ความจริงธาตุ ๔ มันก็เป็นธาตุล้วน ๆ มิได้ไปก่อกรรมทำเข็ญให้ใครเกิดกิเลสหลงรักหลงชอบเลย
ถึงก้อนธาตุจะขาวจะดำ สวยไม่สวย มันก็มีอยู่ทั่วโลก แล้วก็มีมาแต่ตั้งโลกโน่น
ทำไมคนเราพึ่งเกิดมาชั่วระยะไม่กี่สิบปีจึงมาหลงตื่นหนักหนาจนทำให้สังคมวุ่นวายไม่ทราบว่าอะไรเป็นอะไร มืดบอดยิ่งกว่ากลางคืน
ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าของพวกเราทั้งหลายผู้ทรงประสงค์ความสันติสุขแก่โลก
จึงทรงจำแนกสมมติที่เขาเหล่านั้นกำลังพากันหลงติดอยู่เหมือนลิงติดถัง ออกให้เป็นแต่สักว่าธาตุ ๔ ดังจำแนกมาแล้วข้างต้น
หรือจะเรียกว่าพระองค์ทรงบัญญัติให้เป็นไปตามสภาพของเดิม เพื่อให้เขาเหล่านั้นที่หลงติดสมมติอยู่แล้ว
ให้ค่อยๆจางออกจากสมมติแล้วจะได้เห็นสภาพของจริง บัญญัตินี้ไม่เป็นตนเป็นตัว เป็นสภาพธรรมอันหนึ่ง
แล้วบัญญัติเรียชื่อเป็นเครื่องหมายใช้ชั่วคราวเท่านั้น
ถ้าผู้มาพิจารณาเห็นกายก้อนนี้เป็นสักแต่ว่าธาตุ ๔ แล้ว จะไม่หลงเข้าไปยึดเอาก้อนธาตุมาเป็นอัตตาเลย
อันเป็นเหตุให้เกิดกิเลสหยาบช้าฆ่าฟันกันล้มตายอยู่ทุกวันนี้ ก็เนื่องจากความหลงเข้าไปยึดก้อนธาตุว่าเป็นอัตตาอย่างเดียว
ผู้ใคร่ในธรรมข้อนี้จะทดลองพิจารณาให้เห็นประจักษ์ด้วยตนเองอย่างนี้ก็ได้
คือพึงทำใจให้สงบเฉย ๆ อยู่ อย่าได้นึกอะไรแลสมมติว่าอะไรทั้งหมด แม้แต่ตัวของเราก็อย่านึกว่านี่คือเราหรือคน
แล้วเพ่งเข้ามาดูตัวของเราพร้อมกันนั้นก็ให้มีสติทำความรู้สึกอยู่ทุกขณะว่า เวลานี้เราเพ่งวัตถุสิ่งหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อว่าอะไร
เมื่อเราทำอย่างนี้ได้แล้ว จะเพ่งดูสิ่งอื่นคนอื่นหรือถ้าจะให้ดีแล้วเพ่งเข้าไปในสังคมหมู่ชนมาก ๆ
ในขณะนั้นอาจทำให้เกิดความรู้สึกอะไรขึ้นมาในใจแปลกๆ และเป็นสิ่งน่าขบขันมาก
อย่างน้อยหากท่านมีเรื่องอะไรหนักหน่วงและยุ่งเหยิงอยู่ภายในใจของท่านอยู่แล้ว เรื่องทั้งหมดนั้นหากจะไม่หายหมดสิ้นไปทีเดียว
ก็จะเบาบางแลรู้สึกโล่งใจของท่านขึ้นมาบ้างอย่างน่าประหลาดทีเดียว หากท่านทดลองดูแล้วไม่ได้ผลตามที่แสดงมาแล้วนี้
ก็แสดงว่าท่านยังทำใจให้สงบไม่ได้มาตรฐานพอจะให้ธรรมเกิดขึ้นมาได้
ฉะนั้นจึงขอให้ท่านพยายามทำใหม่จนได้ผลดังแสดงมาแล้ว แล้วท่านจะเกิดความเชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า
เป็นคำสอนที่นำผู้ปฏิบัติให้ถึงความสันติได้แท้จริง ฯ
-----------
ธาตุ - ขันธ์ - อายตนะ สัมพันธ์ (เนื้อหาบางส่วน)
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
http://www.nkgen.com/tess804.htm
ความจริงธาตุ ๔ มันก็เป็นธาตุล้วน ๆ มิได้ไปก่อกรรมทำเข็ญให้ใครเกิดกิเลสหลงรักหลงชอบเลย
ถึงก้อนธาตุจะขาวจะดำ สวยไม่สวย มันก็มีอยู่ทั่วโลก แล้วก็มีมาแต่ตั้งโลกโน่น
ทำไมคนเราพึ่งเกิดมาชั่วระยะไม่กี่สิบปีจึงมาหลงตื่นหนักหนาจนทำให้สังคมวุ่นวายไม่ทราบว่าอะไรเป็นอะไร มืดบอดยิ่งกว่ากลางคืน
ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าของพวกเราทั้งหลายผู้ทรงประสงค์ความสันติสุขแก่โลก
จึงทรงจำแนกสมมติที่เขาเหล่านั้นกำลังพากันหลงติดอยู่เหมือนลิงติดถัง ออกให้เป็นแต่สักว่าธาตุ ๔ ดังจำแนกมาแล้วข้างต้น
หรือจะเรียกว่าพระองค์ทรงบัญญัติให้เป็นไปตามสภาพของเดิม เพื่อให้เขาเหล่านั้นที่หลงติดสมมติอยู่แล้ว
ให้ค่อยๆจางออกจากสมมติแล้วจะได้เห็นสภาพของจริง บัญญัตินี้ไม่เป็นตนเป็นตัว เป็นสภาพธรรมอันหนึ่ง
แล้วบัญญัติเรียชื่อเป็นเครื่องหมายใช้ชั่วคราวเท่านั้น
ถ้าผู้มาพิจารณาเห็นกายก้อนนี้เป็นสักแต่ว่าธาตุ ๔ แล้ว จะไม่หลงเข้าไปยึดเอาก้อนธาตุมาเป็นอัตตาเลย
อันเป็นเหตุให้เกิดกิเลสหยาบช้าฆ่าฟันกันล้มตายอยู่ทุกวันนี้ ก็เนื่องจากความหลงเข้าไปยึดก้อนธาตุว่าเป็นอัตตาอย่างเดียว
ผู้ใคร่ในธรรมข้อนี้จะทดลองพิจารณาให้เห็นประจักษ์ด้วยตนเองอย่างนี้ก็ได้
คือพึงทำใจให้สงบเฉย ๆ อยู่ อย่าได้นึกอะไรแลสมมติว่าอะไรทั้งหมด แม้แต่ตัวของเราก็อย่านึกว่านี่คือเราหรือคน
แล้วเพ่งเข้ามาดูตัวของเราพร้อมกันนั้นก็ให้มีสติทำความรู้สึกอยู่ทุกขณะว่า เวลานี้เราเพ่งวัตถุสิ่งหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อว่าอะไร
เมื่อเราทำอย่างนี้ได้แล้ว จะเพ่งดูสิ่งอื่นคนอื่นหรือถ้าจะให้ดีแล้วเพ่งเข้าไปในสังคมหมู่ชนมาก ๆ
ในขณะนั้นอาจทำให้เกิดความรู้สึกอะไรขึ้นมาในใจแปลกๆ และเป็นสิ่งน่าขบขันมาก
อย่างน้อยหากท่านมีเรื่องอะไรหนักหน่วงและยุ่งเหยิงอยู่ภายในใจของท่านอยู่แล้ว เรื่องทั้งหมดนั้นหากจะไม่หายหมดสิ้นไปทีเดียว
ก็จะเบาบางแลรู้สึกโล่งใจของท่านขึ้นมาบ้างอย่างน่าประหลาดทีเดียว หากท่านทดลองดูแล้วไม่ได้ผลตามที่แสดงมาแล้วนี้
ก็แสดงว่าท่านยังทำใจให้สงบไม่ได้มาตรฐานพอจะให้ธรรมเกิดขึ้นมาได้
ฉะนั้นจึงขอให้ท่านพยายามทำใหม่จนได้ผลดังแสดงมาแล้ว แล้วท่านจะเกิดความเชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า
เป็นคำสอนที่นำผู้ปฏิบัติให้ถึงความสันติได้แท้จริง ฯ
-----------
ธาตุ - ขันธ์ - อายตนะ สัมพันธ์ (เนื้อหาบางส่วน)
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
http://www.nkgen.com/tess804.htm