สำหรับคนที่จะร่วมลงทุนระยะยาวไปกับ ICHI ก็ลองวิเคราะห์ พิจารณาดูครับ จะเข้าเก็บสะสมที่ราคาไหน
ICHI มั่นใจ ซื้อไบเล่ ถึงจุดค้มทุนใน 2 ปี เฉพาะปีนี้คาดยอดขาย 200 ลบ. พร้อมตั้งเป้าแตะ 1 พันลบ.ในปี 58
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -19 พ.ค. 57 9:34: น.
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยว่า ยอดขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มภายใต้ตราสินค้า ไบเล่ ในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 200 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ได้เตรียมลงทุนสำหรับทำการตลาดไว้ราว 10-20 ล้านบาท ซึ่งจะทำการตลาดผ่านทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น ทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ฯลฯ พร้อมทั้งมีแผนจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 2-3 รสชาติ ในช่วงไตรมาส 4 จากเดิมมีน้ำส้ม น้ำองุ่น และน้ำมะนาวแล้ว พร้อมทั้งจะทำการปรับภาพลักษณ์ของผลิตใหม่ (Rebranding) และปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยจะวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า Modern trade และร้านค้าขายปลีกทั่วไป ส่วนงบการตลาดสำหรับเครื่องดื่มชาเขียวไว้ที่ 800-900 ล้านบาท หรือราว 12-14% ของยอดขาย " เป้าหมายแรกที่จะทำกับไบเล่คือการสร้างแบรนด์ก่อน โดยจะทำการตลาดอย่างจริงจังมากขึ้น ปีนี้เป็นช่วงเริ่มต้นก็คาดว่าจะสร้างยอดขายได้ราวๆ 200 ล้านบาท ก็คือว่าน่าพอใจ โดยหลังจากการ Rebranding และทำ Marketing แล้ว เราตั้งเป้าว่าปีหน้าจะต้องมียอดขายแตะ 1 พันล้านบาทให้ได้ และภายใน 3-5 ปีจะตั้งมียอดขายในประเทศจากผลิตภัณฑ์นี้ 2,500 ล้านบาท ส่วนการลงทุนครั้งนี้จะคุ้มทุนเมื่อไหร่นั้น ที่ปรึกษาทางการเงินคาดการณ์เอาไว้ที่ 7 ปี แต่สำหรับผม 2 ปีก็น่าจะเพียงพอ เพราะผมมั่นใจในการสร้างแบรนด์ให้ติดตลาดได้" นายตัน กล่าว สำหรับการผลิต ไบเล่ บริษัทฯ จะใช้โรงงานที่มีอยู่เดิม โดยโรงงานเฟส 2 มีพื้นที่การผลิต 2 หมื่นตารางเมตร และ ภายในสิ้นปีนี้จะมีการเพิ่มเครื่องจักรเข้ามาอีก 1 ตัว ซึ่งจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตเป็น 1,000 ล้านขวด/ปี และหากในอนาคตมีความจำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตมองว่าโรงงานเฟส 2 จะสามารถรองรับเครื่องจักรได้อีก 2 ตัว ซึ่งจะส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 800-1,400 ล้านขวดต่อปี โดยเบื้องต้นบริษัทฯ จะเริ่มทำการตลาดและจำหน่ายที่ประเทศไทยก่อนในปีนี้ และหลังจากนั้นในปี 58 จะเริ่มเข้าไปยังแถบประเทศอาเซียนที่มีประชากรจำมาก เช่น จีน อินเดีย และอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดอย่างเข้มข้น โดยจะนำสินค้าทุกชนิดที่บริษัทฯ มีไปวางจำหน่าย ทั้ง ไบเล่,อิชิตัน และเย็น เย็น นอกจากนี้ บริษัทฯ จะยังคงรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิไว้ให้อยู่ที่ระดับ 14-15% ในปีนี้ โดยหลังจากที่โรงงานใหม่เดินเครื่องได้เต็มที่ในปีนี้ก็จทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง เพื่อให้สอดคล้องและสมดุลกับต้นทุนด้านอื่นๆ เพื่อรักษาระดับอัตรากำไรให้ได้ตามเป้าหมาย
รายงาน โดย วรินดา พรมขัดดุก
เรียบเรียง โดย ชัชชญา อังคุลี อีเมล์. chatchaya@efinancethai.com
อนุมัติ โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน
ICHI กับการเข้าเก็บลงทุนระยะยาว หลังพ้นช่วงเก็งกำไร ipo
ICHI มั่นใจ ซื้อไบเล่ ถึงจุดค้มทุนใน 2 ปี เฉพาะปีนี้คาดยอดขาย 200 ลบ. พร้อมตั้งเป้าแตะ 1 พันลบ.ในปี 58
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -19 พ.ค. 57 9:34: น.
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยว่า ยอดขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มภายใต้ตราสินค้า ไบเล่ ในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 200 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ได้เตรียมลงทุนสำหรับทำการตลาดไว้ราว 10-20 ล้านบาท ซึ่งจะทำการตลาดผ่านทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น ทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ฯลฯ พร้อมทั้งมีแผนจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 2-3 รสชาติ ในช่วงไตรมาส 4 จากเดิมมีน้ำส้ม น้ำองุ่น และน้ำมะนาวแล้ว พร้อมทั้งจะทำการปรับภาพลักษณ์ของผลิตใหม่ (Rebranding) และปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยจะวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า Modern trade และร้านค้าขายปลีกทั่วไป ส่วนงบการตลาดสำหรับเครื่องดื่มชาเขียวไว้ที่ 800-900 ล้านบาท หรือราว 12-14% ของยอดขาย " เป้าหมายแรกที่จะทำกับไบเล่คือการสร้างแบรนด์ก่อน โดยจะทำการตลาดอย่างจริงจังมากขึ้น ปีนี้เป็นช่วงเริ่มต้นก็คาดว่าจะสร้างยอดขายได้ราวๆ 200 ล้านบาท ก็คือว่าน่าพอใจ โดยหลังจากการ Rebranding และทำ Marketing แล้ว เราตั้งเป้าว่าปีหน้าจะต้องมียอดขายแตะ 1 พันล้านบาทให้ได้ และภายใน 3-5 ปีจะตั้งมียอดขายในประเทศจากผลิตภัณฑ์นี้ 2,500 ล้านบาท ส่วนการลงทุนครั้งนี้จะคุ้มทุนเมื่อไหร่นั้น ที่ปรึกษาทางการเงินคาดการณ์เอาไว้ที่ 7 ปี แต่สำหรับผม 2 ปีก็น่าจะเพียงพอ เพราะผมมั่นใจในการสร้างแบรนด์ให้ติดตลาดได้" นายตัน กล่าว สำหรับการผลิต ไบเล่ บริษัทฯ จะใช้โรงงานที่มีอยู่เดิม โดยโรงงานเฟส 2 มีพื้นที่การผลิต 2 หมื่นตารางเมตร และ ภายในสิ้นปีนี้จะมีการเพิ่มเครื่องจักรเข้ามาอีก 1 ตัว ซึ่งจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตเป็น 1,000 ล้านขวด/ปี และหากในอนาคตมีความจำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตมองว่าโรงงานเฟส 2 จะสามารถรองรับเครื่องจักรได้อีก 2 ตัว ซึ่งจะส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 800-1,400 ล้านขวดต่อปี โดยเบื้องต้นบริษัทฯ จะเริ่มทำการตลาดและจำหน่ายที่ประเทศไทยก่อนในปีนี้ และหลังจากนั้นในปี 58 จะเริ่มเข้าไปยังแถบประเทศอาเซียนที่มีประชากรจำมาก เช่น จีน อินเดีย และอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดอย่างเข้มข้น โดยจะนำสินค้าทุกชนิดที่บริษัทฯ มีไปวางจำหน่าย ทั้ง ไบเล่,อิชิตัน และเย็น เย็น นอกจากนี้ บริษัทฯ จะยังคงรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิไว้ให้อยู่ที่ระดับ 14-15% ในปีนี้ โดยหลังจากที่โรงงานใหม่เดินเครื่องได้เต็มที่ในปีนี้ก็จทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง เพื่อให้สอดคล้องและสมดุลกับต้นทุนด้านอื่นๆ เพื่อรักษาระดับอัตรากำไรให้ได้ตามเป้าหมาย
รายงาน โดย วรินดา พรมขัดดุก
เรียบเรียง โดย ชัชชญา อังคุลี อีเมล์. chatchaya@efinancethai.com
อนุมัติ โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน