ขอตั้งเป็นกระทู้คำถามนะคะ เป็นสมาชิคแบบไม่ยืนยันตัวตนเลยตั้งเป็นสนทนาไม่ได้ค่ะ
ช่วงนี้ว่างจัดค่ะ หตุผลคือ ตกงาน ไม่ใช่สิ พักงานชั่วคราว จนกว่าจะได้เงินเดือน 555555 งงใช่มั๊ยคะ เดี๋ยวมาฟังรายละเอียดกันค่ะ
แต่ขอเล่าประสบการณ์การทำงานตั้งแต่แรกก่อนะคะ ซึ่งเชื่อว่าหลายๆคนเคยเจอแบบนี้ค่ะ
หลังจากเรียนจบปริญญาตรีสาขา Landscape ในปี 2552 จากมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง ในจ.เชียงใหม่ ( แต่เรื่องที่เล่ายังไงๆก็ไม่เกี่ยวกับสถาบันค่ะ งดดราม่าเรื่องสถาบันค่ะ)
ก่อนจบประมาณหนึ่งเดือน หลังจากสอบเสร็จ ก็ยังอยู่เครียงานเก่าๆ ยังวนเวียนอยู่ในคณะ เป็นธรรมดาสำหรับเด็กจบใหม่ ที่ต้องคาดหวังชีวิตการทำงานแบบสวยหรู ก็ชั้นจบปริญญาตรีนี่นะ สาขาวิชาชีพเฉพาะด้วย เงินเดือนเหนาะๆก็หมื่นอัพแหละ ภาพเงินเดือนลอยมา ชีวิตที่หรูหรา กินดีอยู่ดีกว่าตอนเป็นนักศึกษา ฉันจะแบ่งให้พ่อแม่เท่านี้ กินเที่ยวเท่านี้ เหลือเก็บเท่านี้ แล้จะผ่อนรถ ผ่อนบ้าน แต่งงาน บลาๆๆๆๆๆ
ก่อนจบอย่างเป็นทางการ ก็ทำการส่งรีซูเม่ไปยังเวปต่างๆ ตื่นเต้นอ่ะ แต่ยังจำเสมอว่า เราต้องเลือกงาน ไม่ใช่งานเลือกเรา 5555เป็นไงล่ะ ฉันสวยเลือกได้นะ และแล้วก็มี บ.หนึ่ง โทรมาเป็นเจ้าแรก ไงละ ใครบอกว่าหางานยาก นี่ส่งรีซูเม่ไปไม่ถึงสามวัน
จาก บ.xxx ครีเอทีฟ จำกัด
ตำแหน่ง สตาฟโฆษณา
คุณสมบัติ จบปริญญาตรีทุกสาขา (ยินดีรับนักศึกษาจบใหม่)
เงินเดือน ตามความสามารถ
ถ้าน้องสนใจเข้ามาสมัครด้วยตัวเองตามที่อยู่บริษัท
สนใจสิคะ นัดเพื่อนอีกสองคนไปด้วย อืมมมมม ตำแหน่งสตาฟโฆษณา เป็นไงนะ อ๋อต้องแบบนี้แน่เลย ที่เคยเห็นตามห้างต่างๆ ที่ใส่เสื้อยืดเป็นทีม คอยจัดสถานที่ตามงานอีเว้นไรต่างๆ ใช่ๆๆๆแบบนั้นแน่เลย เผลอๆได้เจอดาราด้วยนะ (เด็กน้อเด็ก จินตนาการไปทั่ว ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย) ว่าแล้วลองเซิทดูในกูเกิ้ลสิ อ๋อนี่ไง บ.xxxครีเอทีฟ จัดทำสื่อโฆษณา ทั่วภาคเหนือ
วันที่ไปสมัคร เจอคู่แข่งที่นั่งรออยู่แล้ว ประมาณสิบกว่าคน หน้าตาแต่ละคน ดูๆแล้วเด็กจบใหม่ทั้งนั้น หน้าตาบ๊องแบ๊ว พกพาความฝันมาเต็มกระเป๋านั่ง
แล้วเจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ไปลงทะเบียน บอกว่า รับเฉพาะคนี่พี่เขาโทรไปหาเท่านั้น ก็โอเค เราและเพื่อนคือหนึ่งในนั้น
นั่งรอเกือบๆครึ่งชั่วโมง คาดว่าทุกคนคงมากันครบแล้ว พี่คนเดิมก็บอกว่า น้องๆคะ ผู้จัดการมาแล้ว พร้อมสมภาษณ์เลยนะคะ
ตื่นเต้นอ่ะ เขาจะเรียนสัมภาษณ์ทีละคนป่าว หรือรวมกัน หรือยังไง
และแล้วผู้จัดการก็เดินเข้ามา เป็นทอม เตี้ยๆ อายุประมาณยี่สิบต้นๆ ใส่สูทผูกไทน์ เดินยิ้มแป้นแล้นเข้ามา พร้อมตบมือและกล่าวสวัสดีน้องๆ (คือถ้าไม่บอกนี่ คิดว่าเป็นเด็กเสริฟตามผับนะเนี่ย)
ผู้จัดการกล่าวทักทาย แล้วพูดว่า (อันนี้จำได้แม่น นึกได้ทีไร ขำตัวเองทุกที)
น้องๆแปลกใจใช่มั๊ยคับว่าทำไมผู้จัดการที่นี่ถึงอายุน้อย พี่บอกได้เลยว่า ถ้าทำงานที่นี่ ความก้าวหน้าไม่รอใคร บลาๆๆๆๆๆ
เนื้อหาที่เขาพูดประมาณหนึ่งชั่วโมง คือ บ.นี้เป็นบ.สื่อโฆษณา ได้ทำการโฆษณาให้กับแบรนด์ดังๆในประเทศไทย เช่น พิซซ่า เคเอฟซี วันทูคอล และอื่นๆอีกมากมาย (ขอโทษที่ต้องพาดพิงแบรนโ์เหล่านี้ค่ะ แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวนะคะ) ซึ่งผลตอบแทนที่เราจะได้รับ นอกจากเดือนแล้ว เรายังได้ค่าคอมฯจากค่าจ้างของแบรนด์ต่างๆที่เราโฆษณาให้ และชี้แจงรายได้ (ดูๆไปเหมือน ขายตรงเลยอ่ะ ถ้าทำยอดได้เท่านั้นเท่านี้ จะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการ ผู้จัดการภาค เป็นหุ้นส่วน ได้เที่ยวต่างประเทศ บลาๆๆๆ)
พูดจบ พี่เขาบอกว่า ใครสนใจร่วมงาน ให้ลงชื่อ เพื่อนัดวันมาทดลองงาน
ตอนนั้นยอมรับว่า เข้าใจเหมือนครั้งแรกจริงๆ คือ เราเป็นเจ้าหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ จัดงานอีเว้นต่างๆให้กับแบรนด์ต่างๆ เราเข้าใจแบบั้นจริงๆ เลยลงชื่อไว้ และเฝ้ารอวันนัดทดลองงาน ผ่านไปเกือบสัปดาห์ เขาก็โทรมานัดวัน
ให้น้องใส่กางเกงขายาวสีดำ ห้ามยืนส์ ห้ามเดฟ ส่วนเสื้อ ทางบ.มีให้เปลี่ยนเป็นเสื้อทีม ใส่รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าหุ้มส้นที่ดูเรียบร้อย
ตื่นเต้นอ่ะ เพื่อนอีกสองคนก็ตื่นเต้น และแล้ววันที่ทดลองงานก็มาถึง แต่เพื่อนดันไปกินหมูกะทะแล้วท้องเสีย เราเลยต้องไปคนเดียว เพื่อนๆบ่นเสียดาย แต่ก็ฝากเราบอกผู้จัดการว่า อยากทำงานจริงๆขอเลื่อนวันทดลองงาน เราก็โอเค ผู้จัดการก็โอเค
พอไปถึง เราได้รับแจกเสื้อยืดสีเขียว สกรีนโลโก้ บ. พี่เขาถาม ว่าทานข้าวยัง พร้อมลุยงานนะ งานหนักและเหนื่อย เราก็โอเค เตรียมพร้อมค่ะ
เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ให้ไปคุยรายละเอียดงานกะพี่เลี้ยงก่อน ที่นี่เงินเดือนสี่พันห้า แต่จะได้ค่าคอมฯเดือนๆนึงก็ไม่ต่ำกว่าหมื่นนะ อยู่ที่เราขยันหรือเปล่า เราเริ่มงง ยิ่งฟังยิ่งงง นี่มันหลักการเดียวกับขายตรงชัดๆ แต่ก็ไม่เห็นสินค้าเหมือนแอมเวย์ไรนี่เลย (เคยไปฟังแอมเวย์มาค่ะ) สงสัยพี่เขารู้ทัน บอกเราว่า
น้องไม่ต้องกลัว นี่ไม่ใช่ขายตรง แค่หลักการการทำงานคล้ายๆกัน น้องไม่ต้องซื้อสินค้าไรหรอก แต่มันเป็นหลักการบริหารธุรกิจสมัยใหม่ ทำให้ก้าวหน้าเร็วไม่เหมือน บ.ทั่วไปกว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งใช้เวลาเป็นปีๆ เริ่มงงอีกละ แต่เอาไงเอากัน มาถึงขั้นนี้แล้ว
แล้วทีมงานก็บอกว่า พร้อมแล้ว ออกนอกสถานที่กัน
แล้วเราก็ถึงบางอ้อ!!!!!
วันนั้น ทีมเราต้องไปขายเมมเบอร์ของร้านอาหารแห่งนึ่ง ในเชียงใหม่ วิธีคือ เดินไปตามตรอกซอกซอย ไปกันเป็นกลุ่ม ช่วยกันรุม ช่วยกันพูด เดินไปเรื่อยๆ ตามพื้นที่ที่กำหนด เข้าบ้านออกบ้าน โดนไล่บ้าง หมาเห่าบ้าง แวะกินไอติมบ้าง บางกลุ่มก็ได้ไปขายซิมโทรศัพท์บ้าง แหนมบ้าง เมมเบอร์ร้านเหล้า ฯลฯ พอพักเที่ยงเราก็เลยบอกว่า พี่ไม่ไหวแล้ว หนูขอกลับนะ หนูไม่ทันแล้ว พี่เขาก็ใจดีค่ะ บอกตามสบายเลยน้อง ที่ผ่านมามีน้องเนี่ย ทนสุดละ อยู่ได้ตั้งครึ่งวัน
การทำงานครั้งแรกในชีวิต ดีนะที่ถอนตัวออกมาทัน เย็นนี้มีเรื่องเม้ากะเพื่อนยาวเลย เฮ้อ เริ่มต้นชีวตการทำงาน
ปล.ไม่รู้จะแทคห้องอะไรดี
เดี๋ยวมาดูบริษัทต่อไปค่ะ
ใครเคยมีประสบการณ์การทำงานแบบนี้บ้าง จบมา5ปี ย้ายที่ทำงาน4ที่
ช่วงนี้ว่างจัดค่ะ หตุผลคือ ตกงาน ไม่ใช่สิ พักงานชั่วคราว จนกว่าจะได้เงินเดือน 555555 งงใช่มั๊ยคะ เดี๋ยวมาฟังรายละเอียดกันค่ะ
แต่ขอเล่าประสบการณ์การทำงานตั้งแต่แรกก่อนะคะ ซึ่งเชื่อว่าหลายๆคนเคยเจอแบบนี้ค่ะ
หลังจากเรียนจบปริญญาตรีสาขา Landscape ในปี 2552 จากมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง ในจ.เชียงใหม่ ( แต่เรื่องที่เล่ายังไงๆก็ไม่เกี่ยวกับสถาบันค่ะ งดดราม่าเรื่องสถาบันค่ะ)
ก่อนจบประมาณหนึ่งเดือน หลังจากสอบเสร็จ ก็ยังอยู่เครียงานเก่าๆ ยังวนเวียนอยู่ในคณะ เป็นธรรมดาสำหรับเด็กจบใหม่ ที่ต้องคาดหวังชีวิตการทำงานแบบสวยหรู ก็ชั้นจบปริญญาตรีนี่นะ สาขาวิชาชีพเฉพาะด้วย เงินเดือนเหนาะๆก็หมื่นอัพแหละ ภาพเงินเดือนลอยมา ชีวิตที่หรูหรา กินดีอยู่ดีกว่าตอนเป็นนักศึกษา ฉันจะแบ่งให้พ่อแม่เท่านี้ กินเที่ยวเท่านี้ เหลือเก็บเท่านี้ แล้จะผ่อนรถ ผ่อนบ้าน แต่งงาน บลาๆๆๆๆๆ
ก่อนจบอย่างเป็นทางการ ก็ทำการส่งรีซูเม่ไปยังเวปต่างๆ ตื่นเต้นอ่ะ แต่ยังจำเสมอว่า เราต้องเลือกงาน ไม่ใช่งานเลือกเรา 5555เป็นไงล่ะ ฉันสวยเลือกได้นะ และแล้วก็มี บ.หนึ่ง โทรมาเป็นเจ้าแรก ไงละ ใครบอกว่าหางานยาก นี่ส่งรีซูเม่ไปไม่ถึงสามวัน
จาก บ.xxx ครีเอทีฟ จำกัด
ตำแหน่ง สตาฟโฆษณา
คุณสมบัติ จบปริญญาตรีทุกสาขา (ยินดีรับนักศึกษาจบใหม่)
เงินเดือน ตามความสามารถ
ถ้าน้องสนใจเข้ามาสมัครด้วยตัวเองตามที่อยู่บริษัท
สนใจสิคะ นัดเพื่อนอีกสองคนไปด้วย อืมมมมม ตำแหน่งสตาฟโฆษณา เป็นไงนะ อ๋อต้องแบบนี้แน่เลย ที่เคยเห็นตามห้างต่างๆ ที่ใส่เสื้อยืดเป็นทีม คอยจัดสถานที่ตามงานอีเว้นไรต่างๆ ใช่ๆๆๆแบบนั้นแน่เลย เผลอๆได้เจอดาราด้วยนะ (เด็กน้อเด็ก จินตนาการไปทั่ว ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย) ว่าแล้วลองเซิทดูในกูเกิ้ลสิ อ๋อนี่ไง บ.xxxครีเอทีฟ จัดทำสื่อโฆษณา ทั่วภาคเหนือ
วันที่ไปสมัคร เจอคู่แข่งที่นั่งรออยู่แล้ว ประมาณสิบกว่าคน หน้าตาแต่ละคน ดูๆแล้วเด็กจบใหม่ทั้งนั้น หน้าตาบ๊องแบ๊ว พกพาความฝันมาเต็มกระเป๋านั่ง
แล้วเจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ไปลงทะเบียน บอกว่า รับเฉพาะคนี่พี่เขาโทรไปหาเท่านั้น ก็โอเค เราและเพื่อนคือหนึ่งในนั้น
นั่งรอเกือบๆครึ่งชั่วโมง คาดว่าทุกคนคงมากันครบแล้ว พี่คนเดิมก็บอกว่า น้องๆคะ ผู้จัดการมาแล้ว พร้อมสมภาษณ์เลยนะคะ
ตื่นเต้นอ่ะ เขาจะเรียนสัมภาษณ์ทีละคนป่าว หรือรวมกัน หรือยังไง
และแล้วผู้จัดการก็เดินเข้ามา เป็นทอม เตี้ยๆ อายุประมาณยี่สิบต้นๆ ใส่สูทผูกไทน์ เดินยิ้มแป้นแล้นเข้ามา พร้อมตบมือและกล่าวสวัสดีน้องๆ (คือถ้าไม่บอกนี่ คิดว่าเป็นเด็กเสริฟตามผับนะเนี่ย)
ผู้จัดการกล่าวทักทาย แล้วพูดว่า (อันนี้จำได้แม่น นึกได้ทีไร ขำตัวเองทุกที)
น้องๆแปลกใจใช่มั๊ยคับว่าทำไมผู้จัดการที่นี่ถึงอายุน้อย พี่บอกได้เลยว่า ถ้าทำงานที่นี่ ความก้าวหน้าไม่รอใคร บลาๆๆๆๆๆ
เนื้อหาที่เขาพูดประมาณหนึ่งชั่วโมง คือ บ.นี้เป็นบ.สื่อโฆษณา ได้ทำการโฆษณาให้กับแบรนด์ดังๆในประเทศไทย เช่น พิซซ่า เคเอฟซี วันทูคอล และอื่นๆอีกมากมาย (ขอโทษที่ต้องพาดพิงแบรนโ์เหล่านี้ค่ะ แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวนะคะ) ซึ่งผลตอบแทนที่เราจะได้รับ นอกจากเดือนแล้ว เรายังได้ค่าคอมฯจากค่าจ้างของแบรนด์ต่างๆที่เราโฆษณาให้ และชี้แจงรายได้ (ดูๆไปเหมือน ขายตรงเลยอ่ะ ถ้าทำยอดได้เท่านั้นเท่านี้ จะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการ ผู้จัดการภาค เป็นหุ้นส่วน ได้เที่ยวต่างประเทศ บลาๆๆๆ)
พูดจบ พี่เขาบอกว่า ใครสนใจร่วมงาน ให้ลงชื่อ เพื่อนัดวันมาทดลองงาน
ตอนนั้นยอมรับว่า เข้าใจเหมือนครั้งแรกจริงๆ คือ เราเป็นเจ้าหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ จัดงานอีเว้นต่างๆให้กับแบรนด์ต่างๆ เราเข้าใจแบบั้นจริงๆ เลยลงชื่อไว้ และเฝ้ารอวันนัดทดลองงาน ผ่านไปเกือบสัปดาห์ เขาก็โทรมานัดวัน
ให้น้องใส่กางเกงขายาวสีดำ ห้ามยืนส์ ห้ามเดฟ ส่วนเสื้อ ทางบ.มีให้เปลี่ยนเป็นเสื้อทีม ใส่รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าหุ้มส้นที่ดูเรียบร้อย
ตื่นเต้นอ่ะ เพื่อนอีกสองคนก็ตื่นเต้น และแล้ววันที่ทดลองงานก็มาถึง แต่เพื่อนดันไปกินหมูกะทะแล้วท้องเสีย เราเลยต้องไปคนเดียว เพื่อนๆบ่นเสียดาย แต่ก็ฝากเราบอกผู้จัดการว่า อยากทำงานจริงๆขอเลื่อนวันทดลองงาน เราก็โอเค ผู้จัดการก็โอเค
พอไปถึง เราได้รับแจกเสื้อยืดสีเขียว สกรีนโลโก้ บ. พี่เขาถาม ว่าทานข้าวยัง พร้อมลุยงานนะ งานหนักและเหนื่อย เราก็โอเค เตรียมพร้อมค่ะ
เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ให้ไปคุยรายละเอียดงานกะพี่เลี้ยงก่อน ที่นี่เงินเดือนสี่พันห้า แต่จะได้ค่าคอมฯเดือนๆนึงก็ไม่ต่ำกว่าหมื่นนะ อยู่ที่เราขยันหรือเปล่า เราเริ่มงง ยิ่งฟังยิ่งงง นี่มันหลักการเดียวกับขายตรงชัดๆ แต่ก็ไม่เห็นสินค้าเหมือนแอมเวย์ไรนี่เลย (เคยไปฟังแอมเวย์มาค่ะ) สงสัยพี่เขารู้ทัน บอกเราว่า
น้องไม่ต้องกลัว นี่ไม่ใช่ขายตรง แค่หลักการการทำงานคล้ายๆกัน น้องไม่ต้องซื้อสินค้าไรหรอก แต่มันเป็นหลักการบริหารธุรกิจสมัยใหม่ ทำให้ก้าวหน้าเร็วไม่เหมือน บ.ทั่วไปกว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งใช้เวลาเป็นปีๆ เริ่มงงอีกละ แต่เอาไงเอากัน มาถึงขั้นนี้แล้ว
แล้วทีมงานก็บอกว่า พร้อมแล้ว ออกนอกสถานที่กัน
แล้วเราก็ถึงบางอ้อ!!!!!
วันนั้น ทีมเราต้องไปขายเมมเบอร์ของร้านอาหารแห่งนึ่ง ในเชียงใหม่ วิธีคือ เดินไปตามตรอกซอกซอย ไปกันเป็นกลุ่ม ช่วยกันรุม ช่วยกันพูด เดินไปเรื่อยๆ ตามพื้นที่ที่กำหนด เข้าบ้านออกบ้าน โดนไล่บ้าง หมาเห่าบ้าง แวะกินไอติมบ้าง บางกลุ่มก็ได้ไปขายซิมโทรศัพท์บ้าง แหนมบ้าง เมมเบอร์ร้านเหล้า ฯลฯ พอพักเที่ยงเราก็เลยบอกว่า พี่ไม่ไหวแล้ว หนูขอกลับนะ หนูไม่ทันแล้ว พี่เขาก็ใจดีค่ะ บอกตามสบายเลยน้อง ที่ผ่านมามีน้องเนี่ย ทนสุดละ อยู่ได้ตั้งครึ่งวัน
การทำงานครั้งแรกในชีวิต ดีนะที่ถอนตัวออกมาทัน เย็นนี้มีเรื่องเม้ากะเพื่อนยาวเลย เฮ้อ เริ่มต้นชีวตการทำงาน
ปล.ไม่รู้จะแทคห้องอะไรดี
เดี๋ยวมาดูบริษัทต่อไปค่ะ