เมื่อวานผมเข้าไปทำธุระที่ ราม 2
ยังไม่ได้กินอะไรแต่เช้า เลยแวะกินข้าวร้านประจำในตลาด
สภาพร้านคือ เป็นโต๊ะยาว เหมือนโรงอาหาร มีร้านอยู่สองข้างขนาบโต๊ะ
มีร้านอาหารแตกต่างกันไปประมาณ เกือบ 20 ร้าน
แต่ละร้าน จะมีครัว ขนาดกว้างประมาณ 2 x 2 เมตร
เล็กมากๆนะ แค่วางอุปกรณ์ต่างๆก็แทบจะไม่มีที่เดินแล้ว
แต่อาหารอร่อย (ในฐานะที่ผมเคยเปิดร้านอาหารมาก่อน ขอให้เชื่อผมว่า อร่อยจริงๆ : P)
เป็นจานกระเบื้องค่อนข้างหนัก สีขาวล้วน คือสภาพร้านกับจานที่เสิร์ฟมาค่อนข้างจะ Contrast กันนิดนึง
เข้าใจว่า แต่ละร้าน คงต้องแข่งกัน นอกจากอร่อยแล้ว การจัดจานให้สวยงาม
ก็น่าจะดึงให้ลูกค้ามาติดได้
ที่สำคัญ ไม่แพงมาก ถ้าเทียบกับปริมาณฉละความอร่อย
แต่ก็ร้อนมากๆ พัดลมตัวใหญ่ที่ติดเพดานแทบจะไม่ช่วยเลย
ร้อนมากกก ต้องทำความเข้าใจว่า นี่เป็นร้านอาหารธรรดาๆบ้านๆร้านนึง
ที่เน้นขายให้กับนักศึกษา ในราคาไม่แพงมาก
พอดียังไม่ถึงเวลาที่ผมต้องไปทำธุระ
กินข้าวเสร็จ ก็เลยนั่งคุยกับพี่เจ้าของร้าน
แกมานั่งโต๊ะเดียวกับที่ผมกินอยู่
มาหลายรอบ ก็กินแต่ร้านนี้ แต่ละครั้งก็จะคุย ทักทายกันนิดหน่อย
เพราะดูพี่แกเป็นมิตร คุยเก่งดี
พี่คนนี้ชื่อ... เวร ผมไม่ได้ถามชื่อพี่เค้า
เอาเป็นว่า พี่แกเป็นคนอีสาน อายุประมาณ 39 - 45
ผมเริ่มคุยกับพี่แกด้วยประโยคแรกว่า
ผม : "พี่ ค่าเช่าล็อกเล็กๆแบบนี้ เดือนละเท่าไหร่เนี่ย"
พี่ : "เนี่ยเหรอ 4,850"
ผม : ก็ตีซะ 5,000 เนอะ แล้วนี่พี่ขายมานานยัง
พี่ : ก็เกือบสองปีแล้วล่ะ เซ้งมาอีกทีจากเจ้าของเดิม ตอนแรกพี่ก็เป็นลูกจ้างเค้า
แล้วพี่ก็กลับบ้านไปสามเดือน มารู้อีกที เค้าบอกว่า อยู่ไม่ได้ จะเจ๊งเอา พี่เจ้าของก็มาถามว่า จะเอามั้ย เซ้ง 30,000
ผม : โห ก็ไม่แพงนะพี่
พี่ : มันก็ไม่แพงหรอก แต่อย่างพี่จะเอาเงินที่ไหนมา ตอนเป็นลูกจ้างได้เดือนละ 9,000 เอง ตอนนั้นพี่ก็ไม่มีเงินหรอก แต่ก็เอานะ ก็บอกเค้าว่า จะทยอยส่งให้ พอดีเดือนแรกที่ขายได้ ไม่รู้ว่าสวรรค์ช่วยพี่หรือเปล่านะ ก็ได้กำไรมาสี่หมื่น ก็ให้เค้าไปหมดเลยเดือนนั้น
ผม : โห จากร้านที่จะเจ๊ง พี่เข้ามาทำแล้วกำไรทีเดียวสี่หมื่นเลยเหรอ เก่งนะ แล้วพี่ทำอาหารคนเดียวหมดเลยเหรอ (ป้ายเมนูที่แปะหน้าร้านมีประมาณ 40 เมนู) เรียนที่ไหนมาอะ
พี่ : โอ๊ย พี่อะ ไม่ได้เรียนหรอก ก็อาศัยตอนเป็นลูกจ้างเค้า ที่เราจะต้องหยิบโน่นนี่ให้เค้า เราก็ดูเอา แล้วก็พัฒนาตัวเอง พี่เชื่อว่า ถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรซักอย่าง มันก็ต้องทำได้ ยิ่งเราจนด้วยไง เมื่อก่อนเงินซื้อสบู่ซักก้อนยังไม่มีเลย นี่พี่ใช้แฟ้บล้างหน้า อาบน้ำมานะ ตอนเด็กๆ (หัวเราะ) แต่บางคนทำไม่ได้ก็มีนะ พี่สาวพี่เนี่ย เป็นลูกจ้างร้านอาหารมาตลอด ทำอาหารเองยังไม่ได้เลย มันคงแล้วแต่คนมั้ง แต่พี่คิดว่า ถ้าเราไม่ทำ เราก็จะหยุดอยู่แค่นี้ เป็นลูกจ้างเค้าไปตลอด แล้วนี่ที่ทำให้กินนี่ กินได้มั้ย อร่อยหรือเปล่า
ผม : อร่อยนะพี่ แต่เส้นน้อยไปนิด ไม่ค่อยอิ่ม คราวหน้าขอเยอะกว่านี้อีกนิดนะ 555(ผมสั่ง สปาเกตตี้ขี้เมา)
พี่ : เมื่อก่อนพี่น่ะ ทำงานก่อสร้าง แบกปูนจนเลือดทะลัก มือเปื่อย แล้วงานมันหนัก พี่เลยเลิก ออกมาหางานอื่นทำ เชื่อมั้ย หางานแรกๆนี่หายากมาก พี่ไม่ได้เลือกงานนะ แต่ส่วนใหญ่เค้าจะรับแต่พม่า ไม่ก็กัมพูชา พวกนี้ขยัน ไม่ขี้เมาเหมือนคนไทย ไม่เลือกงาน ตอนพี่ไปเดินหางานนั่น ไม่มีที่ไหนรับคนไทยเลย พี่ถึงขนาดต้องแกล้งพูดไม่ชัด ทำให้เป็นเหมือนคนพม่า แต่เค้าก็รู้ จับได้ สุดท้ายก็ไม่เอา ก็มาได้งานที่ร้านนี่แหละ
ผม : จริงนะพี่ ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่ขี้เกียจ ผมเคยทำร้านอาหาร แม่ครัวนี่ วันๆเอาแต่นั่งเก็งหวย สามโมงไม่มีลูกค้าก็หลับ แต่พนักงานอีกคนที่เป็นคนลาว ไม่มีลูกค้าก็ทำความสะอาดร้าน เช็ดโน่นนี่ทั้งวัน คือมันต่างกันจริงๆ
พี่ : เนี่ย ในตลาดที่นู๋เห็นเนี่ย พม่าเป็นเจ้าของร้านกันเยอะนะ น่าจะสิบกว่าคน มีรถกระบะคนละคันสองคัน พวกนี้เค้าขยันมาก อย่างจานเนี่ย พี่ไม่ได้ล้างเองนะ พี่จ้างเค้า ประมาณ 100 ใบ 80 บาท ล้างประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เสร็จ ล้างเองไม่ไหว เหนื่อย เราอยู่หน้าเตามาทั้งวันแล้วไง เลยจ้างเอาดีกว่า ล้างจานนี่ ได้เงินทีนึง เดือนละเกือบสามหมื่นนะ
ผม : เฮ้ยพี่ แค่ล้างจานอย่างเดียวเนี่ยนะ เงินเดือนเกือบสามหมื่น
พี่ : ใช่ เค้ารับจ้างเกือบทุกร้าน ร้านละ 80 บาท มีกี่ร้านล่ะ เกือบ 20 ร้าน วันนึงก็เกือบๆพันแล้ว
ผม : อืม... ไม่เลวเนอะ เค้าขยันจริงๆนะ คนพม่าเนี่ย
พี่ : แล้วกลางวันเค้าก็ทำงานนะ มารับจ็อบล้างจานเนี่ย หลังหกโมง ล้างถึงเที่ยงคืนนู่นแน่ะ
ผม : อืม... ตั้งแต่ขายมาเนี่ย เคยได้เยอะสุดเท่าไหร่พี่ ถึงแสนมั้ย (ผมถามว่าถึงแสนมั้ย เพราะคิดว่าไม่น่าจะถึง เพราะร้านเล็ก คู่แข่งเยอะ แต่ให้เกียรติพี่เค้านิดนึง)
พี่ : ไม่ถึงหรอก ก็ประมาณ 80,000
ผม : ห๊า 80,000 นี่ยอดขายหรือกำไรพี่
พี่ : กำไรสิ พี่ก็นับแต่กำไร อันนี้ที่ได้เยอะๆนะ น้อยๆก็มี แต่ก็ไม่ได้น้อยมาก พี่ต้องส่งลุกเรียน 4 คนด้วย
ผม : โห เห็นร้านเล็กๆแบบนี้ กำไรดีนะพี่ นี่เงินดีกว่าพนักงานบริษัทหลายๆคนมากๆเลยนะ ส่วนใหญ่ขายใครอะพี่
พี่ : ส่วนใหญ่ก็คนทั่วไปนะ นักศึกษารามเนี่ย จะน้อยหน่อย
ผม : แล้วนี่พี่ เปิดปิดกี่โมงอะ
พี่ : เมื่อก่อนตอนพี่เป้นลูกจ้าง ก็เปิด สิบโมงบ้าง เก้าโมงบ้าง แต่พอพี่เป็นเจ้าของเอง พี่ก็โน่นเลย มาร้านตั้งกะตีสี่ หกโมงต้องได้กินแล้ว ถ้าเรามาก่อนคนอื่น เราก็มีโอกาสมากกว่าคนอื่น ตรงนี้มันเป้นตลาดด้วยไง มันก็มีคนมาซื้อกับข้าวกันแต่เช้า เราก็ขายได้ ทุกวันนี้ ก็ต้องมาถึงร้านตั้งแต่ตีห้า ตีห้านี่ช้าสุดแล้วนะ เพราะจะมีพนักงานออฟฟิศตรงประเวศ มาสั่ง 20 กล่อง ทุกเช้า
ถึงตรงนี้ พอดีมีลูกค้ามาสั่งอาหารพอดี ผมเลยขอตัวไปทำธุระต่อ
จริงๆแล้ว คุยเยอะกว่านี้มาก นั่งคุยกันเกือบชั่วโมง บางเรื่องก็จำไม่ได้บ้าง
สิ่งที่ได้จากการคุยกับพี่เจ้าของร้านอาหารเล็กๆนี้
1. คนเราไม่จำเป็นต้องรู้ในสิ่งที่จะทำมาก่อน แค่ตั้งใจ มุ่งมั่น เชื่อในสิ่งที่กำลังทำ อะไรก็ทำได้
2. งานมีทุกหนทุกแห่ง อยู่ที่ว่าคุณเลือกงานหรือเปล่า แล้วยอมลำบากได้มั้ย
3. ถ้าไม่หยุดพัฒนาตัวเอง โอกาสทำเงิน และประสบความสำเร็จ ก็ไม่ได้ยากเกินไปนัก
4. คนงานพม่า ขยันกว่า คนงานไทย
5. อาชีพล้างจาน มีรายได้เดือนละกว่า 30,000 บาท
6. คนจน หรือคนที่ไม่มี จะมีความขยันมากกว่าคนรวย เพียงแต่อาจจะไม่มีโอกาสมากเหมือนคนรวย
7. เจ้าของร้านอาหารซอมซ่อ เล็กๆขนาด 2x2 เมตร มีรายได้ดีกว่า พนักงานที่จบ ป.โท หลายคน (รายได้ดีกว่า ป.ตรีอย่างผมเยอะมาก 555)
8. ขยันกว่าคนอื่น หมายถึงโอกาสที่มากกว่าคู่แข่ง
9. นักศึกษารามส่วนใหญ่ กินข้าวข้างนอกบ้าน ค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่จะซื้อวัตถุดิบในตลาด แล้วเอาไปทำกินเองที่ห้อง
10. อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา
บทสนทนาระหว่างผม กับเจ้าของร้านอาหารขนาด 2x2 เมตร
ยังไม่ได้กินอะไรแต่เช้า เลยแวะกินข้าวร้านประจำในตลาด
สภาพร้านคือ เป็นโต๊ะยาว เหมือนโรงอาหาร มีร้านอยู่สองข้างขนาบโต๊ะ
มีร้านอาหารแตกต่างกันไปประมาณ เกือบ 20 ร้าน
แต่ละร้าน จะมีครัว ขนาดกว้างประมาณ 2 x 2 เมตร
เล็กมากๆนะ แค่วางอุปกรณ์ต่างๆก็แทบจะไม่มีที่เดินแล้ว
แต่อาหารอร่อย (ในฐานะที่ผมเคยเปิดร้านอาหารมาก่อน ขอให้เชื่อผมว่า อร่อยจริงๆ : P)
เป็นจานกระเบื้องค่อนข้างหนัก สีขาวล้วน คือสภาพร้านกับจานที่เสิร์ฟมาค่อนข้างจะ Contrast กันนิดนึง
เข้าใจว่า แต่ละร้าน คงต้องแข่งกัน นอกจากอร่อยแล้ว การจัดจานให้สวยงาม
ก็น่าจะดึงให้ลูกค้ามาติดได้
ที่สำคัญ ไม่แพงมาก ถ้าเทียบกับปริมาณฉละความอร่อย
แต่ก็ร้อนมากๆ พัดลมตัวใหญ่ที่ติดเพดานแทบจะไม่ช่วยเลย
ร้อนมากกก ต้องทำความเข้าใจว่า นี่เป็นร้านอาหารธรรดาๆบ้านๆร้านนึง
ที่เน้นขายให้กับนักศึกษา ในราคาไม่แพงมาก
พอดียังไม่ถึงเวลาที่ผมต้องไปทำธุระ
กินข้าวเสร็จ ก็เลยนั่งคุยกับพี่เจ้าของร้าน
แกมานั่งโต๊ะเดียวกับที่ผมกินอยู่
มาหลายรอบ ก็กินแต่ร้านนี้ แต่ละครั้งก็จะคุย ทักทายกันนิดหน่อย
เพราะดูพี่แกเป็นมิตร คุยเก่งดี
พี่คนนี้ชื่อ... เวร ผมไม่ได้ถามชื่อพี่เค้า
เอาเป็นว่า พี่แกเป็นคนอีสาน อายุประมาณ 39 - 45
ผมเริ่มคุยกับพี่แกด้วยประโยคแรกว่า
ผม : "พี่ ค่าเช่าล็อกเล็กๆแบบนี้ เดือนละเท่าไหร่เนี่ย"
พี่ : "เนี่ยเหรอ 4,850"
ผม : ก็ตีซะ 5,000 เนอะ แล้วนี่พี่ขายมานานยัง
พี่ : ก็เกือบสองปีแล้วล่ะ เซ้งมาอีกทีจากเจ้าของเดิม ตอนแรกพี่ก็เป็นลูกจ้างเค้า
แล้วพี่ก็กลับบ้านไปสามเดือน มารู้อีกที เค้าบอกว่า อยู่ไม่ได้ จะเจ๊งเอา พี่เจ้าของก็มาถามว่า จะเอามั้ย เซ้ง 30,000
ผม : โห ก็ไม่แพงนะพี่
พี่ : มันก็ไม่แพงหรอก แต่อย่างพี่จะเอาเงินที่ไหนมา ตอนเป็นลูกจ้างได้เดือนละ 9,000 เอง ตอนนั้นพี่ก็ไม่มีเงินหรอก แต่ก็เอานะ ก็บอกเค้าว่า จะทยอยส่งให้ พอดีเดือนแรกที่ขายได้ ไม่รู้ว่าสวรรค์ช่วยพี่หรือเปล่านะ ก็ได้กำไรมาสี่หมื่น ก็ให้เค้าไปหมดเลยเดือนนั้น
ผม : โห จากร้านที่จะเจ๊ง พี่เข้ามาทำแล้วกำไรทีเดียวสี่หมื่นเลยเหรอ เก่งนะ แล้วพี่ทำอาหารคนเดียวหมดเลยเหรอ (ป้ายเมนูที่แปะหน้าร้านมีประมาณ 40 เมนู) เรียนที่ไหนมาอะ
พี่ : โอ๊ย พี่อะ ไม่ได้เรียนหรอก ก็อาศัยตอนเป็นลูกจ้างเค้า ที่เราจะต้องหยิบโน่นนี่ให้เค้า เราก็ดูเอา แล้วก็พัฒนาตัวเอง พี่เชื่อว่า ถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรซักอย่าง มันก็ต้องทำได้ ยิ่งเราจนด้วยไง เมื่อก่อนเงินซื้อสบู่ซักก้อนยังไม่มีเลย นี่พี่ใช้แฟ้บล้างหน้า อาบน้ำมานะ ตอนเด็กๆ (หัวเราะ) แต่บางคนทำไม่ได้ก็มีนะ พี่สาวพี่เนี่ย เป็นลูกจ้างร้านอาหารมาตลอด ทำอาหารเองยังไม่ได้เลย มันคงแล้วแต่คนมั้ง แต่พี่คิดว่า ถ้าเราไม่ทำ เราก็จะหยุดอยู่แค่นี้ เป็นลูกจ้างเค้าไปตลอด แล้วนี่ที่ทำให้กินนี่ กินได้มั้ย อร่อยหรือเปล่า
ผม : อร่อยนะพี่ แต่เส้นน้อยไปนิด ไม่ค่อยอิ่ม คราวหน้าขอเยอะกว่านี้อีกนิดนะ 555(ผมสั่ง สปาเกตตี้ขี้เมา)
พี่ : เมื่อก่อนพี่น่ะ ทำงานก่อสร้าง แบกปูนจนเลือดทะลัก มือเปื่อย แล้วงานมันหนัก พี่เลยเลิก ออกมาหางานอื่นทำ เชื่อมั้ย หางานแรกๆนี่หายากมาก พี่ไม่ได้เลือกงานนะ แต่ส่วนใหญ่เค้าจะรับแต่พม่า ไม่ก็กัมพูชา พวกนี้ขยัน ไม่ขี้เมาเหมือนคนไทย ไม่เลือกงาน ตอนพี่ไปเดินหางานนั่น ไม่มีที่ไหนรับคนไทยเลย พี่ถึงขนาดต้องแกล้งพูดไม่ชัด ทำให้เป็นเหมือนคนพม่า แต่เค้าก็รู้ จับได้ สุดท้ายก็ไม่เอา ก็มาได้งานที่ร้านนี่แหละ
ผม : จริงนะพี่ ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่ขี้เกียจ ผมเคยทำร้านอาหาร แม่ครัวนี่ วันๆเอาแต่นั่งเก็งหวย สามโมงไม่มีลูกค้าก็หลับ แต่พนักงานอีกคนที่เป็นคนลาว ไม่มีลูกค้าก็ทำความสะอาดร้าน เช็ดโน่นนี่ทั้งวัน คือมันต่างกันจริงๆ
พี่ : เนี่ย ในตลาดที่นู๋เห็นเนี่ย พม่าเป็นเจ้าของร้านกันเยอะนะ น่าจะสิบกว่าคน มีรถกระบะคนละคันสองคัน พวกนี้เค้าขยันมาก อย่างจานเนี่ย พี่ไม่ได้ล้างเองนะ พี่จ้างเค้า ประมาณ 100 ใบ 80 บาท ล้างประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เสร็จ ล้างเองไม่ไหว เหนื่อย เราอยู่หน้าเตามาทั้งวันแล้วไง เลยจ้างเอาดีกว่า ล้างจานนี่ ได้เงินทีนึง เดือนละเกือบสามหมื่นนะ
ผม : เฮ้ยพี่ แค่ล้างจานอย่างเดียวเนี่ยนะ เงินเดือนเกือบสามหมื่น
พี่ : ใช่ เค้ารับจ้างเกือบทุกร้าน ร้านละ 80 บาท มีกี่ร้านล่ะ เกือบ 20 ร้าน วันนึงก็เกือบๆพันแล้ว
ผม : อืม... ไม่เลวเนอะ เค้าขยันจริงๆนะ คนพม่าเนี่ย
พี่ : แล้วกลางวันเค้าก็ทำงานนะ มารับจ็อบล้างจานเนี่ย หลังหกโมง ล้างถึงเที่ยงคืนนู่นแน่ะ
ผม : อืม... ตั้งแต่ขายมาเนี่ย เคยได้เยอะสุดเท่าไหร่พี่ ถึงแสนมั้ย (ผมถามว่าถึงแสนมั้ย เพราะคิดว่าไม่น่าจะถึง เพราะร้านเล็ก คู่แข่งเยอะ แต่ให้เกียรติพี่เค้านิดนึง)
พี่ : ไม่ถึงหรอก ก็ประมาณ 80,000
ผม : ห๊า 80,000 นี่ยอดขายหรือกำไรพี่
พี่ : กำไรสิ พี่ก็นับแต่กำไร อันนี้ที่ได้เยอะๆนะ น้อยๆก็มี แต่ก็ไม่ได้น้อยมาก พี่ต้องส่งลุกเรียน 4 คนด้วย
ผม : โห เห็นร้านเล็กๆแบบนี้ กำไรดีนะพี่ นี่เงินดีกว่าพนักงานบริษัทหลายๆคนมากๆเลยนะ ส่วนใหญ่ขายใครอะพี่
พี่ : ส่วนใหญ่ก็คนทั่วไปนะ นักศึกษารามเนี่ย จะน้อยหน่อย
ผม : แล้วนี่พี่ เปิดปิดกี่โมงอะ
พี่ : เมื่อก่อนตอนพี่เป้นลูกจ้าง ก็เปิด สิบโมงบ้าง เก้าโมงบ้าง แต่พอพี่เป็นเจ้าของเอง พี่ก็โน่นเลย มาร้านตั้งกะตีสี่ หกโมงต้องได้กินแล้ว ถ้าเรามาก่อนคนอื่น เราก็มีโอกาสมากกว่าคนอื่น ตรงนี้มันเป้นตลาดด้วยไง มันก็มีคนมาซื้อกับข้าวกันแต่เช้า เราก็ขายได้ ทุกวันนี้ ก็ต้องมาถึงร้านตั้งแต่ตีห้า ตีห้านี่ช้าสุดแล้วนะ เพราะจะมีพนักงานออฟฟิศตรงประเวศ มาสั่ง 20 กล่อง ทุกเช้า
ถึงตรงนี้ พอดีมีลูกค้ามาสั่งอาหารพอดี ผมเลยขอตัวไปทำธุระต่อ
จริงๆแล้ว คุยเยอะกว่านี้มาก นั่งคุยกันเกือบชั่วโมง บางเรื่องก็จำไม่ได้บ้าง
สิ่งที่ได้จากการคุยกับพี่เจ้าของร้านอาหารเล็กๆนี้
1. คนเราไม่จำเป็นต้องรู้ในสิ่งที่จะทำมาก่อน แค่ตั้งใจ มุ่งมั่น เชื่อในสิ่งที่กำลังทำ อะไรก็ทำได้
2. งานมีทุกหนทุกแห่ง อยู่ที่ว่าคุณเลือกงานหรือเปล่า แล้วยอมลำบากได้มั้ย
3. ถ้าไม่หยุดพัฒนาตัวเอง โอกาสทำเงิน และประสบความสำเร็จ ก็ไม่ได้ยากเกินไปนัก
4. คนงานพม่า ขยันกว่า คนงานไทย
5. อาชีพล้างจาน มีรายได้เดือนละกว่า 30,000 บาท
6. คนจน หรือคนที่ไม่มี จะมีความขยันมากกว่าคนรวย เพียงแต่อาจจะไม่มีโอกาสมากเหมือนคนรวย
7. เจ้าของร้านอาหารซอมซ่อ เล็กๆขนาด 2x2 เมตร มีรายได้ดีกว่า พนักงานที่จบ ป.โท หลายคน (รายได้ดีกว่า ป.ตรีอย่างผมเยอะมาก 555)
8. ขยันกว่าคนอื่น หมายถึงโอกาสที่มากกว่าคู่แข่ง
9. นักศึกษารามส่วนใหญ่ กินข้าวข้างนอกบ้าน ค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่จะซื้อวัตถุดิบในตลาด แล้วเอาไปทำกินเองที่ห้อง
10. อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา