หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ขอแชร์ประสบการณ์ 4 ปี กับการทำห้องเสื้อชุดวิวาห์วินเทจ และขอเป็นกำลังใจให้สำหรับผู้ที่มีความฝันในการทำห้องเสื้อค่ะ
กระทู้สนทนา
แฟชั่น
เจ้าของธุรกิจ
ชุดแต่งงาน
https://www.facebook.com/pages/Geegeebridalboutique/174269682636828?ref=hl
ก่อนอื่น ตัวเจ้าของกระทู้เอง นั้งคิดนอนคิดมานานแล้วว่าจะเขียนดีไหมแต่วันนี้ตัดสินใจแล้วหละ ว่าจะเขียน เพื่อเป็นกำลังใจสำหรับคนตามล่า
หาความฝัน จขกท มือใหม่หากเขียนผิดหรือตกหล่นต้องขออภัยด้วยนะค่ะ ด้วยวัย 25 ปลายๆกำลังตามล่าหาความฝัน และชอบงานเสื้อผ้าวินเทจเป็นชีวิตจิตใจ ชอบลูกไม้ ชอบความปราณีตของงานสมัยก่อน เป็นเจ้าแม่สะสมตัวยง เวลาเดินทางไปต่างประเทศก็จะต้องวิ่งหา เสาะหาเสื้อผ้าเครื่องประดับ มันมีความสุขจุงเบย จนวันหนึ่งเจอชุดแต่งงานประกาศขายทางอีเบย์ต่างประเทศ ช่วงนั้นตัวเองเดินทางอยู่ต่างประเทศพอดี เลยได้มีโอกาศได้ไปรับชุดแต่งงานวินเทจซึ่งทำตอนปี 1930 ด้วยตัวเอง รักมาก และมุ่งมั่นสะสมมาโดยตลอด ( พี่สาวที่อยู่เมือกนอกก็สะสมเช่นกัน ) จนวันหนึ่งคุยกับพี่สาวให้ช่วยลงทุน เราจะขายเอง เราเชื่อว่าต้องมีคนชอบเหมือนเราแน่นอน ณ จุดๆนี้ ความฝันเริ่มประกาย จากคนไม่มีประสบการณ์ มันมาจากความรักในความเป็นวินเทจล้วนๆ ฝันก็เริ่มขึ้น ห้องเล็กๆที่แถวประตูน้ำ ห้อง 3คูน 6 เมตรเช่าเดือนละ 7000 บาท จ่ายค่าล่วงหน้า 2 เดือนประกัน 1 เดือน
ห้องที่แรกของการเริ่มความฝัน
ความฝันของวัยรุ่นตอนวัย 25ปลายก็ฟุ้งขึ้นทันที เอาชุดที่สะสมมาบวกกับของพี่สาวก็ได้ 500 กว่าชุด ด้วยความไม่มีประสบการณ์เวลาตอนที่ประมูลซื้อ หรือตอนซื้อขายไม่ได้ทำบัญชี เลยไม่รู้ราคาจริงในแต่ละตัว ร้านเปิด แต่ราคาคิดไม่ตก เงินเริ่มหมด เพราะว่าบ้าซื้อ มีเงินเท่าไรเทหน้าตักเกลี้ยง พอจะเปิดร้าน ไม่รู้จะเริ่มราคาเท่าไหร่ดี จึงเปิดไปค้นหาใน Google หาคำว่าชุดแต่งงานวินเทจ ปาดๆไม่มีใครขาย เห็นแต่ ขายชุดแต่งงานมือสอง ราคาถูกจนช็อค แทบสลบแต่ด้วยความถังแตก เงินหมด พี่สาวเริ่มไม่เล่นกับเราแล้ว เลยต้องฮึดสู้ฉายเดี่ยว ขายถูกก็ถูก เอาเงินมาหมุนก่อน ค่าห้องต้องจ่าย ค่าซักแห้งต้องจ่าย ยอมขาดทุน ดีกว่าไม่มีเงินเลย ประกาศตามเน็ตมีลูกค้ามาซื้อเยอะมาก เนื่องจากของเรามาจากยุโรป ไม่มีในตลาดไทย มีแต่คนมาซื้อ ดีใจขายได้เท่าไหร่ เทหน้าตักตามไล่ล่าซื้อแล้วให้พี่สาวแพ็คส่งมาให้ พอจะลืมตาอาปากได้ ไม่ทันไร ณ ปีนั้น การประท้วงใหญ่ นานกินไปหลายเดือน ลูกค้าหดหายไม่กล้าเข้ามาเพราะว่าห้างติดกับที่ประท้วง เริ่มเคลียด มีข่าวใหญ่เผาแยกราชประสงค์ ห้างดัง แอบเสียววาบบ ห้างเราจะโดนไหมว้า หลังจากเหตุการณ์ปรกติ ห้องที่เราเช่าอยู่ไม่โดนเผาแต่ก็โดนงัดห้อง กันระเนระนาดแบบทั่วหน้า ของมีค่ารวมทั้งชุดแต่งงานที่ซักแห้งแพ็คอย่างดีเตรียมส่งให้ลูกค้าก็หายแวบไปกับตา ตอนเปิดห้องมา ดวงใจดวงนี้แทบแตกสลาย นั่งร้องให้ คิดในใจทำไมต้องเป็นเรา นั่งกอดเข่าอยู่มุมมืดในห้องที่มีชุดแต่งงานไม่กี่ชุดวางระเนระนาด กลับบ้านพร้อมความฝันอันแตกสลายแอบเคว้งทันที นอนคิด แล้วเราจะทำอย่างไรต่อดี จะยุติความฝัน หรือจะเดินหน้าต่อ เพราะว่าไม่มีประสบการณ์ ทุกอย่างมันมาจากใจรักล้วนๆ จะไปถามใครปรึกษาใครก็ไม่ได้เนื่องจากกลุ่มเพื่อน 25 ต้นๆไม่มีใครมีประสบการณ์ หรือคนรู้จักไม่มีใครอยู่ในสายงานนี้เลย ตอนนั้นมันเป็นช่วงวัดใจจริงๆ แต่ในใจลึกๆไม่เคยยอมแพ้และยังเชื่อมั่นศรัทธาตัวเอง ว่าทำได้ "ขอสู้อีกรอบ" ให้มันรู้ไปเลย ตั้งใจเขียนลงในสมุดบันทีกของตัวเองหน้าแรก ณ ตอนนั้นบันทึกให้กำลังใจตัวเองว่า" ไม่เคยขอยอมแพ้หรือขอจำนนต่อโชคชะตา เพราะยังเชื่อมั่นและศัทธาในสองมือเราเอง "
หลังจากปรับโหมดความคิดได้เป็นบวก ก็เริ่มตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง ย้ายออกจากที่นั่น แล้วมาเริ่มต้นนับ1 กันใหม่ พี่สาวช่วยเงินลงขันอีกรอบแต่ตัวเองนะสิ เงินไม่มี ด้วยวัย 25 ปีปลายเงินเก็บก้อนสุดท้ายที่ฝากไว้ในอนาคตสำหรับเรียนต่อเมืองนอก ก็ตัดสินใจถอนออกมาเทหน้าตักอีกรอบ ณ ตึก JSP สุขุมวิท 81 ชั้น 2 วันแรกที่ตัดสินใจเช่า มีแต่พื้น กับห้องเปล่า เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ย้ายชุดมากจากประตูน้ำเซ็นเตอร์ มีแค่ 3 ราว ไม่ถึง 20 ชุด ที่เหลือไม่รู้ไปไหนเหมือนกัน
สีต้องทาเอง เนื่องจากเงินหมด ช่างโกงแล้วหนีแต่ก็ยิ้มสู้
ระยะเวลา 3 เดือนกว่าจะเสร็จ
ร่วมเกือบ 3 เดือนกว่าจะเสร็จเนื่องจาก โดนโกง ช่างหนี สารพัดจะโดนโกง ตอนนั้นแอบวัดใจอีก 1 รอบ เพราะว่า ระหว่าง 3 เดือน มีแต่ค่าใช้จ่าย จ่ายเงินช่าง ปุ๊บพออีกวัน ช่างหายพร้อมเงิน ตัวเราเองไม่กล้าบอกพี่สาวที่อยู่นอก เพราะว่าถ้าบอกรับรองพี่สาวคงรับไม่ไหว และยุติโครงการในฝันแน่นอน แต่เงินหมด ทุกธุรกิจต้องมีเงินสดด้วย เรามีแต่ไม่ได้วางแผนในการใช้เงิน เงินหมดก่อนร้านเสร็จ พี่สาวสั่งของเตรียมชิปส่งมาให้ ถามเราว่าพร้อมไหม ? เราได้แต่โกหก ว่าระดับนี้ ไม่พร้อมได้ไง ฝันเรามาแล้ววววว ตกกลางคืนนอนร้องให้ คิดแล้วจะหาเงินจากไหนวะ ในมือมีเงินไม่ถึง4 พัน แต่ค่าใช้จ่าย บานเป็นหางว่าว ครั้งแรกในชีวิต ยื้มเงินคนสนิด เล่าให้ฟัง นั่งเงียบ เราก็นึกในใจใครเขาจะมาให้ ดูๆไปยังไงธุรกิจก็ไม่รอด เพื่อนเราเดินหายไปในห้องพร้อมเช็ค ส่งเงินมาให้ก้อนใหญ่( นึกในใจยังไม่ทันบอกตัวเลข เพื่อนเขียนให้แบบเกินคาดหวัง ) แล้วเพื่อนบอกว่ากรูเชื่อใจไม่เอาสัญญาไม่เอาดอกแต่ขออย่างเดียวห้ามหยุดทำความฝันของนะ กรูรู้ว่าทำได้ เพราะถ้าเป็นตัวกรู กรูทำไม่ได้หรอก ไม่ใช่ประเภค "ผู้หญิงบึกบึน" วะ ยังขอบคุณเพื่อนจนถึงวันนี้จริงๆ เริ่มภาระกิจทำความฝันทันที ระหว่างนั้นพี่สาวก็หาซัพพลายใหญ่ที่จะส่งของให้เราได้ โชคดีมาแว้ว เราจัดเต็มทุกอย่างที่มีเพื่อให้ได้ฝัน เทหน้าตักเต็มๆ ไม่ยั้งคิดอีกแล้ว ของมา จัดชุดแต่งงานขึ้นไม้แขวน เรียงชุดด้วยทำรหัสงาน ทุกตัว ด้วยมือเราคนเดียว (เป็นหญิงบึกบึนมาก)
ึ
หลังจากเปิดมา มีลูกค้าค้าส่งมาเพียบขายดีจนปลื้มที่เราตัดสินใจถูกว้าย มาถูกทางแล้วตอนนั้นเน้นขายส่งอย่างเดียว ลงประกาศขายตามเนต ไร้ซึ่งประสบการณ์ตามเคยงานมือ1 มือ2เอาหมดอาศัยเอามางานฝั่งยุโรปลูกค้าชอบมากกว่างานจีน ยอมจ่าย พีออร์เดอร์งานใหม่ งานฝั่งยุโรป ขอให้มีเงินหามาได้หมด เวลาผ่านไป มาถึงจุดๆหนึ่ง ลืมไปว่างานวินเทจ ขายหมดแล้วก็หมดกันเลย แล้วเราจะหาจากไหนอีกหละ ถ้าพี่สาวไม่สามารถหาของให้เราได้ งานใหม่หาที่ไหนก็หาได้ แต่งานเก่าวินเทจหมดแล้วหมดเลย จึงตัดสินใจอีกครั้งเช่าตึกแถว 1 คูหา หาช่างมือดีมาลอกงานแพรทเทริน เก็บลักษณะงาน ถ่ายรูป เก็บลายลูกไม้ หลายๆอย่างงานตัวไหนมีคุณค่าเก็บไว้ แล้วทำรหัสงานไว้ เพื่อวันหนึ่งเราจะหาทีมงานมาทำงานประเภคนี้ได้ เริ่มตัดเย็บลอกเลียนแบบงานวินเทจเก็บไว้ สุดท้ายก็รุ่งมีคนมาสั่งตัดส่งออกนอก ทำกันแบบไม่ทัน รวมถึงเริ่มปล่อยให้เช่าชุดที่มีอยู่ลงหนังสือครั้งแรกแบบใจสั่งมาถ่ายเสร็จได้รูปก็เขียนลูกน้ำลงในภาพเลย ไม่มีประสบการณ์อีกหละอิมเมจสร้างภาพลักษณ์ไม่ได้เรียน ช่วงแรกๆเอาสีแดงไปเลย ส่วนชุดที่ลงยังเน้นกลิ่นอายความเป็นวินเทจ และชุคแนวลาสสิค ถือว่าเจ้าเดียวในไทย ลงหนังสือแต่แนวนี้ทั้งหมดแอบทวนกระแสของแฟชั่นชุดแต่งงานในเมืองไทยทันที เพื่อนฝูงคัดค้านบอกว่าให้ลงตามกระแสนิยม เช่นงานเกาะอก งานสมัยนี้ที่เขาใส่กันนะ ตอบเพื่อนคำเดียว"ไม่เอา" เราขอเป็นคนแรกนี่แหละจะตีทวนสวนกระแสแฟชั่นชุดแต่งงานในเมืองไทยให้ดู มีจุดยืนแบบเต็มตัว คิดในใจมันต้องมีใครชอบผลงานเราบ้างสิวะ วัดใจกับความเชื่อมั่นศรัทธาในความคิดของตัวเอง ที่จริงมีรูปเยอะ คะขออนุญาตให้ไปติดตามผลงานได้ที่เพจร้านคะ
ปล . ขอบคุณรูปจาก Photo One
ชีวิตย่อมมีขึ้นมีลง หลังจากขึ้นจนปลื้มกับความสำเร็จมาพอควร สุดท้ายขาลงก็มาเยือนเราอย่างเป็นทางการ " น้ำท่วมครั้งใหญ่ 54 "
ระหว่างที่เมามันกับการค้าส่ง เริ่มปล่อยเครดิตให้กับลูกค้าประจำ เจ้าหนึ่งปล่อยไปเจ้าแตะแสน ปล่อยกันแบบว่าใจสั่งมา ยิ่งรู้ว่าน้ำจะท่วม ยิ่งปล่อยของให้ง่ายกว่าเดิม เพราะคิดว่าของอยู่กับลูกค้า ยังไงเงินก็ต้องได้ หลายเจ้าต่อหลายเจ้าขอก่อนจ่ายทีหลัง จัดไป จัดเต็มอยู่แล้ว สัญญาใจ รับรู้ได้แค่ทางพิน BB ข้อความที่คุยกัน สุดท้ายลูกค้าโดนน้ำท่วม ขาดทุนกันระเน ระนาด แล้วเราก็ขาดทุนหลายล้าน เราแบบสะบักสะบอม ชุดไม่ได้คืน หายไปกับสายน้ำ เงินไม่ได้คืน เพราะไม่ได้ทำสัญญา มีแต่สัญญาใจ ระหว่างน้ำท่วมถึงเราจะไม่โดนท่วมแต่ก็โดนห้อมล้อมด้วยน้ำ เครียดมาก ทะเลาะกับพี่สาว พี่สาวใจฝ่อ เห็นแต่ขาดทุน และรายจ่าย บอกให้เราขายปิดกิจการซะ (ได้ยินเหมือนฟ้าผ่ามากลางใจ ยังจำความรู้สึกนั้นได้ หนี้เพื่อนเป็นล้าน เงินเก็บที่เตรียมเรียนต่อก็ถอนออกมาหมด หันซ้ายขวาแทบไม่เหลืออะไรในห้องที่จะขายแล้ว เหลือแต่ความฝันที่กำลังพังสลายหายไปพร้อมกับสายน้ำครั้งนั้น ) พอตื่นเช้ามา หลังจากนอนร้องให้และสมเพจตัวเองจนสาแก่ใจ เจ้าของกระทู้เริ่มปรับโหมดความคิดใหม่ ตั้งสติใหม่ เริ่มเขียน ค่าใช้จ่าย รายรับ พยามลดรายจ่ายให้ได้มากที่สุด ส่วนรายรับไม่ต้องพูดถึง ไม่มีแน่นอน เพราะว่าน้ำท่วมทุกคนทุกข์ ไม่มีเงิน ไม่ต่างอะไรกับเรา ระหว่างรอให้สถานะการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไป ตัวเราเองสิ่งสำคัญคือการให้กำลังใจตัวเอง และออกไปข้างนอกเจอเพื่อนฝูง จะได้ไม่บ้ามาก ใครที่มีความคิดเป็นลบ ณ ตอนนั้นอย่าเพิ่งเข้าไปไกล้ ไม่งั้นเราจะคิดลบหมดพลัง พยามหาเพื่อนคุยที่มีความคิดและคิดเป็นบวกเข้าไว้ เวลาผ่านไป ตั้งสติได้ดีขึ้น ในเมื่อเมืองไทยขายม่ได้ น้ำท่วม ก็ขายต่างประเทศสิ ไอเดียมหาบรรเจิดเกิดขึ้นมาทันที คำถามคือ จะขายใครหละ ? ระดมสมองเพื่อนๆคิดบวก สุดท้ายได้เจ้าแรกที่เวียดนาม ขายสิทธิ์ขาดแต่เพียงผู้เดียว และถัดไปตามประเทศเพื่อนบ้าน เอาไปเลย จัดเต็ม ดีใจกับการที่เรามีการตั้งสติได้ดี ไม่งั้นไม่รอดแน่นอน ยังขอบคุณ คำว่า "สติ " ได้จนถึงวันนี้ ( งวดนี้ไม่เอาเครดิตแล้ว เงินสดเท่านั้น ) ติดตามต่อด้านล่างนะค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เจ้าของ"เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์" แต่งงานกับ สาวสวย“ซี ฉัตรปวีณ์” แบบนี้หุ้นจะขึ้นไหม เขาน่าจะขยายอาณาจักรเพิ่ม
จาก..(( หุ้นปั่น )))... จะเริ่มมีความมั่นคงสูงไหมครับ ... เจ้าหญิงไอที “ซี ฉัตรปวีณ์” เปิดตัวว่าที่เจ้าบ่าว ประกาศเตรียมเข้าประตูวิวาห์แฟนหนุ่ม “ก้อง อดิศักดิ์” http://www.m
สมาชิกหมายเลข 1808275
"อ๋อม สกาวใจ" ควง "เอ อาทิตย์" ควงคู่เข้าพิธีวิวาห์ในบรรยากาศสุดหวาน
"อ๋อม สกาวใจ" ควง "เอ อาทิตย์" ควงคู่เข้าพิธีวิวาห์ในบรรยากาศสุดหวาน หลังจากที่คบหาดูใจกันมานานถึง 12 ปีเต็ม สำหรับคู่ของดาราสาว "อ๋อม สกาวใจ" และ "เอ อาทิตย์ ศรีพ
สมาชิกหมายเลข 1671433
ก่อนจะไปเฝ้าท่านองค์อินทร์ ให้กำลังใจนายกปูมีกำลังใจต่อสู้กับความอยุติธรรมนะเจ้าคะ ฝันดีเจ้าคะเพื่อนๆเสื้อแดงทุกคน
ตามหัวข้อกระทู้เลยเจ้าคะไม่อยากพูดมาก เห็นเหล่าหมู่มวลสลิ่มข้างล่างๆๆบอกยึดเลยๆๆ พวกเราเสื้อแดงก็อยากดูเหมือนกันเจ้าคะว่าจะยึดทรัพย์เขาได้ใหมเท่านั้นแหละ อยากจะดูเหมือนกันว่าชาวต่างบ้านต่างเมืองเขาจะ
สมาชิกหมายเลข 3224308
แรง!!!!!! ''อาร์โนลด์'' เชื่อ ''แพทริค'' ไม่คิดสั้นวิวาห์สยอง''ไมลี่ย์''
ข่าวลือเรื่องที่ "ไมลี่ย์ ไซรัส" นักร้องสาวสุดแสบ กับ "แพทริค ชวาร์เซเนกเกอร์" แฟนหนุ่มไฮโซ แต่งงานกับเงียบๆ พร้อมกับเล็งจัดวิวาห์เมากระหน่ำ แน่นอนเรื่องนี้ทำเอา "มาเรีย ชริเว
มีนานุช สวยที่สุดในพันทิป
ซุป'ตาร์เกาหลีนำเทรนด์วิวาห์ราคาประหยัด “เรน-คิมแตฮี” แต่งงานใช้เงินแค่หลักหมื่นบาท
เรน กับ คิมแตฮี กับพิธีแต่งงานราคาประหยัด และเป็นส่วนตัว คู่วิวาห์ชาวเกาหลีใต้รุ่นใหม่ เริ่มใช้เงินกับพิธีแต่งงานน้อยลง บางคู่เสียเงินเพียงหลักหมื่นบาทเท่านั้น โดยเป็นเทรนด์ที่สร้างกระแสขึ้นมาโดยคู่ร
สมาชิกหมายเลข 826032
“ปาย-สิตางศุ์” เก็บไข่พร้อมมีลูกแฝด เปลี่ยนศาสนาเพื่อชีวิตหลังแต่งงาน!!!
เซ็กซี่ร้อนแรงสวยไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับ “ปาย-สิตางศุ์ ปุณภพ” จากนักแสดงสาวเจ้าบทบาท สู่ยูทูปเบอร์แถวหน้าสายคอนเทนต์ผู้หญิงยุคใหม่และเพิ่งผ่านประตูวิวาห์ไปไม่นาน ล่าสุดชวนพิธีกร “แมทธิ
MONO29
ดาราเกาหลีนำเทรนด์วิวาห์ราคาประหยัด “เรน-คิมแตฮี” แต่งงานใช้เงินแค่หลักหมื่นบาท
คู่วิวาห์ชาวเกาหลีใต้รุ่นใหม่ เริ่มใช้เงินกับพิธีแต่งงานน้อยลง บางคู่เสียเงินเพียงหลักหมื่นบาทเท่านั้น โดยเป็นเทรนด์ที่สร้างกระแสขึ้นมาโดยคู่รักคนดังนั่นเอง จากข้อมูลทางสถิติโดยทั่วไปคู่รักชาวเกาหล
Pierre De Gonzalez
คิดจะออกจากงานประจำ มาทำธุรกิจส่วนตัว? หยุดก่อน! และจำไว้ว่า "ไม่มีวันเจ๊ง" ไม่มีอยู่จริง
สำหรับมนุษย์เงินเดือนหลายคน ความฝันสูงสุดอาจไม่ใช่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง แต่คือการได้เป็น "นายตัวเอง" การมีธุรกิจส่วนตัวที่สร้างขึ้นมากับมือ คือภาพของอิสรภาพทางการเงิน เวลา และการได้ทำในส
สมาชิกหมายเลข 6139364
จริงไหม? เจ้าสาวจำยอม จะมาแล้ว
"แต่งงานกันไหม" ประโยคสุดคลาสสิกที่สาวๆ ค่อนโลกฝันจะได้ยินจากชายคนรัก แต่คงไม่ใช่กับเธอ เมื่อเกิดอุบัติเหตุวิวาห์ เธอต้องจำใจแต่งงาน กับชายแปลกหน้า ที่พรากพรหมจารีเธอไป ด้วยหัวใจ ที่จำยอม &
สมาชิกหมายเลข 746986
รัก 12 ปีที่สิ้นสุด! "โก๊ะตี๋ – กวาง" เตียงหักหลังวิวาห์ปีเดียว
เครดิต/บทความข่าว : https://www.newtv.co.th/m/news/?id=148602รัก 12 ปีที่สิ้นสุด! "โก๊ะตี๋ – กวาง" เตียงหักหลังวิวาห์ปีเดียวปิดฉากความรักมาราธอน สำหรับคู
สมาชิกหมายเลข 4468906
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
แฟชั่น
เจ้าของธุรกิจ
ชุดแต่งงาน
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 27
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ขอแชร์ประสบการณ์ 4 ปี กับการทำห้องเสื้อชุดวิวาห์วินเทจ และขอเป็นกำลังใจให้สำหรับผู้ที่มีความฝันในการทำห้องเสื้อค่ะ
https://www.facebook.com/pages/Geegeebridalboutique/174269682636828?ref=hl
ก่อนอื่น ตัวเจ้าของกระทู้เอง นั้งคิดนอนคิดมานานแล้วว่าจะเขียนดีไหมแต่วันนี้ตัดสินใจแล้วหละ ว่าจะเขียน เพื่อเป็นกำลังใจสำหรับคนตามล่า
หาความฝัน จขกท มือใหม่หากเขียนผิดหรือตกหล่นต้องขออภัยด้วยนะค่ะ ด้วยวัย 25 ปลายๆกำลังตามล่าหาความฝัน และชอบงานเสื้อผ้าวินเทจเป็นชีวิตจิตใจ ชอบลูกไม้ ชอบความปราณีตของงานสมัยก่อน เป็นเจ้าแม่สะสมตัวยง เวลาเดินทางไปต่างประเทศก็จะต้องวิ่งหา เสาะหาเสื้อผ้าเครื่องประดับ มันมีความสุขจุงเบย จนวันหนึ่งเจอชุดแต่งงานประกาศขายทางอีเบย์ต่างประเทศ ช่วงนั้นตัวเองเดินทางอยู่ต่างประเทศพอดี เลยได้มีโอกาศได้ไปรับชุดแต่งงานวินเทจซึ่งทำตอนปี 1930 ด้วยตัวเอง รักมาก และมุ่งมั่นสะสมมาโดยตลอด ( พี่สาวที่อยู่เมือกนอกก็สะสมเช่นกัน ) จนวันหนึ่งคุยกับพี่สาวให้ช่วยลงทุน เราจะขายเอง เราเชื่อว่าต้องมีคนชอบเหมือนเราแน่นอน ณ จุดๆนี้ ความฝันเริ่มประกาย จากคนไม่มีประสบการณ์ มันมาจากความรักในความเป็นวินเทจล้วนๆ ฝันก็เริ่มขึ้น ห้องเล็กๆที่แถวประตูน้ำ ห้อง 3คูน 6 เมตรเช่าเดือนละ 7000 บาท จ่ายค่าล่วงหน้า 2 เดือนประกัน 1 เดือน
ความฝันของวัยรุ่นตอนวัย 25ปลายก็ฟุ้งขึ้นทันที เอาชุดที่สะสมมาบวกกับของพี่สาวก็ได้ 500 กว่าชุด ด้วยความไม่มีประสบการณ์เวลาตอนที่ประมูลซื้อ หรือตอนซื้อขายไม่ได้ทำบัญชี เลยไม่รู้ราคาจริงในแต่ละตัว ร้านเปิด แต่ราคาคิดไม่ตก เงินเริ่มหมด เพราะว่าบ้าซื้อ มีเงินเท่าไรเทหน้าตักเกลี้ยง พอจะเปิดร้าน ไม่รู้จะเริ่มราคาเท่าไหร่ดี จึงเปิดไปค้นหาใน Google หาคำว่าชุดแต่งงานวินเทจ ปาดๆไม่มีใครขาย เห็นแต่ ขายชุดแต่งงานมือสอง ราคาถูกจนช็อค แทบสลบแต่ด้วยความถังแตก เงินหมด พี่สาวเริ่มไม่เล่นกับเราแล้ว เลยต้องฮึดสู้ฉายเดี่ยว ขายถูกก็ถูก เอาเงินมาหมุนก่อน ค่าห้องต้องจ่าย ค่าซักแห้งต้องจ่าย ยอมขาดทุน ดีกว่าไม่มีเงินเลย ประกาศตามเน็ตมีลูกค้ามาซื้อเยอะมาก เนื่องจากของเรามาจากยุโรป ไม่มีในตลาดไทย มีแต่คนมาซื้อ ดีใจขายได้เท่าไหร่ เทหน้าตักตามไล่ล่าซื้อแล้วให้พี่สาวแพ็คส่งมาให้ พอจะลืมตาอาปากได้ ไม่ทันไร ณ ปีนั้น การประท้วงใหญ่ นานกินไปหลายเดือน ลูกค้าหดหายไม่กล้าเข้ามาเพราะว่าห้างติดกับที่ประท้วง เริ่มเคลียด มีข่าวใหญ่เผาแยกราชประสงค์ ห้างดัง แอบเสียววาบบ ห้างเราจะโดนไหมว้า หลังจากเหตุการณ์ปรกติ ห้องที่เราเช่าอยู่ไม่โดนเผาแต่ก็โดนงัดห้อง กันระเนระนาดแบบทั่วหน้า ของมีค่ารวมทั้งชุดแต่งงานที่ซักแห้งแพ็คอย่างดีเตรียมส่งให้ลูกค้าก็หายแวบไปกับตา ตอนเปิดห้องมา ดวงใจดวงนี้แทบแตกสลาย นั่งร้องให้ คิดในใจทำไมต้องเป็นเรา นั่งกอดเข่าอยู่มุมมืดในห้องที่มีชุดแต่งงานไม่กี่ชุดวางระเนระนาด กลับบ้านพร้อมความฝันอันแตกสลายแอบเคว้งทันที นอนคิด แล้วเราจะทำอย่างไรต่อดี จะยุติความฝัน หรือจะเดินหน้าต่อ เพราะว่าไม่มีประสบการณ์ ทุกอย่างมันมาจากใจรักล้วนๆ จะไปถามใครปรึกษาใครก็ไม่ได้เนื่องจากกลุ่มเพื่อน 25 ต้นๆไม่มีใครมีประสบการณ์ หรือคนรู้จักไม่มีใครอยู่ในสายงานนี้เลย ตอนนั้นมันเป็นช่วงวัดใจจริงๆ แต่ในใจลึกๆไม่เคยยอมแพ้และยังเชื่อมั่นศรัทธาตัวเอง ว่าทำได้ "ขอสู้อีกรอบ" ให้มันรู้ไปเลย ตั้งใจเขียนลงในสมุดบันทีกของตัวเองหน้าแรก ณ ตอนนั้นบันทึกให้กำลังใจตัวเองว่า" ไม่เคยขอยอมแพ้หรือขอจำนนต่อโชคชะตา เพราะยังเชื่อมั่นและศัทธาในสองมือเราเอง "
หลังจากปรับโหมดความคิดได้เป็นบวก ก็เริ่มตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง ย้ายออกจากที่นั่น แล้วมาเริ่มต้นนับ1 กันใหม่ พี่สาวช่วยเงินลงขันอีกรอบแต่ตัวเองนะสิ เงินไม่มี ด้วยวัย 25 ปีปลายเงินเก็บก้อนสุดท้ายที่ฝากไว้ในอนาคตสำหรับเรียนต่อเมืองนอก ก็ตัดสินใจถอนออกมาเทหน้าตักอีกรอบ ณ ตึก JSP สุขุมวิท 81 ชั้น 2 วันแรกที่ตัดสินใจเช่า มีแต่พื้น กับห้องเปล่า เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ย้ายชุดมากจากประตูน้ำเซ็นเตอร์ มีแค่ 3 ราว ไม่ถึง 20 ชุด ที่เหลือไม่รู้ไปไหนเหมือนกัน
สีต้องทาเอง เนื่องจากเงินหมด ช่างโกงแล้วหนีแต่ก็ยิ้มสู้
ระยะเวลา 3 เดือนกว่าจะเสร็จ
ร่วมเกือบ 3 เดือนกว่าจะเสร็จเนื่องจาก โดนโกง ช่างหนี สารพัดจะโดนโกง ตอนนั้นแอบวัดใจอีก 1 รอบ เพราะว่า ระหว่าง 3 เดือน มีแต่ค่าใช้จ่าย จ่ายเงินช่าง ปุ๊บพออีกวัน ช่างหายพร้อมเงิน ตัวเราเองไม่กล้าบอกพี่สาวที่อยู่นอก เพราะว่าถ้าบอกรับรองพี่สาวคงรับไม่ไหว และยุติโครงการในฝันแน่นอน แต่เงินหมด ทุกธุรกิจต้องมีเงินสดด้วย เรามีแต่ไม่ได้วางแผนในการใช้เงิน เงินหมดก่อนร้านเสร็จ พี่สาวสั่งของเตรียมชิปส่งมาให้ ถามเราว่าพร้อมไหม ? เราได้แต่โกหก ว่าระดับนี้ ไม่พร้อมได้ไง ฝันเรามาแล้ววววว ตกกลางคืนนอนร้องให้ คิดแล้วจะหาเงินจากไหนวะ ในมือมีเงินไม่ถึง4 พัน แต่ค่าใช้จ่าย บานเป็นหางว่าว ครั้งแรกในชีวิต ยื้มเงินคนสนิด เล่าให้ฟัง นั่งเงียบ เราก็นึกในใจใครเขาจะมาให้ ดูๆไปยังไงธุรกิจก็ไม่รอด เพื่อนเราเดินหายไปในห้องพร้อมเช็ค ส่งเงินมาให้ก้อนใหญ่( นึกในใจยังไม่ทันบอกตัวเลข เพื่อนเขียนให้แบบเกินคาดหวัง ) แล้วเพื่อนบอกว่ากรูเชื่อใจไม่เอาสัญญาไม่เอาดอกแต่ขออย่างเดียวห้ามหยุดทำความฝันของนะ กรูรู้ว่าทำได้ เพราะถ้าเป็นตัวกรู กรูทำไม่ได้หรอก ไม่ใช่ประเภค "ผู้หญิงบึกบึน" วะ ยังขอบคุณเพื่อนจนถึงวันนี้จริงๆ เริ่มภาระกิจทำความฝันทันที ระหว่างนั้นพี่สาวก็หาซัพพลายใหญ่ที่จะส่งของให้เราได้ โชคดีมาแว้ว เราจัดเต็มทุกอย่างที่มีเพื่อให้ได้ฝัน เทหน้าตักเต็มๆ ไม่ยั้งคิดอีกแล้ว ของมา จัดชุดแต่งงานขึ้นไม้แขวน เรียงชุดด้วยทำรหัสงาน ทุกตัว ด้วยมือเราคนเดียว (เป็นหญิงบึกบึนมาก)
หลังจากเปิดมา มีลูกค้าค้าส่งมาเพียบขายดีจนปลื้มที่เราตัดสินใจถูกว้าย มาถูกทางแล้วตอนนั้นเน้นขายส่งอย่างเดียว ลงประกาศขายตามเนต ไร้ซึ่งประสบการณ์ตามเคยงานมือ1 มือ2เอาหมดอาศัยเอามางานฝั่งยุโรปลูกค้าชอบมากกว่างานจีน ยอมจ่าย พีออร์เดอร์งานใหม่ งานฝั่งยุโรป ขอให้มีเงินหามาได้หมด เวลาผ่านไป มาถึงจุดๆหนึ่ง ลืมไปว่างานวินเทจ ขายหมดแล้วก็หมดกันเลย แล้วเราจะหาจากไหนอีกหละ ถ้าพี่สาวไม่สามารถหาของให้เราได้ งานใหม่หาที่ไหนก็หาได้ แต่งานเก่าวินเทจหมดแล้วหมดเลย จึงตัดสินใจอีกครั้งเช่าตึกแถว 1 คูหา หาช่างมือดีมาลอกงานแพรทเทริน เก็บลักษณะงาน ถ่ายรูป เก็บลายลูกไม้ หลายๆอย่างงานตัวไหนมีคุณค่าเก็บไว้ แล้วทำรหัสงานไว้ เพื่อวันหนึ่งเราจะหาทีมงานมาทำงานประเภคนี้ได้ เริ่มตัดเย็บลอกเลียนแบบงานวินเทจเก็บไว้ สุดท้ายก็รุ่งมีคนมาสั่งตัดส่งออกนอก ทำกันแบบไม่ทัน รวมถึงเริ่มปล่อยให้เช่าชุดที่มีอยู่ลงหนังสือครั้งแรกแบบใจสั่งมาถ่ายเสร็จได้รูปก็เขียนลูกน้ำลงในภาพเลย ไม่มีประสบการณ์อีกหละอิมเมจสร้างภาพลักษณ์ไม่ได้เรียน ช่วงแรกๆเอาสีแดงไปเลย ส่วนชุดที่ลงยังเน้นกลิ่นอายความเป็นวินเทจ และชุคแนวลาสสิค ถือว่าเจ้าเดียวในไทย ลงหนังสือแต่แนวนี้ทั้งหมดแอบทวนกระแสของแฟชั่นชุดแต่งงานในเมืองไทยทันที เพื่อนฝูงคัดค้านบอกว่าให้ลงตามกระแสนิยม เช่นงานเกาะอก งานสมัยนี้ที่เขาใส่กันนะ ตอบเพื่อนคำเดียว"ไม่เอา" เราขอเป็นคนแรกนี่แหละจะตีทวนสวนกระแสแฟชั่นชุดแต่งงานในเมืองไทยให้ดู มีจุดยืนแบบเต็มตัว คิดในใจมันต้องมีใครชอบผลงานเราบ้างสิวะ วัดใจกับความเชื่อมั่นศรัทธาในความคิดของตัวเอง ที่จริงมีรูปเยอะ คะขออนุญาตให้ไปติดตามผลงานได้ที่เพจร้านคะ
ปล . ขอบคุณรูปจาก Photo One
ชีวิตย่อมมีขึ้นมีลง หลังจากขึ้นจนปลื้มกับความสำเร็จมาพอควร สุดท้ายขาลงก็มาเยือนเราอย่างเป็นทางการ " น้ำท่วมครั้งใหญ่ 54 "
ระหว่างที่เมามันกับการค้าส่ง เริ่มปล่อยเครดิตให้กับลูกค้าประจำ เจ้าหนึ่งปล่อยไปเจ้าแตะแสน ปล่อยกันแบบว่าใจสั่งมา ยิ่งรู้ว่าน้ำจะท่วม ยิ่งปล่อยของให้ง่ายกว่าเดิม เพราะคิดว่าของอยู่กับลูกค้า ยังไงเงินก็ต้องได้ หลายเจ้าต่อหลายเจ้าขอก่อนจ่ายทีหลัง จัดไป จัดเต็มอยู่แล้ว สัญญาใจ รับรู้ได้แค่ทางพิน BB ข้อความที่คุยกัน สุดท้ายลูกค้าโดนน้ำท่วม ขาดทุนกันระเน ระนาด แล้วเราก็ขาดทุนหลายล้าน เราแบบสะบักสะบอม ชุดไม่ได้คืน หายไปกับสายน้ำ เงินไม่ได้คืน เพราะไม่ได้ทำสัญญา มีแต่สัญญาใจ ระหว่างน้ำท่วมถึงเราจะไม่โดนท่วมแต่ก็โดนห้อมล้อมด้วยน้ำ เครียดมาก ทะเลาะกับพี่สาว พี่สาวใจฝ่อ เห็นแต่ขาดทุน และรายจ่าย บอกให้เราขายปิดกิจการซะ (ได้ยินเหมือนฟ้าผ่ามากลางใจ ยังจำความรู้สึกนั้นได้ หนี้เพื่อนเป็นล้าน เงินเก็บที่เตรียมเรียนต่อก็ถอนออกมาหมด หันซ้ายขวาแทบไม่เหลืออะไรในห้องที่จะขายแล้ว เหลือแต่ความฝันที่กำลังพังสลายหายไปพร้อมกับสายน้ำครั้งนั้น ) พอตื่นเช้ามา หลังจากนอนร้องให้และสมเพจตัวเองจนสาแก่ใจ เจ้าของกระทู้เริ่มปรับโหมดความคิดใหม่ ตั้งสติใหม่ เริ่มเขียน ค่าใช้จ่าย รายรับ พยามลดรายจ่ายให้ได้มากที่สุด ส่วนรายรับไม่ต้องพูดถึง ไม่มีแน่นอน เพราะว่าน้ำท่วมทุกคนทุกข์ ไม่มีเงิน ไม่ต่างอะไรกับเรา ระหว่างรอให้สถานะการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไป ตัวเราเองสิ่งสำคัญคือการให้กำลังใจตัวเอง และออกไปข้างนอกเจอเพื่อนฝูง จะได้ไม่บ้ามาก ใครที่มีความคิดเป็นลบ ณ ตอนนั้นอย่าเพิ่งเข้าไปไกล้ ไม่งั้นเราจะคิดลบหมดพลัง พยามหาเพื่อนคุยที่มีความคิดและคิดเป็นบวกเข้าไว้ เวลาผ่านไป ตั้งสติได้ดีขึ้น ในเมื่อเมืองไทยขายม่ได้ น้ำท่วม ก็ขายต่างประเทศสิ ไอเดียมหาบรรเจิดเกิดขึ้นมาทันที คำถามคือ จะขายใครหละ ? ระดมสมองเพื่อนๆคิดบวก สุดท้ายได้เจ้าแรกที่เวียดนาม ขายสิทธิ์ขาดแต่เพียงผู้เดียว และถัดไปตามประเทศเพื่อนบ้าน เอาไปเลย จัดเต็ม ดีใจกับการที่เรามีการตั้งสติได้ดี ไม่งั้นไม่รอดแน่นอน ยังขอบคุณ คำว่า "สติ " ได้จนถึงวันนี้ ( งวดนี้ไม่เอาเครดิตแล้ว เงินสดเท่านั้น ) ติดตามต่อด้านล่างนะค่ะ