คือในภาพ ผมถูกโดนเพื่อนแกล้งครับ โดยการถอดสายดิน คือ สายกราว์ ออกจากตัวเครื่องปล่อยลอยเอาใว้ในกล่อง
แล้วแกล้งได้อย่งไร ซึ่งมันจะต้องใช้เวลาใขน๊อตที่หลังเครื่องออก ใช่ครับ
คือผมไขน๊อตทิ้งไปหมดแล้ว เหลือแต่ฝาที่ปิดไว้
คือ หลายๆท่านต้องตั้งคำถามว่า เพื่อนจะแกล้งเราทำไม เรื่องนี้ต้องมีเหตุมีมูล ความจริง ผมจะเล่าให้หมดทุกอย่างในสิ่งที่ผมคบกับเขาแบบไม่เข้าข้างตัวผมด้วย คือเอาแบบตรงไปตรงมาเลย จะได้พริจาราณากันถูก ถ้าผมผิดผมจะยอมรับผิดทุกอย่าง และรับในสิ่งที่เขาได้กระทำต่อผม
เรื่องของเรื่องคือผมได้ย้ายเข้าที่ทำงานแห่งใหม่เมื่อ4ปีที่แล้วปัจจุบัญก็ยังทำงานนี้อยู่ แบบมีคาวมสุขดีมีคนคอยให้ความช่วยเหลือตลอด ทั้งหัวหน้างานทั้ง คนในระดับสูง ตั้งแต่เข้างานมาแล้ว ผมไม่ได้มีเส้นมีสาย ผมไม่ค่อยพูดกับหัวหน้างานเท่าไร ผมทำงานก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร อาจจะด้อยไปกว่าเพื่อนๆร่วมงานอีก เพราะผมพิการทางสายตา (ตาบอดข้างนึง)
พอเริ่มงานไปได้ซักระยะนึง ผมก็ได้เจอเพื่อนคนนี้ ที่คบกันพูดคุยกันแบบรู้เรื่อง คือชอบซ่อม ชอบไฟฟ้า เหมือนกัน ชอบในเรื่องเดียวกัน แต่ยังไม่สนิทกันมาก แค่เจอกันก็คุย ว่างๆก็คุยกันเน้นเรื่องไฟฟ้า กับเรื่องซ่อมของ ตอนนั้นเพื่อนผมเขารับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ผมไม่รับซ่อมให้ใครเพราะยังไม่เชื่อในฝีมือตังเอง
จาก1ปีครึ่งที่ทำงาน
จากจุดจุดหนึ่งที่เพื่อนคนนี้ได้มาตีสนิทกับผมมากขึ้นคือ พวกเราทำงานขับรถโฟคลิฟท์แบบเป็นทีม โดยตกลงกันว่าถ้าคู่กะใครหยุดหรือไม่เอา โอที คนนั้นรับผิดชอบด้วย คนอื่นก็ทำกันแบบนั้น เรื่อยมา แต่พอมาคิวผม คู่กะไม่เอา โอที เลยทิ้งไว้ให้ผมทำคนเดียวแต่มันมากเยอะจัด ประมาณ4-5 วันติดที่ได้
โอที ซึ่งผมก็ทำไหว ผมก็ไม่แบ่ง โอที ให้ใคร (อันนี้จะเรียกว่าผมแร้งน้ำใจก็ได้) แต่ข้อตกลงคือข้อตกลง คนอื่นยังไม่แบ่งเลยเรื่องไรผมจะแบ่ง
จากนั้นเพื่อนคนนี้ได้มีบทบาทเข้ามาในชีวิตผมมากขึ้น เริ่มจากการพูจาแบบ-ๆ เล่นๆยิ้มๆ หน้าบิ้งตรึงบ้าง เรื่องโอที
พูดเช่น ไม่แบ่งให้ใครเลย ถึงทีกุบ้างอย่าว่ากันนะ
เห็นแก่ตัว ไม่แบ่งให้เพื่อนเลย
ขอให้ขับรถพาดทีเถอะ (รถชน)
-(โอที) อยู่คนเดียวไม่คิดจะให้เพื่อนๆบ้างเลย
ผมก็เฉยๆไม่คิดมาก เพื่อนคนนี้ก็เข้ามาตีสนิทมากขึ้น มากขึ้น เราสนิทถึงขั้นตัวติดกันในโรงงาน เราชอบพุดคุยแลกเปลี่ยนประสพการณ์เรื่องไฟฟ้าตลอด
ผมเก่งซ่อมคอม เครื่องซักผ้า และอื่นๆ เพื่อนผมเก่งซ่อมทีวี ซ่อมต่างๆ เช่นพัดลม เครื่องเล่น ดีวีดี เครื่องเสียง แต่เก่งทีวีเป็นหลัก
ซึ่งมันเก่งพอๆกัน เก่งแบบงูๆปลาๆทั้งคู่ รู้ไม่หมดกันหลอก แต่ผมไม่รับงานซ่อมทุกอย่าง เพราะผมคึดว่าผมไม่ได้เรียนมา แค่รู้แบบพอทำได้
ผมเล่นคอมซ่อมคอม ผมก็เลยชวนเพื่อนเล่นคอมบ้าง ผมจะสอนให้ เอาให้เก่งก่อนแล้วค่อยออกหากิน
ระหว่างคบเพื่อนคนนี้ก็ช่วยเหลืองานที่ทำงานด้วยกันดี ไม่เคยบ่น เราสนิทจนด่ากันได้แบบสบายใจไม่คิดมาก เฮฮา เฮฮา ตกลงผมยอมสอนคอมให้
ผมจึงพาเพื่อนผมมาห้องเช่าของผม ซึ่งเช่าเขาอยู่ เพื่อนเข้ามาเจอแบบ อึ้ง คือของมีครบทุกอย่าง โต๊ะ ตู้ เตียง โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้โชว์วางคอม คอมตัว50000 ครบชุด ประกอบใช้เอง เมื่อ5ปีก่อน จอ แอลซีดี20นิ้ว เคสคอมแบบแปลกๆ
ผมก็แนะนำเพื่อนไปซื้อคอมมือ2มาเล่นเพราะผมก็เริ่มจากตรงนั้นมาในราคา3000กว่าบาท(ก่วาเท่าไรไม่ไรู้จำไม่ได้) ผมบอกให้เพื่อนลองเล่นไปไม่ต้องกลัวพัง เดี๋ยวซ่อมให้ ไม่คิดตังเลย แพร์ๆ
วันหนึงเกิดคอมเพื่อนพัง วินโดว์พัง ต้องลงวินโดว์ใหม่ ซึ่งผมก็รู้สำหรับคนเล่นคอมใหม่ๆ
เพื่อนโทรมาบอก เฮ้ยคอมพังวะเข้าหน้าวินโดว์ไม่ได้
เออยกคอมมาเลย
พูดเสร็จว่างสาย ผมก็ออกไปซื้อกับข้าวรอมันก่อน เดี๋ยวมันจะมืด เดี๋ยวหาอะไรกินไม่ได้
เพื่อนมันมาไวมากๆๆทั้งที่บ้านมันอยู่ไกล มันน่าจะรอผมไม่เกิน20นาทีที่หน้าบ้าน พอผมมาถึงมันทำหน้าไม่พอใจแล้วพูดว่า (ผมเจอการชักหน้าใส่แบบนี้ ผมคิดที่จะลังเลสอนให้แล้วแหละ)
ให้กูคอย บอกว่ารอ

ออกไปตลาด
ผม เออ กูรองใจดูสิจะรอกูได้ป่าว แต่ผมไม่ได้อธิบายเหตุผลของผม คือ เดี๋ยวมันจะมืด เดี๋ยวหาอะไรกินไม่ได้
ผมก็สอนไม่หมดทีเดียวเพราะต้องใช้เวลาสอน กันหลายวันหลายเดือน ผมบอกให้ไม่หมดหรอกต้องดูที่ความพายายาม เเละเห็นแล้วว่าเห็นแก่ตัว
มาบ้านน้ำยังไม่ซื้อมาฝากเลย ของกินก็ไม่เคยพกมา ผิดจากผม ผมเป็นคอมได้เพราะเพื่อน ทั้งค่ารถ ค่ากิน ผมให้เพื่อนหมดเพื่อตอบแทนวิชา
และแล้วคอมก็เสียอีกรอบ แต่เพื่อนได้ขายคอมเครื่องนี้ไปให้เพื่อนร่วมงานอีกคน ในราคาที่แพงก่วาที่ซื้อมาอีก แถมเปลี่ยนฮาดดิส เอาของเน่าๆใส่ให้แล้ว
เอาไปขายให้เพื่อน แล้วโมเม ว่าเล่นพัง เอง ต้องเสียตัง ซ่อม
ซึ่งเพื่อนคนที่ซื้อคอมต่อเพื่อนผมมาอีกทีก็มาปรึกษาผม ว่า
โดนเพื่อน ขายคอมผ่อนให้เล่นยังไม่ถึงเดื่อนพังละ (ผมรู้แล้วว่าพังเพราะอะไรแต่ผมไม่พูด)
ผมฟังทั้งสองฟ่าย แต่ไม่เล่าให้กันฟังกลัวจะมีเรื่องกัน
ผมก็เลยตัดความลำคาร
เออเดี๋ยวผมเก็บตังกับมันค่ามันเอาคอมมาซ่อมกับผม แล้วผมจะเอาตังที่มันคืนมาให้
ผมก็ทำเสร็จ ก็เอาตังมาให้เพื่อนอีกคนที่ซื้อคอมต่อเพื่อนผมไป
มาสรุปตอนท้ายคือคอมถูกคืน แล้วผมได้วางยาไปหนึ่งจุด ให้คอมใช้ได้ไม่นานสำหรับคนไม่ซื่อรงในอาชีพของตัวเอง
เรื่องใหญ่ๆก็เงียบลง จน2ปีครึ่ง
จนมาถึงเพื่อนชวนซื้อรถมือ2 เพื่อนบอกให้ผมไปดู เพราะเพื่อน หาแน้นจัดให้ได้ไม่ถึง บวกกับไม่มีเงินเก็บ
ผมบอกตกลงเอา แต่ตอนนั้นเพื่อนอึ้ง(เพื่อนคึดว่าผมไม่มีตังซื้อ) แต่หารู้ไม่ว่าผมมีทองเก็บเอาไว้ไม่ไส่โชว์
เพื่อนคิดมากว่าผมจะออกรถ คิดว่าผมไม่มีทางซื้อได้ เลยไปบอกเพื่อนคนอื่นๆให้ซื้อรถที่ผมคิดจะซื้อหวังตัดหน้าผม แต่ไม่มีใครซื้อ
ผมเลยตกลงหยุดงานไปซื้อรถ เพื่อนเห็นผมเอาแน่นๆ
เลยหารถมือ2บ้าง ก็ได้ในวันต่อมา ออกรถห่างกันแค่คนละวันผมออกรถก่อน
ก่อนออกรถผมบอกจ้างเพื่อนมาคำ้รถให้ผมที่ แต่ถูกประติเสดทางอ้อม ผมก็ไม่ว่า ผมก็ไม่จ้างเพื่อนคนอื่น
พอตอนหลังเพื่อนรู้เลยพุดว่าทำไมไม่ให้เข้าคำให้วะ ผมเลยบอกว่าจ้างเขาไปละ
คบกันเลื่อยเริ่มกัดกันบ้าง
จากนั้นผมก็ทำงานเก็บเงินซื้อ แอร์มาติด มันก็อิจฉา ติดทำไมมันพูดทุกวัน ผมก็บอกว่าห้องข้ามันร้อน เคยเปิดหน้าต่างนอนแล้วโดนโขมยกระเป๋าตังไปเลยต้องปิดหน้าต่างนอน ทีนี้มันก็ร้อน นอนไม่ได้เลย เพิ่งเคยทำงานเข้ากะปกติอยู่ทำงานแต่กลางวัน ขับรถไปก้หลับในไปเพราะไม่ได้นอนมันร้อนเลยติดแอร์ และบวกกับมีลูกอ่อนด้วย
คือโดนอิฉาแบบในๆเรื่อยมาแบบไม่รู้ตัว
และแล้วผมก็ ซื้อบ้านได้ โดยการผ่อนกับธนาคาร
ทำงานมาแค่3ปีเงินเดือนเท่ากับมัน มีทั่งบ้านทั้งรถ ครบ

อิฉาไม่มีอะไรเลย
รถมันก้ผ่อนเกินตัวอยากได้รถดีๆแพงๆขับ แต่ไม่ดูกระดานหน้าตัวเองเลยว่าจะผ่อนไหวป่าว
ค้างค่างวดรถไว้3งวด
ผมโดนบ้าง โดนยืมรถ แล้วเอาทรายใส่ในถังน้ำมัน รถผมใช้แก๊ช100 เลยไม่พัง มารู้เอาตอนซ่อมเอง
ผมอาจจะพูดไม่ดีกับเพื่อนเช่น (หวังดี) ซ่อมของให้เขา(พัดลม)ให้ใส่เทอร์โโมรฟิวด้วย เวลามันไหม้ จะได้ตัดไม่ ไปไหม้หมุ้งไหม้บ้านลูกค้าเขา
ผมสอนซ่อมเครื่องซัก แค่รอบ เดียว ประกาศไปทั่วโรงงานเลยว่าซ่อมเป็น แถมรับงานมาทำไม่จบด้วย โดนทั้งด่า แถมเก็บตังแพงอีกตะหาก
เพื่อนมาเล่าให้ผมฟังผมก็เออ ออ ไป แต่รู้ว่ามันผิด
ผมเริ่มไม่อยากคบแล้วเพื่อนแบบนี้แต่คบไปแล้วทำไงได้ จะเลิกคบก็อายคนเขา เลยฝืนๆคบไป
เข้าปี3
ต่างคนต่างแทงข้างหลังกัน ผมผิดที่เอาเรื่องของมันมาพุด มันเป็นช่างไม่ได้เรียนมา จะมารับซ่อม ของชาวบ้านแบบผิดๆได้ยังไง
เอาเป็นว่าต่างคนก็ต่างแทงข้างหลังกัน ต่อหน้าก้ดีแบบสุดๆ
จนสุดท้ายผมยอมแพ้ โดยคนพวกมาก จะไม่พวกมากได้อย่างไร วันหนึ่ง ผู้จัดการมานั้งคุย กับพวกผม มีเพื่อนผม ผู้จัดการ และเพื่อนรวมงานที่อยู่มานาน อายุมากแต่ตำแหน่งงานเดียวกัน
ผมบอกการทำงานโรงงานเรามีปัญหา เรื่องถุงบรรจุ.... ผมให้แก้ไขทีก้นถุง ทำแบบ..... ผม

เสนอหน้าพูดคนเดียวโดยไม่ปรึกษาใครเลย
เลยทำให้พวก ระดับเดียวกันเกรียด ผมมาก ที่ได้ดีคนเดียว
ผมเลยโดนแบบในภาพที่เห็นนั้นแหละ
จากทีผมเคยกล้มกราบตีนใครบางคน มันทำให้เรื่องราวจบลง (ไม่รู้เกี่ยวกันหรือป่าว) แต่ถ้าผมไปเหยีบหัวเพื่อนร่วมงานขึ้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์กับคนพวกนั้น เรื่องไอ้ที่เสนอหน้าบอกเรื่องถุง แล้วได้ความดีความชอบไปคนเดียว ผมขอโทษ ทีไม่

เอาหน้าคนเก่าคนแก่ในโรงงานเข้าไปได้ความดีความชอบกับผมด้วย
บทสรุปสุดท้ายของเพื่อนผม
เป็นหนี้เป็นสินเพราะเมียเล่นหวยยี่กี
เลิกกับเมีย โดยที่ผมไม่ต้อองทำอะไรเลย แค่อยู่ เฉยๆ
หลอกขายคอมเน่าๆให้คนในโรงงาน แล้วเขาด่า
ออกจากงานที่ทำเพราะ ขาดกำลังใจ แต่ผมยังปลอบใจมันอยู่
รถถูกยืดเพราะส่งไม่หมด
สุดท้ายก่อนจากกัน(โดยผมไม่รู้ตัว) เพื่อนอยากไปเที่ยวผู้หญิงหากิน ผมก็พาไป ตอนนั้นเมียมันทิ้งไปมีผัวใหม่หลายเดือนแล้ว
ผมพาไป2รอบ แต่ผมไม่ได้เอา เพราะเงินผมมีเรื่องจำเป็นต้องใช้อย่างอื่นที่สำคัญก่วาเรื่องแบบนี้อีกเยอะ อีกอย่างเมียผมก็มี ก็เลยอดใจไว้แต่ก้อยากจะลอง
ก่อนจากกันเพื่อนผม พูดว่า แกรักเพื่อนนะ ผมมองหน้ามัน แล้วก็พูดว่าเออ เพื่อนผมบอกว่าไอ้ ด..(ชื่อเพื่อนเก่าผม) มันบอกว่าแกรักเพื่อน
เออ เพื่อนข้ารักทุกคนแหละ ถ้าเข้าใจเข้า
ช่วยวิจารณ์หน่อยคนแบบนี้ เป็นยังไงแล้วอนาคตจะเป็นแบบไหน
แล้วแกล้งได้อย่งไร ซึ่งมันจะต้องใช้เวลาใขน๊อตที่หลังเครื่องออก ใช่ครับ
คือผมไขน๊อตทิ้งไปหมดแล้ว เหลือแต่ฝาที่ปิดไว้
คือ หลายๆท่านต้องตั้งคำถามว่า เพื่อนจะแกล้งเราทำไม เรื่องนี้ต้องมีเหตุมีมูล ความจริง ผมจะเล่าให้หมดทุกอย่างในสิ่งที่ผมคบกับเขาแบบไม่เข้าข้างตัวผมด้วย คือเอาแบบตรงไปตรงมาเลย จะได้พริจาราณากันถูก ถ้าผมผิดผมจะยอมรับผิดทุกอย่าง และรับในสิ่งที่เขาได้กระทำต่อผม
เรื่องของเรื่องคือผมได้ย้ายเข้าที่ทำงานแห่งใหม่เมื่อ4ปีที่แล้วปัจจุบัญก็ยังทำงานนี้อยู่ แบบมีคาวมสุขดีมีคนคอยให้ความช่วยเหลือตลอด ทั้งหัวหน้างานทั้ง คนในระดับสูง ตั้งแต่เข้างานมาแล้ว ผมไม่ได้มีเส้นมีสาย ผมไม่ค่อยพูดกับหัวหน้างานเท่าไร ผมทำงานก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร อาจจะด้อยไปกว่าเพื่อนๆร่วมงานอีก เพราะผมพิการทางสายตา (ตาบอดข้างนึง)
พอเริ่มงานไปได้ซักระยะนึง ผมก็ได้เจอเพื่อนคนนี้ ที่คบกันพูดคุยกันแบบรู้เรื่อง คือชอบซ่อม ชอบไฟฟ้า เหมือนกัน ชอบในเรื่องเดียวกัน แต่ยังไม่สนิทกันมาก แค่เจอกันก็คุย ว่างๆก็คุยกันเน้นเรื่องไฟฟ้า กับเรื่องซ่อมของ ตอนนั้นเพื่อนผมเขารับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ผมไม่รับซ่อมให้ใครเพราะยังไม่เชื่อในฝีมือตังเอง
จาก1ปีครึ่งที่ทำงาน
จากจุดจุดหนึ่งที่เพื่อนคนนี้ได้มาตีสนิทกับผมมากขึ้นคือ พวกเราทำงานขับรถโฟคลิฟท์แบบเป็นทีม โดยตกลงกันว่าถ้าคู่กะใครหยุดหรือไม่เอา โอที คนนั้นรับผิดชอบด้วย คนอื่นก็ทำกันแบบนั้น เรื่อยมา แต่พอมาคิวผม คู่กะไม่เอา โอที เลยทิ้งไว้ให้ผมทำคนเดียวแต่มันมากเยอะจัด ประมาณ4-5 วันติดที่ได้
โอที ซึ่งผมก็ทำไหว ผมก็ไม่แบ่ง โอที ให้ใคร (อันนี้จะเรียกว่าผมแร้งน้ำใจก็ได้) แต่ข้อตกลงคือข้อตกลง คนอื่นยังไม่แบ่งเลยเรื่องไรผมจะแบ่ง
จากนั้นเพื่อนคนนี้ได้มีบทบาทเข้ามาในชีวิตผมมากขึ้น เริ่มจากการพูจาแบบ-ๆ เล่นๆยิ้มๆ หน้าบิ้งตรึงบ้าง เรื่องโอที
พูดเช่น ไม่แบ่งให้ใครเลย ถึงทีกุบ้างอย่าว่ากันนะ
เห็นแก่ตัว ไม่แบ่งให้เพื่อนเลย
ขอให้ขับรถพาดทีเถอะ (รถชน)
-(โอที) อยู่คนเดียวไม่คิดจะให้เพื่อนๆบ้างเลย
ผมก็เฉยๆไม่คิดมาก เพื่อนคนนี้ก็เข้ามาตีสนิทมากขึ้น มากขึ้น เราสนิทถึงขั้นตัวติดกันในโรงงาน เราชอบพุดคุยแลกเปลี่ยนประสพการณ์เรื่องไฟฟ้าตลอด
ผมเก่งซ่อมคอม เครื่องซักผ้า และอื่นๆ เพื่อนผมเก่งซ่อมทีวี ซ่อมต่างๆ เช่นพัดลม เครื่องเล่น ดีวีดี เครื่องเสียง แต่เก่งทีวีเป็นหลัก
ซึ่งมันเก่งพอๆกัน เก่งแบบงูๆปลาๆทั้งคู่ รู้ไม่หมดกันหลอก แต่ผมไม่รับงานซ่อมทุกอย่าง เพราะผมคึดว่าผมไม่ได้เรียนมา แค่รู้แบบพอทำได้
ผมเล่นคอมซ่อมคอม ผมก็เลยชวนเพื่อนเล่นคอมบ้าง ผมจะสอนให้ เอาให้เก่งก่อนแล้วค่อยออกหากิน
ระหว่างคบเพื่อนคนนี้ก็ช่วยเหลืองานที่ทำงานด้วยกันดี ไม่เคยบ่น เราสนิทจนด่ากันได้แบบสบายใจไม่คิดมาก เฮฮา เฮฮา ตกลงผมยอมสอนคอมให้
ผมจึงพาเพื่อนผมมาห้องเช่าของผม ซึ่งเช่าเขาอยู่ เพื่อนเข้ามาเจอแบบ อึ้ง คือของมีครบทุกอย่าง โต๊ะ ตู้ เตียง โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้โชว์วางคอม คอมตัว50000 ครบชุด ประกอบใช้เอง เมื่อ5ปีก่อน จอ แอลซีดี20นิ้ว เคสคอมแบบแปลกๆ
ผมก็แนะนำเพื่อนไปซื้อคอมมือ2มาเล่นเพราะผมก็เริ่มจากตรงนั้นมาในราคา3000กว่าบาท(ก่วาเท่าไรไม่ไรู้จำไม่ได้) ผมบอกให้เพื่อนลองเล่นไปไม่ต้องกลัวพัง เดี๋ยวซ่อมให้ ไม่คิดตังเลย แพร์ๆ
วันหนึงเกิดคอมเพื่อนพัง วินโดว์พัง ต้องลงวินโดว์ใหม่ ซึ่งผมก็รู้สำหรับคนเล่นคอมใหม่ๆ
เพื่อนโทรมาบอก เฮ้ยคอมพังวะเข้าหน้าวินโดว์ไม่ได้
เออยกคอมมาเลย
พูดเสร็จว่างสาย ผมก็ออกไปซื้อกับข้าวรอมันก่อน เดี๋ยวมันจะมืด เดี๋ยวหาอะไรกินไม่ได้
เพื่อนมันมาไวมากๆๆทั้งที่บ้านมันอยู่ไกล มันน่าจะรอผมไม่เกิน20นาทีที่หน้าบ้าน พอผมมาถึงมันทำหน้าไม่พอใจแล้วพูดว่า (ผมเจอการชักหน้าใส่แบบนี้ ผมคิดที่จะลังเลสอนให้แล้วแหละ)
ให้กูคอย บอกว่ารอ
ผม เออ กูรองใจดูสิจะรอกูได้ป่าว แต่ผมไม่ได้อธิบายเหตุผลของผม คือ เดี๋ยวมันจะมืด เดี๋ยวหาอะไรกินไม่ได้
ผมก็สอนไม่หมดทีเดียวเพราะต้องใช้เวลาสอน กันหลายวันหลายเดือน ผมบอกให้ไม่หมดหรอกต้องดูที่ความพายายาม เเละเห็นแล้วว่าเห็นแก่ตัว
มาบ้านน้ำยังไม่ซื้อมาฝากเลย ของกินก็ไม่เคยพกมา ผิดจากผม ผมเป็นคอมได้เพราะเพื่อน ทั้งค่ารถ ค่ากิน ผมให้เพื่อนหมดเพื่อตอบแทนวิชา
และแล้วคอมก็เสียอีกรอบ แต่เพื่อนได้ขายคอมเครื่องนี้ไปให้เพื่อนร่วมงานอีกคน ในราคาที่แพงก่วาที่ซื้อมาอีก แถมเปลี่ยนฮาดดิส เอาของเน่าๆใส่ให้แล้ว
เอาไปขายให้เพื่อน แล้วโมเม ว่าเล่นพัง เอง ต้องเสียตัง ซ่อม
ซึ่งเพื่อนคนที่ซื้อคอมต่อเพื่อนผมมาอีกทีก็มาปรึกษาผม ว่า
โดนเพื่อน ขายคอมผ่อนให้เล่นยังไม่ถึงเดื่อนพังละ (ผมรู้แล้วว่าพังเพราะอะไรแต่ผมไม่พูด)
ผมฟังทั้งสองฟ่าย แต่ไม่เล่าให้กันฟังกลัวจะมีเรื่องกัน
ผมก็เลยตัดความลำคาร
เออเดี๋ยวผมเก็บตังกับมันค่ามันเอาคอมมาซ่อมกับผม แล้วผมจะเอาตังที่มันคืนมาให้
ผมก็ทำเสร็จ ก็เอาตังมาให้เพื่อนอีกคนที่ซื้อคอมต่อเพื่อนผมไป
มาสรุปตอนท้ายคือคอมถูกคืน แล้วผมได้วางยาไปหนึ่งจุด ให้คอมใช้ได้ไม่นานสำหรับคนไม่ซื่อรงในอาชีพของตัวเอง
เรื่องใหญ่ๆก็เงียบลง จน2ปีครึ่ง
จนมาถึงเพื่อนชวนซื้อรถมือ2 เพื่อนบอกให้ผมไปดู เพราะเพื่อน หาแน้นจัดให้ได้ไม่ถึง บวกกับไม่มีเงินเก็บ
ผมบอกตกลงเอา แต่ตอนนั้นเพื่อนอึ้ง(เพื่อนคึดว่าผมไม่มีตังซื้อ) แต่หารู้ไม่ว่าผมมีทองเก็บเอาไว้ไม่ไส่โชว์
เพื่อนคิดมากว่าผมจะออกรถ คิดว่าผมไม่มีทางซื้อได้ เลยไปบอกเพื่อนคนอื่นๆให้ซื้อรถที่ผมคิดจะซื้อหวังตัดหน้าผม แต่ไม่มีใครซื้อ
ผมเลยตกลงหยุดงานไปซื้อรถ เพื่อนเห็นผมเอาแน่นๆ
เลยหารถมือ2บ้าง ก็ได้ในวันต่อมา ออกรถห่างกันแค่คนละวันผมออกรถก่อน
ก่อนออกรถผมบอกจ้างเพื่อนมาคำ้รถให้ผมที่ แต่ถูกประติเสดทางอ้อม ผมก็ไม่ว่า ผมก็ไม่จ้างเพื่อนคนอื่น
พอตอนหลังเพื่อนรู้เลยพุดว่าทำไมไม่ให้เข้าคำให้วะ ผมเลยบอกว่าจ้างเขาไปละ
คบกันเลื่อยเริ่มกัดกันบ้าง
จากนั้นผมก็ทำงานเก็บเงินซื้อ แอร์มาติด มันก็อิจฉา ติดทำไมมันพูดทุกวัน ผมก็บอกว่าห้องข้ามันร้อน เคยเปิดหน้าต่างนอนแล้วโดนโขมยกระเป๋าตังไปเลยต้องปิดหน้าต่างนอน ทีนี้มันก็ร้อน นอนไม่ได้เลย เพิ่งเคยทำงานเข้ากะปกติอยู่ทำงานแต่กลางวัน ขับรถไปก้หลับในไปเพราะไม่ได้นอนมันร้อนเลยติดแอร์ และบวกกับมีลูกอ่อนด้วย
คือโดนอิฉาแบบในๆเรื่อยมาแบบไม่รู้ตัว
และแล้วผมก็ ซื้อบ้านได้ โดยการผ่อนกับธนาคาร
ทำงานมาแค่3ปีเงินเดือนเท่ากับมัน มีทั่งบ้านทั้งรถ ครบ
รถมันก้ผ่อนเกินตัวอยากได้รถดีๆแพงๆขับ แต่ไม่ดูกระดานหน้าตัวเองเลยว่าจะผ่อนไหวป่าว
ค้างค่างวดรถไว้3งวด
ผมโดนบ้าง โดนยืมรถ แล้วเอาทรายใส่ในถังน้ำมัน รถผมใช้แก๊ช100 เลยไม่พัง มารู้เอาตอนซ่อมเอง
ผมอาจจะพูดไม่ดีกับเพื่อนเช่น (หวังดี) ซ่อมของให้เขา(พัดลม)ให้ใส่เทอร์โโมรฟิวด้วย เวลามันไหม้ จะได้ตัดไม่ ไปไหม้หมุ้งไหม้บ้านลูกค้าเขา
ผมสอนซ่อมเครื่องซัก แค่รอบ เดียว ประกาศไปทั่วโรงงานเลยว่าซ่อมเป็น แถมรับงานมาทำไม่จบด้วย โดนทั้งด่า แถมเก็บตังแพงอีกตะหาก
เพื่อนมาเล่าให้ผมฟังผมก็เออ ออ ไป แต่รู้ว่ามันผิด
ผมเริ่มไม่อยากคบแล้วเพื่อนแบบนี้แต่คบไปแล้วทำไงได้ จะเลิกคบก็อายคนเขา เลยฝืนๆคบไป
เข้าปี3
ต่างคนต่างแทงข้างหลังกัน ผมผิดที่เอาเรื่องของมันมาพุด มันเป็นช่างไม่ได้เรียนมา จะมารับซ่อม ของชาวบ้านแบบผิดๆได้ยังไง
เอาเป็นว่าต่างคนก็ต่างแทงข้างหลังกัน ต่อหน้าก้ดีแบบสุดๆ
จนสุดท้ายผมยอมแพ้ โดยคนพวกมาก จะไม่พวกมากได้อย่างไร วันหนึ่ง ผู้จัดการมานั้งคุย กับพวกผม มีเพื่อนผม ผู้จัดการ และเพื่อนรวมงานที่อยู่มานาน อายุมากแต่ตำแหน่งงานเดียวกัน
ผมบอกการทำงานโรงงานเรามีปัญหา เรื่องถุงบรรจุ.... ผมให้แก้ไขทีก้นถุง ทำแบบ..... ผม
เลยทำให้พวก ระดับเดียวกันเกรียด ผมมาก ที่ได้ดีคนเดียว
ผมเลยโดนแบบในภาพที่เห็นนั้นแหละ
จากทีผมเคยกล้มกราบตีนใครบางคน มันทำให้เรื่องราวจบลง (ไม่รู้เกี่ยวกันหรือป่าว) แต่ถ้าผมไปเหยีบหัวเพื่อนร่วมงานขึ้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์กับคนพวกนั้น เรื่องไอ้ที่เสนอหน้าบอกเรื่องถุง แล้วได้ความดีความชอบไปคนเดียว ผมขอโทษ ทีไม่
บทสรุปสุดท้ายของเพื่อนผม
เป็นหนี้เป็นสินเพราะเมียเล่นหวยยี่กี
เลิกกับเมีย โดยที่ผมไม่ต้อองทำอะไรเลย แค่อยู่ เฉยๆ
หลอกขายคอมเน่าๆให้คนในโรงงาน แล้วเขาด่า
ออกจากงานที่ทำเพราะ ขาดกำลังใจ แต่ผมยังปลอบใจมันอยู่
รถถูกยืดเพราะส่งไม่หมด
สุดท้ายก่อนจากกัน(โดยผมไม่รู้ตัว) เพื่อนอยากไปเที่ยวผู้หญิงหากิน ผมก็พาไป ตอนนั้นเมียมันทิ้งไปมีผัวใหม่หลายเดือนแล้ว
ผมพาไป2รอบ แต่ผมไม่ได้เอา เพราะเงินผมมีเรื่องจำเป็นต้องใช้อย่างอื่นที่สำคัญก่วาเรื่องแบบนี้อีกเยอะ อีกอย่างเมียผมก็มี ก็เลยอดใจไว้แต่ก้อยากจะลอง
ก่อนจากกันเพื่อนผม พูดว่า แกรักเพื่อนนะ ผมมองหน้ามัน แล้วก็พูดว่าเออ เพื่อนผมบอกว่าไอ้ ด..(ชื่อเพื่อนเก่าผม) มันบอกว่าแกรักเพื่อน
เออ เพื่อนข้ารักทุกคนแหละ ถ้าเข้าใจเข้า