ผมชื่ออู๊ดครับ วันนี้ผมมีเรื่องเกี่ยวกับรักครั้งแรกของผมจะเล่าให้ฟัง
ผมเองก็ไม่ทราบหรอกนะครับ ว่ามันจะเรียกว่า “รักครั้งแรก” ได้หรือไม่
ยังไงก็ลองฟังเรื่องของผมดูนะครับ
..............................................................
เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยผมอยู่มัธยมต้น ม.1 นั่นแหล่ะครับ
ผมไปชอบสาวคนนึงเข้า สาวคนนั้นเป็นลูกสาวอาจารย์ท่านหนึ่งในโรงเรียนครับ
เธอชื่อกี้ครับ กี้เป็นเด็กเรียนดี อยู่ห้องคิงเลยทีเดียว ส่วนผมก็แค่หางแมวอยู่ห้องธรรมดา
ผมรู้สึกชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น กี้แลดูเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ร่าเริง แจ่มใส
ผมมักจะแอบมองกี้เวลาเข้าแถวตอนเช้า
แอบมองกี้เวลากี้กินข้าวกับเพื่อนๆที่โรงอาหาร
แอบนั่งที่เดียวกับที่กี้นั่งเรียน
ผมได้แต่แอบชอบเธออยู่อย่างนั้น
..............................................................
พอเราขึ้น ม.2 มีอยู่ช่วงนึงที่กี้หายไปครับ หายไป 1 เดือนเลยทีเดียว
ผมก็ทำใจกล้า เดินเข้าไปถามอาจารย์สุทธินีย์ที่เป็นแม่ของกี้ว่ากี้หายไปไหน
และผมก็ได้คำตอบครับว่ากี้เป็นไข้เลือดออก แต่ก็ใกล้จะหายแล้ว เดี๋ยวกี้ก็กลับมาเรียน
ทั้งๆที่ผมรู้แล้วว่ากี้ไม่สบาย แต่เนื่องจากกี้เองแทบจะไม่รู้จักผมเลยด้วยซ้ำ ผมจึงไม่กล้าเข้าไปเยี่ยม
แต่หลังจากนั้น กี้ก็กลับมาเรียนตามปกติครับ
..............................................................
ม.3
เมื่อเราใกล้จบ ก็มีพิธีปัจฉิมนิเทศก์ที่เราทุกคนต้องมาค้างที่โรงเรียน
มีกิจกรรมมากมายที่นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วม และนั่นก็ทำให้ผมกับกี้ได้รู้จักกันครับ
คุยกันไปกันมาก็ได้ความว่ากี้จะเรียนต่อที่นี่จนจบม.6 ด้วยสายวิทย์-คณิต
ก็เข้าทางผมแล้วล่ะครับ พอผมทราบว่ากี้จะเรียนต่อที่นี่ ผมก็รีบตั้งใจอ่านหนังสือ
เพื่อที่ผมจะสามารถสอบเข้าสายวิทย์-คณิตและได้เรียนห้องเดียวกับกี้
.............................................................................
วันประกาศผลสอบเข้าม.4
เหมือนฟ้าผ่าลงมาที่ผม ไม่ว่าผมจะขยันอ่านหนังสือก่อนสอบสักเพียงใด
ด้วยบุญกรรมทำผลการเรียนของผมแต่ปางก่อน ส่งผลให้ผมสามารถเข้าเรียนสายวิทย์-คณิตได้
แต่.....ผมก็ยังเรียนห้องหางของสายวิทย์-คณิต และกี้ก็ยังคงได้เรียนห้องคิงเหมือนเดิม
ผมจะไม่ท้อครับ.....สักวันผมจะต้องอยู่ในสายตาของกี้ให้ได้
..............................................................
ม.4
ผมเริ่มตีสนิทกับเพื่อนผู้ชายในห้องของกี้ เพื่อที่ว่าผมจะได้เข้าไปมีส่วนร่วมชีวิตของกี้มากขึ้น
ทุกวันตอนเย็น ผมจะนัดเพื่อนผู้ชายห้องกี้มาเล่นบาสกันครับ และทุกวันที่กี้รอกลับบ้านพร้อมแม่
กี้ก็จะมาดูพวกผมเล่นบาส มาคอยเชียร์ข้างสนามทุกวัน และนั่นแหล่ะครับ...กี้เริ่มเห็นผมแล้ว
บางวันกี้ก็จะเชียร์ผมบ้าง (ก็เพราะผมอยู่ทีมเดียวกับเพื่อนกี้) แต่มันก็ทำให้ผมดีใจนะครับ
..............................................................
ม.5
กี้เริ่มขยันเรียนมากขึ้น เพราะต้องเตรียมทำคะแนนสอบให้ดี จะได้สอบเข้าเรียนในที่ที่อยากเรียน
ช่วงม.5 นี้ผมก็เพิ่งค้นพบตัวเองว่า การที่ผมมาเรียนสายวิทย์ตามกี้นั้น ทำให้เกรดผมแย่ลงไปกว่าเดิม
ผมจึงมุ่งเน้นและตั้งใจอ่านหนังสือให้หนักขึ้น เพื่อที่จะสอบเข้าคณะที่ผมอยากจะเรียนจริงๆเหมือนกัน
..............................................................
ม.6
ด้วยบุญที่เราคงเคยทำมาด้วยกัน....ส่งผลให้ผมสอบเข้าในคณะที่ผมอยากเรียนได้จริง
และที่ดีไปกว่านั้นคือผมและกี้ได้เรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันครับ
..............................................................
ณ ตอนนี้ พ้นจากสายตาของคุณแม่ของกี้แล้ว
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย.....ผมรุกจีบกี้ได้อย่างเต็มที่....ผมคิดเอาเองนะ
แต่ผมคงคิดผิด เพราะตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมา...มาไม่เคยเจอกี้เลย
จนกระทั่งวันหนึ่ง.....
“ฮัลโหล อู๊ด...เฮ้ย วันนี้เราจะไป ม. นายนะ กินข้าวกันป่าว”
บาส...หนึ่งในเพื่อนร่วมห้องม.ปลายของกี้ โทรมาชวนผมทานข้าวครับ
อันตัวผมเองก็ว่าง...ผมจึงไม่ปฏิเสธ วันนั้นผมยังจำได้ว่าเรานัดกันที่ร้านสเต็กแห่งหนึ่ง....
..............................................................
ณ ร้านสเต็ก
ผมไปถึงร้านเป็นคนสุดท้าย เนื่องจากบาสโทรมาตอนที่ผมยังอยู่ที่บ้าน
ที่โต๊ะอาหาร มีคน 3 คนนั่งอยู่ที่โต๊ะ...ผมเห็นบาส....แนน และผู้หญิงคนหนึ่งนั่งหันหลัง...ผมไม่แน่ใจเลยว่าเขาเป็นใคร
เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ บาสหันมาเห็นผม...จึงตะโกนเรียกและทักทายผมทันที
“เฮ้ย อู๊ด ทางนี้......คิดถึงว่ะ”
ทันใดนั้นผู้หญิงที่นั่งหันหลัง...ก็หันหน้ามาทางผม
ผู้หญิงคนนั้น.....กี้ครับ ผู้หญิงที่ผมเฝ้าตามหามาแสนนาน สุดท้ายวันนี้ก็ได้เจอ
ผมทานข้าวอย่างเขินอาย ซึ่งตรงกันข้ามกับกี้....ที่นั่งคุยอย่างออกรส ยิ้ม หัวเราะ อย่างมีความสุข
หลังจากทานข้าวเราก็ไปต่อกันที่ตู้คาราโอเกะครับ.......
พอร้องกันไปสักพัก...บาสและแนนก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ ทิ้งไว้แค่ผมกับกี้
ผมรู้สึกประหม่า...อึดอัด...พูดไม่ออก...บอกไม่ถูก
พอกี้เห็นผมแบบนั้น กี้ก็กดเพลงครับ หยิบไมค์ขึ้นมาสองอัน อันหนึ่งส่งให้ผม อีกอันกหนึ่งกี้ร้องครับ
ผมรับไมค์ก็ยังเขินๆ จนกระทั่งกี้ร้องเพลงท่อนแรกออกมาว่า
“ความปวดร้าวที่อยู่ในใจ...ทนและฝืนเก็บมันอยู่ข้างใน ความทรงจำวันคืนที่โหดร้าย...ไม่มีเธอ...ไม่มีเธอ”
ผมช็อคครับ....ผู้หญิงแสนเรียบร้อย สุดน่ารักของผม.....เธอร้องเพลงไม่มีเธอของ Retrospect
ผมได้แต่ถือไมค์แล้วก็มองเธอ.....และไม่มีอะไรน่าช็อคไปกว่าตอนที่เธอร้องท่อน
“เพราะเธอ....ทำให้ฉันได้พบเจอ ทำให้ฉันหลงละเมอ สิ่งที่เรียกว่ารัก ไม่ ไม่ ไม่”
ถ้าใครนึกไม่ออกลองไปหาฟังดูนะครับ.....
ผมหลุดหัวเราะออกมาอย่างดังครับ ผมไม่คิดเลยว่ากี้ของผมจะร้องแพลงแบบนี้
ผมพยายามหยุดหัวเราะกี้ แต่ผมก็ทำไม่ได้....กี้คงจะโกรธผมมากๆ
แต่ผิดคาดครับ....กี้ก็หัวเราะออกมาอย่างพอใจแล้วก็พูดกับผมว่า
“ทีนี้ก็ไม่ต้องเขินเราแล้วนะ”
ครับแล้วหลังจากนั้นผมก็คุยกับกี้ได้อย่างสนิทใจ............
..............................................................
มีหลายครั้งที่เราบังเอิญเจอกันที่ตึกคณะ
ครับ...กี้ก็ทักทายผมอย่างสนิทสนม และผมก็รู้สึกดีมากที่เป็นแบบนี้
วันหนึ่ง ผมบังเอิญเจอกี้ครับ กี้ถามผมว่ารู้จักเอกไหม เอกที่เรียนคณะนิติศาสตร์ภาคปก
ถึงรัฐศาสตร์กับนิติศาสตร์จะเรียนที่ตึกเดียวกัน....แต่ผมก็ไม่รู้จักเอกหรอกครับ
..............................................................
หลังจากที่เราเจอกันอีกครั้ง....ผมก็เลยขอ MSN ของกี้ครับ
ผมได้เอ็มกี้มา....ผมก็รีบแอดไปเลยครับ แต่ให้ตายเถอะ...ผมเห็นเธอออนไลน์ แต่ไม่เคยกล้าที่จะทักก่อน
ผมรอแล้ว รอเล่า...รอจนในที่สุดกี้ก็ทักมาครับ
กี้: อู๊ด.....ทำไรอยู่
อู๊ด: หวัดดีกี้.....อ่อ เราฟังเพลงอยู่
กี้: เฮ้ย ฟังเพลงไรเหรอ
อู๊ด: เพลง.....ฟ้า ของ Tattoo colour น่ะ
กี้: มันเป็นยังไงเหรอ....
อู๊ด: เดี๋ยวเราส่งให้นะ
ผมเริ่มส่งเพลงของ Tattoo colour ให้กี้ครับ ส่งจนหมดทุกเพลงเลยทีเดียว
แล้วก็โชคดีครับที่กี้ก็ชอบฟัง......
..............................................................
สองอาทิตย์หลังจากนั้น ผมจึงตัดสินใจที่จะบอกกี้ถึงความในใจของผม....
ขอพระเจ้าช่วยอวยพรผมด้วยนะครับ......
อู๊ด: หวัดดีกี้
กี้: เออ อู๊ด หวัดดีจะ
อู๊ด: อยู่ไหนเหรอ
กี้: เราอยู่หออ่ะ
อู๊ด: สะดวกคุยมั๊ย เรามีอะไรจะบอก
กี้: อ่อ ..... บอกมาได้เลยจ้า
อู๊ด:……………………………..
กี้: ว่าไงเหรอ...
อู๊ด: คือกี้....เราแอบชอบกี้มานานแล้ว เราชอบกี้ตั้งแต่ปฐมนิเทศก์ตอน ม.1
เราแอบมองกี้ตอนเข้าแถว เราชอบกี้มาโดยตลอด จนถึงตอนนี้....
ไม่รู้ว่ากี้จะว่ายังไง....ถ้าเรา....
กี้: อ๋อ............
อู๊ด: ว่า????
กี้: ทำไมถึงเลือกที่จะบอกเราตอนนี้เหรอ
อู๊ด: เราเพิ่งกล้าน่ะ
กี้: ขอบคุณนะอู๊ด......เราก็ดีใจนะที่ได้รู้ว่าอู๊ดชอบเรามานานแล้ว แต่ถ้าอู๊ดเลือกที่จะบอกรักเราก่อนหน้านี้.......ป่านนี้เราคงได้คบกันไปแล้ว
อู๊ด: .........หมายความว่ายังไงเหรอ
กี้: หมายความว่า....ตลอดเวลาที่ผ่านมา...เราก็ชอบอู๊ดนะ แต่เราเป็นผู้หญิง...เราก็ไม่รู้ว่าอู๊ดคิดยังไง แต่ที่สำคัญที่สุด...คือ....อู๊ดจำได้ไหม ที่เราเคยถาม
อู๊ด เรื่องเอกที่เรียนคณะนิติศาสตร์น่ะ คือเรากับเค้าตอนนี้กำลังคบกันอยู่น่ะ........ แต่ยังไงเราก็ขอบคุณอู๊ดนะ....ที่รู้สึกดีกับเรามาตลอด
อู๊ด: ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอกี้
กี้: เมื่ออาทิตย์ที่แล้วจะ
การสนทนาของผมก็จบลงตั้งแต่วันนั้น.........................
จู่ๆผมก็ไม่เคยเห็นกี้ออนไลน์อีกเลย ผมลองสมัครเมลใหม่แล้วแอดไป
กี้รับแอดผม แต่พอคุยกันแล้วรู้ว่าเป็นผม...กี้ก็ออฟไลน์หายไปอีก
ถึงตอนนั้น ผมมั่นใจแล้วครับว่า กี้บล็อคผม.....
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องบล็อคผมจนกระทั่งบาสเล่าให้ผมฟังว่า
เอกแฟนของกี้เข้าไปอ่าน History แชตของอู๊ดกับกี้
เอกเลยยื่นคำขาดให้กี้ว่าห้ามติดต่อกับอู๊ดอีก
..............................................................
สิ่งที่ผมเสียใจที่สุดคือการที่ผมรอคอยเวลา.....
การที่ผมใช้เวลานานเกินไปในการรวบรวมความกล้า.....
เพราะที่ผ่านมา....กี้เองก็ชอบผมมาโดยตลอดเหมือนกัน
เอาเป็นว่า....หากคุณรู้สึกดีกับใคร ก็พยายามทำดีต่อกันไว้นะครับ
และหากคุณมั่นใจว่าคุณชอบเขาจริงๆ....คุณลองบอกเขาดูนะครับ...
จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลา เสียใจ และเสียดายอย่างผม.....นะครับ
ปล.เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากประสบการณ์จริงบางส่วนของเพื่อนผู้เขียนค่ะ
"รัก" ตอนที่ 3: เก็บอยู่ในหัวใจ....ของฉัน
ผมเองก็ไม่ทราบหรอกนะครับ ว่ามันจะเรียกว่า “รักครั้งแรก” ได้หรือไม่
ยังไงก็ลองฟังเรื่องของผมดูนะครับ
..............................................................
เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยผมอยู่มัธยมต้น ม.1 นั่นแหล่ะครับ
ผมไปชอบสาวคนนึงเข้า สาวคนนั้นเป็นลูกสาวอาจารย์ท่านหนึ่งในโรงเรียนครับ
เธอชื่อกี้ครับ กี้เป็นเด็กเรียนดี อยู่ห้องคิงเลยทีเดียว ส่วนผมก็แค่หางแมวอยู่ห้องธรรมดา
ผมรู้สึกชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น กี้แลดูเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ร่าเริง แจ่มใส
ผมมักจะแอบมองกี้เวลาเข้าแถวตอนเช้า
แอบมองกี้เวลากี้กินข้าวกับเพื่อนๆที่โรงอาหาร
แอบนั่งที่เดียวกับที่กี้นั่งเรียน
ผมได้แต่แอบชอบเธออยู่อย่างนั้น
..............................................................
พอเราขึ้น ม.2 มีอยู่ช่วงนึงที่กี้หายไปครับ หายไป 1 เดือนเลยทีเดียว
ผมก็ทำใจกล้า เดินเข้าไปถามอาจารย์สุทธินีย์ที่เป็นแม่ของกี้ว่ากี้หายไปไหน
และผมก็ได้คำตอบครับว่ากี้เป็นไข้เลือดออก แต่ก็ใกล้จะหายแล้ว เดี๋ยวกี้ก็กลับมาเรียน
ทั้งๆที่ผมรู้แล้วว่ากี้ไม่สบาย แต่เนื่องจากกี้เองแทบจะไม่รู้จักผมเลยด้วยซ้ำ ผมจึงไม่กล้าเข้าไปเยี่ยม
แต่หลังจากนั้น กี้ก็กลับมาเรียนตามปกติครับ
..............................................................
ม.3
เมื่อเราใกล้จบ ก็มีพิธีปัจฉิมนิเทศก์ที่เราทุกคนต้องมาค้างที่โรงเรียน
มีกิจกรรมมากมายที่นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วม และนั่นก็ทำให้ผมกับกี้ได้รู้จักกันครับ
คุยกันไปกันมาก็ได้ความว่ากี้จะเรียนต่อที่นี่จนจบม.6 ด้วยสายวิทย์-คณิต
ก็เข้าทางผมแล้วล่ะครับ พอผมทราบว่ากี้จะเรียนต่อที่นี่ ผมก็รีบตั้งใจอ่านหนังสือ
เพื่อที่ผมจะสามารถสอบเข้าสายวิทย์-คณิตและได้เรียนห้องเดียวกับกี้
.............................................................................
วันประกาศผลสอบเข้าม.4
เหมือนฟ้าผ่าลงมาที่ผม ไม่ว่าผมจะขยันอ่านหนังสือก่อนสอบสักเพียงใด
ด้วยบุญกรรมทำผลการเรียนของผมแต่ปางก่อน ส่งผลให้ผมสามารถเข้าเรียนสายวิทย์-คณิตได้
แต่.....ผมก็ยังเรียนห้องหางของสายวิทย์-คณิต และกี้ก็ยังคงได้เรียนห้องคิงเหมือนเดิม
ผมจะไม่ท้อครับ.....สักวันผมจะต้องอยู่ในสายตาของกี้ให้ได้
..............................................................
ม.4
ผมเริ่มตีสนิทกับเพื่อนผู้ชายในห้องของกี้ เพื่อที่ว่าผมจะได้เข้าไปมีส่วนร่วมชีวิตของกี้มากขึ้น
ทุกวันตอนเย็น ผมจะนัดเพื่อนผู้ชายห้องกี้มาเล่นบาสกันครับ และทุกวันที่กี้รอกลับบ้านพร้อมแม่
กี้ก็จะมาดูพวกผมเล่นบาส มาคอยเชียร์ข้างสนามทุกวัน และนั่นแหล่ะครับ...กี้เริ่มเห็นผมแล้ว
บางวันกี้ก็จะเชียร์ผมบ้าง (ก็เพราะผมอยู่ทีมเดียวกับเพื่อนกี้) แต่มันก็ทำให้ผมดีใจนะครับ
..............................................................
ม.5
กี้เริ่มขยันเรียนมากขึ้น เพราะต้องเตรียมทำคะแนนสอบให้ดี จะได้สอบเข้าเรียนในที่ที่อยากเรียน
ช่วงม.5 นี้ผมก็เพิ่งค้นพบตัวเองว่า การที่ผมมาเรียนสายวิทย์ตามกี้นั้น ทำให้เกรดผมแย่ลงไปกว่าเดิม
ผมจึงมุ่งเน้นและตั้งใจอ่านหนังสือให้หนักขึ้น เพื่อที่จะสอบเข้าคณะที่ผมอยากจะเรียนจริงๆเหมือนกัน
..............................................................
ม.6
ด้วยบุญที่เราคงเคยทำมาด้วยกัน....ส่งผลให้ผมสอบเข้าในคณะที่ผมอยากเรียนได้จริง
และที่ดีไปกว่านั้นคือผมและกี้ได้เรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันครับ
..............................................................
ณ ตอนนี้ พ้นจากสายตาของคุณแม่ของกี้แล้ว
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย.....ผมรุกจีบกี้ได้อย่างเต็มที่....ผมคิดเอาเองนะ
แต่ผมคงคิดผิด เพราะตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมา...มาไม่เคยเจอกี้เลย
จนกระทั่งวันหนึ่ง.....
“ฮัลโหล อู๊ด...เฮ้ย วันนี้เราจะไป ม. นายนะ กินข้าวกันป่าว”
บาส...หนึ่งในเพื่อนร่วมห้องม.ปลายของกี้ โทรมาชวนผมทานข้าวครับ
อันตัวผมเองก็ว่าง...ผมจึงไม่ปฏิเสธ วันนั้นผมยังจำได้ว่าเรานัดกันที่ร้านสเต็กแห่งหนึ่ง....
..............................................................
ณ ร้านสเต็ก
ผมไปถึงร้านเป็นคนสุดท้าย เนื่องจากบาสโทรมาตอนที่ผมยังอยู่ที่บ้าน
ที่โต๊ะอาหาร มีคน 3 คนนั่งอยู่ที่โต๊ะ...ผมเห็นบาส....แนน และผู้หญิงคนหนึ่งนั่งหันหลัง...ผมไม่แน่ใจเลยว่าเขาเป็นใคร
เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ บาสหันมาเห็นผม...จึงตะโกนเรียกและทักทายผมทันที
“เฮ้ย อู๊ด ทางนี้......คิดถึงว่ะ”
ทันใดนั้นผู้หญิงที่นั่งหันหลัง...ก็หันหน้ามาทางผม
ผู้หญิงคนนั้น.....กี้ครับ ผู้หญิงที่ผมเฝ้าตามหามาแสนนาน สุดท้ายวันนี้ก็ได้เจอ
ผมทานข้าวอย่างเขินอาย ซึ่งตรงกันข้ามกับกี้....ที่นั่งคุยอย่างออกรส ยิ้ม หัวเราะ อย่างมีความสุข
หลังจากทานข้าวเราก็ไปต่อกันที่ตู้คาราโอเกะครับ.......
พอร้องกันไปสักพัก...บาสและแนนก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ ทิ้งไว้แค่ผมกับกี้
ผมรู้สึกประหม่า...อึดอัด...พูดไม่ออก...บอกไม่ถูก
พอกี้เห็นผมแบบนั้น กี้ก็กดเพลงครับ หยิบไมค์ขึ้นมาสองอัน อันหนึ่งส่งให้ผม อีกอันกหนึ่งกี้ร้องครับ
ผมรับไมค์ก็ยังเขินๆ จนกระทั่งกี้ร้องเพลงท่อนแรกออกมาว่า
“ความปวดร้าวที่อยู่ในใจ...ทนและฝืนเก็บมันอยู่ข้างใน ความทรงจำวันคืนที่โหดร้าย...ไม่มีเธอ...ไม่มีเธอ”
ผมช็อคครับ....ผู้หญิงแสนเรียบร้อย สุดน่ารักของผม.....เธอร้องเพลงไม่มีเธอของ Retrospect
ผมได้แต่ถือไมค์แล้วก็มองเธอ.....และไม่มีอะไรน่าช็อคไปกว่าตอนที่เธอร้องท่อน
“เพราะเธอ....ทำให้ฉันได้พบเจอ ทำให้ฉันหลงละเมอ สิ่งที่เรียกว่ารัก ไม่ ไม่ ไม่”
ถ้าใครนึกไม่ออกลองไปหาฟังดูนะครับ.....
ผมหลุดหัวเราะออกมาอย่างดังครับ ผมไม่คิดเลยว่ากี้ของผมจะร้องแพลงแบบนี้
ผมพยายามหยุดหัวเราะกี้ แต่ผมก็ทำไม่ได้....กี้คงจะโกรธผมมากๆ
แต่ผิดคาดครับ....กี้ก็หัวเราะออกมาอย่างพอใจแล้วก็พูดกับผมว่า
“ทีนี้ก็ไม่ต้องเขินเราแล้วนะ”
ครับแล้วหลังจากนั้นผมก็คุยกับกี้ได้อย่างสนิทใจ............
..............................................................
มีหลายครั้งที่เราบังเอิญเจอกันที่ตึกคณะ
ครับ...กี้ก็ทักทายผมอย่างสนิทสนม และผมก็รู้สึกดีมากที่เป็นแบบนี้
วันหนึ่ง ผมบังเอิญเจอกี้ครับ กี้ถามผมว่ารู้จักเอกไหม เอกที่เรียนคณะนิติศาสตร์ภาคปก
ถึงรัฐศาสตร์กับนิติศาสตร์จะเรียนที่ตึกเดียวกัน....แต่ผมก็ไม่รู้จักเอกหรอกครับ
..............................................................
หลังจากที่เราเจอกันอีกครั้ง....ผมก็เลยขอ MSN ของกี้ครับ
ผมได้เอ็มกี้มา....ผมก็รีบแอดไปเลยครับ แต่ให้ตายเถอะ...ผมเห็นเธอออนไลน์ แต่ไม่เคยกล้าที่จะทักก่อน
ผมรอแล้ว รอเล่า...รอจนในที่สุดกี้ก็ทักมาครับ
กี้: อู๊ด.....ทำไรอยู่
อู๊ด: หวัดดีกี้.....อ่อ เราฟังเพลงอยู่
กี้: เฮ้ย ฟังเพลงไรเหรอ
อู๊ด: เพลง.....ฟ้า ของ Tattoo colour น่ะ
กี้: มันเป็นยังไงเหรอ....
อู๊ด: เดี๋ยวเราส่งให้นะ
ผมเริ่มส่งเพลงของ Tattoo colour ให้กี้ครับ ส่งจนหมดทุกเพลงเลยทีเดียว
แล้วก็โชคดีครับที่กี้ก็ชอบฟัง......
..............................................................
สองอาทิตย์หลังจากนั้น ผมจึงตัดสินใจที่จะบอกกี้ถึงความในใจของผม....
ขอพระเจ้าช่วยอวยพรผมด้วยนะครับ......
อู๊ด: หวัดดีกี้
กี้: เออ อู๊ด หวัดดีจะ
อู๊ด: อยู่ไหนเหรอ
กี้: เราอยู่หออ่ะ
อู๊ด: สะดวกคุยมั๊ย เรามีอะไรจะบอก
กี้: อ่อ ..... บอกมาได้เลยจ้า
อู๊ด:……………………………..
กี้: ว่าไงเหรอ...
อู๊ด: คือกี้....เราแอบชอบกี้มานานแล้ว เราชอบกี้ตั้งแต่ปฐมนิเทศก์ตอน ม.1
เราแอบมองกี้ตอนเข้าแถว เราชอบกี้มาโดยตลอด จนถึงตอนนี้....
ไม่รู้ว่ากี้จะว่ายังไง....ถ้าเรา....
กี้: อ๋อ............
อู๊ด: ว่า????
กี้: ทำไมถึงเลือกที่จะบอกเราตอนนี้เหรอ
อู๊ด: เราเพิ่งกล้าน่ะ
กี้: ขอบคุณนะอู๊ด......เราก็ดีใจนะที่ได้รู้ว่าอู๊ดชอบเรามานานแล้ว แต่ถ้าอู๊ดเลือกที่จะบอกรักเราก่อนหน้านี้.......ป่านนี้เราคงได้คบกันไปแล้ว
อู๊ด: .........หมายความว่ายังไงเหรอ
กี้: หมายความว่า....ตลอดเวลาที่ผ่านมา...เราก็ชอบอู๊ดนะ แต่เราเป็นผู้หญิง...เราก็ไม่รู้ว่าอู๊ดคิดยังไง แต่ที่สำคัญที่สุด...คือ....อู๊ดจำได้ไหม ที่เราเคยถาม
อู๊ด เรื่องเอกที่เรียนคณะนิติศาสตร์น่ะ คือเรากับเค้าตอนนี้กำลังคบกันอยู่น่ะ........ แต่ยังไงเราก็ขอบคุณอู๊ดนะ....ที่รู้สึกดีกับเรามาตลอด
อู๊ด: ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอกี้
กี้: เมื่ออาทิตย์ที่แล้วจะ
การสนทนาของผมก็จบลงตั้งแต่วันนั้น.........................
จู่ๆผมก็ไม่เคยเห็นกี้ออนไลน์อีกเลย ผมลองสมัครเมลใหม่แล้วแอดไป
กี้รับแอดผม แต่พอคุยกันแล้วรู้ว่าเป็นผม...กี้ก็ออฟไลน์หายไปอีก
ถึงตอนนั้น ผมมั่นใจแล้วครับว่า กี้บล็อคผม.....
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องบล็อคผมจนกระทั่งบาสเล่าให้ผมฟังว่า
เอกแฟนของกี้เข้าไปอ่าน History แชตของอู๊ดกับกี้
เอกเลยยื่นคำขาดให้กี้ว่าห้ามติดต่อกับอู๊ดอีก
..............................................................
สิ่งที่ผมเสียใจที่สุดคือการที่ผมรอคอยเวลา.....
การที่ผมใช้เวลานานเกินไปในการรวบรวมความกล้า.....
เพราะที่ผ่านมา....กี้เองก็ชอบผมมาโดยตลอดเหมือนกัน
เอาเป็นว่า....หากคุณรู้สึกดีกับใคร ก็พยายามทำดีต่อกันไว้นะครับ
และหากคุณมั่นใจว่าคุณชอบเขาจริงๆ....คุณลองบอกเขาดูนะครับ...
จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลา เสียใจ และเสียดายอย่างผม.....นะครับ
ปล.เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากประสบการณ์จริงบางส่วนของเพื่อนผู้เขียนค่ะ