ทำไมหลายคนชอบระบบซุกขยะไว้ใต้พรมที่ฝ่ายบริหาร และ ฝ่ายตรวจสอบ องค์กรอิสระเป็นพวกเดียวกัน ?

หากพรรคประชาธิปัติย์ได้เป็นรัฐบาลในเวลานี้ หรือ จะนายกฯคนกลางก็ตามเถอะ ถ้าไม่หูหนวกตาบอดจะเห็นว่า จะ สว.สรรหา  กกต. ปปช. ศาลรัฐธรรมนูญ กสม. สตง ฯลฯ ล้วนมีจุดยืนที่เรียกว่าอยู่ข้างเดียวกับพรรคประชาธิปัติย์อย่างชัดเจน การที่ฝ่ายบริหาร และ ฝ่ายตรวจสอบมีจุดยืนอยู่ข้างฝ่ายเดียวกันนี้มันจะต่างอะไรกับการทำงานแบบซุกขยะไว้ใต้พรม เพราะหากมีการทุจริตในการบริหารของนักการเมือง เรื่องก็จะไม่แดง ช่วยกันหลบได้หลบ หลีกได้หลีก ดองได้ดองจนหมดอายุความ บริหารงานแบบซุกขยะไว้ใต้พรม รักษาภาพลักษณ์คนดีฉากหน้าไว้ไม่ให้เสียหายเบื้องหลุงกินมูมมามอย่างไรไม่มีใครอยากพูดถึง ซึ่งนี้คือระบบเก่าๆที่แท้จริงที่เป็นอยู่ในประเทศไทยมาช้านานและควรปฎิรูปอย่างยิ่ง

ผมไม่เข้าใจว่าระบบแบบนั้น เป็นไปตามหลักตรวจสอบและคานอำนาจตรงไหน นั่นมันระบบเกี้ยเซี้ยอุปถ้มป์ ผลประโยชน์ต่างตอบแทนกันในหมู่พรรคพวกตนชัดๆเปรียบเทียบกับการที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ซึ่งองค์กรต่างๆเหล่านั้นถือเป็นขั้วตรงข้ามกับตน การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างดุเดือดเข้มแข็งสุดขีด เรียกว่าเช็คทุกเม็ด เปิดพจนานุกรรมทุกคำพูด เอามันทุกแง่ทุกมุมทุกทางที่จะเอาผิดให้ได้  แบบนี้จริงๆแล้วมันดีอยู่แล้วหรือเปล่า ฝ่ายบริหาร กับฝ่ายตรวจสอบอยู่ตรงข้ามกันก็ไม่มีการเกี้ยเซี้ย ไม่มีการซุกขยะไว้ใต้พรม มีทุจริตทีก็แดงออกมาบานทะโร่ไม่มีหมกเม็ด ประชาชนก็ได้รับรู้ความจริงที่ตรวจสอบได้ มันก็ดีอยู่แล้วนี่

ทำไมถึงต้องการกลับไปเป็นแบบแรกกันจัง ไม่เข้าใจ หรือการปกครองแบบ "แดนสนธยา" แบบเก่ามันหอมหวานเกินตัดใจ