เรียนถามนะคะ
ขอเล่าก่อนค่ะ เราจัดฟันกะคุณหมอที่แรก ขอใช้ว่าคุณหมอ A นะคะ เราจัดฟันมาได้ 2 ปีกว่าๆ แล้วค่ะ เริ่มแรกที่ไปคุยกะคุณหมอ A ก่อนจัดฟันคือ ฟันหน้า บิดตัวนิดหน่อยค่ะ เลยอยากให้มันเรียงสวยปกติ ซึ่งคุณหมอก้บอกค่ะ ว่าฟันแทบจะไม่เป็นไรมากเลยนะ ต้องการจัดฟันจริงๆใช่มั้ย ซึ่งเราก้ยืนยันว่าจะจัดฟันค่ะ เพราะไม่สามารถถ่ายรูปยิ้มยิงฟันได้เลย และ อีกข้อนึงที่เราถามคุณหมอ A คือ ปากเรามันเจ่อค่ะ เข้าใจว่าเจ่อจากกระดูกอ่ะค่ะ ไม่ใช่ฟันเหยิน (นึกออกป่ะค่ะ ตรงเหงือกมันยื่นออกมาทำให้เหมื่อนปากอูมๆ) ซึ่งตรงข้อเนี้ย หมอ A ท่านบอกว่า จัดฟันให้เรียงสวยอ่ะได้อยู่แล้ว แต่ไอตรงกระดูกใต้เหงือกอ่ะ ต้องไปตะไบออกเอา นี่คือสาเหตุที่ทำให้ปากเราอูมๆ แลดู ยื่นๆค่ะ และเราก้ตกลงจัดฟันกับหมอ A ค่ะ
จุดเปลี่ยนนะคะ คือว่าเราเปลี่ยนที่ทำงานค่ะ ทำให้เราไม่สามารถไปหาคุณหมอA ได้ค่ะ เราเลยไปหาอีกคลีนิคนึงเพราะต้องการไปถามว่าจะสามารถจัดต่อโดยไม่ต้องเริ่มจัดฟันใหม่ได้หรือไม่ และก้ได้เจอคุณหมอ B (นามสมมติ) คุณหมอ B ตรวจเช็คปากเราปกติค่ะ และแจ้งเราว่าที่จัดอยู่ก้ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ (ฟันเราเรียงสวยแล้วค่ะ) จากนั้นให้เรานั่งหันข้างค่ะ หมอB พินิจพิเคราะห์อยู่ซักพักค่ะ ก้ถามเราว่า น้องอยากทำอะไรเพิ่มอีกมั้ยคะ หรือพอใจกับกับการจัดฟันในครั้งนี้แล้ว เราเลยแจ้งว่า กะว่าจะตัดเหงือกหลังจากจัดฟันค่ะ เพราะฟันเราสั้น จากนั้น หมอ B ก้แจ้งเราว่า ที่หมอเห็นคือ ปากเรายังยื่นอยู่มาก(ย้ำเราด้วยค่ะ ว่ามากๆ T^T ) นึกออกมั้ยคะ ฟันเรียงสวยแต่ปากยื่นอูมออกมา คือเราก้รู้สึกของเราอยู่แล้วล่ะค่ะ แต่ยังจำคำพูดของหมอ A ได้ว่า มันแก้ไขโดยการจัดฟันไม่ได้ นอกจากตะไบเหงือก แต่หมอ B แกบอกเราว่า ตรงนี้มันสามารถแก้ไขได้ (ในใจเรายิ้มเลย แต่ก็สับสนสุดๆ) แต่เราต้องถอนฟันเพิ่มอีก 4 ซี่ และ ต้องเปลี่ยนเครื่องมือเป็นแบบพิเศษ เบ็ดเสร็จราคาประมาณ 60,000 บาท และใช้เวลาไม่เกินสองปีค่ะ ก่อนจะออกจากห้องก้ยังถามหมออยู่ว่าทำไมข้อมูลแต่ละที่ถึงแตกต่างกัน หมอ B ก้ยิ้มๆและบอกให้เราลองไปตัดสินใจดู แต่หมอก็อยากให้จัดใหม่ แต่ก้ยังบอกเราว่าถ้าไม่อยากจัดใหม่ก้ให้ทำเรื่องส่งตัวมา หมอจะทำต่อให้ค่ะ
คำถามคือ เครื่องมือชนิดพิเศษนี้ มันสามารถแก้ไขอาการนี้ได้จริงๆรึป่าวคะ สามารถทำให้กระดูกมันหุบ เข้าไปได้จริงๆหรอ ปากบนเราจะไม่อูมแล้วใช่มั้ย รบกวนช่วยให้ความรู้แก่คนๆนี้หน่อยเถอะค่ะ เงิน 60,000 บาทก้ไม่ใช่น้อยๆ สำหรับเรา แต่เราก้อยากจะดูดีมีความมั่นใจค่ะ
ปล.เราอายุ 26 ปีค่ะ
เรียนถาม เรื่องการจัดฟันค่ะ (หมอบอกว่าควรจัดใหม่) เครียดมากค่ะ ช่วยด้วย!!!!!!!
ขอเล่าก่อนค่ะ เราจัดฟันกะคุณหมอที่แรก ขอใช้ว่าคุณหมอ A นะคะ เราจัดฟันมาได้ 2 ปีกว่าๆ แล้วค่ะ เริ่มแรกที่ไปคุยกะคุณหมอ A ก่อนจัดฟันคือ ฟันหน้า บิดตัวนิดหน่อยค่ะ เลยอยากให้มันเรียงสวยปกติ ซึ่งคุณหมอก้บอกค่ะ ว่าฟันแทบจะไม่เป็นไรมากเลยนะ ต้องการจัดฟันจริงๆใช่มั้ย ซึ่งเราก้ยืนยันว่าจะจัดฟันค่ะ เพราะไม่สามารถถ่ายรูปยิ้มยิงฟันได้เลย และ อีกข้อนึงที่เราถามคุณหมอ A คือ ปากเรามันเจ่อค่ะ เข้าใจว่าเจ่อจากกระดูกอ่ะค่ะ ไม่ใช่ฟันเหยิน (นึกออกป่ะค่ะ ตรงเหงือกมันยื่นออกมาทำให้เหมื่อนปากอูมๆ) ซึ่งตรงข้อเนี้ย หมอ A ท่านบอกว่า จัดฟันให้เรียงสวยอ่ะได้อยู่แล้ว แต่ไอตรงกระดูกใต้เหงือกอ่ะ ต้องไปตะไบออกเอา นี่คือสาเหตุที่ทำให้ปากเราอูมๆ แลดู ยื่นๆค่ะ และเราก้ตกลงจัดฟันกับหมอ A ค่ะ
จุดเปลี่ยนนะคะ คือว่าเราเปลี่ยนที่ทำงานค่ะ ทำให้เราไม่สามารถไปหาคุณหมอA ได้ค่ะ เราเลยไปหาอีกคลีนิคนึงเพราะต้องการไปถามว่าจะสามารถจัดต่อโดยไม่ต้องเริ่มจัดฟันใหม่ได้หรือไม่ และก้ได้เจอคุณหมอ B (นามสมมติ) คุณหมอ B ตรวจเช็คปากเราปกติค่ะ และแจ้งเราว่าที่จัดอยู่ก้ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ (ฟันเราเรียงสวยแล้วค่ะ) จากนั้นให้เรานั่งหันข้างค่ะ หมอB พินิจพิเคราะห์อยู่ซักพักค่ะ ก้ถามเราว่า น้องอยากทำอะไรเพิ่มอีกมั้ยคะ หรือพอใจกับกับการจัดฟันในครั้งนี้แล้ว เราเลยแจ้งว่า กะว่าจะตัดเหงือกหลังจากจัดฟันค่ะ เพราะฟันเราสั้น จากนั้น หมอ B ก้แจ้งเราว่า ที่หมอเห็นคือ ปากเรายังยื่นอยู่มาก(ย้ำเราด้วยค่ะ ว่ามากๆ T^T ) นึกออกมั้ยคะ ฟันเรียงสวยแต่ปากยื่นอูมออกมา คือเราก้รู้สึกของเราอยู่แล้วล่ะค่ะ แต่ยังจำคำพูดของหมอ A ได้ว่า มันแก้ไขโดยการจัดฟันไม่ได้ นอกจากตะไบเหงือก แต่หมอ B แกบอกเราว่า ตรงนี้มันสามารถแก้ไขได้ (ในใจเรายิ้มเลย แต่ก็สับสนสุดๆ) แต่เราต้องถอนฟันเพิ่มอีก 4 ซี่ และ ต้องเปลี่ยนเครื่องมือเป็นแบบพิเศษ เบ็ดเสร็จราคาประมาณ 60,000 บาท และใช้เวลาไม่เกินสองปีค่ะ ก่อนจะออกจากห้องก้ยังถามหมออยู่ว่าทำไมข้อมูลแต่ละที่ถึงแตกต่างกัน หมอ B ก้ยิ้มๆและบอกให้เราลองไปตัดสินใจดู แต่หมอก็อยากให้จัดใหม่ แต่ก้ยังบอกเราว่าถ้าไม่อยากจัดใหม่ก้ให้ทำเรื่องส่งตัวมา หมอจะทำต่อให้ค่ะ
คำถามคือ เครื่องมือชนิดพิเศษนี้ มันสามารถแก้ไขอาการนี้ได้จริงๆรึป่าวคะ สามารถทำให้กระดูกมันหุบ เข้าไปได้จริงๆหรอ ปากบนเราจะไม่อูมแล้วใช่มั้ย รบกวนช่วยให้ความรู้แก่คนๆนี้หน่อยเถอะค่ะ เงิน 60,000 บาทก้ไม่ใช่น้อยๆ สำหรับเรา แต่เราก้อยากจะดูดีมีความมั่นใจค่ะ
ปล.เราอายุ 26 ปีค่ะ