..."เสน่ห์วรรณยุกต์ สนุกวรรณศิลป์" (ตรีเพชรพวง แสร้งเล่นเป็นเพลงเรือ)...

กระทู้สนทนา
“ตรีเพชรพวง”  แสร้งเล่นเป็นเพลงเรือ

ลงเร่เรือ เรื่อเรื้อ ชวนเนื้อน้อง
ละลิ่วลอง ล่องร้องรำ กลางน้ำใส
แผ่วพายผาย ผ่ายผ้าย จ้วงพายไป
หริ่งเรไร ไล่ไล้เรียง เสียงสำราญ

โถ...ทิพย์ทอง ท่องท้องธาร ชาญน้ำเชี่ยว
กลมเกลียวเกี่ยว เกี้ยวกราย พรายรักหวาน
ครั่นครืนคลื่น ครื้นเครง บรรเลงปาน
เสียงซอซึง ซึ่งซึ้งซ่าน ผ่านเรือลอย

หลบเร้นเล่น เลนหล่ม จมเลนรัก
ไป่เปลืองเปรื่อง เปลื้องปลัก จักปลดปล่อย
คำคมคุ้น ครุ่นคุณค่า มาปรายปรอย
รัดรึงร้อย ร่อยรอยร้าง หว่างละเวง

รื่นรมย์ล้ำ ร่ำรำไร ใจหวิวหวาม
แค่นขืนขาม ข่ามข้าม คร้ามโหวงเหวง
ลมหลอกล้อ ร่อรอ มาคลอเครง
ราวละเลง เร่งเล้งโล้ง โหรงเหรงลอย

พึมพำพร่ำ พล้ำเพลี่ยง เอียงแก้มหลบ
แกล้งเกลื่อนกลบ กั้นกั่น กรรแสงสร้อย
อ่อยอี๊เอียง เอี่ยง เอี้ยง เสี่ยงสำออย
คิดครวญคอย ค่อยคล้อยเคลื่อน เอื้อนเพลงเรือ

ฮา ฮ่า ฮ้า.......ฮ้าไฮ้...เอ้า...เชี้ยบเชี้ยบ
เรือรักเลียบ เรียงราย ร่ายร้ายเหลือ
กล..กลอน..กอง ก่องก้อง ยามล่องเรือ
ข้างคลองคล่อง คล้องคำเครือ หวานเรือเพลง
.
.
.
ปิดท้ายด้วยบทร้องเพลงเรือค่ะ

(ชาย)
เอิงเอย...วันนี้  พี่มาบรรเลง
ทำสำออยอ้อยอิ่ง จะซบพิงนวลละเวง
อยากจะกอดจะเกย อยากจะเชยนุชเขนง
พี่จะร้องเรือเพลง ให้ครื้นเครงเจ้าเอย
...........ฮ้าไฮ้...เอ้า...เชี้ยบเชี้ยบ...........

(หญิง)
เอิงเอย...ฟังคำ  พี่มาร่ำมาเร่ง
เร่เรือลอยลม มาแอบชมแอบเพ่ง
เกี้ยวพาราสี ตีฆ้องหน่องเนง
อ๊ะ...น้องจะพายเรือเอง  เพราะอยากร้องเพลงเรือ...เอย
.........ฮ้าไฮ้...เอ้า...เชี้ยบเชียบ...........



แสร้งร้องเพลงเรือเป็น กลบทตรีเพชรพวงค่ะ
เสน่ห์ของภาษาไทยที่ไม่เหมือนภาษาใดในโลก ก็ตรงวรรณยุกต์ที่แหละค่ะ  ไม่ว่าจะเป็น สามัญ เอก โท ตรี จัตวา
เมื่อไปอยู่กับคำใด ทำให้คำนั้นมีเสียงเปลี่ยนไป และความหมายก็เปลี่ยนไปด้วย...ฟังเหมือนเสียงดนตรี
เพราะดีนะคะ...(เพราะ...แต่แต่งยากน่าดู คริคริ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่