ผมเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
เมื่อครั้งหนึ่ง... ฝันคิดอยากจะเก็บเงินสักก้อน เพื่อดาวน์รถยนต์ไว้ใช้สักคัน
สมัยนั้นผมรับเงินเดือนอยู่ประมาณ ไม่ถึง 2 หมื่นบาท
ก็มีเสียงจากหลายๆทางห้ามไว้ ให้คิดให้ดี เงินเดือนแค่นั้นไม่ใช่แค่คิดว่า ค่างวดรถในแต่ละเดือน...
ไหนจะมีค่าน้ำมัน ค่าน้ำมันเครื่อง ค่าประกันรถยนต์อีก ค่าจอดรถ (ที่บ้านไม่มีที่จอด ต้องอาศัยเช่าที่จอดถูกที่สุดที่หาได้ ก็ 1,200 บาท ปัจจุบันไม่ต้องละ)
...แต่ผมก็เลือกที่จะสร้างหนี้ครับ โดยมีความหวังว่า หนี้จะทำให้ ตัวเองขยันขึ้น...
ผ่อนปีแรกเริ่มไม่ไหว บริษัทมีแนวโน้มจะปิด... ผมก็แก้ปัญหาโดยการออกหางานใหม่ที่ได้รับเงินเดือนมากขึ้น
ผ่อนปีที่สอง ใช้ชีวิตแบบคาบเส้น มาโดยตลอด รายรับชนรายจ่าย หนี้สินมีบ้างปะปลาย
ผ่อนปีที่ 3 โตขึ้น จากที่เป็นคนกลัวการเข้าสังคม ผมเริ่มเปลี่ยนความคิด เริ่มหารายได้เสริม ทำทุกๆทางจากด้วยความสามารถ.....ผมก็สู้มาแบบชนิด ไม่สนวัน เดือน ปี
จนวันนี้ ก็มาถึงวันที่ ผมได้ถือครอบครองกรรมสิทธิ์ ได้เป็นเจ้าของรถสมอยาก
5 ปีที่ผ่านมา
...ในวันนี้ผมเห็น รถสมัยนี้เทคโนโลยีใหม่ๆ ก็เอามาลงในรถรุ่นเล็กๆ ราคาประหยัด
โปรโมชั่น ของแถม ส่วนลด การตลาด ดึงดูด เหลือเกิน
ก็เริ่มมีความคิด อยากจะเปลี่ยน
พอลองมาเช็คราคากลางรถมือสองตัวเอง แทบทรุด ราคาที่เคยซื้อแสนปลายๆ กับเหลือแค่ประมาณ 3 แสนต้นๆ
ตอนนี้ เลยได้แต่คิดหาจุดคุ้มทุนของรถ 1 คันอยู่ ?
หรือจะทนใช้ไปอีกสัก 2 ปี หรือกระทั้งใช้ไปเรื่อยๆ มูลค่ารถกับซ่อมบำรุง ที่ค่อยๆหายไปในแต่ละปี ?
ถ้าคิดแบบนักเศรษฐศาสตร์ ผมควรกลับไปเริ่มต้น จุดเดิมอีกครั้งกับอายุที่มากขึ้น...หรือทนใช้ต่อไป รอจนต้องต้องผ่อนรถใหม่ในอายุ ที่มากกว่าอีกครั้ง
แล้วเรื่องแบบนี้มันกำลังจะเกิด ขึ้นกับผมอีกครั้ง!!
เมื่อครั้งหนึ่ง... ฝันคิดอยากจะเก็บเงินสักก้อน เพื่อดาวน์รถยนต์ไว้ใช้สักคัน
สมัยนั้นผมรับเงินเดือนอยู่ประมาณ ไม่ถึง 2 หมื่นบาท
ก็มีเสียงจากหลายๆทางห้ามไว้ ให้คิดให้ดี เงินเดือนแค่นั้นไม่ใช่แค่คิดว่า ค่างวดรถในแต่ละเดือน...
ไหนจะมีค่าน้ำมัน ค่าน้ำมันเครื่อง ค่าประกันรถยนต์อีก ค่าจอดรถ (ที่บ้านไม่มีที่จอด ต้องอาศัยเช่าที่จอดถูกที่สุดที่หาได้ ก็ 1,200 บาท ปัจจุบันไม่ต้องละ)
...แต่ผมก็เลือกที่จะสร้างหนี้ครับ โดยมีความหวังว่า หนี้จะทำให้ ตัวเองขยันขึ้น...
ผ่อนปีแรกเริ่มไม่ไหว บริษัทมีแนวโน้มจะปิด... ผมก็แก้ปัญหาโดยการออกหางานใหม่ที่ได้รับเงินเดือนมากขึ้น
ผ่อนปีที่สอง ใช้ชีวิตแบบคาบเส้น มาโดยตลอด รายรับชนรายจ่าย หนี้สินมีบ้างปะปลาย
ผ่อนปีที่ 3 โตขึ้น จากที่เป็นคนกลัวการเข้าสังคม ผมเริ่มเปลี่ยนความคิด เริ่มหารายได้เสริม ทำทุกๆทางจากด้วยความสามารถ.....ผมก็สู้มาแบบชนิด ไม่สนวัน เดือน ปี
จนวันนี้ ก็มาถึงวันที่ ผมได้ถือครอบครองกรรมสิทธิ์ ได้เป็นเจ้าของรถสมอยาก
5 ปีที่ผ่านมา
...ในวันนี้ผมเห็น รถสมัยนี้เทคโนโลยีใหม่ๆ ก็เอามาลงในรถรุ่นเล็กๆ ราคาประหยัด
โปรโมชั่น ของแถม ส่วนลด การตลาด ดึงดูด เหลือเกิน
ก็เริ่มมีความคิด อยากจะเปลี่ยน
พอลองมาเช็คราคากลางรถมือสองตัวเอง แทบทรุด ราคาที่เคยซื้อแสนปลายๆ กับเหลือแค่ประมาณ 3 แสนต้นๆ
ตอนนี้ เลยได้แต่คิดหาจุดคุ้มทุนของรถ 1 คันอยู่ ?
หรือจะทนใช้ไปอีกสัก 2 ปี หรือกระทั้งใช้ไปเรื่อยๆ มูลค่ารถกับซ่อมบำรุง ที่ค่อยๆหายไปในแต่ละปี ?
ถ้าคิดแบบนักเศรษฐศาสตร์ ผมควรกลับไปเริ่มต้น จุดเดิมอีกครั้งกับอายุที่มากขึ้น...หรือทนใช้ต่อไป รอจนต้องต้องผ่อนรถใหม่ในอายุ ที่มากกว่าอีกครั้ง