คงไม่มีใครปฏิเสธว่า นายสุเทพ ชายตัวดำหน้าดำแขนคดคนนี้ เป็นสุดยอดกบฏ ที่ประเทศไทย
และทั่วโลก จะต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์
หลายคนคงตั้งคำถาม และนานาชาติ ก็คงสงสัย ว่าอะไร ทำไม นายสุเทพ ถึงสามารถยืนหยัดต่อสู้และ
ท้าทายกฏหมาย ท้าทายอำนาจรัฐ สร้างความระส่ำระสาย วุ่นวาย และสร้างความเสียหายให้แก่ชาติบ้านเมือง
จนมิอาจประเมินได้นานมากกว่า 6 เดือน
เพื่อนต่างชาติของผม ต่างทึ่งปนสงสัยว่าเหตุใด รัฐบาล ถึงได้ปล่อยให้นายสุเทพ สามารถกระทำการได้ถึงเพียงนี้
หากเหตุการณ์เช่นว่านี้ เกิดขึ้นที่บ้านเมืองของเขา นายสุเทพ ดับดิ้นสิ้นชีวี ไปนานแล้ว
ผมตอบว่าอย่าสงสัยแปลกใจเลยครับ Thailand Only สิ่งแปลกระดับ Ripley จะต้องบันทึกอย่างที่นายสุเทพทำ
เกิดได้ที่นี่ที่เดียว
ตอนนี้หลายคนคงเชื่อแล้วว่า การกระทำของนายสุเทพในครั้งนี้ มิได้กระทำการเพียงลำพัง หากแต่มีกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจ
และบารมีอยู่เบื้องหลังการกระทำที่สะเทือนเลือนลั่นนี้ อย่างมิต้องสงสัย
ขบวนการสมคบคิดได้ถูกออกแบบ ได้ถูกจัดวางแผนและกระทำมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อที่จะขจัดรัฐบาลที่มาจาก
เสียงของประชาชนส่วนใหญ่
ขบวนการนี้ได้วางแผนจะกำจัดทักษิณและคนในตระกูลชินวัตร ซึ่งมีอิทธิพลในทางการเมืองและกุมใจผู้คนชนชั้นล่าง
ได้อย่างไม่มีตระกูลไหนเคยทำได้มาก่อน ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้กลุ่มทุนที่อยู่ภายใต้อำมาตยา มิอาจปล่อยให้ ทักษิณ
และตระกูลชินวัตร ได้ลงหลักปักฐานกลางใจประชาชน อันจะสั่นคลอนต่อฐานระบอบอำมาตยาที่มีมาอย่างช้านาน
แผนการณ์จึงถูกกำหนดและเริ่มตั้งแต่มีการตั้งขบวนการตีฆ้องร้องป่าว ใส่ร้ายป้ายสี โจมตี คนในตระกูลชินวัตร
มีการสร้างวาทะกรรมต่างๆขึ้นมาเพื่อป่าวร้องให้คนจดจำ เช่น ระบอบทักษิณ ล้มเจ้า โกงชาติ ขายชาติ เผาบ้านเผาเมือง ฯลฯ
เพื่อให้ผู้คนหลงเชื่อว่าในวาทะกรรมดังกล่าว ทั้งหมดก็เพียงเพื่อปูทางหาความชอบธรรม ให้ขบวนการตุลาการ
ที่ผู้คนเรียกขานว่า ขบวนการตุลาการภิวัฒน์ กำจัดคนในตระกูลชินวัตรและเครือข่ายให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย
คนกลุ่มนี้สามารถกระทำและสั่งให้กระทำทุกอย่างแม้จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ มีอำนาจที่สามารถกุมคณะตุลาการและ
มีอำนาจเหนือกองทัพ จึงไม่แปลกใจที่นายกทักษิณเรียกขานคนกลุ่มนี้ว่า "มือที่มองไม่เห็น"และเป็นผู้ที่มีอำนาจ
เหนือรัฐธรรมนูนูญ
ถึงตรงนี้คงไม่แปลกใจแล้วใช่ไหมครับ ว่าเหตุใดกองทัพถึงได้ปล่อยให้กบฏเล็กๆเพียงกลุ่มเดียว สามารถยึดปิดเมืองได้
โดยไม่กระทำการยับยั้งขัดขวางเหมือนเช่นที่เคยทำกับกลุ่ม นปช. ในอดีต
มาวันนี้รัฐถูกตัดแขนขาหมดสิ้น มิอาจบังคับใช้กฏหมาย เนื่องเพราะศาลได้ให้ความคุ้มครองกบฏ ศอรส.ที่รัฐตั้งขึ้นมา
ก็ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มที่ ไม่ต่างจากมีปืนแต่ไม่มีกระสุน สุเทพและกบฏจึงเหิมเกริมมิเกรงกลัวแม้แต่น้อย
การที่กบฏสุเทพ ได้ก่ออิฐสร้างกำแพงทำป้อมค่ายที่ราชดำเนิน นั่นเป็นการบ่งชี้ว่า สถานการณ์ได้เดินมาถึงบทสุดท้ายแล้ว
กองกำลังที่ติดอาวุธพร้อมสรรพของนายสุเทพ พร้อมแลัวที่จะเปิดศึกกับรัฐบาลและคนเห็นต่าง
อะไรที่จะเกิดขึ้นนับจากวันนี้ ทหารจะประกาศกฏอัยการศึกหรือไม่ สงครามกลางเมืองจะเกิดขึ้นไหม ใครจะเป็นผู้ชนะ
กบฏสุเทพหรือรัฐบาล เผด็จการจะกลับมาเรืองอำนาจอีกได้ไหม หรือประชาธิปไตยจะชูช่อเบ่งบาน ล้วนเป็นเรื่อง
ที่น่าติดตาม และเฝ้าดูด้วยใจลุ้นระทึก
Crystal Stone
------- อะไรจะเหิมเกริม ท้าทายอำนาจรัฐ และกฏหมายได้ขนาดนั้น---------
และทั่วโลก จะต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์
หลายคนคงตั้งคำถาม และนานาชาติ ก็คงสงสัย ว่าอะไร ทำไม นายสุเทพ ถึงสามารถยืนหยัดต่อสู้และ
ท้าทายกฏหมาย ท้าทายอำนาจรัฐ สร้างความระส่ำระสาย วุ่นวาย และสร้างความเสียหายให้แก่ชาติบ้านเมือง
จนมิอาจประเมินได้นานมากกว่า 6 เดือน
เพื่อนต่างชาติของผม ต่างทึ่งปนสงสัยว่าเหตุใด รัฐบาล ถึงได้ปล่อยให้นายสุเทพ สามารถกระทำการได้ถึงเพียงนี้
หากเหตุการณ์เช่นว่านี้ เกิดขึ้นที่บ้านเมืองของเขา นายสุเทพ ดับดิ้นสิ้นชีวี ไปนานแล้ว
ผมตอบว่าอย่าสงสัยแปลกใจเลยครับ Thailand Only สิ่งแปลกระดับ Ripley จะต้องบันทึกอย่างที่นายสุเทพทำ
เกิดได้ที่นี่ที่เดียว
ตอนนี้หลายคนคงเชื่อแล้วว่า การกระทำของนายสุเทพในครั้งนี้ มิได้กระทำการเพียงลำพัง หากแต่มีกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจ
และบารมีอยู่เบื้องหลังการกระทำที่สะเทือนเลือนลั่นนี้ อย่างมิต้องสงสัย
ขบวนการสมคบคิดได้ถูกออกแบบ ได้ถูกจัดวางแผนและกระทำมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อที่จะขจัดรัฐบาลที่มาจาก
เสียงของประชาชนส่วนใหญ่
ขบวนการนี้ได้วางแผนจะกำจัดทักษิณและคนในตระกูลชินวัตร ซึ่งมีอิทธิพลในทางการเมืองและกุมใจผู้คนชนชั้นล่าง
ได้อย่างไม่มีตระกูลไหนเคยทำได้มาก่อน ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้กลุ่มทุนที่อยู่ภายใต้อำมาตยา มิอาจปล่อยให้ ทักษิณ
และตระกูลชินวัตร ได้ลงหลักปักฐานกลางใจประชาชน อันจะสั่นคลอนต่อฐานระบอบอำมาตยาที่มีมาอย่างช้านาน
แผนการณ์จึงถูกกำหนดและเริ่มตั้งแต่มีการตั้งขบวนการตีฆ้องร้องป่าว ใส่ร้ายป้ายสี โจมตี คนในตระกูลชินวัตร
มีการสร้างวาทะกรรมต่างๆขึ้นมาเพื่อป่าวร้องให้คนจดจำ เช่น ระบอบทักษิณ ล้มเจ้า โกงชาติ ขายชาติ เผาบ้านเผาเมือง ฯลฯ
เพื่อให้ผู้คนหลงเชื่อว่าในวาทะกรรมดังกล่าว ทั้งหมดก็เพียงเพื่อปูทางหาความชอบธรรม ให้ขบวนการตุลาการ
ที่ผู้คนเรียกขานว่า ขบวนการตุลาการภิวัฒน์ กำจัดคนในตระกูลชินวัตรและเครือข่ายให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย
คนกลุ่มนี้สามารถกระทำและสั่งให้กระทำทุกอย่างแม้จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ มีอำนาจที่สามารถกุมคณะตุลาการและ
มีอำนาจเหนือกองทัพ จึงไม่แปลกใจที่นายกทักษิณเรียกขานคนกลุ่มนี้ว่า "มือที่มองไม่เห็น"และเป็นผู้ที่มีอำนาจ
เหนือรัฐธรรมนูนูญ
ถึงตรงนี้คงไม่แปลกใจแล้วใช่ไหมครับ ว่าเหตุใดกองทัพถึงได้ปล่อยให้กบฏเล็กๆเพียงกลุ่มเดียว สามารถยึดปิดเมืองได้
โดยไม่กระทำการยับยั้งขัดขวางเหมือนเช่นที่เคยทำกับกลุ่ม นปช. ในอดีต
มาวันนี้รัฐถูกตัดแขนขาหมดสิ้น มิอาจบังคับใช้กฏหมาย เนื่องเพราะศาลได้ให้ความคุ้มครองกบฏ ศอรส.ที่รัฐตั้งขึ้นมา
ก็ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มที่ ไม่ต่างจากมีปืนแต่ไม่มีกระสุน สุเทพและกบฏจึงเหิมเกริมมิเกรงกลัวแม้แต่น้อย
การที่กบฏสุเทพ ได้ก่ออิฐสร้างกำแพงทำป้อมค่ายที่ราชดำเนิน นั่นเป็นการบ่งชี้ว่า สถานการณ์ได้เดินมาถึงบทสุดท้ายแล้ว
กองกำลังที่ติดอาวุธพร้อมสรรพของนายสุเทพ พร้อมแลัวที่จะเปิดศึกกับรัฐบาลและคนเห็นต่าง
อะไรที่จะเกิดขึ้นนับจากวันนี้ ทหารจะประกาศกฏอัยการศึกหรือไม่ สงครามกลางเมืองจะเกิดขึ้นไหม ใครจะเป็นผู้ชนะ
กบฏสุเทพหรือรัฐบาล เผด็จการจะกลับมาเรืองอำนาจอีกได้ไหม หรือประชาธิปไตยจะชูช่อเบ่งบาน ล้วนเป็นเรื่อง
ที่น่าติดตาม และเฝ้าดูด้วยใจลุ้นระทึก
Crystal Stone