ผมอายุ 26 ปีครับ หลังจบป ตรีก็ทำงานมาได้ประมาณ 2 ปี ตอนนี้กลับมาเรียนปริญญาโท และมีแผนจะต่อเอกครับ เนื่องจากอยากเป็นอาจารย์หมาวิทยาลัย ก็เลยกลับมาอยู่บ้าน ส่วนค่าใช้จ่าย ก็เอาเงินเก็บจากการทำงานมาจ่ายค่าใช้จ่ายตัวเอง โดยมีพ่อกับแม่ช่วยเหลือบ้างตามสมควร และอาศัยอยู่บ้านพ่อกับแม่ครับเนื่องจากอยู่ จว เดียวกับมหาลัยที่เรียน
ส่วนแฟนเรียนอยู่ ตจว ครับ อายุ 23 เรียนใกล้จบละครับ อีกแค่เทอมเดียว
ปัญหาเป็นอย่างนี้ครับ แม่แฟนผมจะไม่ค่อยชอบผม เนื่องจากเค้ามีอคติกับผมในเรื่องศาสนาครับ คือประมาณว่าเค้าเห็นว่าผมเป็นคนไม่เคร่งในศาสนา (คริสครับ) แต่ขอออกตัวไว้ก่อน ไม่ได้อวดตัวเองครับ ผมไม่คิดว่าผมเป็นอย่างนั้น ผมไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่โกหก และ ฯลฯ คิดว่าในด้านศีลธรรมผมก็ไม่ได้แย่เลยครับ แต่เค้าคิดแบบนั้นเค้าเลยไม่อยากให้ลูกสาวเค้าคบกับผม แรกๆหนักกว่านี้ครับ ถึงขนาดบอกให้เลิกเช้าเย็นเลย แต่ผมก็ได้แต่บอกให้แฟนต้องยึดมีนกันมาเรื่อยๆ จนตอนนี้คบกันมาได้ประมาณปีนึงแลัว แต่กับแม่เค้าก็ยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากตัวแฟนผมก็ยังเรียนไม่จบ ยังต้องขอเงินพ่อแม่ เวลาเค้าบอกอะไรก็อดไม่ได้ที่จะกดดันมาถึงผมด้วย เช่น ล่าสุดแม่เค้าสั่งห้ามให้เจอกันแค่เดือนละครั้งนึง ซึ่งผมก็จะไม่คิดอะไรมากหรอกถ้าเค้ามีธุระต้องไปไหนมาไหนกับครอบครัว แต่นี่เล่นห้ามออกมา ให้อยู่ในบ้านนิ่งๆ ไม่ต้องไปไหน ผมรู้สึกแย่มากๆครับ ทุกวันนี้แฟนต้องไปเรียนศาสนาทุกวันทำให้วันธรรมดาก็ไม่ได้เจอกัน แค่คุยกันก็มีแค่ตอนก่อนนอนเท่านั้น ซึ่งเค้าก็เหนื่อยมาก บางทีก็มีการบ้าน ทำให้ได้คุยกันจริงๆวันนึงไม่น่าถึงสิบห้านาทีครับ พอถึงวันเสาร์ก็กลับโดนห้ามออกจากบ้าน วันอาทิตย์ก็เจอหน้ากันในโบสอยู่ แต่ก็คุยกันไม่ได้ ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับตอนนี้ มันอึดอัดไปหมด คือไม่เข้าใจเลยว่าทำไมยุคนี้แล้วแต่ยังต้องกีดกันกันอยู่
ผมพยายามเข้าหาแม่เค้าแล้วครับ ต่อหน้าเค้าก็พูดจาดียิ้มแย้ม แต่พอลับหลังในบ้านของเขามันคนละเรื่องเลยครับ ผมสงสารแฟนมากๆ บางครั้งก็โดนด่าเสียๆหายๆประมาณว่าวิ่งตามผู้ชาย อะไรเทือกนั้น ใจจริงผมก็อยากบอกให้แฟนเลิกฟังเค้า แต่เค้าก็ครอบครัวอะครับ ผมคงไม่ควรทำแบบนั้น ส่วนเรื่องให้พิสูจน์ตัวเอง ผมทำมาเป็นปีแล้วครับ มันไม่มีทิศทางที่ดีขึ้นเลย ผมควรทำยังไงต่อไปครับ
โดนแม่แฟนกีดกันครับ
ส่วนแฟนเรียนอยู่ ตจว ครับ อายุ 23 เรียนใกล้จบละครับ อีกแค่เทอมเดียว
ปัญหาเป็นอย่างนี้ครับ แม่แฟนผมจะไม่ค่อยชอบผม เนื่องจากเค้ามีอคติกับผมในเรื่องศาสนาครับ คือประมาณว่าเค้าเห็นว่าผมเป็นคนไม่เคร่งในศาสนา (คริสครับ) แต่ขอออกตัวไว้ก่อน ไม่ได้อวดตัวเองครับ ผมไม่คิดว่าผมเป็นอย่างนั้น ผมไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่โกหก และ ฯลฯ คิดว่าในด้านศีลธรรมผมก็ไม่ได้แย่เลยครับ แต่เค้าคิดแบบนั้นเค้าเลยไม่อยากให้ลูกสาวเค้าคบกับผม แรกๆหนักกว่านี้ครับ ถึงขนาดบอกให้เลิกเช้าเย็นเลย แต่ผมก็ได้แต่บอกให้แฟนต้องยึดมีนกันมาเรื่อยๆ จนตอนนี้คบกันมาได้ประมาณปีนึงแลัว แต่กับแม่เค้าก็ยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากตัวแฟนผมก็ยังเรียนไม่จบ ยังต้องขอเงินพ่อแม่ เวลาเค้าบอกอะไรก็อดไม่ได้ที่จะกดดันมาถึงผมด้วย เช่น ล่าสุดแม่เค้าสั่งห้ามให้เจอกันแค่เดือนละครั้งนึง ซึ่งผมก็จะไม่คิดอะไรมากหรอกถ้าเค้ามีธุระต้องไปไหนมาไหนกับครอบครัว แต่นี่เล่นห้ามออกมา ให้อยู่ในบ้านนิ่งๆ ไม่ต้องไปไหน ผมรู้สึกแย่มากๆครับ ทุกวันนี้แฟนต้องไปเรียนศาสนาทุกวันทำให้วันธรรมดาก็ไม่ได้เจอกัน แค่คุยกันก็มีแค่ตอนก่อนนอนเท่านั้น ซึ่งเค้าก็เหนื่อยมาก บางทีก็มีการบ้าน ทำให้ได้คุยกันจริงๆวันนึงไม่น่าถึงสิบห้านาทีครับ พอถึงวันเสาร์ก็กลับโดนห้ามออกจากบ้าน วันอาทิตย์ก็เจอหน้ากันในโบสอยู่ แต่ก็คุยกันไม่ได้ ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับตอนนี้ มันอึดอัดไปหมด คือไม่เข้าใจเลยว่าทำไมยุคนี้แล้วแต่ยังต้องกีดกันกันอยู่
ผมพยายามเข้าหาแม่เค้าแล้วครับ ต่อหน้าเค้าก็พูดจาดียิ้มแย้ม แต่พอลับหลังในบ้านของเขามันคนละเรื่องเลยครับ ผมสงสารแฟนมากๆ บางครั้งก็โดนด่าเสียๆหายๆประมาณว่าวิ่งตามผู้ชาย อะไรเทือกนั้น ใจจริงผมก็อยากบอกให้แฟนเลิกฟังเค้า แต่เค้าก็ครอบครัวอะครับ ผมคงไม่ควรทำแบบนั้น ส่วนเรื่องให้พิสูจน์ตัวเอง ผมทำมาเป็นปีแล้วครับ มันไม่มีทิศทางที่ดีขึ้นเลย ผมควรทำยังไงต่อไปครับ