สวัสดีค่ะ จะมาแชร์ประสบการณ์โง่ๆ ของดิฉันเอง ตอนแรกก็คิดว่าจะตั้งกระทู้หรือไม่ตั้งดี
ตอนนี้ทำใจได้แล้วค่ะ (แต่ก็แอบแค้นทุกวันเหมือนกันนะลืมไม่ลงจริงๆเรื่องนี้ ถูกโกงซึ่งๆหน้า แบบเราทำอะไรไม่ได้ด้วย)
เนื่องด้วยเรื่องเก่าตามกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/31114905
ลาออก 17/10/56
หลังจากตั้งกระทู้บนได้2วันๆ ทำใจที่จะต้องทนทำจนถึงสิ้นเดือนไม่ได้จริงๆ รู้สึกถูกเอาเปรียบอย่างแรงตัดสินใจไปเขียนใบลาออกมาค่ะ
เหอะๆว่าจะได้ใบลาออกนะคะ ทั้งพูดทั้งอธิบายทั้งเถียงกันเล็กน้อยกับหัวหน้าค่ะ กว่านางจะให้ใบมาเขียนลาออก ลีลาล้นเหลือ ดูท่าว่านางมีแผน (กะจะตุกติกไงจะไม่ให้เราเขียนมั้งคิดเอาเองนะ เพราะถ้าหยุดเกิน3วันเรื่องมันจะเป็นอีกแบบๆว่าเราละทิ้งหน้าที่เองไรงี้มั้งคะ )
พอเขียนเสร็จนางก็บอกอีกว่าจะระงับเงินเดือนไว้ก่อนจนกว่า audit จะเช็คสต็อคเสร็จ ถ้าของหายเราต้องรับผิดชอบ
ดิฉันก็แย้งไปค่ะ ว่าอ้าวที่ทำมาตลอดยังไม่ได้เซ็นต์รับเลย พี่audit ก็บอกว่าสต็อคกะของจริงไม่ตรง ขาดเยอะ ยอดยังมั่วอยู่เลยต้องสรุปให้ตรงก่อนถึงจะให้เราเซ็นต์รับว่าเป็นสต็อคของเรา และอีกอย่าง ดิฉันไม่ได้ขายคนเดียวจะมารับผิดชอบคนเดียวได้ไง เพราะวันหยุดของดิฉัน ก็จะมีพี่ซุปฯสามีทอมของนางมาขายตอนเช้า-6โมงเย็น+กะพี่Auditมารับช่วงหลัง6โมงเย็นถึง2ทุ่ม ดิฉันก็ได้ชี้แจงกะทางหัวหน้าดิฉันไป แต่ดูเหมือนจะผ่านหูนางไปเหมือนอากาศธาตุไปเฉยๆ ไม่ยอมฟังอะไรเลย ใส่แต่อารมณ์ค่ะ
ผ่านไป สิ้นเดือน ตค. 56 ก็แล้ว กลางพย.56ก็แล้วก็เงียบสงบไม่มีการติดต่อกลับมาจากบริษัทเลยค่ะ
ระหว่างนั้นด้วยความร้อนใจของดิฉันก็ลองติดต่อทางหัวหน้ากะ พี่Auditที่แสนสนิทสนมดู(ประชด)
ปรากฏแต่ละคน ตีแบ๊วไม่รู้ไม่ชี้โยนกันไปโยนกันมาตลอด ไม่มีเวลาเช็คสต็อคบ้างหละ ไปดูงานนอกบ้างหละ ไปเชียงใหม่นู่นนี่นั่นบลาๆๆๆ
สรุปชาติไหนจะได้เนี่ยเรา?!?เห้อเพลีย
จนสุดท้าย หมดความอดทนค่ะดิฉันเลยลองไป ปรึกษากับกรมสวัสดิการแรงงาน จังหวัดดูค่ะ(น่าจะราวๆวันที่20กว่าๆของเดือน พย.56 มั้งคะไม่แน่ใจ)
ไปถึงกรมฯ ทางจนท. เค้าก็ซักประวัติเรากับบริษัท พร้อมให้เรากรอกลงใบยื่นคำร้อง
ระหว่างนั้นเค้าก็ติดต่อกับบริษัทเรา เพื่อเจรจาเบื้องต้น ต่อสายไปกว่าจะได้คุย3-4ต่อ จนได้คุยกับ Bossใหญ่แผนกดิฉัน(เป็นญาติกับเจ้าของบริษัทด้วยค่ะ)
เค้าก็คุยกันสักพัก จนท.ก็ให้เราคุยกับBossคนนี้ เจอคำถามแรก ก็เงิบเลยค่ะ (ตอนนั้นยิ่งSadๆ เครียดๆอยู่ด้วย)
Boss : ทำไมเหรอเธอคิดว่าเธอไปฟ้องกรมแรงงานแล้วจะทำอะไรได้?
ดิฉัน : ก็ไม่ได้อะไรค่ะ หนูแค่มาลองปรึกษาเค้าดู หนูทำงานหนูแค่อยากได้เงินในส่วนของหนูแค่นั้นเองหนูกำลังเดือดร้อนค่ะ
Boss : .......เงินน่ะ ถ้าเหลือก่อนนะ ถึงจะได้
ดิฉัน : อ้าว..รวมๆแล้วทั้งเงินเดือน +คอม+ประกัน มันร่วมๆ20,000บาท มันจะไม่เหลือเลยเหรอคะ( หึหึคิดในใจเอาละตรูพลาดละไม่น่าคุยกะมันเลย)
Boss : นิ่งไม่ตอบ พร้อมขอคุยกับ จนท.
(แอบได้ยิน จนท.ตอบBossไปว่าฟ้องได้ด้วยค่ะ) จากนั้นก็วางสายไป
สรุป จนท.ถามเราว่าจะยื่นหรือไม่ยื่นเรื่อง ตอบจนท.ไป ไม่ยื่นค่ะ (โง่ไหม)
จนท.บอกว่ามันก็มีค่าเท่าๆกัน ใช้ระยะเวลาประมาณเดียวกัน ถ้าเค้าไม่จ่ายจริงๆเราค่อยมายื่นก็ได้
ทางนั้นเค้านัดมาแล้วว่าจะจ่ายให้ได้ไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือน ธค.56 เคสแบบนี้พี่เจอบ่อยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหา ได้เงินแน่นอน และบอกอีกว่าทางBossจะฟ้องดิฉันต่างๆนานา ทั้งค่าเสียหายที่ออกกระทันหันไม่มีคนมาขายของแทนดิฉัน ทั้งเรื่องไปฟ้องกรมแรงงานทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง บลาๆๆ (ฟังแล้วในใจก็คิดนะ นี่อุตส่าห์ขายของให้ไอตงไอติมทุกอย่างอ่ะ คนเดียวเลยที่นั่นอ่ะ ตอนงานลดราคาครั้งใหญ่ประจำปีก็ยุ่ง คนก็เยอะมากหัวหน้าก็ไม่เคยส่งใครมาช่วยเลยค่ะ เราดูแลให้หมดยันกระทั่งตังทอนๆไม่มีเราก็โทรใช้ให้แฟนเราไปแลกมาอย่างบ่อย เพราะที่นั่นไม่มีที่แลกค่ะ ขายก็ได้ตั้งเยอะเชียร์ขายนู่นนี่นั่น ได้ทุกอย่างอ่ะข้อดีไม่มีไม่เห็นใจกันบ้างรึไง เราไม่ได้เป็นผู้ร้าย ไม่ได้ขโมยของหรือจิ๊กตั้งหรือเก็บสดไม่ลงบิลเหมือนเด็กเก่าๆทำมานะนี่ แค่ลาออกกระทันหัน แค่เงินแค่นี้ คนทำงานก็อยากได้ตังนะ โห่ ถึงขั้นจะฟ้องกลับให้เราคิดว่าไงอ่ะ)
ผ่านไป7วันหลังจากไปปรึกษากรมสวัสฯ(ก่อนถึงวันนัดจ่ายเงิน)
พี่audit ติดต่อมาแจ้งให้เราทราบว่า
เช็คสต้อคเสร็จแล้วสรุป สต็อคของหายทั้งหมด 37,718 บาทหักส่วนลดพนง.แล้วเหลืออยู่ที่ 30,178 บาท(แว๊กกกกก!!!อุต๊ะ!!!!!!!!!คุณพระคุณเจ้าได้ยินอย่างนี้ดิฉันบอกเลย เงิบสุดๆเฟลสุดๆ เงินไม่ได้แถมยังเป็นหนี้มันอีกตะหากเหรอเนี่ย!!!คุณพระ....ตกใจมากค่ะ)และก็ถามนางไปค่ะว่าสรุปจริงๆแล้วของทั้งหมดในร้านมีกี่ชิ้น จากการคำณวนคร่าวๆคิดไว้ดิฉันว่าน่าจะ3-4000ชิ้นแต่ปรากฏนางบอก9,000กว่าชิ้นเยอะแท้ คือที่ถามนี่ไม่รู้มาตลอดว่าของมีกี่ชิ้น เพราะนางไม่เคยสรุปสต็อคอ่ะค่ะ
พร้อมบอกให้เราเข้าไปหาของหายที่บริษัท Bossคนนั้นก็ไม่โกรธนะที่ดิฉันไปฟ้องกรมฯ นางบอกและ ย้ำว่า ให้เข้าไปที่บริษัทให้ได้ก่อนที่กรมสวัสฯจะเข้าไปตรวจสอบ(ทางบริษัทคิดว่าทางกรมฯจะเข้าไปที่บริษัทแต่อันที่จริงแล้วทางจนท.บอกมาแล้วว่าไม่เข้าไปแต่ทางบริษัทไม่รู้)
ดิฉันก็บอก นางไปว่า ไม่กล้าเข้าไปค่ะ ไปแล้วจะไปหาของที่ไหน (เพราะนางบอกว่าเช็คทั้งหมดแล้วตามที่ดิฉันได้ทำเอกสารส่งคืน รับเข้า )
ดิฉันเลยโทรไปหาจนท.กรมฯคนนั้นดู เค้าบอกว่า เรายื่นเรื่องได้เค้าก็ยื่นฟ้องเรากลับได้ แล้วก็ไม่ได้แนะนำอะไรต่อประกอบกับช่วงนั้นเหตุการณ์ม็อบรุนแรง ม็อบบุกสถานที่ราชการๆปิดอยู่นาน เลย ไม่ได้ติดต่อไปอีกเลยค่ะ เพราะได้ยินอย่างนั้นแล้วบอกตรงๆว่าหมดหวังจริงๆค่ะ
*****ตามความคิดของดิฉันนะคะ จะหายังไงเจอของที่หายไปอ่ะ เราตัวคนเดียว ออกจากที่นั่นมาตั้งเป็นเดือนกว่าละ เงินก็ไม่มีถ้าฟ้องกันจริงๆก็ต้องมีเงินจ้างทนาย หลักฐาน พยานก็อยู่กับบริษัทหมดและจะยังไงทางนั้นก็ได้เปรียบอยู่ดี
ประกอบกับปรึกษาแม่แฟนๆแกทำงานเป็นเซลล์ มา20กว่าปี แกบอกอย่าไปยุ่งกะมันเลย เค้าเคยขึ้นศาลด้วยเรื่องแบบนี้มาหลายรอบแล้ว เรามีแต่เสียเปรียบ ยังไงทางนั้นเค้าเงินหนาสามารถจ้างทนายดีๆ แถมทำเอกสารจากผิดเป็นถูกยัดความผิดให้เราได้อีก เรื่องเงินให้ถือซะว่าฟาดเคราะห์ไป ปลอบใจเรา
จบแค่นี้แหละค่ะเรื่องโง่ๆของดิฉัน เล่าสู่กันฟังค่ะด้วยความไม่รู้อยากได้งานจัดจนลืมคิดหน้าคิดหลังให้ดีว่าทำไปแล้วคุ้มไหม สงสารตัวเอง สงสารคนที่จะเป็นเหยื่อรายต่อไป ทุกวันนี้ยังแค้นไม่หายผ่านมาจะปีและ ขอบพระคุณที่อ่านจนจบนะคะ
ออกจากงานไม่ได้เงินเดือนT^T
ตอนนี้ทำใจได้แล้วค่ะ (แต่ก็แอบแค้นทุกวันเหมือนกันนะลืมไม่ลงจริงๆเรื่องนี้ ถูกโกงซึ่งๆหน้า แบบเราทำอะไรไม่ได้ด้วย)
เนื่องด้วยเรื่องเก่าตามกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/31114905
ลาออก 17/10/56
หลังจากตั้งกระทู้บนได้2วันๆ ทำใจที่จะต้องทนทำจนถึงสิ้นเดือนไม่ได้จริงๆ รู้สึกถูกเอาเปรียบอย่างแรงตัดสินใจไปเขียนใบลาออกมาค่ะ
เหอะๆว่าจะได้ใบลาออกนะคะ ทั้งพูดทั้งอธิบายทั้งเถียงกันเล็กน้อยกับหัวหน้าค่ะ กว่านางจะให้ใบมาเขียนลาออก ลีลาล้นเหลือ ดูท่าว่านางมีแผน (กะจะตุกติกไงจะไม่ให้เราเขียนมั้งคิดเอาเองนะ เพราะถ้าหยุดเกิน3วันเรื่องมันจะเป็นอีกแบบๆว่าเราละทิ้งหน้าที่เองไรงี้มั้งคะ )
พอเขียนเสร็จนางก็บอกอีกว่าจะระงับเงินเดือนไว้ก่อนจนกว่า audit จะเช็คสต็อคเสร็จ ถ้าของหายเราต้องรับผิดชอบ
ดิฉันก็แย้งไปค่ะ ว่าอ้าวที่ทำมาตลอดยังไม่ได้เซ็นต์รับเลย พี่audit ก็บอกว่าสต็อคกะของจริงไม่ตรง ขาดเยอะ ยอดยังมั่วอยู่เลยต้องสรุปให้ตรงก่อนถึงจะให้เราเซ็นต์รับว่าเป็นสต็อคของเรา และอีกอย่าง ดิฉันไม่ได้ขายคนเดียวจะมารับผิดชอบคนเดียวได้ไง เพราะวันหยุดของดิฉัน ก็จะมีพี่ซุปฯสามีทอมของนางมาขายตอนเช้า-6โมงเย็น+กะพี่Auditมารับช่วงหลัง6โมงเย็นถึง2ทุ่ม ดิฉันก็ได้ชี้แจงกะทางหัวหน้าดิฉันไป แต่ดูเหมือนจะผ่านหูนางไปเหมือนอากาศธาตุไปเฉยๆ ไม่ยอมฟังอะไรเลย ใส่แต่อารมณ์ค่ะ
ผ่านไป สิ้นเดือน ตค. 56 ก็แล้ว กลางพย.56ก็แล้วก็เงียบสงบไม่มีการติดต่อกลับมาจากบริษัทเลยค่ะ
ระหว่างนั้นด้วยความร้อนใจของดิฉันก็ลองติดต่อทางหัวหน้ากะ พี่Auditที่แสนสนิทสนมดู(ประชด)
ปรากฏแต่ละคน ตีแบ๊วไม่รู้ไม่ชี้โยนกันไปโยนกันมาตลอด ไม่มีเวลาเช็คสต็อคบ้างหละ ไปดูงานนอกบ้างหละ ไปเชียงใหม่นู่นนี่นั่นบลาๆๆๆ
สรุปชาติไหนจะได้เนี่ยเรา?!?เห้อเพลีย
จนสุดท้าย หมดความอดทนค่ะดิฉันเลยลองไป ปรึกษากับกรมสวัสดิการแรงงาน จังหวัดดูค่ะ(น่าจะราวๆวันที่20กว่าๆของเดือน พย.56 มั้งคะไม่แน่ใจ)
ไปถึงกรมฯ ทางจนท. เค้าก็ซักประวัติเรากับบริษัท พร้อมให้เรากรอกลงใบยื่นคำร้อง
ระหว่างนั้นเค้าก็ติดต่อกับบริษัทเรา เพื่อเจรจาเบื้องต้น ต่อสายไปกว่าจะได้คุย3-4ต่อ จนได้คุยกับ Bossใหญ่แผนกดิฉัน(เป็นญาติกับเจ้าของบริษัทด้วยค่ะ)
เค้าก็คุยกันสักพัก จนท.ก็ให้เราคุยกับBossคนนี้ เจอคำถามแรก ก็เงิบเลยค่ะ (ตอนนั้นยิ่งSadๆ เครียดๆอยู่ด้วย)
Boss : ทำไมเหรอเธอคิดว่าเธอไปฟ้องกรมแรงงานแล้วจะทำอะไรได้?
ดิฉัน : ก็ไม่ได้อะไรค่ะ หนูแค่มาลองปรึกษาเค้าดู หนูทำงานหนูแค่อยากได้เงินในส่วนของหนูแค่นั้นเองหนูกำลังเดือดร้อนค่ะ
Boss : .......เงินน่ะ ถ้าเหลือก่อนนะ ถึงจะได้
ดิฉัน : อ้าว..รวมๆแล้วทั้งเงินเดือน +คอม+ประกัน มันร่วมๆ20,000บาท มันจะไม่เหลือเลยเหรอคะ( หึหึคิดในใจเอาละตรูพลาดละไม่น่าคุยกะมันเลย)
Boss : นิ่งไม่ตอบ พร้อมขอคุยกับ จนท.
(แอบได้ยิน จนท.ตอบBossไปว่าฟ้องได้ด้วยค่ะ) จากนั้นก็วางสายไป
สรุป จนท.ถามเราว่าจะยื่นหรือไม่ยื่นเรื่อง ตอบจนท.ไป ไม่ยื่นค่ะ (โง่ไหม)
จนท.บอกว่ามันก็มีค่าเท่าๆกัน ใช้ระยะเวลาประมาณเดียวกัน ถ้าเค้าไม่จ่ายจริงๆเราค่อยมายื่นก็ได้
ทางนั้นเค้านัดมาแล้วว่าจะจ่ายให้ได้ไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือน ธค.56 เคสแบบนี้พี่เจอบ่อยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหา ได้เงินแน่นอน และบอกอีกว่าทางBossจะฟ้องดิฉันต่างๆนานา ทั้งค่าเสียหายที่ออกกระทันหันไม่มีคนมาขายของแทนดิฉัน ทั้งเรื่องไปฟ้องกรมแรงงานทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง บลาๆๆ (ฟังแล้วในใจก็คิดนะ นี่อุตส่าห์ขายของให้ไอตงไอติมทุกอย่างอ่ะ คนเดียวเลยที่นั่นอ่ะ ตอนงานลดราคาครั้งใหญ่ประจำปีก็ยุ่ง คนก็เยอะมากหัวหน้าก็ไม่เคยส่งใครมาช่วยเลยค่ะ เราดูแลให้หมดยันกระทั่งตังทอนๆไม่มีเราก็โทรใช้ให้แฟนเราไปแลกมาอย่างบ่อย เพราะที่นั่นไม่มีที่แลกค่ะ ขายก็ได้ตั้งเยอะเชียร์ขายนู่นนี่นั่น ได้ทุกอย่างอ่ะข้อดีไม่มีไม่เห็นใจกันบ้างรึไง เราไม่ได้เป็นผู้ร้าย ไม่ได้ขโมยของหรือจิ๊กตั้งหรือเก็บสดไม่ลงบิลเหมือนเด็กเก่าๆทำมานะนี่ แค่ลาออกกระทันหัน แค่เงินแค่นี้ คนทำงานก็อยากได้ตังนะ โห่ ถึงขั้นจะฟ้องกลับให้เราคิดว่าไงอ่ะ)
ผ่านไป7วันหลังจากไปปรึกษากรมสวัสฯ(ก่อนถึงวันนัดจ่ายเงิน)
พี่audit ติดต่อมาแจ้งให้เราทราบว่า
เช็คสต้อคเสร็จแล้วสรุป สต็อคของหายทั้งหมด 37,718 บาทหักส่วนลดพนง.แล้วเหลืออยู่ที่ 30,178 บาท(แว๊กกกกก!!!อุต๊ะ!!!!!!!!!คุณพระคุณเจ้าได้ยินอย่างนี้ดิฉันบอกเลย เงิบสุดๆเฟลสุดๆ เงินไม่ได้แถมยังเป็นหนี้มันอีกตะหากเหรอเนี่ย!!!คุณพระ....ตกใจมากค่ะ)และก็ถามนางไปค่ะว่าสรุปจริงๆแล้วของทั้งหมดในร้านมีกี่ชิ้น จากการคำณวนคร่าวๆคิดไว้ดิฉันว่าน่าจะ3-4000ชิ้นแต่ปรากฏนางบอก9,000กว่าชิ้นเยอะแท้ คือที่ถามนี่ไม่รู้มาตลอดว่าของมีกี่ชิ้น เพราะนางไม่เคยสรุปสต็อคอ่ะค่ะ
พร้อมบอกให้เราเข้าไปหาของหายที่บริษัท Bossคนนั้นก็ไม่โกรธนะที่ดิฉันไปฟ้องกรมฯ นางบอกและ ย้ำว่า ให้เข้าไปที่บริษัทให้ได้ก่อนที่กรมสวัสฯจะเข้าไปตรวจสอบ(ทางบริษัทคิดว่าทางกรมฯจะเข้าไปที่บริษัทแต่อันที่จริงแล้วทางจนท.บอกมาแล้วว่าไม่เข้าไปแต่ทางบริษัทไม่รู้)
ดิฉันก็บอก นางไปว่า ไม่กล้าเข้าไปค่ะ ไปแล้วจะไปหาของที่ไหน (เพราะนางบอกว่าเช็คทั้งหมดแล้วตามที่ดิฉันได้ทำเอกสารส่งคืน รับเข้า )
ดิฉันเลยโทรไปหาจนท.กรมฯคนนั้นดู เค้าบอกว่า เรายื่นเรื่องได้เค้าก็ยื่นฟ้องเรากลับได้ แล้วก็ไม่ได้แนะนำอะไรต่อประกอบกับช่วงนั้นเหตุการณ์ม็อบรุนแรง ม็อบบุกสถานที่ราชการๆปิดอยู่นาน เลย ไม่ได้ติดต่อไปอีกเลยค่ะ เพราะได้ยินอย่างนั้นแล้วบอกตรงๆว่าหมดหวังจริงๆค่ะ
*****ตามความคิดของดิฉันนะคะ จะหายังไงเจอของที่หายไปอ่ะ เราตัวคนเดียว ออกจากที่นั่นมาตั้งเป็นเดือนกว่าละ เงินก็ไม่มีถ้าฟ้องกันจริงๆก็ต้องมีเงินจ้างทนาย หลักฐาน พยานก็อยู่กับบริษัทหมดและจะยังไงทางนั้นก็ได้เปรียบอยู่ดี
ประกอบกับปรึกษาแม่แฟนๆแกทำงานเป็นเซลล์ มา20กว่าปี แกบอกอย่าไปยุ่งกะมันเลย เค้าเคยขึ้นศาลด้วยเรื่องแบบนี้มาหลายรอบแล้ว เรามีแต่เสียเปรียบ ยังไงทางนั้นเค้าเงินหนาสามารถจ้างทนายดีๆ แถมทำเอกสารจากผิดเป็นถูกยัดความผิดให้เราได้อีก เรื่องเงินให้ถือซะว่าฟาดเคราะห์ไป ปลอบใจเรา
จบแค่นี้แหละค่ะเรื่องโง่ๆของดิฉัน เล่าสู่กันฟังค่ะด้วยความไม่รู้อยากได้งานจัดจนลืมคิดหน้าคิดหลังให้ดีว่าทำไปแล้วคุ้มไหม สงสารตัวเอง สงสารคนที่จะเป็นเหยื่อรายต่อไป ทุกวันนี้ยังแค้นไม่หายผ่านมาจะปีและ ขอบพระคุณที่อ่านจนจบนะคะ