สวัสดีค่ะ นี้เป็นกระทู้แรกของเรานะค่ะ เขียนผิดพลาดประการใดก็ขอภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะค่ะ
เรื่องยาวหน่อยนะค่ะ อยากระบายมากและอยากได้ความรู้เรื่องทำบัตรประชาชนและพาสปอร์ตด้วยค่ะ
เราเป็นลูกครึ่ง ไทย - เยอรมันนี แต่หน้าตาเราเป็นคนไทย 100% ไม่เหมือนฝรั่งเลยค่ะ ปัจจุบันอายุ 18 ปี ค่ะ
ส่วนเรื่องแปลกจะเล่าแบ่งเป็นข้อๆไปนะค่ะ
แม่ทิ้งเราไปตั้งแต่เราอายุได้ 1 ขวบค่ะ เราจึงอยู่กับพ่อมาตั้งแต่เกิดจนปัจจุบัน พ่อกับแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
_________________________________________________________
1. ตั้งแต่เกิดมาพ่อไม่สอนให้พูดภาษาเยอรมันนี
2. พ่อไม่ส่งเราเข้าโรงเรียน (มีเหตุผลที่ไม่ให้เรียน แต่เหตุผลไม่หนักแน่นพอ)
3. พ่อไม่ทำบัตรประชาชน - พาสปอร์ตให้
4. พ่อไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับชีวิตของพ่อที่เยอรมันนี พ่อเป็นฝรั่งที่แปลกมาก
__________________________________________________________
เริ่มอธิบายเรื่องแปลก ...
ข้อ 1. ตั้งแต่เกิดมาพ่อไม่สอนให้พูดเยอรมันนี
พ่อไม่เคยสอนให้พูดภาษาเยอรมันนี พ่อพูดไทยได้ประมาณ 30% ฟังออก 40% อังกฤษก็เช่นกันค่ะ แต่ภาษาเยอรมันนีพูดได้ฟังได้ 100%
แต่ตั้งแต่หนูเกิดมาพ่อก็จะพูดภาษาไทยผสมอังกฤษตลอด เป็นการคุยที่คนไทยก็ฟังไม่รู้เรื่อง ฝรั่งก็งง (นี่คุยภาษาอะไรกันเนี้ย)
ยกตัวอย่างการพูดคุยนะค่ะ
"Papa I Want Go กินข้าว"
"Papa ทำไม You No Shopping so"
"You Want Go บัยไน๋ (ไปไหน)"
ต้องดัดสำเนียงไทยด้วยค่ะ ไม่ได้พูดเสียงไทย 100%
คุยกันประมาณนี้หละค่ะ เราจะอธิบายให้พ่อเข้าใจอะไรนั้นยาก
อย่างเช่น "พ่อคิดว่าสิ่งนี้เหมือนอะไรบ้าง" กว่าจะอธิบายให้เข้าใจก็ใช้ภาษามือเยอะ เหมือนกับเราไม่ได้เป็นพ่อลูกกันเลยค่ะ
เหมือนคนไทยพึ่งคุยกับฝรั่งเป็นครั้งแรก เราเคยถามพ่อว่าทำไมไม่สอนให้หนูพูดภาษาเยอรมันนี พ่อก็ตอบว่าไม่เห็นจำเป็นเลยนี้
เราก็ไม่เซ้าซี้ค่ะเพราะไม่ได้อยากพูดสักเท่าไหร่แต่สงสัยค่ะฝรั่งที่เป็นพ่อโดยปกติน่าจะอยากให้ลูกพูดภาษาที่คุยกันรู้เรื่องที่สุด
ใช่มั้ยล่ะค่ะ ?
________________________________________________________________________
ข้อ 2. พ่อไม่ส่งเราเข้าโรงเรียน
ชั้นอนุบาลได้เรียนนะค่ะ เห็นในรูปถ่ายและพ่อก็เล่าให้ฟังค่ะ แต่เราไม่ได้เรียน ป.1 จนถึงปัจจุบัน
ส่วนเหตุผลที่พ่อไม่ส่งเราเรียนก็คือเมื่อปี 2540 ตอนเราอายุประมาณหนึ่งขวบครึ่งจะสองขวบ
พ่อและหนูประสบอุบัติเหตุรถแท็กซี่ชนรถกระบะค่ะ เหตุการณ์ก็คือ พ่อกับหนูและลูกจ้างนั่งอยู่ในแท็กซี่ หนูกับพ่อนั่งฝั่งซ้ายคนขับ
ลูกจ้างผู้ชายนั่งอยู่ด้านหลัง หนูนั่งอยู่ตรงตักพ่อและมีเจ้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มาก ใหญ่กว่าหนูเกือบเท่านึงเลยค่ะ
เรานั่งกันมาจากถนนซุปเปอร์ไฮเวย์พิษณุโลกมาเชียงราย และในอำเภอเล็กๆที่ชื่อว่าวัดโบสถ์
มีแยกหนึ่งเชื่อมต่อกับยูเทิร์น (ก็คือถ้าออกจากซอยตรงไปยูเทิร์นก็จะข้ามไปถนนอีกฟากได้เลยอ่ะค่ะ)
ซอยเล็กนั้นมีรถกระบะคันเก่าคันนึงมีผู้ชายอายุประมาณ 40+ เป็นคนขับ (สถานะเมาเกือบไม่ได้สติ) และภรรยาที่นั่งมาด้วยกัน
รถกระบะคันนั้นพุ่งออกมาจากซอยด้วยความเร็วโดยที่ไม่ดูทาง และพุ่งเข้าชนแท็กซี่ฝั่งที่พ่อกับหนูนั่งอยู่อย่างจังเลยค่ะ
ซึ่งพอพ่อเห็นว่ารถพุ่งเข้ามาพ่อก็รีบเอาตุ๊กตาหมีตัวใหญ่นั้นมากดตัวหนูไว้ค่ะ พ่อกอดตุ๊กตาทับหนูที่นั่งตักพ่ออยู่ไว้แน่น
พอชนพ่อก็บอกว่ารู้สึกว่ารถตีลังกาหลายตลบเลยละค่ะก่อนจะหมดสติไป ลูกจ้างที่นั่งมาด้วยกันปัจจุบันไม่มีแผลเป็นอะไรเลยค่ะ
ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็โทรเรียกรถโรงพยาบาลมารับตัวพ่อ ซึ่งก่อนรถพยาบาลจะมา ลูกจ้างก็อุ้มหนูที่ร้องไห้หนักมากออกมาจากตัวพ่อ
ลูกจ้างเห็นสภาพพ่อหนู ลูกจ้างก็พูดกับหนูว่า "พ่อหนูไม่รอดแล้วนะ" ซึ่งหนูก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ เอาแต่นั่งร้องไห้
สภาพพ่อก็ หัวแหวกเห็นสมองเลยค่ะ หมอเย็บไป 30 กว่าเข็มมั้งค่ะ จำไม่ได้ ปัจจุบันพ่อสมองเสียไป 70% ค่ะ แต่ไม่ได้บ้านะค่ะ ปกติทุกอย่าง
และข้างล่างจักแร้ลงมาหน่อยอ่ะค่ะ (ปอดหรือเปล่า ไม่รู้เรียกว่าอะไรค่ะ) ตรงล่างจักแร้นั้นฉีกเลยอ่ะค่ะ หมอก็เย็บเหมือนกันแต่ไม่รู้กี่เข็ม
พ่อพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเกือบ 3 เดือนค่ะ ส่วนหนูที่พ่อปกป้องไว้ ปัจจุบันไม่มีแผลเป็นอะไรเลยค่ะ แต่พ่อมีแผลเป็นที่หัวและล่างจักแร้เป็นรูเลยค่ะ
แต่แกบอกว่าสมองหนูกระทบรุนแรงหมอจึงห้ามไม่ให้เรียนโรงเรียนทั่วไป ให้ไปเรียนโรงเรียนสำหรับผู้ป่วยประเภทนี้แทนอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรเกี่ยวกับสมอง
ซึ่งพ่อก็ไม่ได้พาหนูไปเรียนแต่อย่างใด แต่พ่อจ้างครูมาสอนที่บ้านแทนค่ะ สอนภาษาอังกฤษและเลขเป็นหลัก ภาษาไทยพ่อไม่ได้บอกให้สอน แต่ครูก็สอนค่ะ
ครูก็สอนไทยนิดๆหน่อยๆ ก.ไก่ - ฮ.นกฮูก เรียนประมาณ 6-7 ปีค่ะ กับครู 3 คน หลังจากนั้นจนปัจจุบันก็ไม่ได้เรียนอะไรอีกเลย..
แปลกมั้ยล่ะค่ะ
เรื่องรถชนหนูไม่ได้จำได้หรอกนะค่ะ พ่อและลูกจ้างคนที่นั่งไปด้วยกันเล่าให้ฟังค่ะ หนูจะบอกว่าหนูเป็นคนความจำสั้นมากค่ะ
ปัจจุบันนี้หนูจำเรื่องตอนเด็กๆไม่ได้เลยค่ะ จำเรื่องตั้งแต่อายุไม่เกิน 10 ขวบไม่ได้แล้วค่ะ ลืมไปแล้วจริงๆ จำได้แค่บางเรื่องและจำได้น้อยมากค่ะ
พอไม่ได้เรียนอีกหลายปีก็ลืมวิธีหารและคูณแล้วค่ะ จะคูณทีไรรู้สึกว่ายากมากๆ แต่บวกลบก็ยังได้ปกติค่ะ
____________________________________________________________________________
ข้อ 3. พ่อไม่ทำบัตรประชาชน - พาสปอร์ตให้
มาถึงเรื่องใหญ่โตและเป็นภาระให้เแกเรา ณ ปัจจุบันนี้นะค่ะ
ปัจจุบันนี้เราอยู่ กรุงเทพ พ่ออยู่เชียงรายค่ะ เรามาอยู่กับแฟนที่นี้ ตอนมาอยู่ที่นี้แรกๆ ไม่ได้ทำงานอะไรเลยค่ะ นั่งเล่นคอมทั้งวัน
ซึ่งครอบครัวแฟนก็ไม่ได้ว่าอะไร (เขารู้ว่าเราใช้ชีวิตลูกคุณหนูมาก่อน) จนอยู่มาประมาณใกล้สื้นเดือนมีนาคมแฟนเริ่มมีปัญหาเรื่องการเงินค่ะ
เพราะแฟนเคยขาหักเมื่อปี 2555 และต้องกู้เงินเพื่อรักษาเกือบสามแสนบาทค่ะ และปี 2556 ไปกู้อีก 100,000 บาทเพื่อดาวน์รถบิ๊คไบค์ค่ะ
ปัจจุบันแฟนต้องชดใช้หนี้อีกหลายปี และปัจจุบันแฟนได้เงินเดือนรวมแล้วไม่ถึง 2,000 บาทเลยค่ะ (ไม่รู้ว่าหักค่าอะไรนักหนา)
เราเลยอยากช่วยแฟนโดยการทำงานหาเงินช่วยผ่อนรถที่มีอยู่ เดือนล่ะประมาณ 4,000 บาท และเงินใช้เที่ยวใช้สอยอีกนิดหน่อย
เราอยากทำงานโรงงาน หรือไม่ก็พวกงานที่ได้เงิน 300 บาทต่อวันค่ะ แต่!! เราไม่มีพาสปอร์ต ไม่มีบัตรประชาชน ตอนนี้เลยจุกอยู่ทางตันหาทางออกไม่เจอเลยค่ะ
ปัจจุบันนี้ขายน้ำแข็งใสอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆค่ะ ใน กรุงเทพ เงินที่ได้เดือนแรก เดือนเมษาได้วันล่ะ 500 , 400 , 300 คือวันนึงเกิน 200 บาทแน่ๆล่ะค่ะซึ่งก็จะหักไปซื้อของใหม่วันต่อวันหักไปซื้อครึ่งนึงที่ได้มา
อย่างเช่นวันนี้ขายได้ 200 บาทก็เอาไปซื้อของใหม่ 100 บาท กำไรค่าเหนื่อยก็ 100 บาทซึ่งระดับเงินแค่นี้ที่จริงก็พอแล้วสำหรับเรา
แต่เดือนที่เราขายเดือนแรกมันเป็นเดือนปิดเทอมค่ะ นักเรียนไม่ต้องไปโรงเรียน เด็กๆเยอะแยะ เลยขายพอได้เลยละค่ะเดือนแรก
แต่พอมาเดือนสอง เดือนพฤษภาคม เดือนโรงเรียนเปิดเทอม เริ่มขายได้น้อยลงค่ะ จาก 200 บาทลดลงเหลือ 100 บาทแล้วยิ่งช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาอากาศแปรปรวนฝนตกบ้างแดดแรงบ้างยิ่งได้น้อยสุดๆค่ะ
มีวันเสาร์ที่ผ่านมานี้หละค่ะ ฝนตกแต่เช้า 9 โมงเช้า ถึงเที่ยง พอหยุดตกก็มาขายต่อ วันนั้นได้เงินมาแค่ 40 บาทค่ะ เหนื่อยใจท้อมากๆ
ส่วนวันปกติตอนนี้ขายได้ไม่ถึง 200 บาท แล้วค่ะ อย่างมากก็ 150 บาท หักไปซื้อก็ได้ไม่ถึง 100บาทเลย เราจะทำยังไงดีค่ะ เราอยากทำงานเงินเดือน 6000+
พาสปอร์ตพ่อก็ไม่ทำให้ ถามพ่อ พ่อก็บอกว่ารอก่อนเดี๋ยวก็ทำให้ แต่พ่อพูดแบบนี้มา 4 ปี แล้วค่ะ พ่อก็ไม่ยอมพาไปทำสักที
โทรไปจะคุยเรื่องสำคัญก็บอกไม่ว่าง พ่อบอกพ่อสมองเสียนะไม่สามารถคุยได้ทีละหลายเรื่อง แกจะพูดแบบนี้ตลอดเลยค่ะ ทำไงดี
แล้วถ้าเกิดหนูแอบขโมยพวกสมุดเล่มทะเบียนบ้าน ใบเกิด มาถ่ายเป็นสำเนาแล้วไปทำบัตรประชาชนเองจะได้มั้ยค่ะ หรือต้องมีผู้ปกครองไปด้วย
แล้วถ้าจะทำพาสปอร์ตต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ค่ะ รวมทั้งหมด ทั้งแปลใบเกิด ทะเบียนบ้าน ฯลฯ
ถ้าแพงมาก มันอาจจะเป็นเหตุผลที่พ่อไม่ทำพาสปอร์ตให้ เพราะพ่อเป็นคนที่ขี้งกมากๆเลยค่ะ
__________________________________________________________________________________________
ข้อ 4. พ่อไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับชีวิตของพ่อที่เยอรมันนี พ่อเป็นฝรั่งที่แปลกมาก
มีใครที่พอจะตอบได้มั้ยค่ะว่าทำไมพ่อถึงเป็นคนแปลก ไม่สอนลูกพูดเยอรมันนี ไม่ให้ลูกเข้าโรงเรียน ไม่ให้ลูกทำพาสปอร์ต บัตรประชาชน
หรือว่าพ่อมีเรื่องอะไรอยู่ที่เยอรมันนีแล้วไม่อยากให้เราติดต่อกับใครที่เยอรมันนีหรือเปล่า ตั้งแต่เกิดมาพ่อไม่เคยพาไปเยอรมันนีเลยค่ะ
ครอบครัวเรามีแต่พ่อกับหนูและหลานสาว (ลูกสาวของหนูเองค่ะ) ที่เมืองไทยเราสามคนไม่มีญาติเลยค่ะ ญาติพ่ออยู่ที่เยอรมันนีทั้งหมด ทั้งพี่สาวพ่อ ป้า และแม่ของพ่อ พวกเขาก็โทรมาคุย ส่งเงินมาให้ปกติทุกเดือน แต่หนูไม่เคยคุยกับพวกเขา เพราะคุยไม่รู้เรื่องค่ะ
ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ที่ไม่ปกติคือพ่อค่ะ ทำไมแกถึงเป็นคนแปลกแบบนี้ ทำไมต้องให้ลูกลำบาก ตอนนี้พ่อก็อายุ 68 ปีแล้ว ไม่รู้แกจะเสียเมื่อไหร่
แล้วถ้าเกิดแกเสียไป แกอยากให้หนูทำเรื่องทุกอย่างคนเดียวหรอ ทั้งทำบัตรประชาชน พาสปอร์ต และบ้านที่พ่ออยู่ที่เชียงรายตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นบ้านถาวร
แกเช่าบ้านอยู่ค่ะ แกบอกว่าเป็นฝรั่งซื้อบ้านที่เมืองไทยไม่ได้ นอกจากจะมีเมียคนไทย (พ่อไม่เคยมีแม่ใหม่ค่ะ) หรือลูกสัญชาติไทยที่บรรลุนิติภาวะแล้ว
ถ้าเกิดพ่อไม่อยู่ แล้วหนูจะคุยกับญาติพ่อให้รู้เรื่องได้ไง แล้วหนูจะไว้ใจใครได้อีกก็เรามีกันแค่นี้ ถ้าพ่อไม่อยู่ หนูก็ตาย บัตรประชาชนพาสปอร์ตไม่มี
บ้านไม่มี เงินไม่มี เรามีกันแค่นี้แต่แกก็ไม่เคยรับฟังว่าลูกลำบากใจเรื่องอนาคต หลานสาวก็มีถ้าไม่ทำงานแล้วหนูจะเอาเงินที่ไหนเลี้ยงหลาน
หนูไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ ช่วยทีสิค่ะ หนูไม่รู้ว่าอนาคตต่อไปของหนูจะเป็นยังไง วุฒิเรียนจบก็ไม่มี บัตรประชาชนก็ไม่มี แล้วอนาคตหนูจะทำอะไรได้บ้าง
ใครก็ได้ช่วยหนูทีค่ะ
เราเป็นลูกครึ่งที่เกิดมามีชีวิตที่แปลกมาก ช่วยทีค่ะ
เรื่องยาวหน่อยนะค่ะ อยากระบายมากและอยากได้ความรู้เรื่องทำบัตรประชาชนและพาสปอร์ตด้วยค่ะ
เราเป็นลูกครึ่ง ไทย - เยอรมันนี แต่หน้าตาเราเป็นคนไทย 100% ไม่เหมือนฝรั่งเลยค่ะ ปัจจุบันอายุ 18 ปี ค่ะ
ส่วนเรื่องแปลกจะเล่าแบ่งเป็นข้อๆไปนะค่ะ
แม่ทิ้งเราไปตั้งแต่เราอายุได้ 1 ขวบค่ะ เราจึงอยู่กับพ่อมาตั้งแต่เกิดจนปัจจุบัน พ่อกับแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
_________________________________________________________
1. ตั้งแต่เกิดมาพ่อไม่สอนให้พูดภาษาเยอรมันนี
2. พ่อไม่ส่งเราเข้าโรงเรียน (มีเหตุผลที่ไม่ให้เรียน แต่เหตุผลไม่หนักแน่นพอ)
3. พ่อไม่ทำบัตรประชาชน - พาสปอร์ตให้
4. พ่อไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับชีวิตของพ่อที่เยอรมันนี พ่อเป็นฝรั่งที่แปลกมาก
__________________________________________________________
เริ่มอธิบายเรื่องแปลก ...
ข้อ 1. ตั้งแต่เกิดมาพ่อไม่สอนให้พูดเยอรมันนี
พ่อไม่เคยสอนให้พูดภาษาเยอรมันนี พ่อพูดไทยได้ประมาณ 30% ฟังออก 40% อังกฤษก็เช่นกันค่ะ แต่ภาษาเยอรมันนีพูดได้ฟังได้ 100%
แต่ตั้งแต่หนูเกิดมาพ่อก็จะพูดภาษาไทยผสมอังกฤษตลอด เป็นการคุยที่คนไทยก็ฟังไม่รู้เรื่อง ฝรั่งก็งง (นี่คุยภาษาอะไรกันเนี้ย)
ยกตัวอย่างการพูดคุยนะค่ะ
"Papa I Want Go กินข้าว"
"Papa ทำไม You No Shopping so"
"You Want Go บัยไน๋ (ไปไหน)"
ต้องดัดสำเนียงไทยด้วยค่ะ ไม่ได้พูดเสียงไทย 100%
คุยกันประมาณนี้หละค่ะ เราจะอธิบายให้พ่อเข้าใจอะไรนั้นยาก
อย่างเช่น "พ่อคิดว่าสิ่งนี้เหมือนอะไรบ้าง" กว่าจะอธิบายให้เข้าใจก็ใช้ภาษามือเยอะ เหมือนกับเราไม่ได้เป็นพ่อลูกกันเลยค่ะ
เหมือนคนไทยพึ่งคุยกับฝรั่งเป็นครั้งแรก เราเคยถามพ่อว่าทำไมไม่สอนให้หนูพูดภาษาเยอรมันนี พ่อก็ตอบว่าไม่เห็นจำเป็นเลยนี้
เราก็ไม่เซ้าซี้ค่ะเพราะไม่ได้อยากพูดสักเท่าไหร่แต่สงสัยค่ะฝรั่งที่เป็นพ่อโดยปกติน่าจะอยากให้ลูกพูดภาษาที่คุยกันรู้เรื่องที่สุด
ใช่มั้ยล่ะค่ะ ?
________________________________________________________________________
ข้อ 2. พ่อไม่ส่งเราเข้าโรงเรียน
ชั้นอนุบาลได้เรียนนะค่ะ เห็นในรูปถ่ายและพ่อก็เล่าให้ฟังค่ะ แต่เราไม่ได้เรียน ป.1 จนถึงปัจจุบัน
ส่วนเหตุผลที่พ่อไม่ส่งเราเรียนก็คือเมื่อปี 2540 ตอนเราอายุประมาณหนึ่งขวบครึ่งจะสองขวบ
พ่อและหนูประสบอุบัติเหตุรถแท็กซี่ชนรถกระบะค่ะ เหตุการณ์ก็คือ พ่อกับหนูและลูกจ้างนั่งอยู่ในแท็กซี่ หนูกับพ่อนั่งฝั่งซ้ายคนขับ
ลูกจ้างผู้ชายนั่งอยู่ด้านหลัง หนูนั่งอยู่ตรงตักพ่อและมีเจ้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มาก ใหญ่กว่าหนูเกือบเท่านึงเลยค่ะ
เรานั่งกันมาจากถนนซุปเปอร์ไฮเวย์พิษณุโลกมาเชียงราย และในอำเภอเล็กๆที่ชื่อว่าวัดโบสถ์
มีแยกหนึ่งเชื่อมต่อกับยูเทิร์น (ก็คือถ้าออกจากซอยตรงไปยูเทิร์นก็จะข้ามไปถนนอีกฟากได้เลยอ่ะค่ะ)
ซอยเล็กนั้นมีรถกระบะคันเก่าคันนึงมีผู้ชายอายุประมาณ 40+ เป็นคนขับ (สถานะเมาเกือบไม่ได้สติ) และภรรยาที่นั่งมาด้วยกัน
รถกระบะคันนั้นพุ่งออกมาจากซอยด้วยความเร็วโดยที่ไม่ดูทาง และพุ่งเข้าชนแท็กซี่ฝั่งที่พ่อกับหนูนั่งอยู่อย่างจังเลยค่ะ
ซึ่งพอพ่อเห็นว่ารถพุ่งเข้ามาพ่อก็รีบเอาตุ๊กตาหมีตัวใหญ่นั้นมากดตัวหนูไว้ค่ะ พ่อกอดตุ๊กตาทับหนูที่นั่งตักพ่ออยู่ไว้แน่น
พอชนพ่อก็บอกว่ารู้สึกว่ารถตีลังกาหลายตลบเลยละค่ะก่อนจะหมดสติไป ลูกจ้างที่นั่งมาด้วยกันปัจจุบันไม่มีแผลเป็นอะไรเลยค่ะ
ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็โทรเรียกรถโรงพยาบาลมารับตัวพ่อ ซึ่งก่อนรถพยาบาลจะมา ลูกจ้างก็อุ้มหนูที่ร้องไห้หนักมากออกมาจากตัวพ่อ
ลูกจ้างเห็นสภาพพ่อหนู ลูกจ้างก็พูดกับหนูว่า "พ่อหนูไม่รอดแล้วนะ" ซึ่งหนูก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ เอาแต่นั่งร้องไห้
สภาพพ่อก็ หัวแหวกเห็นสมองเลยค่ะ หมอเย็บไป 30 กว่าเข็มมั้งค่ะ จำไม่ได้ ปัจจุบันพ่อสมองเสียไป 70% ค่ะ แต่ไม่ได้บ้านะค่ะ ปกติทุกอย่าง
และข้างล่างจักแร้ลงมาหน่อยอ่ะค่ะ (ปอดหรือเปล่า ไม่รู้เรียกว่าอะไรค่ะ) ตรงล่างจักแร้นั้นฉีกเลยอ่ะค่ะ หมอก็เย็บเหมือนกันแต่ไม่รู้กี่เข็ม
พ่อพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเกือบ 3 เดือนค่ะ ส่วนหนูที่พ่อปกป้องไว้ ปัจจุบันไม่มีแผลเป็นอะไรเลยค่ะ แต่พ่อมีแผลเป็นที่หัวและล่างจักแร้เป็นรูเลยค่ะ
แต่แกบอกว่าสมองหนูกระทบรุนแรงหมอจึงห้ามไม่ให้เรียนโรงเรียนทั่วไป ให้ไปเรียนโรงเรียนสำหรับผู้ป่วยประเภทนี้แทนอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรเกี่ยวกับสมอง
ซึ่งพ่อก็ไม่ได้พาหนูไปเรียนแต่อย่างใด แต่พ่อจ้างครูมาสอนที่บ้านแทนค่ะ สอนภาษาอังกฤษและเลขเป็นหลัก ภาษาไทยพ่อไม่ได้บอกให้สอน แต่ครูก็สอนค่ะ
ครูก็สอนไทยนิดๆหน่อยๆ ก.ไก่ - ฮ.นกฮูก เรียนประมาณ 6-7 ปีค่ะ กับครู 3 คน หลังจากนั้นจนปัจจุบันก็ไม่ได้เรียนอะไรอีกเลย..
แปลกมั้ยล่ะค่ะ
เรื่องรถชนหนูไม่ได้จำได้หรอกนะค่ะ พ่อและลูกจ้างคนที่นั่งไปด้วยกันเล่าให้ฟังค่ะ หนูจะบอกว่าหนูเป็นคนความจำสั้นมากค่ะ
ปัจจุบันนี้หนูจำเรื่องตอนเด็กๆไม่ได้เลยค่ะ จำเรื่องตั้งแต่อายุไม่เกิน 10 ขวบไม่ได้แล้วค่ะ ลืมไปแล้วจริงๆ จำได้แค่บางเรื่องและจำได้น้อยมากค่ะ
พอไม่ได้เรียนอีกหลายปีก็ลืมวิธีหารและคูณแล้วค่ะ จะคูณทีไรรู้สึกว่ายากมากๆ แต่บวกลบก็ยังได้ปกติค่ะ
____________________________________________________________________________
ข้อ 3. พ่อไม่ทำบัตรประชาชน - พาสปอร์ตให้
มาถึงเรื่องใหญ่โตและเป็นภาระให้เแกเรา ณ ปัจจุบันนี้นะค่ะ
ปัจจุบันนี้เราอยู่ กรุงเทพ พ่ออยู่เชียงรายค่ะ เรามาอยู่กับแฟนที่นี้ ตอนมาอยู่ที่นี้แรกๆ ไม่ได้ทำงานอะไรเลยค่ะ นั่งเล่นคอมทั้งวัน
ซึ่งครอบครัวแฟนก็ไม่ได้ว่าอะไร (เขารู้ว่าเราใช้ชีวิตลูกคุณหนูมาก่อน) จนอยู่มาประมาณใกล้สื้นเดือนมีนาคมแฟนเริ่มมีปัญหาเรื่องการเงินค่ะ
เพราะแฟนเคยขาหักเมื่อปี 2555 และต้องกู้เงินเพื่อรักษาเกือบสามแสนบาทค่ะ และปี 2556 ไปกู้อีก 100,000 บาทเพื่อดาวน์รถบิ๊คไบค์ค่ะ
ปัจจุบันแฟนต้องชดใช้หนี้อีกหลายปี และปัจจุบันแฟนได้เงินเดือนรวมแล้วไม่ถึง 2,000 บาทเลยค่ะ (ไม่รู้ว่าหักค่าอะไรนักหนา)
เราเลยอยากช่วยแฟนโดยการทำงานหาเงินช่วยผ่อนรถที่มีอยู่ เดือนล่ะประมาณ 4,000 บาท และเงินใช้เที่ยวใช้สอยอีกนิดหน่อย
เราอยากทำงานโรงงาน หรือไม่ก็พวกงานที่ได้เงิน 300 บาทต่อวันค่ะ แต่!! เราไม่มีพาสปอร์ต ไม่มีบัตรประชาชน ตอนนี้เลยจุกอยู่ทางตันหาทางออกไม่เจอเลยค่ะ
ปัจจุบันนี้ขายน้ำแข็งใสอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆค่ะ ใน กรุงเทพ เงินที่ได้เดือนแรก เดือนเมษาได้วันล่ะ 500 , 400 , 300 คือวันนึงเกิน 200 บาทแน่ๆล่ะค่ะซึ่งก็จะหักไปซื้อของใหม่วันต่อวันหักไปซื้อครึ่งนึงที่ได้มา
อย่างเช่นวันนี้ขายได้ 200 บาทก็เอาไปซื้อของใหม่ 100 บาท กำไรค่าเหนื่อยก็ 100 บาทซึ่งระดับเงินแค่นี้ที่จริงก็พอแล้วสำหรับเรา
แต่เดือนที่เราขายเดือนแรกมันเป็นเดือนปิดเทอมค่ะ นักเรียนไม่ต้องไปโรงเรียน เด็กๆเยอะแยะ เลยขายพอได้เลยละค่ะเดือนแรก
แต่พอมาเดือนสอง เดือนพฤษภาคม เดือนโรงเรียนเปิดเทอม เริ่มขายได้น้อยลงค่ะ จาก 200 บาทลดลงเหลือ 100 บาทแล้วยิ่งช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาอากาศแปรปรวนฝนตกบ้างแดดแรงบ้างยิ่งได้น้อยสุดๆค่ะ
มีวันเสาร์ที่ผ่านมานี้หละค่ะ ฝนตกแต่เช้า 9 โมงเช้า ถึงเที่ยง พอหยุดตกก็มาขายต่อ วันนั้นได้เงินมาแค่ 40 บาทค่ะ เหนื่อยใจท้อมากๆ
ส่วนวันปกติตอนนี้ขายได้ไม่ถึง 200 บาท แล้วค่ะ อย่างมากก็ 150 บาท หักไปซื้อก็ได้ไม่ถึง 100บาทเลย เราจะทำยังไงดีค่ะ เราอยากทำงานเงินเดือน 6000+
พาสปอร์ตพ่อก็ไม่ทำให้ ถามพ่อ พ่อก็บอกว่ารอก่อนเดี๋ยวก็ทำให้ แต่พ่อพูดแบบนี้มา 4 ปี แล้วค่ะ พ่อก็ไม่ยอมพาไปทำสักที
โทรไปจะคุยเรื่องสำคัญก็บอกไม่ว่าง พ่อบอกพ่อสมองเสียนะไม่สามารถคุยได้ทีละหลายเรื่อง แกจะพูดแบบนี้ตลอดเลยค่ะ ทำไงดี
แล้วถ้าเกิดหนูแอบขโมยพวกสมุดเล่มทะเบียนบ้าน ใบเกิด มาถ่ายเป็นสำเนาแล้วไปทำบัตรประชาชนเองจะได้มั้ยค่ะ หรือต้องมีผู้ปกครองไปด้วย
แล้วถ้าจะทำพาสปอร์ตต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ค่ะ รวมทั้งหมด ทั้งแปลใบเกิด ทะเบียนบ้าน ฯลฯ
ถ้าแพงมาก มันอาจจะเป็นเหตุผลที่พ่อไม่ทำพาสปอร์ตให้ เพราะพ่อเป็นคนที่ขี้งกมากๆเลยค่ะ
__________________________________________________________________________________________
ข้อ 4. พ่อไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับชีวิตของพ่อที่เยอรมันนี พ่อเป็นฝรั่งที่แปลกมาก
มีใครที่พอจะตอบได้มั้ยค่ะว่าทำไมพ่อถึงเป็นคนแปลก ไม่สอนลูกพูดเยอรมันนี ไม่ให้ลูกเข้าโรงเรียน ไม่ให้ลูกทำพาสปอร์ต บัตรประชาชน
หรือว่าพ่อมีเรื่องอะไรอยู่ที่เยอรมันนีแล้วไม่อยากให้เราติดต่อกับใครที่เยอรมันนีหรือเปล่า ตั้งแต่เกิดมาพ่อไม่เคยพาไปเยอรมันนีเลยค่ะ
ครอบครัวเรามีแต่พ่อกับหนูและหลานสาว (ลูกสาวของหนูเองค่ะ) ที่เมืองไทยเราสามคนไม่มีญาติเลยค่ะ ญาติพ่ออยู่ที่เยอรมันนีทั้งหมด ทั้งพี่สาวพ่อ ป้า และแม่ของพ่อ พวกเขาก็โทรมาคุย ส่งเงินมาให้ปกติทุกเดือน แต่หนูไม่เคยคุยกับพวกเขา เพราะคุยไม่รู้เรื่องค่ะ
ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ที่ไม่ปกติคือพ่อค่ะ ทำไมแกถึงเป็นคนแปลกแบบนี้ ทำไมต้องให้ลูกลำบาก ตอนนี้พ่อก็อายุ 68 ปีแล้ว ไม่รู้แกจะเสียเมื่อไหร่
แล้วถ้าเกิดแกเสียไป แกอยากให้หนูทำเรื่องทุกอย่างคนเดียวหรอ ทั้งทำบัตรประชาชน พาสปอร์ต และบ้านที่พ่ออยู่ที่เชียงรายตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นบ้านถาวร
แกเช่าบ้านอยู่ค่ะ แกบอกว่าเป็นฝรั่งซื้อบ้านที่เมืองไทยไม่ได้ นอกจากจะมีเมียคนไทย (พ่อไม่เคยมีแม่ใหม่ค่ะ) หรือลูกสัญชาติไทยที่บรรลุนิติภาวะแล้ว
ถ้าเกิดพ่อไม่อยู่ แล้วหนูจะคุยกับญาติพ่อให้รู้เรื่องได้ไง แล้วหนูจะไว้ใจใครได้อีกก็เรามีกันแค่นี้ ถ้าพ่อไม่อยู่ หนูก็ตาย บัตรประชาชนพาสปอร์ตไม่มี
บ้านไม่มี เงินไม่มี เรามีกันแค่นี้แต่แกก็ไม่เคยรับฟังว่าลูกลำบากใจเรื่องอนาคต หลานสาวก็มีถ้าไม่ทำงานแล้วหนูจะเอาเงินที่ไหนเลี้ยงหลาน
หนูไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ ช่วยทีสิค่ะ หนูไม่รู้ว่าอนาคตต่อไปของหนูจะเป็นยังไง วุฒิเรียนจบก็ไม่มี บัตรประชาชนก็ไม่มี แล้วอนาคตหนูจะทำอะไรได้บ้าง
ใครก็ได้ช่วยหนูทีค่ะ