เลขาธิการ กปปส. ขู่ กกต. หากดึงดันจัดการเลือกตั้ง จะมีประชาชนจาก 15 จังหวัด ออกมาต่อต้านแน่ หวังวุฒิสภาหนุนนายกฯมาตรา 7.


เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 15 พ.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขึ้นเวทีถนนราชดำเนิน หน้าตึกองค์การสหประชาชาติ กล่าวปราศรัยต่อหน้ามวลชน กปปส. ถึงเรื่องที่เดินทางไปยังกองทัพอากาศ ว่า ต้องการไปพบนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ที่กำลังประชุมกับ กกต. แต่เมื่อไปถึง นายนิวัฒน์ธำรงได้วิ่งหนีออกจากหอประชุม โดยมีข่าวว่าไปอยู่ที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง และพรุ่งนี้จะหนีไปอยู่เชียงราย จึงสรุปได้ว่าคนพวกนี้ไม่มีทางร่วมมือกับกปปส.ได้ ซึ่งการไปครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณนายทหารของกองทัพอากาศ ที่ให้การต้อนรับอย่าดี



นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนการไปพบกับ กกต. ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี โดยเฉพาะประธานกกต.ซึ่งเป็นอดีตผู้พิพากษา ได้พูดถ้อยคำที่สำคัญคำหนึ่งว่า ประชาธิปไตย ประชาชนต้องมีส่วนรวมทางการเมืองในทุกขั้นตอน ส่วนนายสมชัย กกต. บอกว่า กกต.มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง จึงต้องทำให้การเลือกตั้งสำเร็จ แต่ต้องคำนึงว่าต้องไม่เกิดการสูญเสีย และต้องเป็นทางออกของประเทศด้วย ตนจึงบอกไปว่า ถ้า กกต. มีหน้าที่เพียงจัดการเลือกตั้งให้เสร็จ เกรงว่าจะไม่ใช่ความคิดที่ตรงกับของประชาชน ที่คาดหวังว่ากกต.ต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ ให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม และเป็นไปตามกฎหมาย ดังนั้นจะบอกเพียงว่าจะทำให้การเลือกตั้งเสร็จๆ ไปนั้น คงไม่ได้ ไม่ใช่สิ่งที่ กกต. ต้องทำตามความคาดหวังของประชาชน



นอกจากนี้ เลขาธิการ กปปส. ยังกล่าวต่อว่า ตนได้เรียนไปว่า กกต.ต้องทำให้รากฐานของประชาธิปไตยที่แข็งแรง ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่ซื้อกันได้ ซึ่งตนได้บอกไปตรงๆ ว่า ที่ผ่านมา กกต. ไม่เคยจับโกงเลือกตั้งได้เลย เพียงแต่ลงมาสอบสวนตามที่มีคนร้องมา แม้แต่เรื่องที่ไปถึงศาลและศาลให้ยุบพรรคการเมือง พรรคการเมืองพรรคนั้นก็ไปเปลี่ยนชื่อมาลงเลือกตั้งอีก และก็ชนะอีก เข้ามามีอำนาจในบ้านเมืองอีก เมื่อเป็นอย่างนี้จะเลือกตั้งกันไปทำไม ส่วน ส.ส.ที่เข้ามา ก็เกินกว่าครึ่งที่ซื้อเสียงเข้ามา เพราะฉะนั้น ถ้ากกต.เพียงจัดการเลือกตั้งให้เสร็จ ก็จะไม่เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองเลย



นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ตนได้บอกกับ กกต.ไปว่า  ถ้าจะแก้ปัญหา ต้องแก้ที่พรรคการเมือง ต้องไม่ยอมให้นายทุนมาตั้งพรรคการเมือง แล้วทำปู้ยี่ปู้ยำกับประเทศไทย และแม้แต่เรื่องนโยบายพรรคที่ใช้ในการหาเสียงกกต.ก็ต้องควบคุมให้ได้ รวมทั้งนโยบายประชานิยม เช่น การจำนำข้าว จะเอามาใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงไม่ได้ เพราะเท่ากับเอาเงินของประชาชนมาใช้หาเสียง และถ้ายังปล่อยให้มีการซื้อเสียงพรรคต่างๆก็จะแข่งกันซื้อเสียง แล้วสุดท้ายจะมีแต่คนที่ไม่เคารพกฎหมายเข้ามาเต็มสภา ดังนั้นการแก้ไขโดยการปฎิรูปการเมืองจึงต้องทำทั้งการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับพรรคการเมือง และกระบวนการต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมด



เลขาธิการ กปปส. ยังกล่าวด้วยว่า กกต. บอกว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปฏิรูปประเทศ ซึ่งกกต. เห็นว่าควรจะทำเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ส่วนหลังไปทำหลังจากเลือกตั้งแล้ว และถามว่า กปปส.จะยอมรับได้หรือไม่ ถ้าจะจัดการเลือกตั้งขึ้นใน 2-3 เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งตนได้ตอบไปว่า ท่านคิดว่าท่านจะใช้เวลานานเท่าไหร่ที่จะให้ประชาชนเชื่อว่า ท่านมีขีดความสามารถที่จะจัดเลือกตั้งได้อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยปราศจากการแทรกแซง ซึ่งตนขอย้ำว่าถ้า กตต.ยังยืนยันว่าจะมีการจัดเลือกตั้งให้ได้ ก็จะมีประชาชนอย่างน้อย 15 จังหวัด ออกมาต่อต้านและขัดขวาง โดยตอนนี้มีกระแสจากวุฒิสภาว่า ไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรี มาตรา 7 ได้ ซึ่งวุฒิสภาคนที่ออกมาขัดขวางการเลือกตั้งนายกฯมาตรา 7 นั้น เป็นคนของระบอบทักษิณ ที่ต้องการจะขอยื้อเวลาให้มีการซื้อเสียงของคณะวุฒิสภาทั้งหมด โดยตนรอความหวังจากวุฒิสภากลุ่มเดียว ที่มีอำนาจทำได้ตามประเพณีการปกครอง สามารถเสนอนายกรัฐมนตรีได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่