เราเพิ่งซื้อ LV ขนมจีบ สีเขียว สายแดง ปี 95 กับร้านใน ig ซึ่งได้ติดตามร้านนี้ระยะนึงและมั่นใจว่าของแท้ ไม่มีปัญหา
รวมทั้งได้คุยกับพี่ที่เป็นคนขายเป็นอย่างดีก่อนซื้อ ทั้งดูรูปของตัวกระเป๋า จนมั่นใจจึงตัดสินใจซื้อ
*ต้องบอกก่อนว่าปกติเราไม่ใช้กระเป๋าแบรนด์เนม Hi-End จะใช้พวก street brand หรือไม่ก็แบรนด์ในประเทศปกติ
แต่เห็นใบนี้ เราชอบทรงและสีค่ะ
ตัวกระเป๋าถึงจะเป็น ปี 95 แต่โดยรวมยังดูดีมาก ทรงยังแข็ง แต่พอได้กระเป๋ามา เราเจอรอยที่สายกระเป๋าคล้ายๆ รอยปากกา
เลยโรคจิตหาทางเอามันออก เลยเอาครีมเช็ดกระเป๋าโดยเฉพาะ (ไม่ใช่เสตย์คลีน) ซึ่งโดยปกติเคยเช็ดกระเป๋าหนังใบอื่น ก็ไม่มีปัญหาสีตก สีเฟดอะไรเลย พอเช็ดกระเป๋าใบนี้ ด่างเลยค่ะ ซึ่งมันแค่นิดเดียวตามรูปค่ะ
เลยลอง search หาวิธีแก้ไขใน google ก็เจอว่ามีคนลองเอากระเป๋าไปทำสปา ก็เลยลองหาข้อมูลดู เลยนึกได้ว่า เคยเอา Longchamp ไปซักที่ร้านชั้นใต้ดินที่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เลยลองแอดไลน์เพื่อสอบถามข้อมูลว่าสีกระเป๋าที่ด่างทางร้านสามารถแก้ไขได้หรือเปล่า ทางร้านบอกว่าไม่ได้ เราก็ไม่เป็นไร เลยคิดว่าจะไปทำสปาปกติ ซึ่งตอนที่เอากระเป๋าไปที่ร้าน เราให้ทางร้านดูว่ามันมีรอยด่างตรงนี้ตามที่เเจ้งไปนะ เค้าก็คิดราคามาที่ 2,000 บาท ลดให้จาก 2,500 บาท เพราะอยากที่ตัวอะไหล่ทอง ซึ่งเราก็โอเค จ่ายเงินไปครบจำนวนเรียบร้อย
แล้ววันนี้ทางร้านโทรมาให้ไปเอากระเป๋า พอรับมาเราไม่ทันดูให้เรียบร้อยที่ร้าน ด้วยความที่รีบกลับบ้านเพื่อไปพาน้องหมาไป รพ.
พอกลับมาที่บ้านชัดเลยค่ะ ว่าตอนนี้รอยด่างของสีที่สายกระเป๋ามันเป็นเยอะขึ้นมาก
ในตอนแรกเราไม่คิดจะบอกร้านสปากระเป๋า เพราะคิดว่าบอกยังไงก็แก้อะไรไม่ได้ ทำใจใช้ไปดีกว่า เพราะอะไหล่ทองหรือตัวกระเป๋า ก็ไม่มีปัญหา
แล้วเราก็คุยกะพี่ที่ซื้อกระเป๋ามาว่าพอไปสปาแล้วมันเป็นงี้ พี่เค้าบอกว่าทางร้านสปาฯ ซักกระเป๋าซะแห้งเลย คงแก้อะไรไม่ได้ แต่ควรบอกให้ทางร้านรับทราบ
เราก็ไลน์ไปบอกทางร้านสปากระเป๋าค่ะว่าพอเอากระเป๋ากลับมา เจอว่าสีที่สายมันด่างตรงจุดอื่นที่ไม่ใช่รอยเดิม ส่งรูปไปด้วย
เค้าก็ขอเบอร์แล้วโทรกลับมา บอกว่าเช็คกับช่างแล้ว ตอนทำความสะอาดสีกระเป๋าน้องไม่ตกเลย มันเป็นที่สีของกระเป๋าแต่เดิมหรือเปล่า
พอคราบสกปรกมันออกไปเลยเห็นสีกระเป๋าจริง แล้วดูรูปที่ช่างถ่ายไม่ใช่แฟลซ ก็ไม่เห็นสีที่สายจะด่างเลย ไม่รู้ว่าตอนน้องถ่ายรูปส่งมาใช้แฟลซเลยเห็นเป็นอย่างงั้น
คือเราปรี๊ดเลยค่ะ เลยบอกเค้าไปว่าเราไม่ได้ต้องการให้เค้ามารับผิดชอบอะไร แค่แจ้งให้ทราบ สีกระเป๋ามันด่างก็เห็นอยู่ ต
อนถ่ายไม่ได้ใช้แฟลซ ถ่ายกับไฟในบ้านนี่แหละ แล้วถ้ามันด่างเพราะคราบสกปรกออก ทำไมตรงกลางของสายสีไม่เปลี่ยน
เค้าก็ยังยืนยันค่ะว่าเค้าใช้น้ำยาของ Collonil ซึ่งเป็นน้ำยาเฉพาะ แล้วก็พูดวนเหมือนเดิมๆ เพื่อบอกปัดว่าไม่ใช่ความผิดของทางร้าน
โดยที่ไม่มีคำว่า ขอโทษ ออกมาจากปากซักคำ
เราเลยสรุปกับเค้าว่าแค่แจ้งให้ทราบ ที่เลือกร้านนี้เพราะมั่นใจว่าเคยเอากระเป๋าไปซักและพอใจ เลยเอาใบนี้ไปทำ
เค้าบอกว่า ค่ะ แล้วเราก็วางไป เราโกรธมากจนน้ำตาไหลเลยค่ะ ไม่คิดมาก่อนว่าคำตอบจะเป็นแบบนี้ เราต้องโทษตัวเองที่ใจร้อนเเละตัดสินใจผิดเองค่ะ
เลยอยากเตือนเพื่อนๆ ว่าก่อนจะเอากระเป๋าไปส่งสปาหรือทำความสะอาดร้านไหน ควรจะดูให้ดี สอบถามผูรู้ คนที่มีประสบการณ์ ก่อนว่าเค้าเชี่ยวชาญในแบรนด์นั้นๆหรือเปล่า แบรนด์นี้อาจทำดี แต่อีกแบรนด์ที่เค้าไม่เชี่ยวชาญพอ อาจผลลัพธ์กลับมาเหมือนเราค่ะ
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ที่ไม่ดี (มากๆ) กับร้านรับทำสปากระเป๋าชั้นใต้ดิน เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะค่ะ
รวมทั้งได้คุยกับพี่ที่เป็นคนขายเป็นอย่างดีก่อนซื้อ ทั้งดูรูปของตัวกระเป๋า จนมั่นใจจึงตัดสินใจซื้อ
*ต้องบอกก่อนว่าปกติเราไม่ใช้กระเป๋าแบรนด์เนม Hi-End จะใช้พวก street brand หรือไม่ก็แบรนด์ในประเทศปกติ
แต่เห็นใบนี้ เราชอบทรงและสีค่ะ
ตัวกระเป๋าถึงจะเป็น ปี 95 แต่โดยรวมยังดูดีมาก ทรงยังแข็ง แต่พอได้กระเป๋ามา เราเจอรอยที่สายกระเป๋าคล้ายๆ รอยปากกา
เลยโรคจิตหาทางเอามันออก เลยเอาครีมเช็ดกระเป๋าโดยเฉพาะ (ไม่ใช่เสตย์คลีน) ซึ่งโดยปกติเคยเช็ดกระเป๋าหนังใบอื่น ก็ไม่มีปัญหาสีตก สีเฟดอะไรเลย พอเช็ดกระเป๋าใบนี้ ด่างเลยค่ะ ซึ่งมันแค่นิดเดียวตามรูปค่ะ
เลยลอง search หาวิธีแก้ไขใน google ก็เจอว่ามีคนลองเอากระเป๋าไปทำสปา ก็เลยลองหาข้อมูลดู เลยนึกได้ว่า เคยเอา Longchamp ไปซักที่ร้านชั้นใต้ดินที่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เลยลองแอดไลน์เพื่อสอบถามข้อมูลว่าสีกระเป๋าที่ด่างทางร้านสามารถแก้ไขได้หรือเปล่า ทางร้านบอกว่าไม่ได้ เราก็ไม่เป็นไร เลยคิดว่าจะไปทำสปาปกติ ซึ่งตอนที่เอากระเป๋าไปที่ร้าน เราให้ทางร้านดูว่ามันมีรอยด่างตรงนี้ตามที่เเจ้งไปนะ เค้าก็คิดราคามาที่ 2,000 บาท ลดให้จาก 2,500 บาท เพราะอยากที่ตัวอะไหล่ทอง ซึ่งเราก็โอเค จ่ายเงินไปครบจำนวนเรียบร้อย
แล้ววันนี้ทางร้านโทรมาให้ไปเอากระเป๋า พอรับมาเราไม่ทันดูให้เรียบร้อยที่ร้าน ด้วยความที่รีบกลับบ้านเพื่อไปพาน้องหมาไป รพ.
พอกลับมาที่บ้านชัดเลยค่ะ ว่าตอนนี้รอยด่างของสีที่สายกระเป๋ามันเป็นเยอะขึ้นมาก
ในตอนแรกเราไม่คิดจะบอกร้านสปากระเป๋า เพราะคิดว่าบอกยังไงก็แก้อะไรไม่ได้ ทำใจใช้ไปดีกว่า เพราะอะไหล่ทองหรือตัวกระเป๋า ก็ไม่มีปัญหา
แล้วเราก็คุยกะพี่ที่ซื้อกระเป๋ามาว่าพอไปสปาแล้วมันเป็นงี้ พี่เค้าบอกว่าทางร้านสปาฯ ซักกระเป๋าซะแห้งเลย คงแก้อะไรไม่ได้ แต่ควรบอกให้ทางร้านรับทราบ
เราก็ไลน์ไปบอกทางร้านสปากระเป๋าค่ะว่าพอเอากระเป๋ากลับมา เจอว่าสีที่สายมันด่างตรงจุดอื่นที่ไม่ใช่รอยเดิม ส่งรูปไปด้วย
เค้าก็ขอเบอร์แล้วโทรกลับมา บอกว่าเช็คกับช่างแล้ว ตอนทำความสะอาดสีกระเป๋าน้องไม่ตกเลย มันเป็นที่สีของกระเป๋าแต่เดิมหรือเปล่า
พอคราบสกปรกมันออกไปเลยเห็นสีกระเป๋าจริง แล้วดูรูปที่ช่างถ่ายไม่ใช่แฟลซ ก็ไม่เห็นสีที่สายจะด่างเลย ไม่รู้ว่าตอนน้องถ่ายรูปส่งมาใช้แฟลซเลยเห็นเป็นอย่างงั้น
คือเราปรี๊ดเลยค่ะ เลยบอกเค้าไปว่าเราไม่ได้ต้องการให้เค้ามารับผิดชอบอะไร แค่แจ้งให้ทราบ สีกระเป๋ามันด่างก็เห็นอยู่ ต
อนถ่ายไม่ได้ใช้แฟลซ ถ่ายกับไฟในบ้านนี่แหละ แล้วถ้ามันด่างเพราะคราบสกปรกออก ทำไมตรงกลางของสายสีไม่เปลี่ยน
เค้าก็ยังยืนยันค่ะว่าเค้าใช้น้ำยาของ Collonil ซึ่งเป็นน้ำยาเฉพาะ แล้วก็พูดวนเหมือนเดิมๆ เพื่อบอกปัดว่าไม่ใช่ความผิดของทางร้าน
โดยที่ไม่มีคำว่า ขอโทษ ออกมาจากปากซักคำ
เราเลยสรุปกับเค้าว่าแค่แจ้งให้ทราบ ที่เลือกร้านนี้เพราะมั่นใจว่าเคยเอากระเป๋าไปซักและพอใจ เลยเอาใบนี้ไปทำ
เค้าบอกว่า ค่ะ แล้วเราก็วางไป เราโกรธมากจนน้ำตาไหลเลยค่ะ ไม่คิดมาก่อนว่าคำตอบจะเป็นแบบนี้ เราต้องโทษตัวเองที่ใจร้อนเเละตัดสินใจผิดเองค่ะ
เลยอยากเตือนเพื่อนๆ ว่าก่อนจะเอากระเป๋าไปส่งสปาหรือทำความสะอาดร้านไหน ควรจะดูให้ดี สอบถามผูรู้ คนที่มีประสบการณ์ ก่อนว่าเค้าเชี่ยวชาญในแบรนด์นั้นๆหรือเปล่า แบรนด์นี้อาจทำดี แต่อีกแบรนด์ที่เค้าไม่เชี่ยวชาญพอ อาจผลลัพธ์กลับมาเหมือนเราค่ะ