มีปัญหากับน้าเกี่ยวกับรถยนต์ค่ะ ยาวหน่อยนะคะ
เริ่มต้นนะคะ เมื่อ 3 ปี ที่แล้วเราได้ซื้อรถ Ople จากที่รู้จัก (ราคาไม่แพงมาก) คันนึงสภาพพอใช้งานได้ให้แม่ใช้ พอให้แม่ได้ขับไปวัด ไปตลาด ไปธุระใกล้ๆ ละแวกบ้านหรือเดินทางในระยะทางที่ไม่ไกลมาก ใช้มาเรื่อยๆ ก็ไม่เจอปัญหาจุกจิกเกี่ยวกับรถเลย รถใช้งานได้ดีมากๆ ด้วยซ้ำ แต่มาวันนึงเกิดปัญหาระหว่างแม่กับน้า (ปัญหาพี่น้อง) หลานๆ อย่างเราก็เลยไม่เข้าไปยุ่งยุ่ง ที่ทราบคือ แม่เป็นหนี้น้าประมาณ 1 แสน บาท พอเรากลับบ้านต่างจังหวัด ก็ได้สังเกตว่า ทำไมรถแม่ไม่จอดอยู่บ้านเรา แต่กลับไปจอดประจำที่บ้านน้าแล้ว น้าก็เป็นคนใช้ตลอดก็เลยรู้โดยปริยายว่าแม่ได้เอารถคันนี้ให้น้าเป็นการใช้หนี้ของจำนวนเงิน 1 แสนบาทนั้นเราก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ให้แม่กับน้าคุยกันและตกลงกันเอาเอง (แต่รถยังเป็นชื่อแม่ไม่ได้โอนเป็นชื่อน้าแต่อย่างใด)
ล่าสุดแม่ก็ไม่มีรถยนต์ใช้ ก็อยู่บ้านไม่เดือนร้อนอะไร แม่ก็อยู่ได้ที่ปัญหามันเกิด คือ เมื่อช่วงเดือน มีนาที่ผ่านมา เราก็กลับไปเยี่ยมบ้านตามปกติ อยู่ๆ น้าก็อยากได้รถคันใหม่ ก็วางแผนหาเงินดาวน์รถใหม่ (ราคาดาวน์ประมาณ 8 หมื่น บาท) แต่น้าไม่มีเงินสด หรือ เงินทุนเลย อยู่ๆ แกก็มาบอกว่าจะขายรถคันเก่าของแม่นี้คืนให้เรา ในราคา 7 หมื่นบาท โดยจะขอเป็นเงินสดทันที เมื่อน้ามาบอกแบบนี้ เราก็คิดว่า
.. เออแม่ก็ยังไม่ได้จำเป็นต้องใช้รถอะไรมากมาย ก็เลยคุยกับแม่ว่าไม่ต้องเอาคืนมาหรอกนะ แต่ใจนึงก็คิดว่ามันเข้าหน้าฝนแล้วเวลาไปไหนมาไหนแม่เดินทางลำบากถ้าได้คืนมาก็ดีอย่างนึง แต่แม่ยังไงก็ได้ตามใจลูก ... เราก็เลยตัดสินใจบอกน้าว่ายังไม่เอาคืนดีกว่า เพราะเรามีเงินเก็บแค่ 6 หมื่นเอง ไม่พอให้น้าหรอก ถ้าจะให้คืน ให้ได้แค่ 5 หมื่นจริงๆ อีกหมื่นนึงก็ขอเก็บไว้ใช้จ่าย น้าก็ต่อรองเหลือ 6 หมื่น (เราไม่มีจริงๆ ) ให้ได้ 5 หมื่นเท่านั้นจริงๆ นะ ก็เลยบอกน้าว่าถ้าจะเอา 7 หมื่นไม่มี แต่ถ้าน้าจะเอา 5 หมื่น เราจะโอนเงินให้ทันที แล้วก็บอกน้าว่าลองเอารถคันนี้ไปถามราคาเต้นท์ดู อาจจะได้ราคาตามที่น้าต้องการ แกก็ยกเรื่องแม่มาอ้างสารพัด ว่า ไม่สงสารถเหรอเพราะคันนี้เคยเป็นของแม่มาก่อน ไม่อยากไปขายให้คนอื่น เก็บไว้ให้ญาติๆ ล่ะดีแล้ว อีกอย่างบอกเราว่าไม่สงสารแม่แกเหรอไปไหนมาไหนลำบากนะ เราก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ได้ 5 หมื่นจริงๆ ให้น้าลองคิดและตัดสินใจดู ถ้าน้าโอเคที่เรามี 5 หมื่น และรับได้ก็ให้เอาเลขที่ บช มานะ แล้วเราจะโอนเงินให้ทันนที รุ่งเช้าน้าก็เอาเลขที่ บช มาให้เรา แล้วเราก็โอนให้แกทันที 5 หมื่น
นับตั้งแต่วันที่โอนจนถึงวันนี้เป็นเวลเดือนกว่าแล้ว เราก็เข้าใจมาโดยตลอดว่าว่าแม่เราได้ใช้รถไปไหนมาไหนแล้ว เพราะทุกครั้งที่โทรคุยกันก็จะคุยเรื่องรถเราก็จะบอกแม่ว่าดูแลสภาพมันดีๆ นะเพราะช่วงที่รถอยู่กับน้าสภาพมันเยินมากแล้ว พอได้มันกลับมาก็ดูแลรักษามันดีๆ พอยืดเวลาการใช้งานออกไปได้ยาวหน่อย แม่ก็รับปากดี ถามทีไรก็บอกว่ารถก็จอดอยู่ที่บ้านนี้ล่ะ ไม่ค่อยได้ขับไปไหนไปแต่วัด ตลาด เราก็เบาใจว่าอย่างน้อยแม่ไม่ต้องลำบากเรื่องเดินทาง เพราะบ้านเราอยู่ชานเมืองจะไปไหนทีมันลำบาก
แต่เราเพิ่งรู้เมื่อวานนี่เองว่าน้ายังไม่ได้เอารถคืนให้แม่เราเลย โดยให้เหตุผลว่าแม่เรายังไม่มีธุระจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้รถ และทุกครั้งที่เราคุยและถามเรื่องรถคือแม่โกหกลูกมาตลอดว่าได้รถคืนมาแล้ว ซึ่งแท้จริงน้าไม่คืนให้ แต่แม่ก็บอกน้าไปแล้วว่าลูกๆ รู้แล้วนะว่าน้ายังไม่คืนรถให้แม่ แก่เลยบอกให้แม่โกหกพวกเราว่าก็บอกพวกเราไปสิ ว่าได้คืนมาแล้วเราก็งง ว่าทำไมน้าเห็นแก้ตัวจัง แล้วทำไมไม่คืน จนเราตัดสินใจถามแม่ว่าเหตุผลที่น้าไม่คืนรถ มันคืออะไร แม่บอกว่า (น้าบอกแบบนี้)
1) น้าไม่มีรถใช้ ถ้าเอาให้แม่แล้วฉันจะใช้อะไร
2) เงิน 5 หมื่นที่เราให้มันไม่พอดาวน์คันใหม่ ต้องรอเงินอีกจำนวนนึง ที่น้าขอยืมกับน้าอีกคนก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไร
เราเลยถามแม่ว่า ถ้าน้าอีกคนไม่ให้ให้เงิน ก็แสดงว่าแก่มีเงินไม่พอดาวน์คันใหม่ ซึ่งแกบอกว่าจะใช้รถแม่ไปจนกว่าจะได้รถใหม่
เราก็อ้าววว นี่เราซื้อขายกันนะ เงินก็ได้ไปแล้ว แต่น้าไม่ให้รถพวกเรา เงินได้ รถก็ยังได้ใช้อยู่ แต่เห็นว่าเป็นพี่น้องกันเลยไม่อะไรมาก แต่พอมาเมื่อคืนแม่เราโกรธเลยยื่นคำขาดว่าเอารถคืนมาได้แล้ว น้าก็บอกยังไม่คืน เราก็เลยบอกไปว่า ถ้าได้เงินตามที่ตกลงกันไปแล้ว และน้าก็ยังใช้รถอยู่ปกติแบบนี้ก็คืนเงินจำนวนนี้มาให้เราเถอะ ทุกอย่างก็จะจบ แต่ตอนนี้แกไม่คืนทั้งเงินและรถ ค่ะ ควรจะทำยังไงดีคะ ใจเราไม่อยากได้เงินคืนหรอก เพราะซื้อความสะดวกให้แม่ และอยากให้แม่มีรถใช้ยามลำบากค่ะ แต่ถ้าน้าทำแบบนี้คงต้องเอาเงินคืนค่ะ
รบกวนขอคำปรึกษาทีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
มีปัญหากับน้าเรื่องรถยนต์ค่ะ (ยาวหน่อยนะคะ)
เริ่มต้นนะคะ เมื่อ 3 ปี ที่แล้วเราได้ซื้อรถ Ople จากที่รู้จัก (ราคาไม่แพงมาก) คันนึงสภาพพอใช้งานได้ให้แม่ใช้ พอให้แม่ได้ขับไปวัด ไปตลาด ไปธุระใกล้ๆ ละแวกบ้านหรือเดินทางในระยะทางที่ไม่ไกลมาก ใช้มาเรื่อยๆ ก็ไม่เจอปัญหาจุกจิกเกี่ยวกับรถเลย รถใช้งานได้ดีมากๆ ด้วยซ้ำ แต่มาวันนึงเกิดปัญหาระหว่างแม่กับน้า (ปัญหาพี่น้อง) หลานๆ อย่างเราก็เลยไม่เข้าไปยุ่งยุ่ง ที่ทราบคือ แม่เป็นหนี้น้าประมาณ 1 แสน บาท พอเรากลับบ้านต่างจังหวัด ก็ได้สังเกตว่า ทำไมรถแม่ไม่จอดอยู่บ้านเรา แต่กลับไปจอดประจำที่บ้านน้าแล้ว น้าก็เป็นคนใช้ตลอดก็เลยรู้โดยปริยายว่าแม่ได้เอารถคันนี้ให้น้าเป็นการใช้หนี้ของจำนวนเงิน 1 แสนบาทนั้นเราก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ให้แม่กับน้าคุยกันและตกลงกันเอาเอง (แต่รถยังเป็นชื่อแม่ไม่ได้โอนเป็นชื่อน้าแต่อย่างใด)
ล่าสุดแม่ก็ไม่มีรถยนต์ใช้ ก็อยู่บ้านไม่เดือนร้อนอะไร แม่ก็อยู่ได้ที่ปัญหามันเกิด คือ เมื่อช่วงเดือน มีนาที่ผ่านมา เราก็กลับไปเยี่ยมบ้านตามปกติ อยู่ๆ น้าก็อยากได้รถคันใหม่ ก็วางแผนหาเงินดาวน์รถใหม่ (ราคาดาวน์ประมาณ 8 หมื่น บาท) แต่น้าไม่มีเงินสด หรือ เงินทุนเลย อยู่ๆ แกก็มาบอกว่าจะขายรถคันเก่าของแม่นี้คืนให้เรา ในราคา 7 หมื่นบาท โดยจะขอเป็นเงินสดทันที เมื่อน้ามาบอกแบบนี้ เราก็คิดว่า
.. เออแม่ก็ยังไม่ได้จำเป็นต้องใช้รถอะไรมากมาย ก็เลยคุยกับแม่ว่าไม่ต้องเอาคืนมาหรอกนะ แต่ใจนึงก็คิดว่ามันเข้าหน้าฝนแล้วเวลาไปไหนมาไหนแม่เดินทางลำบากถ้าได้คืนมาก็ดีอย่างนึง แต่แม่ยังไงก็ได้ตามใจลูก ... เราก็เลยตัดสินใจบอกน้าว่ายังไม่เอาคืนดีกว่า เพราะเรามีเงินเก็บแค่ 6 หมื่นเอง ไม่พอให้น้าหรอก ถ้าจะให้คืน ให้ได้แค่ 5 หมื่นจริงๆ อีกหมื่นนึงก็ขอเก็บไว้ใช้จ่าย น้าก็ต่อรองเหลือ 6 หมื่น (เราไม่มีจริงๆ ) ให้ได้ 5 หมื่นเท่านั้นจริงๆ นะ ก็เลยบอกน้าว่าถ้าจะเอา 7 หมื่นไม่มี แต่ถ้าน้าจะเอา 5 หมื่น เราจะโอนเงินให้ทันที แล้วก็บอกน้าว่าลองเอารถคันนี้ไปถามราคาเต้นท์ดู อาจจะได้ราคาตามที่น้าต้องการ แกก็ยกเรื่องแม่มาอ้างสารพัด ว่า ไม่สงสารถเหรอเพราะคันนี้เคยเป็นของแม่มาก่อน ไม่อยากไปขายให้คนอื่น เก็บไว้ให้ญาติๆ ล่ะดีแล้ว อีกอย่างบอกเราว่าไม่สงสารแม่แกเหรอไปไหนมาไหนลำบากนะ เราก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ได้ 5 หมื่นจริงๆ ให้น้าลองคิดและตัดสินใจดู ถ้าน้าโอเคที่เรามี 5 หมื่น และรับได้ก็ให้เอาเลขที่ บช มานะ แล้วเราจะโอนเงินให้ทันนที รุ่งเช้าน้าก็เอาเลขที่ บช มาให้เรา แล้วเราก็โอนให้แกทันที 5 หมื่น
นับตั้งแต่วันที่โอนจนถึงวันนี้เป็นเวลเดือนกว่าแล้ว เราก็เข้าใจมาโดยตลอดว่าว่าแม่เราได้ใช้รถไปไหนมาไหนแล้ว เพราะทุกครั้งที่โทรคุยกันก็จะคุยเรื่องรถเราก็จะบอกแม่ว่าดูแลสภาพมันดีๆ นะเพราะช่วงที่รถอยู่กับน้าสภาพมันเยินมากแล้ว พอได้มันกลับมาก็ดูแลรักษามันดีๆ พอยืดเวลาการใช้งานออกไปได้ยาวหน่อย แม่ก็รับปากดี ถามทีไรก็บอกว่ารถก็จอดอยู่ที่บ้านนี้ล่ะ ไม่ค่อยได้ขับไปไหนไปแต่วัด ตลาด เราก็เบาใจว่าอย่างน้อยแม่ไม่ต้องลำบากเรื่องเดินทาง เพราะบ้านเราอยู่ชานเมืองจะไปไหนทีมันลำบาก
แต่เราเพิ่งรู้เมื่อวานนี่เองว่าน้ายังไม่ได้เอารถคืนให้แม่เราเลย โดยให้เหตุผลว่าแม่เรายังไม่มีธุระจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้รถ และทุกครั้งที่เราคุยและถามเรื่องรถคือแม่โกหกลูกมาตลอดว่าได้รถคืนมาแล้ว ซึ่งแท้จริงน้าไม่คืนให้ แต่แม่ก็บอกน้าไปแล้วว่าลูกๆ รู้แล้วนะว่าน้ายังไม่คืนรถให้แม่ แก่เลยบอกให้แม่โกหกพวกเราว่าก็บอกพวกเราไปสิ ว่าได้คืนมาแล้วเราก็งง ว่าทำไมน้าเห็นแก้ตัวจัง แล้วทำไมไม่คืน จนเราตัดสินใจถามแม่ว่าเหตุผลที่น้าไม่คืนรถ มันคืออะไร แม่บอกว่า (น้าบอกแบบนี้)
1) น้าไม่มีรถใช้ ถ้าเอาให้แม่แล้วฉันจะใช้อะไร
2) เงิน 5 หมื่นที่เราให้มันไม่พอดาวน์คันใหม่ ต้องรอเงินอีกจำนวนนึง ที่น้าขอยืมกับน้าอีกคนก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไร
เราเลยถามแม่ว่า ถ้าน้าอีกคนไม่ให้ให้เงิน ก็แสดงว่าแก่มีเงินไม่พอดาวน์คันใหม่ ซึ่งแกบอกว่าจะใช้รถแม่ไปจนกว่าจะได้รถใหม่
เราก็อ้าววว นี่เราซื้อขายกันนะ เงินก็ได้ไปแล้ว แต่น้าไม่ให้รถพวกเรา เงินได้ รถก็ยังได้ใช้อยู่ แต่เห็นว่าเป็นพี่น้องกันเลยไม่อะไรมาก แต่พอมาเมื่อคืนแม่เราโกรธเลยยื่นคำขาดว่าเอารถคืนมาได้แล้ว น้าก็บอกยังไม่คืน เราก็เลยบอกไปว่า ถ้าได้เงินตามที่ตกลงกันไปแล้ว และน้าก็ยังใช้รถอยู่ปกติแบบนี้ก็คืนเงินจำนวนนี้มาให้เราเถอะ ทุกอย่างก็จะจบ แต่ตอนนี้แกไม่คืนทั้งเงินและรถ ค่ะ ควรจะทำยังไงดีคะ ใจเราไม่อยากได้เงินคืนหรอก เพราะซื้อความสะดวกให้แม่ และอยากให้แม่มีรถใช้ยามลำบากค่ะ แต่ถ้าน้าทำแบบนี้คงต้องเอาเงินคืนค่ะ
รบกวนขอคำปรึกษาทีค่ะ
ขอบคุณค่ะ