคดีฮวาซาก็ต้องเห็นองค์หญิงฮวาซามากกว่าสิ
ชีฟองโต้ “แต่เราอุตส่าห์มีคุณไผทในเรื่องนะเพคะ ชีฟองว่าคนน่าจะอยากดูคุณไผทพอๆ กัน”
แนวหน้าปรี๊ด ลุกขึ้น “โอ๊ย!” ทั้งชองปอลและชีฟองชะงัก “เงียบเสียงกันหน่อยได้มั้ยครับ ถ่ายทำอะไรไม่ได้แล้ว เอางี้นะครับ เรื่องถ่ายทำสารคดีคราวนี้ มันเป็นความรับผิดชอบของผม ขอความกรุณาให้ผมได้เป็นคนตัดสินใจเองจะได้มั้ยครับ”
ชองปอลอึ้ง แล้วสะบัดหน้าเดินจากไปอย่างโกรธๆ
ชีฟองมองความเด็ดขาดของแนวหน้าอย่างประทับใจ ส่วนไผทกับโลลิต้ายืนมองมางงๆ
ตากล้องของแนวหน้ากำลังถ่ายโลลิต้ากับไผท ซึ่งพูดอธิบายเรื่องการย้อมผ้าของฮวาซาอยู่ ซึ่งด้านหลังเป็นผ้าขาวที่ตากเตรียมไว้สำหรับย้อม ไม่ห่างกัน มีถังสีย้อมผ้าใบใหญ่เท่าตัวคนหลายใบ ตั้งอยู่ ทั้งเหลือง เขียว น้ำเงิน ม่วง ฯลฯ เป็นสีย้อมเย็น
การถ่ายทำดำเนินไป ชีฟอง ชองปอล ยืนอยู่หลังกล้องที่ถ่ายอยู่ ชองปอลยังคงโมโหกรุ่นๆ
“ที่นี่เป็นแหล่งผลิตผ้าทอใหญ่ที่สุดของชาวฮวาซาเลยนะคะ ผ้าที่เห็นพวกนี้ย้อมด้วยกรรมวิธีพื้นเมือง และมีเคล็ดลับบางอย่างเฉพาะของฮวาซาด้วยนะคะ” โลลิต้าอธิบาย
ไผทยิ้มเอ็นดู “เคล็ดลับอะไรเหรอครับ”
โลลิต้าเขินหลบตา “ถ้าบอกก็ไม่ลับน่ะสิคะ” ไผทขำ “แต่สำหรับแขกคนพิเศษของฮวาซาใต้ หญิงบอกก็ได้ค่ะ...เราใช้ยางจากเปลือกของต้นจาร์มี ผสมลงไปค่ะ ต้นจาร์มีนี้เป็นต้นไม้ที่ขึ้นเฉพาะที่ลุ่มน้ำฮวาซา มันจะขับสีย้อมให้สดขึ้นและติดทนนานด้วย”
“แล้วใช้ได้กับทุกสีเลยเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ เพราะสีที่เราใช้เป็นสีจากธรรมชาติ... อย่างสีแดงเนี่ย” องค์หญิงหยิบสีที่อยู่ในกาละมังเล็กซึ่งเป็นสีผงขึ้นมา) ได้มาจากรากยอ แก่นฝาง ลูกคำแสด.. ส่วนสีฟ้าครามนี่”
โลลิต้าวางแล้วเผลอเอามือมาปัดผมที่ติดอยู่ที่แก้ม จนสีเปรอะที่แก้มของตัวเอง ไผทเห็นตกใจ
โลลิต้าชะงัก “มีอะไรเหรอคะ”
ไผทชี้ที่แก้มตัวเอง บริเวณเดียวกับที่โลลิต้าเปื้อนสี โลลิต้าไม่เข้าใจ พยายามจับแก้มตัวเองว่ามีอะไร แต่ยิ่งจับสีก็ยิ่งเปื้อน ไผทหัวเราะเอ็นดู
“เอ่อ...ขอโทษนะพะย่ะค่ะ” ไผทเอื้อมมือไปเช็ดแก้มที่เปื้อนให้โลลิต้าอย่างอ่อนโยน
โลลิต้าอึ้ง ใจเต้นโครมครามที่ไผททำแบบนี้ให้แบบไม่ทันตั้งตัว แนวหน้าเองก็อึ้งกับภาพที่เห็น
ชีฟองตกใจ “อุ๊ย!”
ชองปอลที่ยืนทำฟอร์มเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ได้ยินเสียงชีฟองเลยหันไปมอง แล้วตะลึง
“หมดแล้วพะย่ะค่ะ อ้อ มีตรงนี้อีกนิด” ไผทเช็ดตรงข้างแก้ม ริมใบหูให้โลลิต้า
ชองปอลตาวาว โกรธสุดขีด “เอามือออกจากแก้มน้องหญิงเดี๋ยวนี้”
ขาดคำชองปอลพุ่งเข้าไปดึงแขนโลลิต้าให้ออกห่าง แล้วจะกระชากคอเสื้อไผท องค์หญิงเซจะล้ม ไผทตกใจ
“องค์หญิง!”
ไผทปัดมือชองปอลที่เพิ่งจับคอเสื้อออกอย่างแรง แล้ววิ่งไปประคองโลลิต้า
แรงปัดของไผท ทำให้ชองปอลเสียหลัก เซหัวทิ่มไปที่ราวตากผ้า มือชองปอลเหนี่ยวพันผ้าปิดหน้าปิดตา ชองปอลพยายามปัดอออก โซซัดโซเซไปชนถังล้างสีผ้าล้มลงในถังสีโครม สีราดรดบนตัวชองปอลทั่วตัว ทุกคนตะลึง
ชีฟอง กับทหารร้อง “ท่านชองปอล!”
แนวหน้า โลลิต้า ไผท ตกตะลึงพรึงเพริด
มองจากเท้าของชองปอล ขึ้นไป เห็นว่าชองปอลตัวแดงเถือก หน้าตาโกรธแค้น ท่านธูลหน้าตาไม่สบายใจ
ชองปอลโวยวายฟ้องร้องต่อท่านธูล “เรื่องนี้ชองปอลไม่ยอมนะ ยังไงท่านอาก็ต้องลงโทษนายไผทนั่น!”
“แต่พี่ชองปอลเข้าไปจะต่อยพี่ไผทก่อนนะเพคะ แล้วคุณไผทเค้าก็แค่ปัดพระหัตถ์พี่ชองปอลเท่านั้นเอง” โลลิต้าแก้ให้
“เท่านั้นเองเหรอ แต่มันทำให้พี่ล้มลงบนถังสีนั่น”
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะชองปอล หลานถึงกับจะลงไม้ลงมือกับแขกบ้านแขกเมืองของอา”
“มันบังอาจแตะต้องพระองค์น้องหญิงโลลิต้าพะย่ะค่ะท่านอา”
ท่านธูลตกใจ
โลลิต้ารีบแก้ “คุณไผทเค้าแค่จะเช็ดสีที่เลอะหน้าให้หญิงเท่านั้นเพคะเสด็จพ่อ”
ท่านธูลค่อยโล่งอก
“แต่เค้าควรจะรู้ว่าคนธรรมดาอย่างเค้าไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวเจ้าหญิงแห่งฮวาซา”
โลลิต้าจะเถียงต่อ “แต่ว่า...”
ท่านธูลรีบห้าม “พอเถอะลูกหญิง เรื่องนี้ให้พ่อตัดสินเอง!”
แนวหน้ารออยู่ที่ด้านนอก ดูกระวนกระวายหนัก
“ไผท แกก็ไม่น่ามือไวไปแตะหน้าองค์หญิงเค้าเลย”
“ก็ผมเห็นพระพักตร์ท่านเลอะ ผมเลยอยากจะเช็ดให้...นี่ผมผิดมากเลยเหรอพี่”
“มันไม่ผิดหรอกถ้าเค้าเป็นผู้หญิงธรรมดา...แต่นี่เค้าเป็นเจ้าหญิง”
ไผทจ๋อยลง “แล้วนี่ผมจะโดนลงโทษมั้ยอะพี่แนว”
“อย่างเบาก็โดนโยนออกไปนอกวังอย่างที่ชั้นกับพี่นายโดน อย่างหนักก็คงโดนโบย หรือไม่ก็ติดคุก”
ไผทตาเหลือก “โบย! ติดคุก!”
“ช่วยกันภาวนาเถอะ ขอให้ท่านธูลทรงมีเหตุผลพอ ไม่งั้นเราแย่แน่ๆ”
สองหนุ่ม จ๋อยสนิท
น่ารัก ตอนที่ 7
ชองปอลยังคงโวยวายเอากับท่านธูลอยู่
“ทรงรับสั่งว่าอะไรนะท่านอา”
“เราเห็นว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ คุณไผทเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ท่านชองปอลตกถังสี และอีกอย่างเค้าคงไม่รู้ธรรมเนียมของประเทศเราว่าเราถือสาเรื่องถูกเนื้อต้องตัวกันขนาดไหน”
โลลิต้าถอนใจโล่งอก
ชองปอลโกรธ “ชองปอลไม่คิดเลยว่า ท่านอาจะทรงเข้าข้างคนต่างชาติมากกว่าองค์มกุฎราชกุมารแห่งฮวาซาเหนือ”
ชองปอลเดินหุนหันออกไป โลลิต้าโล่งอกที่ท่านธูลไม่เอาผิดไผท
“เป็นพระกรุณาเพคะท่านพ่อ ที่ไม่ลงโทษคุณไผท”
“ต่อไปลูกหญิงต้องระวังตัวมากกว่านี้นะลูก...พ่อไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นอีก”
“เพคะ ท่านพ่อ”
ท่านธูลถอนใจเฮือก หนักอกกับความวุ่นวายที่จะตามมาอีก
แนวหน้ากับไผทเดินกลับไปกลับมาด้วยความกลัดกลุ้ม
“พี่แนวๆช่วยดูหน่อย หน้าผมผื่นขึ้นรึเปล่า” ไผทถามชวนปวดตับมาก
แนวหน้าโมโห “นี่มันใช่เวลาจะมาห่วงความหล่อเหรอ จะโดนโบยหลังขาดอยู่แล้วนะ”
“แต่ถ้าผมเครียดมากๆ หน้าผมจะผื่นขึ้นนะพี่”
ราอูลเดินเข้ามาหา แนวหน้ากับไผทชะงัก ราอูลหน้าตาเคร่งเครียดมาก
“มีรับสั่งให้คุณทั้งสองเข้าไปพบที่ห้องทรงงานเดี๋ยวนี้”
แนวหน้ากับไผทกลืนน้ำลายลงคอ ด้วยความสยดสยอง
นายเดินเข้าไปที่ออฟฟิศของฟิน ดูออกว่าเป็นสถาบันปั้นดารา เขามองรอบๆ ตัว ไม่มีใครสนใจ นายเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ
“เอ่อ...”
“มาสมัครเป็นดาราใช่มั้ยฮะ กรอกใบสมัครทิ้งไว้ได้เลยฮ่ะ” พนักงานส่งใบสมัครให้
“ไม่ใช่ครับ ผมมาหาคุณฟิน อยู่มั้ยครับ”
“เจ๊ฟินเหรอฮะ ไม่อยู่หรอกฮ่ะ เพิ่งออกไปเมื่อเช้ามืดนี้เอง”
“เมื่อเช้า แล้วไปไหน ทราบมั้ยครับ”
“ไม่ทราบหรอกฮ่ะ แต่มีชะนีนางนึงมารับ เห็นว่าจะไปต่างประเทศหรือไงก็ไม่ทราบฮ่ะ”
“ชะนี สวยๆผมยาวๆ ชื่อจีจี้ใช่มั้ยครับ” นายซัก
“น่าจะใช่นะฮะ หรือไงก็ไม่รู้ ตกลงจะมาสมัครเป็นดารารึเปล่าฮะ ถึงจะอายุมากไปนิด แต่ก็มีแววนะคะ สมัครเถอะ นะๆๆๆ”
นายเซ็ง หันหลังให้ ครุ่นคิด
“ไปต่างประเทศ ไปไหนกันนะ หรือว่า...” นายตกใจสุดขีด
ประตูเปิดออก ราอูลเดินนำมา แล้วหันไปข้างหลัง
“เชิญ”
แนวหน้า ไผท เดินตามราอูลเข้ามาในห้องท่านธูล อย่างหวั่นกลัว
“ท่านธูลพะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมชี้แจงได้...”
ไผทตะลึง “พี่ฟิน”
แนวตกใจเงยหน้ามอง เห็นฟินยืนอยู่ข้างจีจี้ก็ตกใจ “อี...พี่จี้”
ฟินกับจีจี้ขยับตัวออกห่างกัน เผยให้เห็นขิงยืนยิ้มแหยๆ อยู่
ไผทกะแนวหน้าดีใจ อุทานพร้อมกัน “ขิง!”
ฟินกับจีจี้ยิ้มให้กันอย่างสาสมใจ โลลิต้ายืนมองงงๆ
“พวกเราเรานึกว่าคุณจีจี้จะไม่กลับมาที่ฮวาซาแล้ว” ท่านธูลกล่าว
“ต้องกลับสิเพคะ...จีจี้แค่ไปพาทีมงานมาเพิ่ม เพื่อช่วยคุณนายนายและแนวหน้าทำงานอย่างที่เขาขอร้อง”
จีจี้มองหน้าแนวหน้า ยิ้มร้ายท้าทาย
“แล้วพี่นายล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอพี่”
จีจี้ไม่ตอบหันไปแนะนำกับท่านธูล “นี่คือคุณฟินผู้จัดการส่วนตัวของไผทค่ะ”
พลางผายมือไปทางฟินที่ยืนยิ้มแป้นแล้นอยู่ข้างๆ
“ที่จีจี้พาคุณฟินมาก็เพราะคุณฟินดูแลไผทมานาน รู้ใจไผททุกอย่าง ไผทน่าจะมีความสุขถ้ามีคุณฟินอยู่ใกล้ๆ
“ยินดีต้อนรับสู่ฮวาซาใต้”
ฟินทำความเคารพอย่างงดงาม “ขอบพระทัยเพคะ”
จีจี้หันไปมองขิงที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ส่วนนี่คุณขิง เป็นดีไซเนอร์ชื่อดัง ผ่านงานออกแบบเสื้อผ้าทั้งหนังละครมามากมาย และนอกจากนี้...เค้ายังเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของไผทด้วยเพคะ”
โลลิต้าชะงัก มองหน้าขิงกับไผทที่ยิ้มให้กัน
“ขิงดูแลเสื้อผ้าให้กระหม่อมตั้งแต่เริ่มเข้าวงการเลยพะย่ะค่ะ เราสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน” ไผทอวด
แนวหน้าเริ่มเห็นเค้าลางความวุ่นวาย หันไปมองโลลิต้า