ชาติมาถึงทาง2แพร่งที่ต้องเลือก จะปฏิรูปหรือเอาระบอบชั่วร้าย ผ่าประเด็นร้อน แนวหน้าออนไลน์
สถานการณ์ของประเทศขณะนี้ได้เดินมาถึงทางสองแพร่งที่ต้องเลือกเสียแล้วเมื่อมวลมหาประชาชนภายใต้การนำของ
กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่
สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)แสดงความผิดหวังต่อท่าทีของนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่
ประธานวุมิสภา ที่ออกอาการเหมือนยึกยักดึงเกมการตั้งนายกฯคนกลางเพื่อวางแนวทางปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่
ท่าทีที่ทะ

ๆของวุฒิสภาทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ นายสุรชัย รับปากเป็นมั่นเหมาะหลังพบหารือรับข้อเรียกร้องจาก กำนันสุเทพ
และตัวแทนแกนนำกปปส.เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะดำเนินการผลักดันให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องของมวลมหาประชาชนโดยเร็ว
แต่แล้วคำแถลงท่าทีของวุฒิสภา
ครั้งล่าสุดกลับคลุมเคลือไม่ชัดเจนว่าจะใช้เวลาหาข้อยุติได้เมื่อไหร่และอย่างไร ประกอบกับ กำนันสุเทพ ได้ข่าววงในมาว่า
นักโทษชายแม้ว ซึ่งขณะนี้บินมาบัญชาการอยู่ที่สิงคโปร์ทุ่มเงิน 7,000 ล้านบาทซื้อตัวสมาชิกวุฒิสภา(สว.) 35 คนๆละ
200 ล้านบาทเพื่อให้ล้มการตั้งนายกฯคนกลางให้ได้ ขณะที่มีข่าวยืนยันว่าสว.กลุ่มหนึ่งบินไปพบ นักโทษชายแม้ว ที่สิงคโปร์จริง
ด้วยเหตุนี้ กำนันสุเทพ จึงประกาศการทำศึกวัดใจขั้นแตกหักโดยมวลมหาประชาชนกปปส.จะเคลื่อนไหวคู่ขนาน
รอดูบทสรุปของวุฒิสภา ขณะเดียวกันเตรียมยึดทำเนียบรัฐบาลเพื่อสั่งให้หัวหน้าส่วนราชการทั่วประเทศมารายงานตัว และระดม
มวลมหาประชาชนทั่วประเทศครั้งสุดท้ายให้ได้หลายล้านคนระหว่างวันที่ 24-26 พ.ค.นี้เพื่อตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลที่เป็นกลาง
และสภาประชาชนทุกสาขาอาชีพมาวางแนวทางปฏิรูปประเทศด้วยมือมวลมหาประชาชนเอง ซึ่งหากถึงวันที่ 26 พ.ค.แล้วยัง
ดำเนินการตามเป้าหมายไม่สำเร็จ กำนันสุเทพ ก็ประกาศวัดใจโดยตัวเองจะเข้าม็อบตัวรับข้อหากบฏ.ในวันที่ 27 พ.ค. และ
สลายการชุมนุมของมวลมหาประชาชน กปปส.ในทันทีหลังต่อสู้ยืดเยื้อเพื่อโค่นระบอบทักษิณและผลักดันให้มีนายกฯคนกลาง
มาปฏิรูปประเทศมานาน7 เดือน
สถานการณ์ของประเทศขณะนี้วิกฤติเปราะบางเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง 2 หน่วยงานสำคัญที่จะเป็นตัวชี้ทางออกให้กับ
ประเทศได้อย่างยั่งยืนก็คือ วุฒิสภาและกองทัพ แต่ผู้นำวุฒิสภาและกองทัพดูเหมือนจะแก้ปัญหาแบบกล้าๆกลัวๆ และยึดยัก
อย่างไรชอบกล
บ้านเมืองขณะนี้ได้มาถึงทาง 2 แพร่งอันเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่จะชี้ชะตากรรมอนาคตของประเทศ ซึ่งที่
ผ่านมาผิดถูกชั่วดีแยกแยะกระจ่างระหว่างฝ่ายมวลมหาประชาชนที่กล้าต่อสู้กล้าเสียสละเพื่อกำจัดระบอบอันชั่วร้ายที่เป็นภัยต่อ
สถาบันหลักของชาติและลุแก่อำนาจคิดยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตลอดจนโกงชาติปล้นแผ่นดินอย่างย่ามใจ กับ
ฝ่ายระบอบทักษิณซึ่งเป็นตัวแทนของธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ที่ทำร้ายประเทศมานานกว่า 10 ปีภายใต้เสื้อคลุมเผด็จการทรราช
เสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตย ดังนั้นจึงเป็นทาง 2 แพร่งที่สังคมรวมทั้งผู้นำหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญคือวุฒิสภาและ
กองทัพต้องตัดสินใจเลือกผิดถูกชั่วดีเพราะการแทงกั๊กเกียร์ว่างแล้วอ้างความเป็นกลางแท้ที่จริงแล้วไม่ต่างอะไรจากการสนับสนุน
รู้เห็นปล่อยให้ฝ่ายที่ชั่วร้ายลอยนวล
http://www.naewna.com/creative/104023
รักษาการรัฐมนตรี = อุจจาระคารูทวาร .....สารส้ม แนวหน้าออนไลน์
หลังจากรองประธานวุฒิสภา (ว่าที่ประธานวุฒิสภา) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย แถลงถึงแนวทางการหาทางออก
ให้กับประเทศชาติ ก็ทำให้มองเห็นว่าบ้านเมืองมีทางออกแน่ๆ
ยืนยันว่า วุฒิสภาสามารถดำเนินการให้มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มตามกฎหมาย
เป็นไปบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ สามารถเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และปฏิรูปบ้านเมืองต่อไป
แนวทางที่เห็น เช่น
1) รักษาการรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ลาออกหมด เพื่อร่วมกันหาทางออกของบ้านเมืองอย่างราบรื่น
วุฒิสภาก็ดำเนินการคัดสรรนายกฯ คนใหม่ได้ทันที ไม่มีข้อถกเถียงค้างคา ไม่ต้องเสียเวลา
เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็ทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ผู้ชุมนุมก็แยกย้ายกลับบ้าน
หลังจากนั้น รัฐบาลเฉพาะกาลก็บริหารราชการแผ่นดิน แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ใช้หนี้ชาวนา ปฏิรูปบ้านเมือง เตรียมจัดให้มี
การเลือกตั้งภายในเวลาที่กำหนดไว้ชัดเจน
หนทางนี้ สวยงามที่สุด
แต่คงยากจะเกิดขึ้น ตราบเท่าที่รัฐมนตรีขี้ข้าทักษิณยังทำตัวเป็นขี้ข้าทักษิณอยู่
ยังหลับหูหลับตาอ้างว่า ลาออกไม่ได้ เพราะต้องอยู่รักษาการตามรัฐธรรมนูญ 181
<
<
<
ขณะที่มวลมหาประชาชน กปปส. ยังยืนยันเดินหน้า “ทวงคืนอำนาจอธิปไตย” ทำด้วยมือของตนเอง
หากสถานการณ์ยกระดับขึ้นไปถึงขั้นที่ส่อว่าจะเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ปฏิกิริยาจากฝ่ายระบอบทักษิณก็
จะเป็นตัวเร่งสถานการณ์ อาจเป็นเหตุให้กองทัพและวุฒิสภาต้องเร่งทำหน้าที่ยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันความสูญเสียและความ
เสียหายร้ายแรงกว่านี้
กองทัพออกมาควบคุมสถานการณ์เต็มรูปแบบ มิให้มีการใช้อาวุธสงคราม ก่อเหตุร้ายในบ้านเมือง
รองประธานวุฒิสภาเร่งทูลเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อให้มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเข้ามาแก้ไขปัญหา
บ้านเมืองโดยเร็วที่สุด
หากอยู่ในตำแหน่งแล้วไม่กล้าทำอะไร ก็ต้องอับอายตัวเองและลูกหลาน ในฐานที่ปล่อยให้เกิดความเสียหาย
ร้ายแรงต่อประเทศชาติและแผ่นดิน!
สารส้ม
http://www.naewna.com/politic/columnist/12545
หากยังไม่สะใจ ...ติดตามได้อีกค่ะ
http://www.naewna.com/index.php
แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา สื่อที่เป็นกลาง ที่สุดวันนี้ เร่งเร้า ให้กองทัพจัดการปัญหาบ้านเมือง เชิญติดตาม
สถานการณ์ของประเทศขณะนี้ได้เดินมาถึงทางสองแพร่งที่ต้องเลือกเสียแล้วเมื่อมวลมหาประชาชนภายใต้การนำของ
กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่
สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)แสดงความผิดหวังต่อท่าทีของนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่
ประธานวุมิสภา ที่ออกอาการเหมือนยึกยักดึงเกมการตั้งนายกฯคนกลางเพื่อวางแนวทางปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่
ท่าทีที่ทะ
และตัวแทนแกนนำกปปส.เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะดำเนินการผลักดันให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องของมวลมหาประชาชนโดยเร็ว
แต่แล้วคำแถลงท่าทีของวุฒิสภา
ครั้งล่าสุดกลับคลุมเคลือไม่ชัดเจนว่าจะใช้เวลาหาข้อยุติได้เมื่อไหร่และอย่างไร ประกอบกับ กำนันสุเทพ ได้ข่าววงในมาว่า
นักโทษชายแม้ว ซึ่งขณะนี้บินมาบัญชาการอยู่ที่สิงคโปร์ทุ่มเงิน 7,000 ล้านบาทซื้อตัวสมาชิกวุฒิสภา(สว.) 35 คนๆละ
200 ล้านบาทเพื่อให้ล้มการตั้งนายกฯคนกลางให้ได้ ขณะที่มีข่าวยืนยันว่าสว.กลุ่มหนึ่งบินไปพบ นักโทษชายแม้ว ที่สิงคโปร์จริง
ด้วยเหตุนี้ กำนันสุเทพ จึงประกาศการทำศึกวัดใจขั้นแตกหักโดยมวลมหาประชาชนกปปส.จะเคลื่อนไหวคู่ขนาน
รอดูบทสรุปของวุฒิสภา ขณะเดียวกันเตรียมยึดทำเนียบรัฐบาลเพื่อสั่งให้หัวหน้าส่วนราชการทั่วประเทศมารายงานตัว และระดม
มวลมหาประชาชนทั่วประเทศครั้งสุดท้ายให้ได้หลายล้านคนระหว่างวันที่ 24-26 พ.ค.นี้เพื่อตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลที่เป็นกลาง
และสภาประชาชนทุกสาขาอาชีพมาวางแนวทางปฏิรูปประเทศด้วยมือมวลมหาประชาชนเอง ซึ่งหากถึงวันที่ 26 พ.ค.แล้วยัง
ดำเนินการตามเป้าหมายไม่สำเร็จ กำนันสุเทพ ก็ประกาศวัดใจโดยตัวเองจะเข้าม็อบตัวรับข้อหากบฏ.ในวันที่ 27 พ.ค. และ
สลายการชุมนุมของมวลมหาประชาชน กปปส.ในทันทีหลังต่อสู้ยืดเยื้อเพื่อโค่นระบอบทักษิณและผลักดันให้มีนายกฯคนกลาง
มาปฏิรูปประเทศมานาน7 เดือน
สถานการณ์ของประเทศขณะนี้วิกฤติเปราะบางเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง 2 หน่วยงานสำคัญที่จะเป็นตัวชี้ทางออกให้กับ
ประเทศได้อย่างยั่งยืนก็คือ วุฒิสภาและกองทัพ แต่ผู้นำวุฒิสภาและกองทัพดูเหมือนจะแก้ปัญหาแบบกล้าๆกลัวๆ และยึดยัก
อย่างไรชอบกล
บ้านเมืองขณะนี้ได้มาถึงทาง 2 แพร่งอันเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่จะชี้ชะตากรรมอนาคตของประเทศ ซึ่งที่
ผ่านมาผิดถูกชั่วดีแยกแยะกระจ่างระหว่างฝ่ายมวลมหาประชาชนที่กล้าต่อสู้กล้าเสียสละเพื่อกำจัดระบอบอันชั่วร้ายที่เป็นภัยต่อ
สถาบันหลักของชาติและลุแก่อำนาจคิดยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตลอดจนโกงชาติปล้นแผ่นดินอย่างย่ามใจ กับ
ฝ่ายระบอบทักษิณซึ่งเป็นตัวแทนของธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ที่ทำร้ายประเทศมานานกว่า 10 ปีภายใต้เสื้อคลุมเผด็จการทรราช
เสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตย ดังนั้นจึงเป็นทาง 2 แพร่งที่สังคมรวมทั้งผู้นำหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญคือวุฒิสภาและ
กองทัพต้องตัดสินใจเลือกผิดถูกชั่วดีเพราะการแทงกั๊กเกียร์ว่างแล้วอ้างความเป็นกลางแท้ที่จริงแล้วไม่ต่างอะไรจากการสนับสนุน
รู้เห็นปล่อยให้ฝ่ายที่ชั่วร้ายลอยนวล
http://www.naewna.com/creative/104023
รักษาการรัฐมนตรี = อุจจาระคารูทวาร .....สารส้ม แนวหน้าออนไลน์
หลังจากรองประธานวุฒิสภา (ว่าที่ประธานวุฒิสภา) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย แถลงถึงแนวทางการหาทางออก
ให้กับประเทศชาติ ก็ทำให้มองเห็นว่าบ้านเมืองมีทางออกแน่ๆ
ยืนยันว่า วุฒิสภาสามารถดำเนินการให้มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มตามกฎหมาย
เป็นไปบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ สามารถเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และปฏิรูปบ้านเมืองต่อไป
แนวทางที่เห็น เช่น
1) รักษาการรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ลาออกหมด เพื่อร่วมกันหาทางออกของบ้านเมืองอย่างราบรื่น
วุฒิสภาก็ดำเนินการคัดสรรนายกฯ คนใหม่ได้ทันที ไม่มีข้อถกเถียงค้างคา ไม่ต้องเสียเวลา
เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็ทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ผู้ชุมนุมก็แยกย้ายกลับบ้าน
หลังจากนั้น รัฐบาลเฉพาะกาลก็บริหารราชการแผ่นดิน แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ใช้หนี้ชาวนา ปฏิรูปบ้านเมือง เตรียมจัดให้มี
การเลือกตั้งภายในเวลาที่กำหนดไว้ชัดเจน
หนทางนี้ สวยงามที่สุด
แต่คงยากจะเกิดขึ้น ตราบเท่าที่รัฐมนตรีขี้ข้าทักษิณยังทำตัวเป็นขี้ข้าทักษิณอยู่
ยังหลับหูหลับตาอ้างว่า ลาออกไม่ได้ เพราะต้องอยู่รักษาการตามรัฐธรรมนูญ 181
<
<
<
ขณะที่มวลมหาประชาชน กปปส. ยังยืนยันเดินหน้า “ทวงคืนอำนาจอธิปไตย” ทำด้วยมือของตนเอง
หากสถานการณ์ยกระดับขึ้นไปถึงขั้นที่ส่อว่าจะเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ปฏิกิริยาจากฝ่ายระบอบทักษิณก็
จะเป็นตัวเร่งสถานการณ์ อาจเป็นเหตุให้กองทัพและวุฒิสภาต้องเร่งทำหน้าที่ยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันความสูญเสียและความ
เสียหายร้ายแรงกว่านี้
กองทัพออกมาควบคุมสถานการณ์เต็มรูปแบบ มิให้มีการใช้อาวุธสงคราม ก่อเหตุร้ายในบ้านเมือง
รองประธานวุฒิสภาเร่งทูลเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อให้มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเข้ามาแก้ไขปัญหา
บ้านเมืองโดยเร็วที่สุด
หากอยู่ในตำแหน่งแล้วไม่กล้าทำอะไร ก็ต้องอับอายตัวเองและลูกหลาน ในฐานที่ปล่อยให้เกิดความเสียหาย
ร้ายแรงต่อประเทศชาติและแผ่นดิน!
สารส้ม
http://www.naewna.com/politic/columnist/12545
หากยังไม่สะใจ ...ติดตามได้อีกค่ะ
http://www.naewna.com/index.php