Review Godzilla(2014)..The King Roar!..(Spoil)

เนื้อหาต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ และมี Spoil ใครที่ยังไม่ได้ดู ควรระวัง!!



การกลับมาอีกครั้งของราชันแห่งแดนญี่ปุ่นอย่าง "Gojira" หรือในชื่อต่างประเทศว่า "Godzilla" ที่เว้นจากการเป็นภาพยนตร์มาตั้งแต่ Godzilla Final Wars ปี 2004 (ฉบับญี่ปุ่นสร้างโดย โตโฮ) และการรีเมคครั้งแรกกับฉบับอเมริกาใน Godzilla (1998) ซึ่งการกลับมาคราวนี้ทางผู้สร้างเผยไว้ตั้งแต่ต้นว่าจะเป็นการย้อนกลับไปยังรากเหง้าเดิมของก็อตซิลล่าในภาพยนตร์ต้นฉบับ "Gojira" (1954) หรือการรีบูตพี่ก็อตใหม่นั่นเอง โดยผู้สร้างที่เราผ่านผลงานที่เราๆคุ้นเคยอย่าง Legendary Picture ซึ่ง Godzilla (2014) นี่เองที่เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายภายใต้การร่วมมือกันของ Legendary และ Warner Bros. อีกด้วย (ซึ่งทิศทางของภาคต่อถ้ามีผมไม่แน่ใจว่า Warner จะยังอยู่ในโปรเจคท์หรือไม่?)

ออกตัวก่อนเลยว่า ถ้าว่ากันตามความคาดหวังแล้วตัวผมซึ่งชื่นชอบ Godzilla ฉบับรีเมคของอเมริกา (ผมว่ามันเป็นหนังที่ดูสนุกใช้ได้เลยนะ ถึงแม้ว่าคนอื่นจะพูดยังไงก็เหอะ) และไม่ได้เป็นแฟนของพี่ก็อตเวอร์ชั่นญี่ปุ่นเลย กล่าวคือไม่เคยดูภาคญี่ปุ่นสักภาค ดูแค่ภาคของอเมริกาภาคเดียว พอการนำกลับมาทำใหม่ครั้งนี้ทำให้ผมไม่ได้มีภาพของพี่ก็อตในฉบับดั้งเดิมเลย แต่ก็ติดตามข่าวการพัฒนาของหนังเรื่องนี้มาตลอด และหาข้อมูลของภาคญี่ปุ่นพอเป็นความรู้เฉยๆ เนื่องจากภาคญี่ปุ่นมันค่อนข้างเก่าเกิน และจากความที่เก่านั่นเองผมจึงติว่าความสมจริงน่าจะมีน้อยเลยไม่ได้เลือกเสพฉบับเก่า อีกทั้งหลังๆพี่ก็อตในฉบับญี่ปุ่นตีกับสัตว์ประหลาดตัวอื่นไปทั่ว (King Kong, Anguirus, Mothra, King Ghidorah และสัตว์ประหลาดอีกนานับชนิด รวมไปถึงมีเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวอีก) สำหรับผมจึงไม่เลือกเสพเพราะแนวหนังไม่ตรงกับความชอบอย่างแรง หลังจากที่หนังฉบับ 2014ได้เริ่มโปรโมตออกมาเป็นช่วงๆ กระตุ้นให้เกิดความอยากดูมากยิ่งขึ้น ทั้งยังขยันปล่อยมาให้เห็นแวบๆ เรียกความสนใจของคนดู (โดยเฉพาะกับแฟนๆพี่ก็อตเอง) มาข้ามปีกันเลย และเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา Warner ก็โหมโปรโมตชนิดไม่หยุดหายใจเลยทีเดียว ทั้ง Trailer, Sneak Peak, Tv spot ที่ค่อยเผยพี่ก็อตออกมาอย่างละนิดละหน่อย และสัตว์ประหลาด Unknown ในเรื่อง จนเห็นพี่แกเต็มหน้าสักทีก่อนหนังเข้าฉายไม่นานนัก ซึ่งต้องบอกว่าการตลาดของ Warner นั้นเป๊ะจริงอะไรจริง (หลังจากมีบทเรียนจาก Pacific Rim) มาแล้ว แล้ววันที่รอคอยก็มาถึงหลังจากที่ผมได้สัมผัสกับพี่ก็อตเวอร์ชั่นนี้กับตาตนเองในวันที่ 14 ที่ผ่านมา (ขอขอบคุณกิจกรรมชิงบัตรรอบพิเศษของ True Life และที่นั่งโรง Imax ของเมเจอร์ รัชโยธินด้วยครับ)



มาเริ่มที่ตัวหนังกันเลยครับ
ตั้งแต่ฉากเปิดเครดิตเรื่องก็กระตุ้นความน่าสนใจของหนังได้ดี จากการถ่ายทอดเรื่องราวในอดีต อ้างอิงประวัติศาสตร์จริงนิดๆ ทำให้เราทราบว่าเมื่อนานมาแล้วในปี 1954 ที่น่าจะเป็นการปรากฏตัวของพี่ก็อตครั้งแรก แล้วมนุษย์เรานี่แหละครับก็ยิงระเบิดนิวเคลียร์ไปหวังจะทำลายมัน และการค้นพบสิ่งมีชวิตประหลาดในฟิลิปปินส์ของนักวิทยาศาสตร์ Dr. Ichiro Serizawa (Ken Watanabe) พร้อมกับผู้ช่วย(หรือคนรักด้วยก็ไม่รู้) Vivienne Graham (Sally Hawkins) ตัดมาที่ปี 1999 ก็เล่าถึง Joe Brody (Bryan Cranston) กับ Sandra Brody (Juliette Binoche) สองสามีภรรยาชาวอเมริกันที่ทำงานที่โรงงานนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น แต่จู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดไม่คาดฝันขึ้นทำให้โจเสียภรรยาไป เหตุนี้เขาจึงยึดติด และตามล่าหาความจริงกับเหตุการณ์ที่พรากภรรยาเขาไปในครั้งนี้ ข้ามมา 15 ปี โจถูกจับข้อหาเข้าไปในเขตหวงห้ามร้อนถึง Ford (Aaron Taylor-Johnson) ทหารหนุ่มชำนาญเกี่ยวกับการทิ้งระเบิดลูกชายที่ห่างเหินกับโจต้องมาประกัน (หรือเปล่า?) ให้โจออกจากการคุมขังที่ญี่ปุ่น โดยต้องทิ้งภรรยา Elle (Elizabeth Olsen) และลูก Sam (Carson Bolde) ไว้ที่ซานฟรานซิสโก เมื่อมาถึงฟอร์ดก็ต้องยอมใจอ่อนแอบเข้าไปในเขตกักกันที่ซึ้งเคยเป็นเขตเมืองที่เกิดเหตุการณ์โรงงานนิวเคลียร์ในปี 1999 รวมไปถึงบ้านเก่าของเขาด้วย เพื่อมาค้นหาความจริง และเอาข้อมูลเก่าๆที่สามารถอ้างอิงทฤษฎีที่โจคิดไว้ออกไป เมื่อมาถึงพวกเขากลับถูกจับและไปยังสถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของโรงงานที่ถูกทำลายบัดนี้กลายเป็นสถานที่ทดลองที่มี ดร.อิชิโร และ วิเวียน ศึกษาอยู่ และกักกันซากของ Muto สัตว์ประหลาดโบราณที่กำลังจะออกมา ถึงแม้ว่าเรื่องที่โจสันนิษฐานนั้นจะถูกต้อง แต่ก็สายเกินไปเมื่อ Muto หลุดออกจากการควบคุมไปยังโลกภายนอกได้สำเร็จ พอประติดประต่อกับข้อมูลของโจรวมไปทั้งการมีบางอย่างโต้ตอบกันไปมา (จากข้อมูลที่ยากจะอธิบายในเรื่อง 555) ดร.อิชิโร ก็พบว่ายังมีสิ่งมีชีวิตที่จะออกมาทำความวินาศแก่บ้านเมืองมนุษย์อีกถึง 2 ตัว !!

ถ้าจากเรื่องราวที่ร่ายมาข้างต้นทำให้ชวนสงสัยว่าเนื้อเรื่องมันแทบจะไม่มีพี่ก็อตเลยนิหว่าแล้วทำไมมันชื่อเรื่อง Godzilla ไม่ใช่ Muto ถล่มโลก แต่นี่แหละเมื่อหนังสร้างปม ลากยาวมาถึงเกือบครึ่งเรื่องราชันของเราก็จะเปิดตัวให้ได้อึ้ง! ทึ่ง! กันเสียที ฮาาาา

หนังเริ่มต้นด้วยการขับเน้นไปในเชิงอ้างอิงประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นความฉลาดที่ทำให้คนดูเชื่อได้ไม่ยากนัก และเกือบครึ่งเรื่องแรก หนังประเดิมด้วยอารมณ์ดราม่า จริงจัง และโศกนาฆกรรมที่ตัวเอกต้องเจอในอดีต รวมทั้งแง้มความสงสัยให้แก่คนดูถึงสิ่งมีชวิตในหนังเรื่องนี้ว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ที่จะเจอกับพี่ก็อตในเรื่อง นับว่าเป็นการเปิดเรื่องที่ยิ่งใหญ่ชวนติดตาม และขับเน้นอารมณ์ความอยากรู้อยากเห็นของคนดู ซึ่งต้องบอกว่าได้อารมณ์ยิ่งใหญ่ดี ต่อมาพอถึงกลางเรื่องหลังจากพี่ก็อตเราโผล่มา หนังก็เริ่มจัดแจงตัวเองใหม่เข้าสู่ความเป็นแอคชั่น ระเบิดตูมตาม รวมไปถึงการติดตามของมนุษย์ และการแก้ไขสถานการณ์ที่มีสัตว์ประหลาดโผล่มาทำลายบ้านเมืองที่เล่นข้ามน้ำข้ามสมุทธกันเลย (ย้ำว่าข้ามประเทศเลยทีเดียว) โดยหนังสอดแทรกการประทะ และการเดินทางของสัตว์ประหลาดทั้ง 3 ตัวเป็นระยะสลับกับพาร์ทของมนุษย์ที่พยายามเอาชีวิตรอด และต่อสู้กับพวกมัน พอหนังเดินทางมาถึงช่วงท้ายก็จัดสังเวียนการต่อสู้ที่ทั้ง 3 ได้มาตีกันจนตึกถล่มระเนระนาดที่ ซานฟรานซิสโก!!! OMG ก่อนหนังจะปิดบทสรุปที่ดูเอพิคสุดๆ พร้อมเปิดทางให้มีภาคต่อได้ (ตามสูตรหนัง Hollywood)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่