ข้อจำกัดของการเที่ยวครั้งนี้คือ มีคนแก่ 70 กว่า ข้อเข่าเสื่อ เดินระยะไกลไม่ได้ และเด็ก 3 ขวบจอมซนสุดๆ ดังนั้นการเดินทางครั้งนี้ เราจึงไม่วางแผนมากนัก ว่าจะไปที่ไหนบ้าง เพราะถ้าเด็กงองแง คนแก่ปวดขา ก็ต้องเปลี่ยนแผนเป็นระยะ ครั้งนี้เราจึงเน้นการเดินทางด้วยรถเมล์และ taxi เป็นหลัก เพราะไม่ต้องเดินไกลเหมือน mrt ครั้งนี้จึงขอรีวิวเฉพาะบางประเด็นที่พบเจอนะคะ และต้องขออภัย ที่ครั้งนี้ถ่ายรูปน้อยมาก จึงขออนุญาตเป็น Text review ซะเป็นส่วนใหญ่ และขอใช้ภาพประกอบจาก internet และ google street view ร่วมด้วยนะคะ
สายการบินกับ Wheelchair
- ขาไป แอร์เอเชีย ออก 7.05 น ถึง สิงคโปร์ 10.25 น ตอนจองมีช่องให้เลือกขอ wheelchair เพิ่งรู้ว่า มีค่าบริการด้วยค่ะ 600 บาท เลยไม่ได้ขอไว้ เพิ่มเติมเรื่อง wheelchair นะคะ ตอนนั่งในประเทศจากต่างจังหวัดเข้า กทม โดย airasia ก็ได้เลือกขอ wheelchair ไว้ ( ไม่มีค่าบริการ) แต่พอตอนเช็กอิน เจ้าหน้าที่ไม่ถามหรือแจ้งเราเลยค่ะ เราก็เลยลืม จนพาแม่เดินเข้าไปใน gate แล้วเพิ่งนึกได้ ขากลับจาก กทม ก็เหมือนกันค่ะ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ถาม จนเราเช็กอินเสร็จแล้ว เราจึงแจ้งว่าได้ขอ wheelchair ไว้ เขาถึงตามให้ค่ะ คือเคยนั่งการบินไทย จนท ก็จะถามทุกครั้งน่ะค่ะ ว่าผู้โดยสารได้ขอ wheelchair ไว้ใช่ไหม
- เนื่องจากการเดินทางในสิงคโปร์ เราจะใช้รถเมล์เป็นหลัก จึงหาซื้อ wheelchair ที่พับได้ น้ำหนักเบา เลยได้ตัวนี้มา ในราคา 4200 ( ถ้าซื้อทางเนทอาจถูกกว่านี้ค่ะ) เป็นแบบล้อลเ็กค่ะ น้ำหนัก 6.5 กก รับน้ำหนักได้ 100 กก พับเก็บใส่ถุงทีให้มาได้ แต่ขอบอกว่าแม่นั่งแล้วเมื่อยมาก เจ็บก้น เพราะแม่ตัวอ้วนค่ะ หนัก 70 กว่า ดังนั้น ตัวนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่อ้วนมากค่ะ
- ตอนซื้อน้ำหนักกระเป๋า เราก็ซื้อน้ำหนักเผื่อโหลด wheelchair ไว้ด้วย ตอนเช็กอินไป กทม เราก็พับ wheelchair ใส่ถุง และแจ้ง จนท ว่าเป็น wheelchair และก็ได้ถาม จนท เช็กอินว่า wheelchair นี่นับรวมน้ำหนักเข้าไปด้วยไหม เขาตอบว่ารวมค่ะ ดังนั้นเราเลยซื้อน้ำหนักกระเป๋าเผื่ออีกตอนขากลับจาก กทม ปรากฎว่าตอนเช็กอินที่ดอนเมือง จนท บอกว่า wheelchair กับรถเข็นเด็ก ….?? เลยแจ้งเขาไปว่า จนท ที่ต่างจังหวัดบอกว่านับรวม เราเลยได้ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มเลย
อันนี้มีใครช่วยคอนเฟิร์มให้ได้ไหมคะ ว่าตกลงรวมหรือไม่รวม
รถเมล์สิงคโปร์กับ wheelchair
- รถเมล์ที่สิงคโปร์ (และอาจจะอีกหลายประเทศ) จะมีคันที่ติดป้ายรูป wheelchair ไว้ด้านหน้ารถ ก็คือมีที่นั่งสำหรับคนที่ใช้ wheelchair ตัวรถก็จะไม่มีบันได กับคันที่ไม่มีป้าย wheelchair ซึ่งจะมีบันไดขึ้นรถ พอดีว่าตอนนั้นพับรถเข็นเก็บใส่ถุงไม่ได้ค่ะ และรถเมล์คันที่ไม่มีป้าย whellchair มาพอดีเลยขึ้น ปรากฎว่าคนขับบอกให้พับรถค่ะ เราก็พยายามพับใหม่บนรถ คนขับก็ไม่ยอมออกรถค่ะ สุดท้ายเราเลยต้องลงรถ ดังนั้นถ้ามี wheelchair ต้องนั่งคันที่มีรูป wheelchair หรือถ้าคันที่ไม่มีต้องพับเก็บนะคะ ห้ามกางออก เขาไม่ให้ค่ะ ส่วนรถเข็นเด็ก
ใครพอทราบไหมคะ ว่าเวลาเอาขึ้น ต้องพับด้วย?
(รูปประกอบจาก internet)
Taxi สิงคโปร์
- การเดินทางครั้งนี้มีผู้ใหญ่ 4 เด็ก 3 ขวบ 1 รวมเป็น 5 คน รู้มาว่า taxi ที่นี่นั่งได้ไม่เกิน 4 คน ไปครั้งนี้เรานั่ง Taxi ประมาณ 4 ครั้ง ซึ่ง 3 ครั้งไม่มีปัญหาอะไร แต่มี 1 ครั้ง เรียกจาก China town จะไป mustafa ปรากกว่าเขาไม่รับค่ะ คนขับบอกว่า มี 5 คน ไม่รับค่ะ เลยเรียกคันใหม่ แต่เปลี่ยนใจไม่ไป mustafa เป็นกลับ รร แทน ลองเรียกคันใหม่ เขาก็ไปนะคะ อันนี้คงเหมือน taxi บ้านเรามั้ง แล้วแต่คนขับจริงๆ
- ถ้าไป 4 คน หรือมีผู้สูงอายุไปด้วย ในสิงคโปร์ นั่งแท็กซี่เถอะค่ะ สะดวก หารต่อคนแล้วพอรับได้ ( ถูกกว่านั่ง taxi กทม จากกระทู้นี้………..) เราใช้เวปนี้ คำนวณค่ารถค่ะ ซึ่งพอนั่งจริง ราคาใกล้เคียงกับที่คำนวณมากค่ะ
http://gothere.sg/maps
สรุปค่ารถ taxi และเวลาที่นั่งนะคะ ( เพราะกลางคืนมีชาร์ทเพิ่มค่ะ)
chinatown - Village hotel Katong เวลา 17.00 น : ประมาณ 10 เหรียญค่ะ
Merlion - Village hotel Katong เวลา 20.30 น : 14 เหรียญค่ะ
วางแผนการเดินทางโดยรถเมล์
เนื่องจาก รร ที่พัก ไม่มีรถไฟฟ้าผ่านหรือใกล้เลย แต่มีป้ายรถเมล์อยู่หน้า รร การไปไหนมาไหนจึงต้องอาศัยรถเมล์และ taxi ค่ะ เราใช้ google map และ
http://gothere.sg/maps .และ
http://www.sbstransit.com.sg/journeyplan/srvceno.aspx ในการค้นหารถเมล์สายต่างๆค่ะ
ขอยกตัวอย่างการเดินทางนะคะ
จาก Village hotel Katong - Vivo city ( เพื่อไปขึ้น sentosa express ไป universal ค่ะ)
ค้นจาก google map ก็จะเห็นสายรถเมล์ที่ผ่านป้ายหน้า รร ป้ายรถเมล์หน้า รร คือป้าย Roxy
เข้าเวป
http://gothere.sg/maps พบว่านั่งรถเมล์สาย 10 ยิงยาวไปถึง vivo city เลย ไม่ต้องเปลี่ยนสาย ใช้เวลาสั้นสุดแล้ว คือ 41 นาที
เข้าเวป
http://www.sbstransit.com.sg/journeyplan/srvceno.aspx เลือกดูรถสาย 10 ว่าผ่านจากไหนไปไหนบ้าง

ส่วนรถเมล์สายอื่นที่ผ่านป้ายหน้า รร เราก็โหลดเป็น pdf มาเก็บไว้ด้วย
รีวิว รร Village hotel katong
เป็น รร ในเครือ Fareast hospitality ( รร อื่นในเครือ เช่น Rendezvous, orchard parade และ Vilaage hotel ทั้งหลาย) ที่เลือก รร นี้เพราะตอนแรกหาดูในเวป booking.com ก่อน ลองเลือกห้องพักแบบ 4 คน เพื่อเทียบกับห้อง 2 คนดู ว่าอาจจะถูกกว่าหรือเปล่า เลยเจอ รร นี้ ในราคาประมาณ 29000 / 3 คืน ไม่รวมอาหารเช้า จากนั้นจึงลองเข้าไปดูในเวป รร โดยตรง
http://www.stayfareast.com/en/hotels/village-hotel-katong.aspx
ปรากฎว่ามีราคาโปรโมชั่นลด 30% ห้อง Family room พัก 4 คน อยู่ที่ 905 SGD (ประมาณ 23000) ต่อ 3 คืน จึงตัดสินใจจองทันที เพราะ
1. มีรถ shuttle bus รับส่งจากสนามบิน-รร ฟรี เพราะอยู่ใกล้สนามบิน ( 15 นาที) ซึ่งน่าจะสะดวกสำหรับครอบครัวที่มีเด็กและคนแก่อย่างเรา
2. ราคา รวมอาหารเช้า และแถมบัตร Funvee citytour อีก 4 ใบ + บัตร Duck tour อีก 4 ใบ ( [ บัตร Funvee citytour ใบละ 21.9 SGD บัตร DUCK tour ใบละ 31.9) ซึ่งเทียบกับ V-lavender ที่เราดูไว้ตอนแรก รร V ได้ราคาประมาณ 3600 /ห้อง 2 คน / คืน ไม่รวมอาหารเช้าและรถรับส่ง ก็ตัดสินใจง่ายขึ้น
3. หน้า รร มีป้ายรถเมล์ ซึ่งสามารถขึ้นได้ทั้งสองฝั่งถนน คือฝั่ง Eastcost road ( เราขึ้นฝั่งนี้ตลอด) และฝั่ง Parkway parade ( ป้ายรถเมล์จะอยู่หน้า รร Mercure roxy )
4. ลองเสิร์ชดูร้านค้า ร้านอาหารแถว รร พบว่าเป็นแหล่งร้านอาหารดังๆหลายร้าน เช่น Boon tong kee ซึ่งอยู่ติดกับร้าน Five star จาก รร เราเดินไปร้าน Boon tong kee ประมาณ 10 นาที (600 เมตร) หรือจะนั่งรถเมล์จากป้ายหน้า รร ไปก็ได้ค่ะ เพราะป้ายรถเมล์อยู่หน้าร้านเลย และห้างหลายห้างค่ะ ห้างใกล้ๆที่เราไปคือ 112 katong มีร้าน Charels and keith ด้วยค่ะ
5. อ่านจากรีวิวใน tripadvisor รร นี้ได้คะแนนเกิน 90% ส่วนใหญ่ชมเรื่องความสะอาดและความเป็นมิตรของพนักงาน ซึ่งเราเห็นด้วยค่ะ รร ใหม่สะอาดเพราะเพิ่ง renovate ใหม่ (เดิมคือ รร paramount hotel)
เดินเข้า katong village ขึ้นไปชั้นสอง ก็เป้น lobby รร แล้วค่ะ
รูปห้องนอนนี้จากเวป รร นะคะ แต่ห้องจริงก็แบบนี้
สรุปหลังจากเข้าพักนะคะ
- อาหารเช้า มีพอประมาณค่ะ รสชาตพอกินได้
- รร ใหม่ สะอาด เงียบสงบดีค่ะ
- รร เชื่อมกับ katong village ซึ่งมี supermarket ปิด 5 ทุ่ม และร้านอาหาร
- ในห้องพัก มีเตารีด ชากาแฟ น้ำดื่มฟรีวันละ 4 ขวด ipod dock ห้องน้ำไม่มีอ่าง เป็นแบบฝักบัวด้านข้างและด้านบนเพดาน น้ำไหลแรงดีมากค่ะ ชักโครกไม่มีสายชำระ
- บัตร funvee citytour ที่แถม วันที่จองห้องพัก ต้องระบุวันด้วยว่าจะใช้วันไหน มีบริการรถ shuttle มารับจาก รร ไปยัง singapore flyer hub ซึ่งเป็นจุด start ของรถ และ Duck tour โดยรถที่มารับที่ รร มีสองรอบ คือ 8.15 และ 10.15 เราจองไปวัอาทิตย์ รอบ 10.15 เพราะไม่อยากรีบมากนัก ปรากฎว่ารถมารับจริงเกือบ 10.30 น และต้องวนไปรับคนที่ รร ต่างๆในเครือ อีก 2-3 รร กว่าเราจะไปถึง singapore flyer ก็ 11.30 น ซึ่งวันอาทิตย์คนเยอะมาก เราไม่ได้จองคิว duck tour ไว้ล่วงหน้า จึงได้คิวเวลา 13.00 น จนท แนะนำให้เรานั่งรถ funvee city tour 1 รอบก่อน ซึ่งใช้เวลา 1 ชม พอดี ก็กลับมานั่ง duck tour ต่อ จากนั้นค่อยกลับมานั่ง Funvee city tour ไปลง china town สรุปคือใช้บัตร Funvee ได้ไม่คุ้มเลย เพราะรถวิ่งถึงแค่ประมาณ 5 โมงเย็นเท่านั้น ปล. เด็ก 3 ขวบไม่ต้องเสียค่ารถ funvee เสียแต่ค่า duck tour ค่ะ
http://www.stayfareast.com/en/deals/free-city-tour.aspx?utm_source=citytour+sfe+gifbanner&utm_medium=citytour+sfe+gifbanner&utm_campaign=freecitytour
ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ถ้ามีข้อมูลหรือรูปเพิ่มเติมจะนำมาให้ดูเพิ่มนะคะ
[CR] รีวิว....รถเมล์ เบบี้ คนแก่ และวีลแชร์ In Singapore
สายการบินกับ Wheelchair
- ขาไป แอร์เอเชีย ออก 7.05 น ถึง สิงคโปร์ 10.25 น ตอนจองมีช่องให้เลือกขอ wheelchair เพิ่งรู้ว่า มีค่าบริการด้วยค่ะ 600 บาท เลยไม่ได้ขอไว้ เพิ่มเติมเรื่อง wheelchair นะคะ ตอนนั่งในประเทศจากต่างจังหวัดเข้า กทม โดย airasia ก็ได้เลือกขอ wheelchair ไว้ ( ไม่มีค่าบริการ) แต่พอตอนเช็กอิน เจ้าหน้าที่ไม่ถามหรือแจ้งเราเลยค่ะ เราก็เลยลืม จนพาแม่เดินเข้าไปใน gate แล้วเพิ่งนึกได้ ขากลับจาก กทม ก็เหมือนกันค่ะ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ถาม จนเราเช็กอินเสร็จแล้ว เราจึงแจ้งว่าได้ขอ wheelchair ไว้ เขาถึงตามให้ค่ะ คือเคยนั่งการบินไทย จนท ก็จะถามทุกครั้งน่ะค่ะ ว่าผู้โดยสารได้ขอ wheelchair ไว้ใช่ไหม
- เนื่องจากการเดินทางในสิงคโปร์ เราจะใช้รถเมล์เป็นหลัก จึงหาซื้อ wheelchair ที่พับได้ น้ำหนักเบา เลยได้ตัวนี้มา ในราคา 4200 ( ถ้าซื้อทางเนทอาจถูกกว่านี้ค่ะ) เป็นแบบล้อลเ็กค่ะ น้ำหนัก 6.5 กก รับน้ำหนักได้ 100 กก พับเก็บใส่ถุงทีให้มาได้ แต่ขอบอกว่าแม่นั่งแล้วเมื่อยมาก เจ็บก้น เพราะแม่ตัวอ้วนค่ะ หนัก 70 กว่า ดังนั้น ตัวนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่อ้วนมากค่ะ
- ตอนซื้อน้ำหนักกระเป๋า เราก็ซื้อน้ำหนักเผื่อโหลด wheelchair ไว้ด้วย ตอนเช็กอินไป กทม เราก็พับ wheelchair ใส่ถุง และแจ้ง จนท ว่าเป็น wheelchair และก็ได้ถาม จนท เช็กอินว่า wheelchair นี่นับรวมน้ำหนักเข้าไปด้วยไหม เขาตอบว่ารวมค่ะ ดังนั้นเราเลยซื้อน้ำหนักกระเป๋าเผื่ออีกตอนขากลับจาก กทม ปรากฎว่าตอนเช็กอินที่ดอนเมือง จนท บอกว่า wheelchair กับรถเข็นเด็ก ….?? เลยแจ้งเขาไปว่า จนท ที่ต่างจังหวัดบอกว่านับรวม เราเลยได้ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มเลย อันนี้มีใครช่วยคอนเฟิร์มให้ได้ไหมคะ ว่าตกลงรวมหรือไม่รวม
รถเมล์สิงคโปร์กับ wheelchair
- รถเมล์ที่สิงคโปร์ (และอาจจะอีกหลายประเทศ) จะมีคันที่ติดป้ายรูป wheelchair ไว้ด้านหน้ารถ ก็คือมีที่นั่งสำหรับคนที่ใช้ wheelchair ตัวรถก็จะไม่มีบันได กับคันที่ไม่มีป้าย wheelchair ซึ่งจะมีบันไดขึ้นรถ พอดีว่าตอนนั้นพับรถเข็นเก็บใส่ถุงไม่ได้ค่ะ และรถเมล์คันที่ไม่มีป้าย whellchair มาพอดีเลยขึ้น ปรากฎว่าคนขับบอกให้พับรถค่ะ เราก็พยายามพับใหม่บนรถ คนขับก็ไม่ยอมออกรถค่ะ สุดท้ายเราเลยต้องลงรถ ดังนั้นถ้ามี wheelchair ต้องนั่งคันที่มีรูป wheelchair หรือถ้าคันที่ไม่มีต้องพับเก็บนะคะ ห้ามกางออก เขาไม่ให้ค่ะ ส่วนรถเข็นเด็ก ใครพอทราบไหมคะ ว่าเวลาเอาขึ้น ต้องพับด้วย?
(รูปประกอบจาก internet)
Taxi สิงคโปร์
- การเดินทางครั้งนี้มีผู้ใหญ่ 4 เด็ก 3 ขวบ 1 รวมเป็น 5 คน รู้มาว่า taxi ที่นี่นั่งได้ไม่เกิน 4 คน ไปครั้งนี้เรานั่ง Taxi ประมาณ 4 ครั้ง ซึ่ง 3 ครั้งไม่มีปัญหาอะไร แต่มี 1 ครั้ง เรียกจาก China town จะไป mustafa ปรากกว่าเขาไม่รับค่ะ คนขับบอกว่า มี 5 คน ไม่รับค่ะ เลยเรียกคันใหม่ แต่เปลี่ยนใจไม่ไป mustafa เป็นกลับ รร แทน ลองเรียกคันใหม่ เขาก็ไปนะคะ อันนี้คงเหมือน taxi บ้านเรามั้ง แล้วแต่คนขับจริงๆ
- ถ้าไป 4 คน หรือมีผู้สูงอายุไปด้วย ในสิงคโปร์ นั่งแท็กซี่เถอะค่ะ สะดวก หารต่อคนแล้วพอรับได้ ( ถูกกว่านั่ง taxi กทม จากกระทู้นี้………..) เราใช้เวปนี้ คำนวณค่ารถค่ะ ซึ่งพอนั่งจริง ราคาใกล้เคียงกับที่คำนวณมากค่ะ http://gothere.sg/maps
สรุปค่ารถ taxi และเวลาที่นั่งนะคะ ( เพราะกลางคืนมีชาร์ทเพิ่มค่ะ)
chinatown - Village hotel Katong เวลา 17.00 น : ประมาณ 10 เหรียญค่ะ
Merlion - Village hotel Katong เวลา 20.30 น : 14 เหรียญค่ะ
วางแผนการเดินทางโดยรถเมล์
เนื่องจาก รร ที่พัก ไม่มีรถไฟฟ้าผ่านหรือใกล้เลย แต่มีป้ายรถเมล์อยู่หน้า รร การไปไหนมาไหนจึงต้องอาศัยรถเมล์และ taxi ค่ะ เราใช้ google map และ http://gothere.sg/maps .และ http://www.sbstransit.com.sg/journeyplan/srvceno.aspx ในการค้นหารถเมล์สายต่างๆค่ะ
ขอยกตัวอย่างการเดินทางนะคะ
จาก Village hotel Katong - Vivo city ( เพื่อไปขึ้น sentosa express ไป universal ค่ะ)
ค้นจาก google map ก็จะเห็นสายรถเมล์ที่ผ่านป้ายหน้า รร ป้ายรถเมล์หน้า รร คือป้าย Roxy
เข้าเวป http://gothere.sg/maps พบว่านั่งรถเมล์สาย 10 ยิงยาวไปถึง vivo city เลย ไม่ต้องเปลี่ยนสาย ใช้เวลาสั้นสุดแล้ว คือ 41 นาที
เข้าเวป http://www.sbstransit.com.sg/journeyplan/srvceno.aspx เลือกดูรถสาย 10 ว่าผ่านจากไหนไปไหนบ้าง
ส่วนรถเมล์สายอื่นที่ผ่านป้ายหน้า รร เราก็โหลดเป็น pdf มาเก็บไว้ด้วย
รีวิว รร Village hotel katong
เป็น รร ในเครือ Fareast hospitality ( รร อื่นในเครือ เช่น Rendezvous, orchard parade และ Vilaage hotel ทั้งหลาย) ที่เลือก รร นี้เพราะตอนแรกหาดูในเวป booking.com ก่อน ลองเลือกห้องพักแบบ 4 คน เพื่อเทียบกับห้อง 2 คนดู ว่าอาจจะถูกกว่าหรือเปล่า เลยเจอ รร นี้ ในราคาประมาณ 29000 / 3 คืน ไม่รวมอาหารเช้า จากนั้นจึงลองเข้าไปดูในเวป รร โดยตรง
http://www.stayfareast.com/en/hotels/village-hotel-katong.aspx
ปรากฎว่ามีราคาโปรโมชั่นลด 30% ห้อง Family room พัก 4 คน อยู่ที่ 905 SGD (ประมาณ 23000) ต่อ 3 คืน จึงตัดสินใจจองทันที เพราะ
1. มีรถ shuttle bus รับส่งจากสนามบิน-รร ฟรี เพราะอยู่ใกล้สนามบิน ( 15 นาที) ซึ่งน่าจะสะดวกสำหรับครอบครัวที่มีเด็กและคนแก่อย่างเรา
2. ราคา รวมอาหารเช้า และแถมบัตร Funvee citytour อีก 4 ใบ + บัตร Duck tour อีก 4 ใบ ( [ บัตร Funvee citytour ใบละ 21.9 SGD บัตร DUCK tour ใบละ 31.9) ซึ่งเทียบกับ V-lavender ที่เราดูไว้ตอนแรก รร V ได้ราคาประมาณ 3600 /ห้อง 2 คน / คืน ไม่รวมอาหารเช้าและรถรับส่ง ก็ตัดสินใจง่ายขึ้น
3. หน้า รร มีป้ายรถเมล์ ซึ่งสามารถขึ้นได้ทั้งสองฝั่งถนน คือฝั่ง Eastcost road ( เราขึ้นฝั่งนี้ตลอด) และฝั่ง Parkway parade ( ป้ายรถเมล์จะอยู่หน้า รร Mercure roxy )
4. ลองเสิร์ชดูร้านค้า ร้านอาหารแถว รร พบว่าเป็นแหล่งร้านอาหารดังๆหลายร้าน เช่น Boon tong kee ซึ่งอยู่ติดกับร้าน Five star จาก รร เราเดินไปร้าน Boon tong kee ประมาณ 10 นาที (600 เมตร) หรือจะนั่งรถเมล์จากป้ายหน้า รร ไปก็ได้ค่ะ เพราะป้ายรถเมล์อยู่หน้าร้านเลย และห้างหลายห้างค่ะ ห้างใกล้ๆที่เราไปคือ 112 katong มีร้าน Charels and keith ด้วยค่ะ
5. อ่านจากรีวิวใน tripadvisor รร นี้ได้คะแนนเกิน 90% ส่วนใหญ่ชมเรื่องความสะอาดและความเป็นมิตรของพนักงาน ซึ่งเราเห็นด้วยค่ะ รร ใหม่สะอาดเพราะเพิ่ง renovate ใหม่ (เดิมคือ รร paramount hotel)
เดินเข้า katong village ขึ้นไปชั้นสอง ก็เป้น lobby รร แล้วค่ะ
รูปห้องนอนนี้จากเวป รร นะคะ แต่ห้องจริงก็แบบนี้
สรุปหลังจากเข้าพักนะคะ
- อาหารเช้า มีพอประมาณค่ะ รสชาตพอกินได้
- รร ใหม่ สะอาด เงียบสงบดีค่ะ
- รร เชื่อมกับ katong village ซึ่งมี supermarket ปิด 5 ทุ่ม และร้านอาหาร
- ในห้องพัก มีเตารีด ชากาแฟ น้ำดื่มฟรีวันละ 4 ขวด ipod dock ห้องน้ำไม่มีอ่าง เป็นแบบฝักบัวด้านข้างและด้านบนเพดาน น้ำไหลแรงดีมากค่ะ ชักโครกไม่มีสายชำระ
- บัตร funvee citytour ที่แถม วันที่จองห้องพัก ต้องระบุวันด้วยว่าจะใช้วันไหน มีบริการรถ shuttle มารับจาก รร ไปยัง singapore flyer hub ซึ่งเป็นจุด start ของรถ และ Duck tour โดยรถที่มารับที่ รร มีสองรอบ คือ 8.15 และ 10.15 เราจองไปวัอาทิตย์ รอบ 10.15 เพราะไม่อยากรีบมากนัก ปรากฎว่ารถมารับจริงเกือบ 10.30 น และต้องวนไปรับคนที่ รร ต่างๆในเครือ อีก 2-3 รร กว่าเราจะไปถึง singapore flyer ก็ 11.30 น ซึ่งวันอาทิตย์คนเยอะมาก เราไม่ได้จองคิว duck tour ไว้ล่วงหน้า จึงได้คิวเวลา 13.00 น จนท แนะนำให้เรานั่งรถ funvee city tour 1 รอบก่อน ซึ่งใช้เวลา 1 ชม พอดี ก็กลับมานั่ง duck tour ต่อ จากนั้นค่อยกลับมานั่ง Funvee city tour ไปลง china town สรุปคือใช้บัตร Funvee ได้ไม่คุ้มเลย เพราะรถวิ่งถึงแค่ประมาณ 5 โมงเย็นเท่านั้น ปล. เด็ก 3 ขวบไม่ต้องเสียค่ารถ funvee เสียแต่ค่า duck tour ค่ะ
http://www.stayfareast.com/en/deals/free-city-tour.aspx?utm_source=citytour+sfe+gifbanner&utm_medium=citytour+sfe+gifbanner&utm_campaign=freecitytour
ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ถ้ามีข้อมูลหรือรูปเพิ่มเติมจะนำมาให้ดูเพิ่มนะคะ