อยากทราบเคล็ดลับคู่รักเพศเดียวกันที่อยู่ด้วยกันนานๆ มาแชร์ประสบการณ์กันหน่อยคะ

อยากทราบว่าคู่รักเพศเดียวกันที่อยู่ด้วยกันนานๆ มีเคล็ดลับอะไรบ้างคะ

อยู่ด้วยกันแล้วมีปัญหาอะไรบ้างไหมคะ (เช่น ปัญหาคนรอบตัวไม่ยอมรับ การขอเลี้ยงบุตรบุญธรรม ปัญหาด้านกฏหมายเช่นสิทธิในการยินยอมให้ได้รับการรักษาพยาบาล การแบ่งทรัพย์สินในฐานะคู่ชีวิต การมีบทบาททางสังคม เป็นต้น)

แล้วมีวิธีแก้ไขปัญหาอย่างไรคะ ช่วยแชร์หน่อยคะ ตัวเราเองเคยมีความสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน แต่ล้มเหลวคะ

ป.ล.อยากให้พูดคุยกันเนื่องวัน IDAHOT 2014 the International Day Against Homophobia and Transphobia (วันสากลเพื่อการยุติการเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกันและคนข้ามเพศ)
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
โดยส่วนตัวเราโสดนะ โสดมาตลอด และตอนนี้ก็ยังโสดอยู่ มีแอบชอบคนนู้นคนนี้บ้างตามปกติ(เมื่อนานมาแล้ว) แต่แบบต้องตัดใจไปด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง (หลักๆเลยเขาไม่ได้ชอบผญ. เป็นต้น เหอะๆ)

แต่ด้วยความตั้งมั่น ความคิดของเรา เวลาเราจะมีคนรัก มีคู่ชีวิต เราคิดว่าไม่ว่าคู่ไหนจะ ช-ญ, ญ-ญ, ช-ช ถ้าจะให้ยืด ให้ยาวจริงๆต้องเป็นแบบ...

"เรารักในข้อดีของเขา แต่ต้องยอมรับในข้อเสียของเขาได้ด้วย และจงตระหนักถึงข้อเสีย เปิดใจยอมรับว่าตนเองก็มีข้อเสียเช่นกัน" แล้วทั้งสองฝ่ายก็ต้องมีการพูดคุย ปรับตัวกัน ไม่ใช่ว่าฝ่ายนี้อ๊ะ โทษอีกฝ่ายว่าเธอผิดตลอดๆแต่ไม่เคยหันกลับมามองข้อเสียของตนเองเลย นี่คือจุดเริ่มต้นของการพังทลาย การใช้ชีวิตคู่ต้องรู้จักการประนีประนอมกันอย่าเอาตนเองเป็นใหญ่

สมมติมีปัญหากันทะเลาะกัน ต่างฝ่ายก็อยากให้อีกฝ่ายเป็นไปอย่างที่ใจเราคิดและไม่หันหน้าพูดคุยกัน พูดแต่ 'เธอไม่เคยเข้าใจชั้นเลย ไม่เคยเข้าใจเลย' คือถ้าทำแต่แบบนี้ ร้อยวันพันปีไอฝ่ายนู้นก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก -*- คือทางออกที่ดีที่สุดคือต้องหันหน้าพูดคุยกัน ปรับความเข้าใจกันเลยค่ะ เปิดใจ และต้องเปิดใจทั้งสองฝ่ายด้วย ไม่ใช่ฝ่ายนี้ไม่เปิดใจ ส่วนอีกฝ่ายนึงเปิดใจ มันก็ไปกันไม่รอดหรอกค่ะ คือต้องคุยกันให้รู้ไปเลยว่าเราไม่ชอบที่เธอทำแบบนี้นะเพราะอะไร เธอปรับได้ไหม (คุยดีๆ ด้วยเหตุผล อย่าใช้อารมณ์ อย่าประชด) แล้วเวลาฝ่ายนู้นเค้าบอกข้อเสีย จุดที่เค้าไม่ชอบของเรา เราก็ต้องรับให้ได้เช่นกัน พอรู้แล้วก็ต้องรับมาพิจารณาและพยายามหาจุดกึงกลางที่เราพอๆปรับได้ และจุดกลางในพฤติกรรมที่ฝั่งนู้นเค้าโอเค และฝั่งนู้นก็ต้องทำแบบเดียวกันนี้ด้วย ชีวิตคู่ถึงจะอยู่รอด

โดยส่วนตัวแล้วเราเป็นคนตรงๆและเวลาเราไม่พอใจอะไรใคร(คนในครอบครัวเรา) เราจะอธิบายไปเลยว่าเราไม่ชอบให้เค้าทำแบบนี้นะ เพราะอะไรนะ แล้วก็แบบด้วยความที่ไม่อยากให้มันเครียดเกินไป ก็อาจมีส่งมุกติดตลกไปบ้าง พูดอะไรน่ารักๆออกไปบ้าง มันก็จะดูชิลๆขึ้น ฝ่ายนู้นเค้าก็เข้าใจเราและไม่เครียดมากจนเกินไป ไม่มองเราในแง่ -  อีกฝ่ายนึงเวลาไม่พอใจอะไรเราก็พูดกันตรงๆ ไม่มีกั๊กค่ะ พอคุยกันจบปุ๊ปความเข้าใจมันจะยิ่งมีมากขึ้น ความสัมพันธ์ก็ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น เราก็ปรับตัว เค้าก็ปรับตัว

แต่พูดแล้วมันเหมือนจะทำง่าย แต่จริงๆแล้วมันทำยากค่ะ เพราะมนุษย์ มนุษย์ส่วนมากมันมองไม่เห็นถึงของเสียของคนเอง และไม่ยอมรับมัน ขนาดตัวเองยังทำไม่ได้ แล้วจะไปฝืนใจคนอื่นนั้นยากยิ่งกว่าค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะทำได้แล้ว แต่ก็ใช่ว่าเราจะสามารถฝืนใจคนอื่นให้ลดทิฐิ ให้เค้ามองเห็นว่าเขาเองก็มีข้อเสียได้

แต่ปัญหาของคนรักเพศเดียวกันมันไม่ได้มีแค่เรื่องความสัมพันธ์เหมือนคนรักต่างเพศทั่วไป เท่าที่เราเห็นและพูดคุยมาก็ตามที่คุณกล่าวเลยค่ะ ยังไม่มีกฎหมายรองรับในหลายๆเรื่อง คือเรื่องที่เราห่วงที่สุดตอนนี้คือเรื่องที่เข้า รพ. และคู่ชีวิตไม่สามารถเซ็นต์ได้ (เพราะมันเดิมพันด้วยชีวิตคน) ตรงส่วนนี้แค่คนสองคนคงแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ค่ะ คงต้องอยู่อย่างจำใจ เพราะคนในสังคมส่วนมากยังมองไม่เห็นถึงปัญหาตรงจุดนี้ ว่าพวกเราไม่ได้อยากได้สิทธิพิเศษนะ เราก็แค่อยากได้สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานเหมือนคนรักต่างเพศ ก็เท่านั้น ก็คงได้แต่รอวันที่พรบ.จะผ่าน

ส่วนเรื่องสังคมไม่ยอมรับ โดยส่วนตัวเราคิดว่าคนส่วนใหญ่คงห่วงแค่สังคมในครอบครัว(พ่อ-แม่)ไม่ยอมรับเป็นที่สุดของที่สุด เรื่องนี้มันก็พูดยากค่ะ เพราะครอบครัวแต่ละครอบครัวนั้นไม่เหมือนกัน บางครอบครัวพ่อแม่ยอมรับได้ บางครอบครัวพ่อแม่ยอมรับไม่ได้ ถึงขั้นตัดพ่อตัดลูก ตัดแม่ตัดลูกกันเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละคนก็มีทางแก้ปัญหาต่างกันออกไป บ้างก็ยอมเลิกกันทั้งๆที่ยังรักกันอยู่เพราะพ่อแม่ (เจอค่อนข้างเยอะค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้า) หรือบางทีก็พยายามสู้กันสองคนจนชนะใจพ่อแม่ และบ้างก็เลือกที่จะยอมขัดคำสั่งพ่อแม่และหนีตามกัน ไปใช้ชีวิตกันสองคน หรือไม่ก็ต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆซ่อนๆจากสายต่พ่อแม่หรือญาติๆ ซึ่งตรงจุดนี้อยากจะบอกว่ามันจนปัญญาที่จะแก้ค่ะ ความคิดความเชื่อของพ่อแม่ ของผู้ใหญ่ (หรือบางทีมีเรื่องหลักของศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง) มันแก้ยากถึงกับแก้ไม่ได้เลย มันก็อยู่ที่ตัวเราเองจะตัดสินใจว่าจะเลือกทางออกทางไหน แต่เลือกทางไหนก็ทุกข์เล็กๆทุกทางค่ะสำหรับครอบครัวที่พ่อแม่ไม่ยอมรับ บอกได้เลย

โดยส่วนตัวเราเป็นคนไม่แคร์โลก ไม่แคร์ใคร ไม่กลัว ภูมิใจมากที่เป็นตัวเอง เพี้ยนไฟลุก อย่าไปสนที่คนอื่นเค้ามองมา เราแค่รู้ว่าเราเป็นแบบนี้เราก็ไม่ได้ผิดอะไรก็พอแล้ว เราแค่รู้ว่าเราเป็นแบบนี้ก็ยังทำประโยชน์เป็นคนดีของสังคมได้ และถ้ามีใครมาดูถูกเรา มาเหยียดหยามเรา จงเก็บความโกรธนั้นเป็นพลัง พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราไม่ได้เป็นแบบที่เค้าพูด แล้วเมื่อเราทำสำเร็จ วันนั้นแหละคือวันของเรา และถ้าเค้ายังมาดูถูกเราอีก จงเมินเฉยและภูมิใจ ว่าดูถูกไปเถอะ มันก็แค่คำพูดแต่เรารู้แก่ใจว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้น เราเหนือกว่านั้นเยอะ

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ความรักวัยรุ่น ความรักวัยทำงาน เพศที่สาม
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่