การแสวงหาอันไม่ประเสริฐ...

(บางส่วน)

[๒๕๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ธรรม ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน

คือ
ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญา แล้วพึงกำหนดรู้ไว้ก็มี
ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญา  แล้วพึงละเสียก็มี
ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญา  แล้วพึงให้เจริญก็มี
ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญา  แล้วพึงกระทำให้แจ้งก็มี


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญาแล้วพึงกำหนดรู้เป็นไฉน
อุปาทานขันธ์ ๕   นี้เราเรียกว่า ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญา แล้วพึงกำหนดรู้ไว้

ก็ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญาแล้วพึงละเสียเป็นไฉน
คือ อวิชชา และภวตัณหา   นี้เราเรียกว่า ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญา แล้วพึงละเสีย

ก็ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญาแล้วพึงให้เจริญเป็นไฉน
คือ สมถะและวิปัสสนา   นี้เราเรียกว่า ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญา แล้วพึงให้เจริญ

ก็ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญาแล้วพึงกระทำให้แจ้งเป็นไฉน
คือ วิชชาและวิมุตติ นี้เราเรียกว่า ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญา แล้วพึงกระทำให้แจ้ง

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้แล ฯ




[๒๕๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อนริยปริเยสนา การแสวงหาอันไม่ประเสริฐ ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน

คือ บุคคลบางคนในโลกนี้
ตนเองเป็นผู้มีชราเป็นธรรมดา ย่อมแสวงหาสิ่งที่มีชราเป็นธรรมดานั่นเอง ๑
ตนเองเป็นผู้มีพยาธิเป็นธรรมดา ย่อมแสวงหาสิ่งที่มีพยาธิเป็นธรรมดานั่นเอง ๑
ตนเองเป็นผู้มีมรณะเป็นธรรมดา ย่อมแสวงหาสิ่งที่มีมรณะเป็นธรรมดานั่นเอง ๑
ตนเองเป็นผู้มีความเศร้าหมองเป็นธรรมดา ย่อมแสวงหาสิ่งที่มีความเศร้าหมองเป็นธรรมดานั่นเอง ๑

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนริยปริเยสนา ๔ ประการนี้แล

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อริยปริเยสนา การแสวงหาอย่างประเสริฐ ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน
คือ บุคคลบางคนในโลกนี้

ตนเองเป็นผู้มีชราเป็นธรรมดา รู้โทษในสิ่งที่มีชราเป็นธรรมดาแล้ว
ย่อมแสวงหานิพพานอันไม่มีชรา เป็นแดนเกษมจากโยคะอย่างเยี่ยม ๑

ตนเองเป็นผู้มีพยาธิเป็นธรรมดา รู้โทษในสิ่งที่มีพยาธิเป็นธรรมดาแล้ว
ย่อมแสวงหานิพพานอันไม่มีพยาธิ เป็นแดนเกษมจากโยคะชั้นเยี่ยม ๑

ตนเองเป็นผู้มีมรณะเป็นธรรมดา รู้โทษในสิ่งที่มีมรณะเป็นธรรมดาแล้ว
ย่อมแสวงหานิพพานอันไม่ตาย เป็นแดนเกษมจากโยคะชั้นเยี่ยม ๑

ตนเองเป็นผู้มีความเศร้าหมองเป็นธรรมดา รู้โทษในสิ่งที่มีความเศร้าหมองเป็นธรรมดาแล้ว
ย่อมแสวงหานิพพานอันไม่เศร้าหมอง เป็นแดนเกษมจากโยคะชั้นเยี่ยม ๑

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยปริเยสนา ๔ ประการนี้แล ฯ



-----------------------

อภิญญาวรรคที่ ๖
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑  บรรทัดที่ ๖๕๖๙ - ๖๗๒๒.  หน้าที่  ๒๘๑ - ๒๘๗.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=21&A=6569&Z=6722&pagebreak=0

ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=21&i=254
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่