(เมื่อคนดังลืมหลังควาย) ศาลอนุมัติหมายจับ 30 แกนนำกปปส. - คปท. ข้อหากบฏ - "พุทธอิสระ-น้องตั๊น" โดนด้วย

กระทู้ข่าว
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 17:17 น.  ข่าวสดออนไลน์


ศาลอนุมัติหมายจับ 30 แกนนำกปปส. - คปท. ข้อหากบฏ - "พุทธอิสระ-น้องตั๊น" โดนด้วย

ศาลอาญา ออกหมายจับ “30 แกนนำกปปส.-คปท.” ข้อหากบฏและอื่นๆรวม 8 ข้อหาแล้ว  ภายหลังอัยการสั่งฟ้องคดี  เพื่อให้ติดตามตัวมายื่นฟ้องต่อศาล  ส่วนอีก 13 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรฯ ให้ยกคำร้อง  เหตุ  ตัวอยู่ในอำนาจศาลคดีปิดสนามบินแล้ว อัยการสามารถยื่นฟ้องศาลได้เลย

เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 14 พฤษภาคม ที่ห้องพิจารณาคดี 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ ดีเอสไอ ยื่นคำร้องขอให้ศาลอนุมัติหมายจับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำกปปส. ผู้ต้องหาที่ 2 และแกนนำกปปส. รวม 43 คน ผู้ต้องหาคดีกบฏและความผิดอื่น รวม 8 ข้อหา เพื่อติดตามตัวมาดำเนินกระบวนการตามกฎหมายที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องไปเมื่อวันที่  8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

โดยก่อนอ่านคำสั่ง ศาลได้กล่าวชี้แจงต่อคู่ความว่า ในการพิจารณาออกคำสั่ง ศาลได้ตรวจสอบก่อนว่าผู้ที่ถูกนำมาออกหมายจับมีคดีในชั้นศาลและได้มีการฝากขังเรียบร้อยแล้วหรือไม่ และการพิจารณาของศาลได้ยึดหลักกฎหมายที่บัญญัติไว้ รวมถึงปฏิบัติตามข้อบังคับของศาลอาญาเหมือนเช่นที่เคยทำ ซึ่งเป็นการพิจารณาอย่างรอบคอบตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ ไม่ได้มองว่าผู้ต้องหาเป็นฝ่ายไหน โดยได้ปรึกษาผู้บริหารและอธิบดีศาลอาญาเรียบร้อยแล้ว    

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามทางไต่สวนได้ความว่า ที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 43 คนนั้น พนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาดังกล่าวแล้ว ตามหนังสือที่ อส. 0010.4/292 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 แต่ไม่ได้ตัวผู้ต้องหาดังกล่าวมาฟ้องต่อศาลนั้น ปรากฏข้อเท็จจริงตามรายงานเจ้าหน้าที่ของศาลอาญา ฉบับลงวันที่ 12 พฤาษภาคม 2557 ว่า

ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ต้องหาที่ 13 เป็นบุคคลเดียวกับจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขดำ อ.1279/2556
พล.อ.ปฐมพงษ์ เกสรศุกร์ ผู้ต้องหาที่ 31 เป็นบุคคลเดียวกับจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1406/2556
นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ผู้ต้องหาที่ 51 เป็นบุคคลเดียวกับจำเลยที่ 1 คดีอาญาหมายเลขดำ อ.1087/2556
น.ส.อัญชะลี ไพรีรักษ์ ผู้ต้องหาที่ 10
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ผู้ต้องหาที่ 15
นายสมบูรณ์ ทองบุราณ ผู้ต้องหาที่ 18
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ต้องหาที่ 32
นายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี ผู้ต้องหาที่ 37
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ผู้ต้องหาที่ 39
นายสาวิทย์ แก้วหวาน ผู้ต้องหาที่ 41
นายกิตติชัย ใสสะอาด ผู้ต้องหาที่ 43
นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ ผู้ต้องหาที่ 46  
นายสำราญ รอดเพชร ผู้ต้องหาที่ 52
เป็นบุคคลเดียวกับจำเลยที่ 16, 6, 21, 5, 13, 4, 10,29, 20 และที่ 8 ในคดีอาญาหมายเลขดำ อ.973/2556   ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  ในคดีบุกยึดสนามบินดอนเมืองและสุวรรรภูมิ เมื่อปี 2551  ของศาลอาญา ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณา ถือได้ว่าผู้ต้องหาดังกล่าวอยู่ในอำนาจของศาลอาญาแล้ว เมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยดังกล่าวหลบหนีระหว่างการปล่อยชั่วคราว ศาลอาญาย่อมมีอำนาจที่จะบังคับให้ผู้ประกันส่งตัวจำเลยต่อศาลในคดีที่พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องไว้แล้วเพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปดังนั้นพนักงานอัยการจึงสามารถฟ้องผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นจำเลยต่อศาลได้โดยไม่ต้องนำตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องศาลจึงไม่จำต้องออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง13 คนเพื่อนำตัวมาฟ้องคดี ให้ยกคำร้องในส่วนนี้

ส่วนผู้ต้องหาอีก 30 คน ประกอบด้วย

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
นายชุมพล จุลใส
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
นายอิสสระ สมชัย
นายวิทยา แก้วภราดัย
นายถาวร เสนเนียม
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์
นายนิติธร ล้ำเหลือ
นายอุทัย ยอดมณี
พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ
นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์
พ.ต.ท.สุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์
นางสาวจิตภัสร์ กฤดากร  หรือ ภิรมย์ภักดี
นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
นายเสรี วงษ์มณฑา
นายกิตติศักดิ์ ปรกติ
นายถนอม อ่อนเกตุพล
พระสุวิทย์ ทองประเสริฐ (พระพุทธอิสระ)
นายสาธิต เซกัล (MR.SEHGAL SATISH)
นายคมสัน ทองศิริ
นายมั่นแม่น กะการดี
นายประกอบกิจ อินทร์ทอง
นายนัสเซอร์  ยีหมะ
นายพานสุวรรณ ณ แก้ว
นางสาวรังสิมา รอดรัศมี
นางทยา ทีปสุวรรณ
พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี
พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ
ซึ่งยังจับตัวไม่ได้ จึงอนุญาตให้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 30 คนดังกล่าวข้างต้นเพื่อนำตัวมาฟ้องคดี

โดยให้หมายเหตุไว้ในหมายจับด้วยว่า “เจ้าพนักงานมีอำนาจควบคุมผู้ถูกจับได้เพียงเท่าที่จำเป็นในการนำตัวส่งฟ้องต่อศาลเท่านั้น” และให้เพิกถอนหมายจับฉบับเดิมที่ศาลอาญาเคยออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 3-5, 11-13, 37, 40, 43 และ 52

ภายหลัง พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า หลังจากนี้ต้องแจ้งผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่งจะเห็นด้วยกับคำสั่งศาลหรือไม่ ต้องให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณา  

ด้านนายวิโรจน์ ภูมิศิริสวัสดิ์ ทีมทนายความกปปส. กล่าวว่า คำสั่งศาลดังกล่าวที่ออกหมายจับบางคน และยกคำร้องบางส่วน ก็ถือว่าได้พิจารณาตามข้อกฎหมายแล้ว โดยหมายจับที่ศาลอาญาออกครั้งนี้ถือว่ามีผลเฉพาะให้ดีเอสไอนำตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องดำเนินคดีเท่านั้น ซึ่งต่างจากหมายจับเดิมของผู้ต้องหาบางราย ที่หากจับตัวได้พนักงานสอบสวนอาจจะควบคุมตัวไว้ก่อนได้ หลังจากนี้จะกลับไปแจ้งให้แกนนำกปปส. และคปท.ทราบถึงคำสั่งศาล เพื่อหารือแนวทางในการต่อสู้คดี โดยแนวทางที่พิจารณาไว้อาจจะยืนอุทธรณ์คำสั่งออกหมายจับของศาลดังกล่าวต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่